11 มกราคม 2545 20:52 น.

คนเดียว

ภีม

ไม่ครวญคร่ำร่ำร้องทำหมองหม่น
แม้ใจป่นเหลวแหลกแตกสลาย
แค่ชีวีตต้องสุดหยุดที่ตาย
ไร้ความหมายอย่างใครให้ฉันเป็น

ฉันจะอยู่เพราะสู้อยู่เพื่อฉัน
ไม่อาจปั้นตามหวังดั่งใครเห็น
ฉันจะอยู่อย่างสุขทุกข์ลำเค็ญ
ไม่จำเป็นให้ใครเห็นใจกัน

ก็ชีวิตต่อสู้อยู่อย่างนี้
ตลอดทั้งชีวีมีแปรผัน
ทั้งสุขทุกข์คลุกเคล้าปะปนกัน
ก็คนเดียวเท่านั้นฟันฝ่ามา

เที่ยวแบกหามชีวิตทุกทิศทาง
อย่างอ้างว้างโดดเดี่ยวเกี่ยวปัญหา
เสาะแสวงหนทางสร้างปัญญา
ภูมิใจว่าหลุดพ้นด้วยตนเองฯ				
25 พฤศจิกายน 2544 12:28 น.

ผ่านไปแล้ว

ภีม

ผ่านไปแล้วใช่ไหมหัวใจรู้		
หยัดยืนอยู่เพื่อหวังที่ตั้งหมาย
เคยเจ็บปวดใจเปลี่ยวอยู่เดียวดาย	
กลับสลายหายทุกข์เป็นสุขใจ
     ไม่คิดหวนกลับเป็นดังเช่นก่อน		
เป็นบทเรียนสั่งสอนเพราะอ่อนไหว
ผ่านเรื่องร้ายมาแล้วคลาดแคล้วไป		
จำเอาไว้เตือนตนยามพ้นภัย
     จะผิดถูกอย่างไรอย่าไปสน		
เมื่อล่วงพ้นช่วงนั้นอย่าหวั่นไหว
ปัจจุบันวันนี้ทำดีไป			
เริ่มต้นใหม่ปรับตัวอย่ากลัวเลย
     อดีตที่หนาวเหน็บเคยเจ็บทรวง		
เมื่อเลยล่วงทุกสิ่งอย่านิ่งเฉย
สร้างประโยชน์เกื้อหนุนอย่างคุ้นเคย	
อย่าละเลยหมั่นสร้างแต่ทางดี
     ผ่านไปแล้วช่วงทุกข์เคยซุกหน้า		
ได้เวลาแล้วหนออย่าท้อหนี
โผล่หัวขึ้นเชิดหน้าไร้ราคี			
กู้ศักดิ์ศรีทวงสิทธิ์ชีวิตคืน  
     ดั่งตะวันส่องแสงแห่งวันใหม่
พร้อมทั้งกายทั้งใจไม่ขัดขืน
ลุกขึ้นสู้อีกหนทนหยัดยืน
จะหยิบยื่นรางวัลเพื่อฉันเอง ฯ				
13 พฤศจิกายน 2544 22:31 น.

เพียงไม่นาน

ภีม

วันคืนแห่งความเหนื่อยล้า
ช่วงเวลาแห่งความเงียบเหงา
ความสับสนในใจเรา
อาจโศกเศร้าอยู่เดียวดาย

รับรู้ถึงความแปรเปลี่ยน
ที่หมุนเวียนทั้งดีร้าย
ความรู้สึกดีดีตั้งมากมาย
อาจเลือนสลายไปเมื่อวาน

กลบเกลื่อนความโศกเศร้า
ข้างหลังเงาความยิ้มหวาน
ภายในแม้ใจร้าวราน
เพียงไม่นานหรอกนะใจ ฯ				
22 ตุลาคม 2544 21:34 น.

ภาพสุดท้าย...สุดสายตา

ภีม

เป็นเพียงความว่างเปล่าฉันเฝ้าหา
เป็นเวลาห้วงกาลผ่านเลือนหาย
เป็นความเศร้าเข้ากุมสุมใจกาย
หวังทำลายให้ขื่นขมตรมหัวใจ
     คือมองเธอสุดสายตาเดินลาจาก
ยืนเป็นซากโรยราน้ำตาใหล
เคยสัมพันธ์มั่นรักปักหัวใจ
แต่เธอตัดสายใยไปจากกัน
      รักไม่หยั่งรากแก้วจึงแคล้วคลาด     
ไม่สามารถไขว่คว้ามายาฝัน          
ตายทั้งยืนฝืนซากตากตะวัน			
เพราะเธอลืมคืนวันสัมพันธ์ใจ
      เธอเดินจากลับหายตัดสายฝัน
เกินกว่าฉันขัดขืนฝืนดึงไหว
ภาพเธอจากหายลับจับตรึงใจ
เป็นความจริงตราไว้ไม่ลืมเลือน...ฯ				
11 ตุลาคม 2544 05:39 น.

สงคราม

ภีม

เหนือแผ่นดินขึ้นไปในท้องฟ้า     
ดังแผ่นผ้าสีครามงามสดใส
นกกาเคยโผผินบินเที่ยวไป	           
ผืนนภากว้างใหญ่ไม่ลำเค็ญ
     มาวันนี้ฟ้าหม่นปนสีแดง	           
ทุกหนแห่งร้อนรุ่มสุมทุกเข็ญ
คนและสัตว์ขัดข้องต้องลำเค็ญ          
โลกร่มเย็นต้องทุกข์ลุกเป็นไฟ
      ฝูงนกเหล็กบินว่อนร่อนไปมา          
เต็มผืนฟ้าเสียงลั่นสนั่นไหว
ทิ้งระเบิดแล้วกลับลับหายไป	            
ตาลีบันเป็นไฟเพราะใครกัน
      หมดสิ้นสันติภาพเคยอาบหล้า           
เกิดสงครามตามล่าให้อาสัญ
ขนอาวุธหลากหลายหมายประจัญ      
ระดมพลห้ำหั่นไม่หวั่นเกรง
     เอาชีวิตเข้าสู้ให้รู้ผล	            
หมายต่อต้านทุรชนคนข่มเหง
อเมริกายิ่งใหญ่ไยมิเกรง	            
มาทำโตคุยเบ่งว่าเก่งจริง
     จึงอาฆาตมุ่งร้ายให้ตายดับ               
ให้อีกฝ่ายย่อยยับกับทุกสิ่ง
บุกเข้าไปไม่ละไม่ประวิง	            
ไม่ล้อเล่นทำจริงยิงใส่กัน
     ชาวประชาหน้าดำรับกรรมทั่ว         
พบกับความหวาดกลัวจนหัวปั่น
เพราะสองฝ่ายอาฆาตเข้าฟาดฟัน      
อพยพหลบกันกลัวบรรลัย  
     ไม่มีวันสิ้นสุดหยุดสงคราม            
ต่างฝ่ายต่างทำตามความกระหาย
เป็นศัตรูคู่ข้องจ้องทำลาย	       
ใจกลับกลายเป็นสัตว์กัดกันเอง ฯ				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟภีม
Lovings  ภีม เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟภีม
Lovings  ภีม เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟภีม
Lovings  ภีม เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงภีม