9 กรกฎาคม 2544 09:55 น.
ภีม
อย่าท้อถอยเมื่อก้าวไปในโลกกว้าง
เมื่อไม่เห็นเส้นทางอย่างที่ฝัน
เหม่อมองไปเส้นทางวนอนธการ
เมื่อหวาดหวั่นจะก้าวย่างไปอย่างไร
ทางชีวิตบ้างมีที่สับสน
ทั้งวกวนจนจิตคิดหวั่นไหว
ไม่กล้าแม้ยกเท้าก้าวออกไป
เพียงหวั่นใจกลัวพลาดอาจชีพวาย
ทุกชีวิตล้วนต้องพบอุปสรรค
ได้รู้จักทั้งสุขทุกข์หลากหลาย
ต่างต่อสู้ฝ่าฟันภยันตราย
เพื่อให้ถึงที่หมายคือปลายทาง
ปลุกเร้าความแกร่งกล้าอย่าหวั่นไหว
ขอเพียงให้เดินหน้าอย่าถอยหลัง
เอาอุปสรรคมากลั่นเป็นพลัง
ก้าวทุกครั้งคือเส้นชัยที่หมายปอง.
8 กรกฎาคม 2544 12:01 น.
ภีม
ทื้งไว้กลางป่าช้าฝันอันเงียบเหงา
อย่างโศกเศร้ารอแตกดับลับสลาย
แม้คืนวันเปลี่ยนไปไม่กลับกลาย
เพื่อฟื้นคืนใจกายหายโศกตรม
อยู่อย่างนั้นเป็นซากจากความรัก
สะบั้นหักอับเฉาเศร้าขื่นขม
กลางป่าช้าความเศร้าเหงาระทม
ค่อยๆจมลงดินเสื่อมสิ้นไป
กาลเวลาค่อย ๆ ย่อยซากรัก
มิเหลือสักความฝันอันสดใส
แล้วลบเลือนเป็นผงปลงสิ้นไป
ทำอย่างไรไม่ฟื้นคืนชีวา ฯ
8 กรกฎาคม 2544 10:43 น.
ภีม
บนท้องฟ้ามีดาววับวาวแสง
นภาแจ้งด้วยจันทร์อันสุกใส
คืนวันเพ็ญแสงส่องผ่องอำไพ
ดั่งเพื่อนใจคนเหงาเศร้าเดียวดาย
น้ำค้างพรมร่างไหวใจสะท้าน
กลางวิมานเดือนเพ็ญเป็นสหาย
หากมีเธอมาอยู่คู่เคียงกาย
หนาวคงคลายอบอุ่นซบหนุนนอน
คุยกับดาวกับเดือนเหมือนคนบ้า
เปล่งวาจาเลอะเลือนเหมือนจิตหลอน
จะเหลียวมองหาใครให้เว้าวอน
ต้องทอดถอนสิ้นสุดหยุดหวังปอง
จึงต้องอยู่คนเดียวเปลี่ยวดวงจิต
มิอาจคิดหาใครใจหม่นหมอง
อยู่กับดาวกับเดือนเหมือนลำพอง
ยังคงครองความเหงาความเศร้าใจ ฯ
8 กรกฎาคม 2544 02:47 น.
ภีม
เมื่อยามไร้ก็ไร้สิ้นเรี่ยวแรง
เมื่อยามแกร่งก็ฝ่าฟันไม่หวั่นไหว
แต่ชะตาหมุนเวียนเปลี่ยนแปลงไป
เมื่อมีชัยก็แย่แพ้พลาดพัง
แต่เรี่ยวแรงแห่งใจไยสิ้นเชื้อ
ไม่มีเหลือสืบสายคลายความหวัง
ไร้ผู้ให้ต่อเติมเสริมกำลัง
จึงหยุดยั้งหมดแรงแห่งใจตน
ยังไม่ถึงครึ่งทางวางเป้าหมาย
ก็เสื่อมคลายสิ้นสุดหยุดหวังผล
ยอมรับความพ่ายแพ้แย่ทุกข์ทน
ไม่ยินยลเสียงหัวเราะเพราะความชัง
เหมือนต้นไม้ถูกโค่นจนล้มลง
จึงปลดปลงดับสิ้นดินกลบฝัง
เศษที่เหลือเป็นหน่อเน่าพัง
ไร้ความหวังฟื้นตนขึ้นพ้นดิน
ไม่มีน้ำจุนเจือเกื้อหนุนให้
แห้งแล้งไร้หายสูญกระแสสินธุ์
จะแตกกอหน่อใหม่ให้พ้นดิน
เหี่ยวแห้งสิ้นตายลงตัดพงศ์พันธุ์
หมดแรงใจก็ทรุดหยุดความหวัง
ไร้พลังก้าวไปในทางฝัน
ใจสิ้นแรงกายก็ล้าเกินฝ่าฟัน
ล้มลงพลันหวังก็ดับลับหายไป
หากมีใครสักคนมาค้นพบ
ช่วยสมทบปลูกสร้างความหวังใหม่
เพาะต้นกล้าความหวังกำลังใจ
รอเวลาลุกขึ้นไปไม่ล้าแรง ฯ
7 กรกฎาคม 2544 12:23 น.
ภีม
เพียงชั่วกาลเวลาที่ล้าแรง
อีกไม่นานคงแกร่งขึ้นอีกหน
ทางชีวิตสุขทุกข์คลุกปะปน
ให้อดทนฟันฝ่าเข้าราวี
อาจจะท้อโศกเศร้าเปล่าเปลี่ยวบ้าง
อาจจะรื้ออาจจะร้างบางวิถี
น้ำตาอาจใหลพรากจากฤดี
อุปสรรคมากมีที่ทุกข์ทน
ขอเพียงเจตจำนงยังคงกล้า
เหนื่อยและล้าไม่ถอยคอยสับสน
ยังมุ่งมั่นฟันฝ่ากล้าผจญ
ได้ชนะสักหนเท่านั้นพอ
จะรุ่งโรจน์โชติช่วงหรือร่วงหล่น
จะก้มหน้ารับผลทนหัวร่อ
กับชีวิตนิดน้อยที่คล้อยคลอ
ครั้งหนึ่งที่เกิดก่อรอวันตาย
เพียงชั่วกาลเวลาที่ล้าแรง
แต่ใจยังไม่แล้งความมุ่งหมาย
เก็บพลังแห่งใจไว้มากมาย
ใช่แคลนคลายเพียงรอขอโอกาส ฯ