30 ตุลาคม 2550 17:44 น.
ภู ภัทรชนน
พอจดจำความได้แต่ภายหลัง
ก็เมื่อครั้งเป็นเด็กน้อยแม่คอยป้อน
กล้วยออกจากปากแม่อิ่มแน่นอน
ละเอียดอ่อนอกอุ่นอิ่มบุญครอง
พ่อปลูกกล้วย พี่ปลูกกล้วยด้วยกิจชอบ
เป็นรั้วรอบร่มเย็นเป็นสุขผอง
แม่ลอกกาบเอาหยวกแกงแบ่งเรือนรอง
พับใบตองห่อขนมเหมาะสมงาม
แต่วันนี้ที่เมืองหลวงเปลี่ยนช่วงยุค
ใครกล้าป้อนกล้วยสุก เดี๋ยวถูกหยาม
แต่ละคนสั่งจานด่วนล้วนทำตาม
ส่งทุกยาม เพียงโทร.สั่งดั่งเนรมิต
ทางเท้าไม่ร่มเย็นไม่เห็นกล้วย
เต็มป้ายสวยโฆษณาประกาศิต
ป้อนสมองเสพสมัยไปอีกนิด
ป้อนชีวิตชาวเมืองหลวงภาพลวงตา
โอ้ ! ภาพแม่ ป้อนจากปากสู่ปากลูก
รักพันผูก รักหนักแน่นยิ่งแผ่นผา
กล้วยร่มเย็นเป็นภาพงามความเป็นมา
ป้อนคุณค่าของชีวิต จิตใจงาม
30 ตุลาคม 2550 12:40 น.
ภู ภัทรชนน
ผ่อนไปอีกกี่ปีกว่าหนี้หมด
เหงื่อหยาดหยดล้านล้านหยดกำหนดหนี้
แต่ละห้องไม่ต่างกรรมจำใจมี
แต่ละใจเต้นถี่หนี้ตามทวง
อ้างสวัสดิการสถานภาพ
ประกาศทราบค่าขยะยามตามเข้าพ่วง
ลิฟต์รวมใช้ไฟฟ้ากว่ากี่ดวง
ใครทักท้วงเจ้าที่มีอารมณ์
สามวันดีสี่วันออกก๊อกน้ำย้อย
ลงกะปริดกะปรอยคอยโชคสม
โฆษณาว่าสะดวกพรรคพวกชม
แท้ก็บ่มบทลวงพ่วงข้อความ
กลืนไม่เข้า คายไม่ออก บอกไม่ถูก
สั่งขี้มูก เศษสวะ ขยะหยาม
เด่นคอนโดสูงเสียดฟ้าสง่างาม
ภายในท่ามจิปาถะกักขฬะเมือง
ผ่อนชั่วลูกชั่วหลานวิญญาณปู่
ให้โลกรู้รายจ่ายหลากหลายเรื่อง
ศาลพระภูมิหน้าคอนโดโอ้คงเคือง
คนคางเหลืองต่างเต็มหนี้ ที่ฐานองค์
30 ตุลาคม 2550 08:20 น.
ภู ภัทรชนน
ไกวกระเช้าเคล้าลมเชิดไปเกิดช่วง
ฤ ลมลวงดวงจะดับเครืออับเฉา
เชิดยอดขึ้นกอดตาวันอยู่นานเนา
อะไรหยอกยั่วเย้าเข้ามาแปร
ซ้ายก็ไผ่ไกวกอมาบ้อเบียด
ขวาก็เครียดควายป่ามายุแหย่
เถาก็ฐานจะถอนรากมิอยากแล
ติดก็แต่เผ่าพงษ์ดำรงมา
เชิดกระเช้าเอาลมไกวไปสักพัก
เวลาหลักไม่รีรออยู่ต่อหน้า
อารมณ์ไม่แน่นอนสะท้อนเวลา
สะท้านป่าสะเทือนฐานการนักเลง
กระเช้าสีดาลาเถาทิ้งหล่นนิ่งนบ
งามสงบอยู่ง่ายง่าย ใช่ว่าเก่ง
รอมือนุ่มช่วยอุ้มไกว เห่ให้เพลง
เสียงป่าเปล่งเพลงเถาทิ้งยิ่งย้อนรอย
กระเช้าสีดาพงไพร ให้เข้าถือ
มิใช่ซื้อคือได้เปล่าเช้าเชิดห้อย
ช่วงชีวิตสั้นสั้นอันนิดน้อย
ลมรำเพยร่วมร้อย ห้อยโลกงาม
หมายเหตุ : แรงบันดาลใจสมัยวัยเด็กที่อยู่บ้านนอก เราพาเพื่อน ๆ
ไปเก็บกระเช้าชายทุ่ง เพื่อเอาไปฝากสาวน้อยที่น่ารัก แต่พอมอบ
กระเช้าให้สาวน้อย เขากลับโยนทิ้ง เรารู้สึกเสียดายจัง ทีอุตส่าส์
ไปเก็บมาฝาก อย่างไรก็ตามจนบัดเดี๋ยวนี้
แม้ว่าเราจากบ้านมาอยู่บางกอกนานถึง 25 ปี เราก็ยังไม่ลืมไอดิน
กลิ่นท้องทุ่ง ที่ช่างงดงามเหลือเกิน
29 ตุลาคม 2550 17:05 น.
ภู ภัทรชนน
(ภุชงคประยาตฉันท์)
เถอะชั่วมากก็อยากคบ พินอบนบขนาบแนว
ก็คล้อยตามกะท่ามแถว สถานถ้วนขบวนความ
จะทำดี สิ ดีด้วย ฉลาดช่วยจะสอดหาม
ยะเยี่ยมยิ่งประโยชน์ยาม ตระเวนตามสนามเชิญ
สนิทนักพิทักษ์ข้า เสนอหน้า สิ สรรเสริญ
พิลาสเลิศเพราะเพลิดเพลิน ผิผ่องผุดประดุจเดือน
ละลับหลังระเริงฤทธิ์ สมัยมิตรพิชิตเฉือน
ก็นินทา บะหน้าเบือน ตะแบงบท คระคดลวง
สะส่ายหัวชะชั่วชาติ ยะยิ้มหยาดประหลาดหลวง
ประจบอกสะทกทรวง ขจรห้วงขจายคน
เถอะชั่วดี ก็มีถม จะจ่อมจม ฤ เจิดหน
หะเห็นหัวประจบชน แหละนั่นร้าย สยายยาว
29 ตุลาคม 2550 16:06 น.
ภู ภัทรชนน
ยิ่งสูงก็ยิ่งสั่นขึ้นสรรค์สร้าง
เด็กด้านล่างรับฤาไหวไต่ขึ้นขา
ขยับย้ายก็โยกย้ายส่ายไปมา
พอเปลี่ยนท่าถึงสะทกกลัวตกลง
เด็กอีกคนตะโกนบอกออกไหล่ซ้าย
อีกคนย้ายออกไหล่ขวาจะพาหลง
เด็กตัวเล็กเหยียบขึ้นต่อขี่คอคง
หัวประสงค์ส่ายรับจับกินลม
แล้วแลบลิ้นปลิ้นตายั่วอากาศ
ใครขี้ขลาดขึ้นไม่ได้ใช่ชายสม
อยู่สูงเห็นโลกหล้าว่ากลมกลม
อยู่ต่ำแค่ติดตม ชมแต่ดิน
เด็กด้านล่างทนไม่ไหวในความหนัก
ขาจะหักอยู่แล้วเด๋ยวแด่วดิ้น
เพรียกบอกใครอยู่สูงรีบมุ่งธรณิน
สุดจะสิ้นเรี่ยวแรงแห่งฐานรอง
เด็กด้านบนไม่สนใจไปยืนโด่
ทำคุยโม้เห็นโลกงามความจองหอง
เก่งขี่คอต่อขาอันน่ามอง
วูบหนึ่งล้มจมกอง จ้องฝุ่นดิน