21 กุมภาพันธ์ 2548 14:34 น.
ภาวิดา
ฉบัง 16
เย็นย่ำมืดค่ำลงแล้ว บอกลาพี่แก้ว พี่เกื้อกูลหนุนแสงส่อง
ประกายลายฉายแผ่นทอง นาบเนื้อนวลน้อง อุ่นนี้อุ่นใดเสมอเหมือน
อุ่นอาบวาบหวามยามเยือน อกนี้สะเทือน สะท้านสุดทานสุดทน
สุดฟ้าสุดตาครายล คล้อยเคลื่อนเลื่อนหล่น หลุดฟ้าหลุดหล้าลาลับ
ถึงคราน้องนาประทับ แววแวววับวับ ประดับประดาคืนนี้
ประดิษฐ์ทิวาราตรี จำรัสรัศมี แจ่มแจ้งจันทร์เจิดเพริดพริ้ง
พี่นางงามขำเสียจริง นบแนบแอบอิง น้องชมโฉมฉายรายล้อม
นวลแสงแพงพี่พยอม พำนักพักพร้อม พาพื้นพสุธาพาฝัน
นุ่งน้องรายเรียงเคียงกัน บรรเจิดเฉิดฉัน บังเกิดเพริดจินตนาการ
เรียบรูปรอยจุดดุจดาล เรียงหมากลากผ่าน กำเนิดสิบสองราศี
สรรพสัตว์จัดประจำปี เวียนว่ายฟ้านี้ เวียนวกตกฟากฝากฟ้า
เวียนวนเกลื่อนกล่นทิวา ระยิบระยับตา ประดับฟ้ายามค่ำคืน
พี่แก้วแผดแสงแรงกลืน ผ่องแผ้วแผ่วพื้น วนเวียนเปลี่ยนที่ประทับ
พี่นางลงฟ้าลาลับ นุ่งน้องรองรับ รอค่ำคืนนี้อีกครา
15 กุมภาพันธ์ 2548 00:27 น.
ภาวิดา
โคลง ๒
ตะวันอยู่คู่ฟ้า ฟากฝั่งสะท้านท้า
สะท้อนนที
ปรี่ปราดสาดส่องลี้ ลอยล่องแผ่นทองนี้
คู่น้ำทะเล
โอ้ละเห่ค่ำแย้ม เลื่อมแผ่นเงินแฉล้ม
เรียบล้อดวงเดือน
เกลื่อนกล่นดาเรศล้อม ระยิบแย้มพรายน้อม
ส่องให้นภา
นาวาดังยุดยื้อ ยังรักแลสัตย์สื้อ
แก่ทั้งสองดวง
ปวงมัจฉาว่ายพร้อม พรายพบพาโอบอ้อม
ทั่วน้ำเป็นพยาน
7 กุมภาพันธ์ 2548 18:37 น.
ภาวิดา
กลอนหัวเดียว
อันว่าประชาธิปไตยที่สร้างสรรค์ วันนี้ก็ถึงวันที่ 6 กุมภา
พวกสื่อมวลชนคนรุมรายล้อม เดินวนเดิมอ้อมสัมภาษณ์ไปมา
ตัวแทนพรรคการเมืองของแต่ละพรรค เรียงรายทายทักพี่น้องชาวประชา
ออกมาประกาศตัวนอบน้อมพร้อมช่วย พร้อมแนบมาด้วยนโยบายต่างต่างนานา
จะอาสาบ้านเมืองรับเรื่องรับใช้ เพื่อให้คนไทยมีกิน4ปีข้างหน้า
นโยบายพร่ำบอกออกดอกออกผล ทำให้ผู้คนที่ทำไร่ไถนา
ไม่ถูกพ่อค้าหน้าเลือดกดเกรด ให้ผลิตภัณฑ์เกษตรสิ้นไร้ราคา
เด็กน้อยเด็กซนเยาวชนรุ่นใหม่ ให้เป็นเด็กไทยที่มีการศึกษา
วัยรุ่นวัยเรียนต้องห่างต้องไกล ไม่มั่วสุมเสพย์ติดพิษสุรา
ยามเจ็บยามไข้ได้เป็นคนป่วย รัฐบาลช่วยแบ่งเบาค่ายา
อุทกภัยภาคใต้ขมขื่น ให้ช่วยฟื้นฟูเร่งรัดพัฒนา
อีกทั้งปัญหาความไม่สงบ อย่าได้ประสบอีกครั้งอีกครา
ประชาชนชาวไทยคอยเฝ้าคอยหวัง ว่ากลุ่มพลังที่พวกเขาเลือกกา
เป็นการให้โอกาสคนดีมีไฟ ให้เขาเข้าไปออกเสียงในสภา
ไปสร้างชาติไทยให้เข้มแข็งแกร่ง ดังคำกล่าวบนแผงป้ายโฆษณา
ตั้งแต่นี้ต่อไปขอเชื่อใจอีกหน จะถือค่าของคนคือผลงานที่ออกมา
2 กุมภาพันธ์ 2548 00:24 น.
ภาวิดา
ญาณี ๑๑
แดดไล้ยอดชายคาร ร่มสราญระเริงลม
แมกไม้ขยายพรม ขยายแผ่ลับแลลาย
หูกวางกางใบเหลือง เพื่อปลดเปลื้องระโรยกาย
ลงพื้นลงเรียงราย เรียงสลับกับสีดิน
พรมพื้นธรรมชาติ แลวิลาศเลอชีวิน
ณ พื้นธรนินท์ ณ ที่นี้คือชีวิต
ลมบ่ายกระจายอุ่น พระพิรุณก่อกูลกิจ
กล้ำกรายมาพรายพิศ ดั่งนิมิตท้องนภา
สอดส่องประครองขวัญ ประโคมพรรณพื้นพนา
ดาษดื่นชื่นชีวา ชูช่อชั้นประชันชม
แนบนั่งประโลมจิต ประหนึ่งชิดประสิทธิ์สม
เหนื่อยล้าในอารมณ์ ในอานิจที่ติดตรึง
หล่นพรูใบหูกวาง ประจงวางมิพรั่นพรึง
คำนับความคำนึง อานิจนั้นมิหวั่นเกรง
พระพายก็พัดผ่าน ณลานกว้างบรรเลงเพลง
โถมถั่นทับกันเอง เสียงทักทายสหายรัก
บันดาลอารมณ์ศิลป์ ศิลปินยินประจักษ์
เทพาที่อารักษ์ พลพรรคพำนักเพียร
รายเรียบเงียบสงบ ก็พาลพบเรื่องรู้เรียน
คิดปราดประกาศเขียน ประดับไว้ประดิษฐ์กานท์