26 กรกฎาคม 2544 01:52 น.
ภีม
สัมผัสเบาแผ่วผ่านก้านดอกใบ
โอนเอนไหวร่ายรำระบำฟ้อน
เจ้าสายลมห่มภูคู่ภมร
ที่เกลือกกลั้วเกษรก่อนจากไกล
กลีบบางบางผลิบานบนก้านดอก
กลัวช้ำชอกกังวลจนหวั่นไหว
อย่าทำร้ายให้ช้ำแล้วจากไป
ทิ้งฉันไว้โรยร้างลงกลางดิน
ขอเวลารับแสงแห่งตะวัน
ก่อนดอกนั้นโรยราลาลับสิ้น
เพียงไม่นานคงปลงลงซบดิน
ไม่เหลือกลิ่นหอมหวลเย้ายวลใจ
เสียงร้องขอไหวสั่นพันธุ์บุปผา
ขอเวลานานนานบานสดใส
ขอลมอย่าพัดแรงเข้าแกว่งไกว
ทำร้ายให้ชอกช้ำระกำทรวง
ภมรเอยเคยชื่นรื่นเริงใกล้
เจ้าคงไม่แกล้งโกรธโปรดแหนหวง
บุปผางามกลางไพรไม่คิดลวง
เพียงหวั่นเกรงจะโรยร่วงก่อนเวลา
สัมผัสนุ่มจากลมโลมอ่อนอ่อน
เพียงภมรชิดใกล้ใฝ่เสน่หา
กลั้วเบาเบาเสพย์สิ้นกลิ่นมาลา
คงบุปผาให้อยู่คู่ก้านใบ ฯ
24 กรกฎาคม 2544 12:37 น.
ภีม
ตอบไม่ได้ว่าทำไมใจรักเธอ
คงเพราะเผลอไปมั้งยั้งไม่ไหว
บอกความจริงเธอคงขัดอึดอัดใจ
ทำอย่างไรเธอไม่โทษโกรธฉันเลย
ก็เห็นหน้ากันทุกวันฉันจึงเผลอ
หลงรักเธอจนได้ใจเฉลย
แอบเก็บไว้ทำเหมือนเพื่อนคุ้นเคย
ไม่ยอมเผยรักอาจล้นจนใจพัง
กลัวเหลือเกินว่าสักวันฉันบอกเธอ
อาจต้องเก้อเศร้าหมองต้องผิดหวัง
ขอเพียงเธอยอมรับได้ให้รับฟัง
ฉันเผลอไปรักเพื่อนไม่เหมือนเดิม
คิดอยู่ตั้งหลายวันฉันต้องบอก
ทำเป็นหลอกตัวเองเก่งหึกเหิม
ปลุกหัวใจให้หาญกล้ายิ่งกว่าเดิม
สวดคาถาช่วยเสริมเพิ่มอวยชัย
โอมเพี้ยง! ว่าคาถาครบจบที่พัน
เตรียมประจัญบอกรักชักหวั่นไหว
เท้าสะดุดหยุดกึกระทึกใจ
เอ๊ะ ! นั่นใคร ? ใกล้สนิทแนบชิดเธอ ฯ
22 กรกฎาคม 2544 22:23 น.
ภีม
อยู่อย่างนั้นเหมือนดังครั้งเก่าก่อน
จะทุกข์ร้อนอย่างไรไม่แปรผัน
บางทรงจำอาจเลือนลับกับคืนวัน
แต่ตัวฉันยังเป็นเช่นทุกวัน
ไม่คิดโกรธโทษเธอที่เผลอไผล
มาเปลี่ยนไปห่างหายคลายจากฉัน
รู้ตัวดีไม่ตามติดคิดผูกพัน
ให้เลิกแล้วต่อกันสัมพันธ์ใจ
อยู่อย่างนั้นเหมือนครั้งยังมีเธอ
ฉันยังคงละเมอเพ้อหวั่นไหว
หากเป็นคนชาด้านกร้านหัวใจ
ก็คงไร้ฉันคนนี้ที่ระทม
อยู่อย่างนั้นได้อย่างไรหากใครถาม
อยู่กับความเงียบเหงาเศร้าขื่นขม
อดีตกาลวานวันอันโศกตรม
ปล่อยตัวจมลงปรักซากรักพัง
ตอบออกไปใจฉันมั่นคงรัก
แม้ประจักษ์ดวงจิตต้องผิดหวัง
อยู่อย่างนั้นกับรักที่หักพัง
ชีวิตสิ้นดินกลบฝังยังรักเธอ ฯ
21 กรกฎาคม 2544 11:30 น.
ภีม
แอบหลบไปอยู่ไหนไยหายหน้า
สืบเสาะหาทุกแห่งหนไร้คนเห็น
รู้บ้างไหมคิดถึงจังทั้งเช้าเย็น
เพราะเธอเป็นคนสำคัญกว่าใครใคร
เคยร่วมคิดร่วมฝันปันความสุข
บรรเทาทุกข์คลายเหงาเศร้าหวั่นไหว
ต่างคนต่างปกป้องคุ้มครองภัย
เป็นพลังกำลังใจให้แก่กัน
แอบหลบหน้าอยู่ไหนคนใจร้าย
เธอคงคลายความรักหักอกฉัน
ลืมความฝันงดงามความผูกพัน
เหลือแต่เพียงความโศกศัลย์ให้ฉันตรม
อย่าให้ฉันรับรู้ว่าอยู่ไหน
จะตามไปตอบแทนแสนสาสม
กับที่เธอทำให้ใจระทม
ต้องขื่นขมเจ็บแสบจนแทบตาย
แต่เพราะรักเธอมากยากทำลง
ต้องปลดปลงความคิดปลิดสลาย
ปล่อยเธอให้สนุกสุขสบาย
แล้วสุดท้ายคนสุขสันต์คือฉันเอง ฯ
18 กรกฎาคม 2544 23:14 น.
ภีม
สงบนิ่งแต่งดงามยามเคลื่อนไหว
ระทึกห้วงหัวใจให้ฝันหา
ประทับรอยดวงพักตร์ปักอุรา
เมื่อดวงตาเราสองมองสบกัน
บุพเพสันนิวาสอำนาจกล้า
ดั่งมนตราร่ายเป่าให้เฝ้าฝัน
อยากจะหยุดเวลาทิวาวัน
อยู่อย่างนั้นเพื่อให้ใจสองคน
เหตุอันใดไยวจีที่อยากเอ่ย
กลับนิ่งเฉยหวาดกลัวมัวสับสน
เข้าไปหากลับหวั่นไหวในกมล
ดั่งปากตนถูกเก็บเย็บติดกัน
ใครจะหยุดฉุดรั้งยั้งเวลา
จึงสิ้นท่าเลยช่วงห้วงความฝัน
พักตร์งดงามคลาไคลหายไปพลัน
ยืนนิ่งงันฝันค้างอยู่กลางทาง ฯ