19 มีนาคม 2550 20:32 น.
ภาเกตุ
บทที่ 2
.......... โป๊ก! โอ๊ย?? (จิรายุทธโดนเข้าซะแล้ว) จิรายุทธยกมือกุมหน้าผากลูบคลำหาร่องรอยที่ถูกผกายดาวใช้หัวโขกเข้าให้
........... สม ฮาฮาห้า ผกายดาวหัวเราะชอบใจกับท่าทางของจิรายุทธ พอๆกับสะใจที่ได้แกล้งชายหนุ่ม ระหว่างนั้นเองตาของผกายกายดาวก็ไปสะดุดเข้ากับร่างของผู้ชายอีกคนที่ยืนอยู่ไม่ไกลนัก ความมืดของคืนนี้ทำให้เธอต้องเพ่งมองเขา และไม่ช้ารอยยิ้มพิมใจก็ปรากฏตรงนายของหญิงสาว
.......... เก้า เฮ้อ กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่....คิดถึงจังเลย ผกายดาวพูดไปเดินไปก่อนจะโผล่เข้ากอดชายหนุ่มในชุดทหารเรือสีขาวอย่างแนบแน่นโดยที่ชายหนุ่มยังไม่ทันได้ตอบคำถามเลย ต่อจากนั้นถึงคราวที่ผกายดาวใช้สายตาตรวจสอบราชนาวีหนุ่มตั้งแต่หัวจรดเท้า
.......... ดำขึ้นเป็นกองเลย ว้ายไอ้ดำ ผกายดาวเปิดปากล้อ
.......... เจอตัวก็ปากเสียเลยนะ ดำแต่เท่อะเคยเห็นอ่ะป่าว กรเกล้าย้อนกลับทันควัน
......... ไอ้เก้ามันมาเมื่อกี้นี่เอง เราเพิ่งไปรับมันมา ล้วก็มาหาองค์หญิงนี้แหละ จิรายุทธที่ยังใช้มือกุมหน้าผากเดินมาสมทบ
......... อ๋อ ก็เลยมารับเราน่ะนะ ผกายดาวหันไปถามจิรายุทธ
. ถูกต้องนะ ครับ
......... แล้วจะไปไหนต่ออีกอ่ะ ผกายดาวทำหน้าสงสัย
......... แล้วยังขาดใครล่ะ องค์หญิง วันนี้ต้อง ครัวครบรส จิรายุทธใช้ศัพท์แปลกๆเรียกรอบยิ้มให้อีกสองผู้ฟัง ก่อนจะขว้างมือผกายดาวแล้วหันไปพยักหน้าชวนกับกรเกล้าแสดงว่า ไปกันเถอะ
ภาพสามร่างเดินเกาะกลุ่มกันไปหัวเราะกันไป คล้ายภาพวาดในความทรงจำดูแล้วไม่ได้ต่างจากวันวานของพวกเขาเลย หญิงสาวในชุดนักศึกษาดูยังไงก็เรียกได้ว่าน่ารักเหมือนตุ๊กตาผมเป็นลอนสีน้ำตาลอ่อนโบกพลิ้ว ขนาบด้วยหนึ่งชายมาดเท่ในชุดทหารองอาจ และอีกหนึ่งคือชายหน้าตาน่ารักโดดเด่นด้วยลักยิ้มมหาเสน่ห์ที่ยังคงเกาะกุมมือของหญิงสาวไม่ยอมปล่อย
11 สิงหาคม 2548
วันสุดท้ายของการสอบกลางภาค หอที่ฉันพักอยู่ผู้คนเริ่มบางตาลง เพราะกลับบ้านกันไปหมดแล้ว มีวันหยุดติดต่อกัน4วัน ฉันเองก็อย่างกลับบ้านบ้างจัง แต่กลับไปก็ไม่รู้เพื่ออะไรเพื่อใคร พ่อกับแม่เลี้ยงแล้วยังลูกใหม่อีกตั้งสองคน คงไม่มีใครสนใจฉันหรอก ฉันว่าแค่ฉันขอทุนเรียนได้ด้วยตัวเองพ่อก็คงโล่งอกขึ้นเป็นกองที่ไม่ต้องมารับภาระกับ ลูกนอกคอกคนนี้อีกก็มันลูกหลงนี่ ไม่เคยมีใครรัก........ไม่มีสักคน
แต่ก็ยังมีเรื่องดีอยู่บ้างเพราะวันนี้บังเอิญไปเจอพี่หญิงที่นั่งทำหน้าเครียดจัดอยู่ที่ซุ้มต้นไม้หน้าภาควิชา ทีแรกฉันก็ไม่กล้าเข้าไปหรอกเพราะกลัวจะรบกวนพี่เขา พี่หญิงดันเห็นฉันซะก่อนก็เลยเรียกไปคุยเรื่องโน่นเรื่องนี้ ก็เลยรู้ว่าพี่หญิงยังทำโปรเจ็คเดียววิชาภาษาอังกฤษไม่เสร็จ ได้แต่บอกว่าพี่คิดยังไงก็ไม่ออก ฉันก็เลยถามพี่หญิงว่าทำไมไม่ให้เพื่อนช่วย พี่ก็ทำหน้ากระตือรือร้นขึ้นมาทันทีแล้วหันมามองหน้าฉัน สรุปแล้วฉันที่เป็นรุ่นน้องก็ได้กลายเป็นผู้ช่วยไปในที่สุด
สำหรับฉันงานของพี่หญิงก็ไม่ได้ยากมาก ก็แค่ทำบทวิจารณ์หนังสือภาษาอังกฤษเล่มไหนก็ได้สักเล่มแล้วพี่หญิงก็มีอยู่แล้วหลายเล่มด้วย
.......... พี่หญิง ทำไมไมอ่านสักเรื่องล่ะ อรพิมลถามผกายดาวที่กับพลิกหนังสือภาษาอังกฤษเล่มนั้นทีเล่มนี้ที
.......... โห เล่มนี้ก็อ่านไม่รู้เรื่อง เล่มนี้ก็ศัพท์ยากๆทั้งนั้น อะไรนักวะ ผกายดาวฟาดหนังสือลงกับโต๊ะแล้วก็ลุกขึ้นพรวด พี่ขอไปพักก่อนนะเหนื่อย ผกายดาวเดินลิ่วไปแล้ว อรพิมลก็งงกับเหตุการณ์บ้าบอของผกายดาวไม่แพ้ใคร จึงได้แต่หยิบหนังสือเล่มหนึ่งขึ้นมาดูลองพลิกอ่านดูไปเรื่อยเป็นเรื่อง THE MERCHANT OF VENICE ของเซกเปียกซ์ เรื่องนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับชาวยิว การกีดกันเชื้อชาติ
.......... เอ่อ น้องครับ
เมื่ออรพิมลเงยหน้าขึ้นจากหนังสือ ก็พบกับผู้ชายหน้าตาดีซะเหลือเกินชนิดที่เรียกว่าเป็นดาราหรืออย่างน้อยก็ต้องนายแบบ อรพิมลจ้องมองชายคนนั้นอยางไม่วางตา รู้สึกเมื่อว่าโลกทั้งใบหยุดเวลไว้ให้มีเพียงแค่คนสองคน เธอและเขา
19 มีนาคม 2550 17:40 น.
ภาเกตุ
ถ้ายังไม่ได้อ่านตอนแรกคลิ๊กhttp://www.thaipoem.com/forever/ipage/story7920.html
อ้อไม่ต้องงงมันเรื่องเดียวกันชัวร์
ฉันไม่รู้ว่าทำไมเรื่องแบบนี้มันต้องเกิดขึ้นกับฉัน อยากจะรู้นักถ้าคุณต้องเจอเหตุการณ์??แบบที่ฉันจะเล่าให้คุณฟัง คุณจะทำอย่างไรกับเรื่องราวที่มีปัญหาสำคัญคือ "ความผูกพัน"
ฉันจะขอแนะนำให้คุณรู้จักกับผู้ชายสามคน คนที่คุณจะต้องสับสน หวั่นไหวจนแทบหายใจไม่ออกเลยก็เป็นได้..........
กับผู้ชายคนแรกเขาชื่อ ณน ชื่อคำเดียวของเขานี่แหละที่ทำให้หัวใจของฉันเหมือนติดปีกโบกบินได้ เขาคือผู้ชายที่คุณต้องหลงรักจนหัวปักหัวปำ
ผู้ชายอีกคนที่ไม่มีอะไรมากไปกว่าความจริงใจ ชนิดที่ทำได้ทุกอย่างเพื่อ....... กรเกล้า คือผู้ชายที่คุณอยากจะเจอสักครั้งในชีวิต
จิรายุทธ ชายที่มาพร้อมกับสายลมที่อบอุ่น รู้ไว้เลยว่าคุณคงอดอมยิ้มไม่ได้หรอกเมื่อพบเจอเขา และมีเขาอยู่ข้างกาย
..........นี่ไม่ใช่ตัวเลือกที่ให้คุณทำตัวเป็นนางเอก แล้วลองเลือกใครสักคนในกลุ่มนี้เพื่อเป็นแฟน เป็นกิ๊ก หรือแต่งงานเป็นสามี แบบว่าเราเลือกคนที่ใช่ที่สุด ลองคิดดูถ้าพวกเขาไม่ได้เกิดมาสำหรับคุณล่ะ แต่กลับต้องมาพัวพันกับคุณเขาอย่างจัง และนี่แหละคือสิ่งที่ฉันเจอเข้าอย่างจังเช่นกัน
.........................................
1 กรกฎาคม 2548
วันนี้ฉันดีใจที่สุดเลย วันนี้เป็นวันเฉลยพี่รหัส ที่จริงฉันแอบรู้ก่อนแล้วแหละนะว่าพี่รหัสคือใคร แต่ก็ยังตื่นเต้นไม่หาย เพราะนี่คือการเฉลยทั้งสายรหัสเลย มีข่าวแหว่ๆมาว่าป้ารหัสของฉันน่ารัก แล้วก็เป็นแบบนั้นจริงด้วย พี่หญิง น่ารักจริงๆ น่ารักสุดๆ แบบไม่ได้โกหกเลย พี่หญิงคุยเก่งมาก ฉันว่าฉันก็คุยเก่งแล้วนะ พี่แกเล่นคุยชนิดไม่ว่าขอเม้าท์เลย แต่ยังไงก็น่ารักอยู่ดี พี่หญิงมากระซิบฉันบอกว่า ความจริงแล้วพี่ก็คุยไม่เก่งหรอก แต่.........
......... "แต่! วันนี้พี่เตรียมมานะ พี่จะบอกให้สายรหัสเราน่ะพูดน้อยกันทุกคน ถ้าพี่ไม่พูดมีหวังเซ็งตาย ฮิฮิ" ผกายดาวสาวผู้พี่วันนี้ทำตัวเป็นป้ารหัสที่แสนดีอธิบาย มีจุดประสงค์ที่ว่าไม่อยากให้น้องใหม่เข้าใจผิด ว่าตัวเธอเป็นพวกพูดเก่งจนขั้นพูดมากเกินไป
......... ไม่หรอกค่ะ พี่หญิงคุยสนุกดี น่ารักด้วย ออยชอบ อรพิมลยิ้มไปตอบไปในใจนึกขำพี่สาวคนนี้ไม่น้อย ป้ารหัสของเธอคนนี้น่ารักซะจริงๆ
......... จริงอ่ะ จริงเหรอ โฮ ฮึม น้องรัก ผกายดาวทำเขินแบบตลกจนสายรหัสที่ร่วมโต๊ะอาหารอยู่นั้นขำกันใหญ่ แต่ก็ดูเหมือนเธอจะได้ใจอยู่ไม่น้อยเลยเล่นมุกแป๊กๆอีกสองสามมุก ก่อนจะมีเสียงแซวจากรุ่นพี่ร่วมโต๊ะ
......... อะไรกันหญิงยังไม่สามทุ่มเลย มีคนมารับแล้วเหรอนี่ รุ่นพี่คนหนึ่งพูดขึ้นทำเอาสายรหัสทั้งสายหันไปมองชายหนุ่มหน้าตาน่ารัก ที่กำลังเดินตรงเข้ามายังคณะของพวกเขาเป็นตาเดียว
ใครเหรอค่ะ พี่หญิง อรพิมลหันมาถามผกายดาวที่นั่งมองคนที่กำลังเดินเข้ามาแบบขำขัน แต่ยังไม่ทันที่ผกายดาวจะตอบอรพิมลก็ได้ทราบคำตอบจากรุ่นพี่คนอื่นๆแล้วแถมมีหลายคำตอบซะด้วย
........ เพื่อนรักพี่หญิงเข้าน่ะออย
........ ไม่ใช่ แฟน... เอ้อ กิ๊ก ต่างหากล่ะ
........ เฮ้อ อย่ามั่ว คนนี้ตัวจริงหวังแต่งเลยแหละ
........ นี่พวกพี่น้อง สายรหัสเจ้าขา เมื่อกี้นี้เห็นนั่งเงียบเอาแต่ กระดืบๆเหล้าเข้าปาก พอที่นี้พูดเก่งขึ้นมาเชียว ผกายดาวประชดประชันเหล่าสายรหัสที่ล้อเลียนเธอกับชายหนุ่มคนนั้น ก่อนจะเริ่มใช้ฝ่ามือฟาดไปที่แผ่นหลังของน้องรหัสชายคนหนึ่ง โชคดีที่ชายคนที่ทุกคนสนใจกันเดินเข้ามาถึงซะก่อน
........ สวัสดีครับทุกคน ชายคนนั้นทักทายทุกคนอย่างยิ้มแย้ม ก่อนจะเดินไปหาผกายดาวโดยไม่สนใจสายตากลุ่มคนทั้งโต๊ะที่เพ่งมองกันอย่างสอดรู้สอดเห็น
........ ไง องค์หญิง ได้เวลากลับบ้านแล้ว ข้าน้อยมารับแล้ว ชายหนุ่มพูดกับผกายดาวต่อหน้าทุกคนแบบไม่ได้ลดเสียงให้เบาลงแม้แต่น้อย รุ่นพี่รุ่นน้องพากันจดจ่องฟังคำตอบของผกายดาว
....... จิราจ๋า ทำไมมาเร็วจังเลยล่ะ หญิงนะยังไม่อยากกลับเลย ผกายดาวพูดไปทำหน้าทำตาบ้องแบ๊วไปด้วย พาเอาคนทั้งโต๊ะรู้สึกเหม็นเลี้ยนไปตามๆกัน แต่สำหรับชายหนุ่มที่ผกายดาวเรียกว่าจิรานั้นกลับยังยิ้ม และรู้สึกเหมือนสมองของเขาจะเริ่มแล่นแล้วด้วย ยังไม่จบแน่งานนี้
จิรายุทธยิ้มอย่างมีเล่ห์นัยก่อนจะทรุดตัวลงนั่งคุกเข่ากับพื้นตรงหน้าของผกายดาวนั้นเอง (โธ่ทำไปได้........) เท่านั้นยังไม่พอเขายังรวบเอามือของผกายดาวมาไว้ในอุ้งมือของเขาและสบตาหวานซึ้งชนิดเสแสร้งที่สุดเท่าที่จะทำได้ ก่อนจะปริปากพูดออกไปว่า
........ องค์หญิงกลับกับจิราเถอะนะ จิราคิดถึงองค์หญิงทั้งวันเลย กลับเถอะนะ พูดไปจิรายุทธก็ยิ้มไป ไอ้การทำท่าเหมือนคนกำลังขอความรักแบบนี้ มันไม่ได้เป็นเป้าสายตาของเหล่าสายรหัสเท่านั้น แต่เป็นเป้าสายตาของคนทั้งร้านเลยทีเดียวแหละ
ผกายดาวที่ตอนนี้อึ้งเล็กน้อยกับการกระทำของจิรายุทธ พยายามรวบรวมสติก่อนจะเล่นไปตามเกมต่อ(นายจิรา... ทำฉันเหนื่อยอีกแล้วนะ)
......... ตายจริงรุ่นพี่ค่ะแล้วแบบนี้ หญิงจะทำไงดีล่ะ นี่ก็รุ่นพี่รุ่นน้องสายรหัสที่น่ารัก ฮืม! แล้วนี้ก็........ เหล่าสายรหัสพากันเงี่ยฟังคำต่อไปของผกายดาว(ฟฟฟแฟนแน่ๆ เอ...หรือโอ๊ย อะไรพูดสักที) รุ่นพี่ค่ะงั้นหญิงของกลับก่อนนะ น้องออยพี่ไปก่อนไว้เจอกันนะ พี่หญิงยินดีต้อนรับสู่สายรหัส 76 นะจ๊ะ ไปแล้วค่ะหวัดดีพี่ทุกคน ไว้โทรหานะจ๊ะ จุ๊บ จุ๊บ พอสิ้นเสียงเหล่าสายรหัสทั้งหลายก็ได้แต่นั่งเหว่อคำตอบก็ไม่ได้ฟัง แล้วยายหญิงมันยังจ้ำอ้าวออกจากร้านไป โดยไม่ลืมดึงมือชายหนุ่มน่ารักคนนั้นติดมือไปด้วย(มันชิ่งเก่งจริงๆวะ )
ผกายดาวดึงมือจิรายุทธมาถึงหน้าร้าน ก็ปล่อยเมื่อเขาทิ้งซะอย่างนั้น จิรายุทธเห็นแบบนั้นก็หัวเราะชอบใจ พอเหลือบมองหน้าผกายดาวที่ตอนนี้ทำหน้ายักษ์ใส่เขา แทนที่จิรายุทธจะรู้สึกกลับยิ่งหัวเราะหนักกว่าเดิมชนิดท้องคัดท้องแข็ง ผกายดาวที่กำลังมีอารมณ์ตะหงิดๆอยู่แล้ว การกระทำของจิรายุทธทำให้เธอพลันโมโหเพิ่มขึ้นอีก คนอย่างผกายดาวน่ะไม่จำเป็นต้องเก็บกดอารมณ์ไว้หรอกนะ มีอะไรมันต้องระบายออกมา ที่สำคัญต้องเต็มทีด้วย
.......... ตายซะเถอะ ไอ้บ้าจิรา เสียงของผกายดาวยังไมทันขาดคำ คอของจิรายุทธก็ถูกท่อนแขนของผกายดาวกดจนต้องเบนตัวลง แล้วก็ถูกลากให้เดินตามสาวเจ้าไปไหนที่สุด
.......... โอ๊ยๆ จะไปไหนองค์หญิง รถอยู่ทางโน้น จิรายุทธพยายามขืดคอขึ้นมองหน้าผกายดาวที่ต้องนี้ดูจะอารมณ์ดีขึ้นแล้วหลังจากที่ฉุดกระชากลากคอเข้ามานานสองนาน
.......... แล้วทำไมไม่บอกตั้งแต่แรก
.......... เอาแล้วใครกดคอเราไว้นะ โฮ จิรายุทธตัดพ้องเหล่มองหญิงสาว ผกายดาวมองหน้าตอบ ทังคู่จ้องหน้าจ้องตากันแบบตาไม่กระพริบ จิรายุทธไม่ปล่อยให้เวลาเสียไปโดยเปล่าประโยชน์ระหว่างที่จ้องกันอยู่นั้นเขาก็กระแซะเข้าไปใกล้ผกายดาวมากขึ้นๆ มือทั้งสองข้างเข้าเกาะกุมบ่าของเธอ ก่อนจะยื่นหน้าไปหาเธอเป็นกำลังเสริม ใกล้เข้าไปใกล้เข้าไปอย่างใจจดใจจ่อชนิดที่ทั้งเธอและเขาสามารถสัมผัสลมหายใจของกันและกันได้เลยทีเดียว แม้ผกายดาวจะได้ยินเสียงหัวใจเต้นตุ้บตั้บของตัวเอง แต่เธอก็ไม่คิดจะเบี่ยงหน้าหนีไปง่ายๆหรอก...........ทันใดนั้น!
16 มีนาคม 2550 23:38 น.
ภาเกตุ
ณ ที่ที่มีแต่ความรัก ยังมีบ้านหลังน้อยของใครคนหนึ่งตั้งอยู่ สายลมละเมียดละไมพัดผ่านหน้าบ้าน แสงจันทร์ยังส่องแสงสวย หญิงสาวในรูปลักษณ์ที่แตกตางออกไปจากผู้หญิงสมัยนี้ ออกมายืนรับลมที่หน้าบ้าน
"อากาศเย็นดีนะ เจ้าแต้ม" หญิงสาวพูดกับสุนัขเพื่อนซี้ที่ที่นั่งอยู่เคียงข้าง
"ฉันอยากให้แกพูดได้จริงๆ แกจะได้พูดกับฉัน ดูสิดินแดนแห่งนี้มีแต่คนรักกันทุกๆที่มีแต่ความรัก"หญิงสาวพูดด้วยอาการหมองเศร้าพลางลูบต้นคอเจ้าสุนัขแสนรู้ มันไม่รู้เลยว่าเจ้านายของมันต้องการอะไร แล้วอะไรหนอละคือความรัก
แสงตะวันสาดส่องบอกเวลาให้รู้ว่าเช้าแล้ว นกกางเกงคู่รักบินผ่านบ้านหลังน้อย เพื่อหาอาหารสำหรับเจ้าลูกนกที่ยังอ่อนแอนัก เจ้าแต้มกำลังนอนหาวหวอดด้วยความขี้เกียจ เมื่อเห็นนกสองตัวร่อนลงเพื่อจิกกินหนอนอยู่ตรงหน้าก็ร้องถาม
"โฮ่งๆ โฮ่งๆพี่นก พี่นกกางเขน ความรักเป็นเช่นไร ข้าจะเอามาให้นายข้า ช่วยบอกข้าที"
กางเกงน้อยผู้พ่อเหลือบมองอย่างระมัดระวังเจ้าแต้มด้วยสันชาติญาณ พอเห็นหน้าหมาย่นๆตาโตๆ ก็ตกใจจึงตอบว่า
"จิ๊บๆเอ็งเป็นใคร หน้ายับยู่ยี่แก่แบบนี้มาเรียกข้าว่าพี่ เอ็งน่าจะแก่กว่าข้านะ จิ๊บๆ" พ่อนกพูด
"จริงด้วย จิ๊บๆ"แม่นกเสริม
"โฮ่งๆ พี่นกข้าเพิ่งอายุ3เดือนเท่านั้น หน้าข้ามันแกเอง โฮ่ง" เจ้าแต้มตอบ แม้จะอายอยู่สักนิดที่หน้าแก่ก่อนวัย
"จิ๊บๆ ไม่หน้าเชื่อ จิ๊บๆ" แม่นกบ่นเพ้อ
"พี่นก ความรักคืออะไรเหรอ โฮ่งๆ" เจ้าแต้มยังไม่ละความพยายามที่จะหาคำตอบว่าความรักคืออะไรหนอ
"จิ๊บๆ ความรักคืออะไรที่อยู่เป็นคู่ไง ดูอย่างข้ากับแม่นกสิ เราอยู่กันเป็นคู่" พ่อนกตอบ
"อ๋อ โฮ่งๆ ที่แท้ความรักคือการอยู่เป็นคู่นั้นเอง ขอบใจนะพี่นก โฮ่งๆ" เจ้าแต้มยิ้มอย่างสบายใจ มันรู้คำตอบแล้ว เอแต่จะจริงหรือเปล่าหนอ เจ้าแต้มยังไม่เชื่อสักทีเดียว มันยังอยากลองหาคำตอบอีก ความรักคืออะไรหนอ
ราตรีอันมืดมิดมาถึงอีกแล้ว เจ้าแต้มก็ไม่รู้ว่าทำไมมันต้องออกไปข้างนอกเพื่อรับแสงดาว ดวงดาวหลายพันดวงละลานตา ทันใดนั้นเจ้าแต้มก็ต้องฉงนกับตัวอะไรลายๆ กำลังเลื่อยอย่างอ่อนซ้อยไปยังพุ่มไม้ตรงหน้า
"โฮ่งๆ พี่ๆ ทำอะไรนะ โฮ่ง" เจ้าแต้มใช้จมูกแตะๆดมกินตามไปยังพุ่มไม้
"ซี...เอ็งเป็นใครมายุ่งอะไรกับข้า...ซี" เสียงใหญ่ๆหลังพุ่มไม้ดังกังวาน
"โฮ่ง พี่ข้าขอเข้าไปดูได้ไหม พี่ทำอไร" เจ้าแต้มยังอยากรู้อยากเห็น
"ซี...ข้าคืองูเหลือมนะเอ็งไม่กลัวเหรอ...ซี ข้าจะกินเอ็ง" เจ้างูใหญ่เสียงดังขึ้นอีกหวังจะให้เจ้าแต้มไปไกลๆ
"พี่งู โฮ่ง พี่ตัวใหญ่ข้าเชื่อพี่ได้หรือไม่ โฮ่งๆ" เจ้าแต้มเดื้อดึง ก็มันอยากหาคำตอบนี่
"ซี...อะไรของเอ็ง...ซี" คราวนี้งูเหลือมโพล่หัวออกมาจาพุ่มไม้ เล่นออกเจ้าแต้มตัวสั่น
"โฮ่ง พี่เหลือม ข้าอยากรู้ว่าความรักคืออะไรเหรอ โห่ๆ" ตัวกยังสั่นๆ แต่เจ้าแต้มก็ขอบรรลุจุดประสงค์ก่อน ว่าความรักคืออะไรหนอ
"ซี...คำตอบง่ายๆเอ็งมันโง่จริงๆ...ซี ความรักก็คือการอยู่อย่างสงบ ไม่มีใครรบกวนไง...ซี"
"จริงหรือ ไม่ใช่อยู่เป็นคู่หรือโฮ่งๆ"เจ้าแต้มสงสัยจึงถาม
"อยู่เป็นคู่ แสนลำบาก...ซี" งูเหลือมเชื่อมั่นในคำตอบของตน
เจ้าแต้มเดินคอตกมาหน้าบ้านหลังน้อย มันกำลังคิด ความรักคืออะไรกันหนอ ความรักคือการอยู่เป็นคู่ หรือความรักคือการอยู่คนเดียวตัวเดียวกันแน่ หญิงสาวเดินมาแต่ไกล เจ้าแต้มได้กลิ่น เธอเพิ่งกลับมา ถืออะไรมาด้วยเจ้าแต้มมองเห็นแม้จะเป็นภาพขาวดำก็ตาม กลิ่นโชยของหมูย่างลอยมา ส่วนหางที่จริงๆก็ไม่มีกระดิกเองแบบไม่รู้ตัว ขามีกำลังขึ้นมาทันที เจ้าแต้มเตรียมวิ่ง
เจ้าแต้มกำลังวิง วิ่งไปหาหญิงสาว อาจเป็นกลิ่นของหมูย่างที่เธอถือมาด้วยยั่วน้ำลาย หรืออาจเป็นกลิ่นไอของหญิงสาวเจ้านายแสนรัก ที่มันคิดถึงจับใจกลับมาหามันแล้ว เจ้าแต้มเอ๋ย เจ้าจะรู้หรือไม่ว่าสิ่งที่เจ้าพร่ำถาม ความรักคืออะไรหนอ มันเป็นเช่นนี้เอง ดังที่เจ้าวิ่งไปหานายของเจ้าด้วยความรักเฉกเช่นนั้น
"เจ้าแต้ม รู้ไหมความรักนะ บางครั้งเราก็ตั้งเรียนรู้การอยู่ร่วมกัน เพื่อการครองคู่ได้ยืนยาว แต่เราก็ควรจะพึ่งตัวเองได้ ยามต้องอยู่คนเดียว เมื่อขาดใครคนหนึ่งไป เราก็ยังอยู่ได้ เข้าใจไหมเจ้าแต้ม" หญิงสาวอุ้มเจ้าแต้มมาวางไว้บนตักมือลูบไปตามตัวของเจ้าแต้มอย่างทะนุถนอม เจ้าแต้มยามนี้ช่างสบายเหลือเกิน มันจะได้ฟังที่หญิงสาวบอกหรือไม่ ว่าความรักคืออะไรหนอ