26 กันยายน 2547 17:25 น.
ภูติผาแห่งป่าแสงจันทร์
ถึงตอนนี้เหมือนสิ้นไร้สรรพสิ่ง
แต่ความนิ่งลึกล้ำนำวิถี
ให้เคลื่อนคล้อยไหลนิ่งดุจนที
ดั่งวารีไร้รูปแต่ฉ่ำเย็น
26 กันยายน 2547 17:22 น.
ภูติผาแห่งป่าแสงจันทร์
อุปมาดั่งท่อนซุง
ท่อนซุงน้อยใหญ่
ลอยในห้วงนที
จากลำน้ำสายนั้นสายนี้
แต่ทุกที่ไหลลงบรรจบกัน
เรานั้นเป็นดั่งท่อนซุง
ลอยไร้มุ่งลงสู่ทะเล
บ้างคลื่นซัดโซเซ
บ้างเถลเปเกยฝั่ง
แต่หากใจยังมุ่งมั่น
ทะเลฝันซักวันคงเป็นจริง
26 กันยายน 2547 17:19 น.
ภูติผาแห่งป่าแสงจันทร์
จำวันแรกที่เจอกันได้ไหม วันที่ฉันนั้นไม่เหลือใคร
แต่พวกนายเข้ามาเติมใจให้กัน ไม่ต้องมีคำพูดแทนคำใดๆ
จะแทนความในใจที่ส่งถึงกัน ถึงแม้เราจะไม่ได้พบกัน
เพียงแค่มองตากันก้อรู้ถึงใจ เรายังต้องไปอีกไกลแสนไกล
ไม่รู้จะพบเจอกันอีกเมื่อไร แต่ขอให้พวกนายรู้เอาไว้
จากนี้ต่อไปจะมีกันและกัน แด่ความทรงจำของฉันและเธอ
26 กันยายน 2547 17:16 น.
ภูติผาแห่งป่าแสงจันทร์
รักเอยเคยมาให้เชยชื่น รื่นเย็น
กาลผ่านแปรเป็นเช่น ขมขื่น
โศกตรมระทมจมเศร้าหมอง ตรอมคิด
มิคาดคิดแปรผันผิด จิตโศก
ดั่งเหมันต์แปลผันเป็นวัน วิปโยค
รักเอยนั้นเศร้าโศกแต่ใยข้า โหยหา
26 กันยายน 2547 17:14 น.
ภูติผาแห่งป่าแสงจันทร์
ลมเอยเพยพัดพาเมฆาเลื่อน
สายลมเอื้อนเอ่ยล้อลู่ลงเล่น
เมฆครึ้มฟ้าพาลอยริ้วปลิวกระเซ็น
ขับความเย็นแผ่ซ่านเป็นทางธาร
สายฝนหลั่งรินลงคงคาใส
สายน้ำไหลรินร่วงจากตาข้า
ยามฝนพรำฉ่ำชื่นทุกวิญญา
แต่ใจข้ากลับอับเฉาเศร้าอาดูร
อันธารใสไหลเย็นกระเซ็นชื่น
มัจฉาตื่นระรอกริ้วยามพริ้วกาย
แต่สายฝน ทิ่มแทง ระเคืองคาย
แทรกผิวกายผ่านในใจร้าวระทม
ลมเจ้าเอยโปรดพาพัดใจของข้า
ที่เหนื่อยล้าอ่อนแรงแลเศร้าตรม
ให้ลอยลิ้วปลิวเรื่อยไปตามลม
ในห้วงฝนแลสายลมนิรันดร์เอย