20 กันยายน 2549 00:58 น.
ภาวิดา
กรีดคมดาบกวาดคมสอดบนยอดหญ้า
น้ำค้างหยดจากฟ้าผ่าเดือนหงาย
แสงหิ่งห้อยคล้อยแสงดับอยู่วับวาย
กลับมีลมพัดพรายมาลิบลิบ
เสียงช้างหวีดกรีดร้องอยู่กลางป่า
ปลายใบหญ้าคล้อยไหวไยเงียบกริบ
ได้ยินไหมใบข้างต่างกระซิบ
บ้างกระทบพบกระพริบอยู่แซ่ซร้อง
ยามมืดมิดปิดทึบบนหลืบฟ้า
ยามอับแสงจันทราดาราส่อง
แย้มแสงนวลอวลอุ่นกรุ่นละออง
ยังรอเช้าแสงทองอย่างล่องลอย
นั่นแสงทองจุดนั้นนั่นแสงจ้า
จุดยิ่งแรงแสงยิ่งล้ายิ่งล่าถอย
หากจะเป็นแสงเทียนที่เฝ้าคอย
หรือแสงกริ่งหิ่งห้อยในหัวใจ
เสือโหยหิวยืนยืดอยู่ยอดผา
กับหมาป่าหน้าโม่งในพุ่มไม้
เตรียมกระโจนโค่นป่าพนาราย
เหยียบยอดหญ้าหญ้าวายลงพื้นยับ
ต้นสามสีสุดท้องที่ท้ายทุ่ง
เหยี่ยวเพ่งพุ่งจิกโฉบตรลบตรับ
ฝูงมดดำเดินหน้าออกตราทัพ
ออกจากรังยุบยับขับพิรุณ
โครมโครมกึกก้องบนท้องฟ้า
ปีกเมฆาพร่าพรมพร้อมลมหมุน
จักเจาะพื้นไพรป่าล่าอรุณ
น้ำข้นขุ่นแดงฉานบนลานดิน
ยามมีภัยยามหญ้ายังอยู่ยาก
ยังฝังรากยึดพื้นยังผืนสินธุ์
นกมีหูเมื่อหนูมีปีกบิน
ก็ผกผินบินร่อนหลบซ่อนไป
หญ้าเอ๋ย
เจ้าเคยยืนหยัดและอยู่ไหว
เจ้าหวังเพียงอยู่อย่างสบายใจ
ใต้ร่มเงาร่มไทรที่ร่มเย็น
หญ้า...นั่นหรือ
นั่นคือที่เจ้าอยากจะเห็น
อย่างไหนที่เจ้าอยากให้เป็น
ให้ฝันเช่นเห็นจริงหรือสิ่งใด