22 กุมภาพันธ์ 2545 10:48 น.
ภีม
หลายคนเดินทางมุ่งสู่กรุงใหญ่
ทิ้งนาไร่คนแก่เฒ่าเฝ้ารอหวัง
แสวงหางานเงินเป็นจับกัง
เลี้ยงชีพด้วยกำลังดั่งวัวควาย
อยู่บ้านนอกข้าใหญ่ในท้องทุ่ง
มาเข้ากรุงเป็นทาสขาดความหมาย
เหงื่อท่วมตัวหัวใจใช้แรงกาย
ยิ่งกว่าควายในนาไร่ที่ใช้มา
ทุนนิยมน่ารักกวักมือไหว
หลอกลวงให้คนหลงตรงเข้าหา
อุตสาหกรรมนั้นหรือคือพัฒนา
นำเงินตราเข้าเขตประเทศนี้
เกษตรกรรมจมปรักมองดักดาน
ทำมานานไม่เห็นเป็นเศรษฐี
ทั้งวัวควายไร่นาบรรดามี
ทั้งนาปรังนาปีมีแล้วจน
นาไร่จึงเปล่าว่างร้างหมดสิ้น
คนทิ้งถิ่นที่อยู่สู่แห่งหน
ด้วยความหวังเงินตรามาแก้จน
จึงไปทนลำบากยากในเมือง ฯ
18 กุมภาพันธ์ 2545 20:52 น.
ภีม
สำหรับวันพรุ่งนี้ที่ดีกว่า
กาลเวลาเลยล่วงอย่าห่วงหา
ไม่อาจร้องอ้อนวอนให้ย้อนมา
มันเป็นเรื่องธรรมดาอย่าอาลัย
สำหรับวันพรุ่งนี้ยังมีหวัง
เก็บพลังเพื่อวันอันสดใส
ยิ้มเถิดด้วยเรี่ยวแรงแห่งหัวใจ
เพื่อพรุ่งนี้มีชัยที่ปลายทาง
สำหรับวันพรุ่งนี้ที่เฝ้ารอ
อย่าไปท้อกับเรื่องร้ายหมายขัดขวาง
ก้าวไปเถอะแม้ฝันนั้นเลือนลาง
อาจมีบ้างหรอกหนาอย่าท้อใจ
สำหรับวันพรุ่งนี้ที่ดีกว่า
ขอเพียงอย่ายอมแพ้แม้หวั่นไหว
กับปัญหาบางอย่างช่างปะไร
เพียงเธอไม่หวาดหวั่นเท่านั้นพอ
สำหรับวันพรุ่งนี้ในที่สุด
หากไม่หยุดก้าวไปหรือใจท้อ
เธอจะพบความฝันวันที่รอ
เพียงแต่ขอให้วันนี้มีแรงใจฯ
10 กุมภาพันธ์ 2545 15:50 น.
ภีม
ตาเธอบอกแววหม่นปนความเศร้า
ซ่อนความเหงาข้างในใจสลาย
รู้ว่าเธอเสียใจไปมากมาย
สิ่งสุดท้ายเธอได้อะไรมา
จะคร่ำครวญร้องไห้ทำไมเล่า
กับเรื่องเก่าที่พลาดปรารถนา
แม้สายเลือดไหลพรากจากดวงตา
กาลเวลาผ่านไปไม่หวนคืน
อยากให้เธอเข้าใจในชีวิต
เราอาจผิดพลั้งพลาดไม่อาจฝืน
อาจพ่ายแพ้สักครั้งใช่พังครืน
จงหยัดยืนขึ้นเถิดเปิดหัวใจ
เตรียมใจไว้ยอมรับกับชะตา
หากต้องพบปัญหาอย่าหวั่นไหว
สู้ด้วยตัวของตนทนต่อไป
นั่นคือความยิ่งใหญ่ในตัวเธอ ฯ