31 กรกฎาคม 2547 16:03 น.
ภีม พีรณุ
มะลิดอกหญ้าดอกไม้ของแม่
เก็บมะลิที่รั้วหอมทั่วบ้าน
ใส่เต็มพานรับรองสีทองเหลือง
ไหว้รูปคนบนหิ้งแม่มิ่งเมือง
สิบสองเนื่องสิงหาราชินี
เก็บมะลิที่รั้วหอมทั่วร่อง
ใส่ใบตองเต็มกรวยผูกด้ายสี
พนมมือถือดอกมะลินี้
กราบลงที่เท้านั้นแม่ขวัญเรือน
ดอกมะลิที่ให้หมายถึงรัก
มะลิสักหมื่นแสนไม่แม้นเหมือน
รักของลูกผูกพันทุกวันเดือน
ปีคล้อยเคลื่อนรักนั้นเลื่อนขั้นตาม
เพียงมือแม่วางลงตรงกระหม่อม
เพียงแม่หอมปอยผมแล้วก้มถาม
เพียงแม่ยิ้มพิมพ์ตาสง่างาม
ลูกสื่อข้ามถึงใจสุขใดพอ
ดอกมะลิที่รั้วหอมทั่วสวน
ใยมาชวนบานผลิวันนี้หนอ
หรือผ่านมาท่าทีเจ้ารีรอ
รักแม่พ่อให้เห็นเป็นและไป
ถ้าวันไหนไม่มีมะลิซ้อน
ดอกหญ้าอ่อนสักช่อลูกก็ให้
มะลิคือชื่อหญ้าตามป่าไพร
ขอแม่จงเข้าใจ.รักแม่นะ
31 กรกฎาคม 2547 15:54 น.
ภีม พีรณุ
*** วันที่มาหาเธอ ***
ตามลำโขงโค้งคุ้งพันวุ้งน้ำ
พอพลบค่ำค้างแรมริมแคมโขง
นับหมื่นดาวพราวทั่วหลายชั่วโมง
ส่องแสงโยงหัวใจเชื่อมไทย-ลาว
หลวงพระบางย่างเท้าเมื่อก้าวเทียบ
ช่างเหงาเงียบบาดคมอารมณ์หนาว
ดอกจำปาลาขั้วริมรั้วพราว
ส่งกลิ่นราวพร้อมใจร้องไห้เตือน
คิดถึงเจ้าจับใจจะไปหา
ไปบอกว่า..รักเจ้ามากกว่าเพื่อน
เคยให้ของต่างหน้าวันมาเยือน
เจ้ายังเหมือนเดิมไหม.อ้ายเหมือนเดิม
กราบพระธาตุพูสีที่ศักดิ์สิทธิ์
ช่วยนิมิตบานบนกุศลเสริม
เพียงตั้งจิตพิษฐานกราบกรานเติม
ยอดภูเพิ่มเยียบเย็นไม่เห็นใจ
ดูรูปถ่ายคล้ายเจ้าหน้าเศร้าหมอง
อ้ายฮักน้องมากอยู่เจ้ารู้ไหม
หลวงพระบางห่างลับลาวกับไทย
แต่จิตใกล้ชิดนักไทยรักลาว
ย่างมาเยือนเรือนเก่าที่เจ้าอยู่
ยื่นรูปเจ้าให้ดูน้องผู้บ่าว
การเดินทางก็จึงมาถึงดาว
สำหรับข่าวที่ได้เธอตายแล้ว