5 มกราคม 2548 21:59 น.

แม่สร้อย

ภาวิดา

จากเด็กน้อยแม่สร้อยคอยฟูมฟัก     คอยให้รักจุนเจือเมื่อแม่หาย
แม่ถูกคุกคุมขังดังแม่ตาย                พ่อนั้นหรือคือใครยังไม่รู้
แม่สร้อยนี้นี่แท้คือแม่เจ้า                ม่ายแก่บอกเล่าอย่างอดสู
กำชับทั้งเพื่อนบ้านอาจารย์ครู          ความลับที่พรั่งพรูอย่างแพร่งพราย

กลัวกลายเป็นปมด้อยดูต้อยต่ำ         กลับกลายเป็นจุดดำค่อยขยาย
กลัวคนตีตราหน้าเด็กชาย                 ว่าเป็นอ้ายลูกกำพร้าหน้าจมดิน
จากเด็กน้อยเด็กซนบนพรมพื้น         แม่สร้อยกลืนความจริงเสียจนสิ้น
เสียงเรียกแม่เปรียบเปรยจนเคยชิน   เพียงคำนี้ทุกครายินยังกินใจ

สุดสายฝันในวัยเล็กของเด็กน้อย      คืออ้อมอกที่คอยเอาใจใส่
แต่แล้วอกที่แสนอุ่นแดนไอ             นั้นหาใช่อกแม่สร้อยที่คอยเคียง
ความเคลือบแคลงคงด่างในร่างเด็ก  ครั้นยังเล็กยังคุ้นเห็นกับเส้นเสียง
จำความได้แม่สร้อยร้อยสำเนียง       กับโลกที่เอนเอียงเพียงมือไกว

จากเด็กโตสดใสวัยแรกรุ่น               ความคุกรุ่นคงกร่างขวางไม่ไหว
จากเด็กน้อยแม่สร้อยคอยเอาใจ      เมื่อเติบโตเติบใหญ่ไม่เชื่อฟัง
จากน้ำคำแม่สร้อยคอยสั่งสอน         ผ่านเวลาสะท้อนคืนย้อนหลัง
ผลาญทรัพย์สินสร้อยพินทร์สิ้นพลัง   เรื่องร้ายประดาดังเป็นวังวน

ดึกดื่นในคืนดัดสงัดเงียบ                 ยามเทียบเทียนดับดูสับสน
สร้อยเศร้าจันทร์จืดดูมืดมน              หาแสงใดประโยมยลแม่คนนี้
หมดเนื้อตัวหมดหัวใจอาลัยจิต         โดนทำร้ายอายชีวิตจึงคิดหนี
เป็นลูกรักพันผูกลูกทรพี                  เพราะแม่สร้อยคนนี้ไม่ดีพอ

เชือกควั่นพันผ่านบนคานขื่อ           ร่ำไห้ห้อยมือถือตะขอ
มีลูกดังห่วงผูกอยู่กับคอ                  แม่สร้อยสวมห้อยศอให้พอปลง
ตัดเยื่อใยตัดใจพรากจากทุกสิ่ง        แม่ขอทิ้งความทุกข์สุขโลภหลง
เมื่อแมลาโลกลับหลับตาลง             ลูกรักคงได้คิดเปลี่ยนจิตใจ

แล้วฟ้าก็หลั่งฝนหล่นเต็มฟ้า            ปล่อยลูกนั้นลูบหน้าน้ำตาไหล
ผ่านเส้นทางชีวิตที่ผิดไป                 ก่อนจะมาคิดได้ก็สายเกิน
ถึงไม่รู้ผู้ใดให้ชีวิต                           แต่ผู้คอยอุทิศควรสรรเสริญ
กลับทำลายทำร้ายและมองเมิน       แล้วชาตินี้จะเจริญได้อย่างไร				
5 มกราคม 2548 21:37 น.

สมาคมชมดาว

ภาวิดา

แช่มชื่นเมื่อชมดาว...............มีสองสาวที่ช่องสาม
ทำงานที่งดงาม.....................คอยสรรสุขในจอสี
หนึ่งในสองคนนั้น..................ดูน่ารักสมนารี
คอยจับและจู้จี้......................เผยความดังเหล่าดารา
เสียงใสมีเสน่ห์......................เธอชื่อคัทลียา
สดใสสูงสง่า.........................ยิ้มสวยทุกยามมอง
อีกคนที่เคียงคู่......................ก็คอยเคล้าได้คล้องจอง
อ้วนท้วนเหมือนคนท้อง.........สุริวิภาคือนามเธอ
ชื่อแหม่มทั้งสองสาว.............แทบทุกพุธต้องมาเจอ
สี่ทุ่มสม่ำเสมอ......................กับคู่หูค้าคนดัง
ถามไถ่ถึงเรื่องทุกข์................ทั้งเรื่องสุขได้ร่วมฟัง
เสริมผลักสร้างพลัง................ให้ข้อคิดแก่คนดู
เกล้าผมในทรงสวย................สู้แสงไฟในชุดหรู
ขานต้อนรับเพื่อเข้าสู่..............รายการสมาคมชมดาว				
5 มกราคม 2548 14:39 น.

บุคแฟร์ : สุรางคนางค์36 ห่อโคลง

ภาวิดา

หนังสือพร้อมสรรพสร้าง..........ไขแข 
ณ CMU บุ้คแฟร์.....................ที่ร้าน 
สามสาวต่างมาแล....................มองบ่าว 
ให้อ่านคงขอคร้าน...................แต่ต้อง มโน 

หนังสือพร้อมสรรพ.............ผู้ชายเป็นทัพ 
กะเทยเพียงสาม................เริ่มเดินแฟชั่น 
ประชาดประชัน.................ผู้คนมองตาม 
ต่อแตนงดงาม...................ภาวิสวยหวาม 
บอลลี่แอ๊บนี 

หนังสือไม่ยุ่ง......................เล็งเห็นไม่รุ่ง 
ขอกินซักที.........................อาหารหลากหลาย 
เพาะปลาคุณยาย...............ส้มตำรสดี 
ไส้อั่วคุณพี่.........................ข้าวเกรียบคุกกี้ 
ข้าวเหนียวข้าวซอย 

อาหารไหลหลั่ง....................ไม่มีที่นั่ง 
ให้เราได้จอย.....................จึ่งเล็งชะนี 
หล่อนลุกเดี๋ยวนี้.................อย่าให้ชั้นคอย 
สองมือถือหอย.....................ทอดกลิ่นหอมลอย 
กับน้ำลูกตาล 

หันซ้ายหันขวา....................มองหาอาชา 
ที่ใจต้องการ........................สะดุดน้องท๊อป 
นิติสุดป๊อป.........................รีบทำเดินผ่าน 
เค้าอยู่ในร้าน.....................สามสาวร้าวราน 
มุ่งลอบเมียงมอง 

เขาช่วยแม่ขาย..................ขนมจีนเรียงราย 
ตรีตุ๊ดจึงตรอง.....................หากเข้าไปซื้อ 
ลูกสะใภ้ถือ.........................ให้ฟรีให้ซอง 
แม่ยายจะจอง.....................เข้าร่วมครรลอง 
โดนจับวิวาห์ 

เรานั้นยังสวย....................ยังต้องไฟท์ซวย 
อีกนาน นานา ...................เดินผ่านเร็วรี่ 
หากท๊อปให้ฟรี...................แก่ศรีภรรยา 
ชาวชีประชา.......................เห็นชัดแก่ตา 
จะพลอยเสื่อมเสีย

ยังชอบแอบดู.....................ทั้ง ๆ ที่รู้ 
ว่าเราเป็นเมีย...................ชะนีลิงค่าง 
พาเรือนพุ่งร่าง...................ไปจิกโลมเลีย 
ลูบไล้คลอเคลีย...................ท๊อปหน้าละเหี่ย 
เพราะไม่ใช่เรา 

อันนี้จริงอยู่.........................ความจริงคนรู้ 
ไม่ต้องให้เผา.....................รวม 3 สาวน้อย 
อาคาฯ ต้องถอย..................พับนกให้เรา 
ชั้นคือเมียเขา....................ชะนีอย่าเม้า 
ก็เรารักกัน 

ต่อด้วยส้มตำ...................ไทยใส่ปูดำ 
เผ็ดพริกถึงขั้น.................เมื่อท๊อปแอบเห็น 
ไปซื้อน้ำเย็น.....................จะมาให้ฉัน 
แต่เดินผ่านพลัน................สามสวยงงงัน 
ไยไม่เดินมา.... 

สามกะเทยใหญ่น้อย........มโนรมณ์ 
รวมกลุ่ม ธ เกลียวกลม.....ปล่อยนก 
จอยจอยบ่าวสังคม.............รูปหล่อ 
นำฝันมาหยิบยก...............เป็นเรื่องเป็นราว				
5 มกราคม 2548 14:22 น.

จินตนาการ : สุรางคนางค์

ภาวิดา

แช่มชื่นยามเช้า 
น้ำค้างน้ำหนาว............นกน้อยในหนอง 
แนบกายกระเซ็น........ลำน้ำลำนอง 
กระทบละออง..............รุ้งกินน้ำพราย 

กินลมกินเล่น 
กินน้ำเนืองเด่น...........ก่อบนแก่นกาย 
เจ็ดสีเจ็ดแสก...............เกิดลวดเกิดลาย 
สาดสีสุดสาย.................ชื่นมื่นชวนมอง 

ดอกหญ้าดาษดื่น 
ต้อนรับเราตื่น...............ตั้งรวงรับรอง 
ชูช่อชูชัน.......................เชิญชวนชมช้อง 
ชมพูแกมทอง.................อร่ามอารมณ์ 

 
เงยหน้าแหงนหน้า 
จรัสนภา........................ประดุจผืนพรม 
ประดับภาพวาด...............ประดารายลม 
ประดิษฐ์คิดคม................หมู่เมฆเมฆา 

มณีล่อแก้ว 
สีแดงผ่องแผ้ว.................ย่างเยื้องกายา 
หลบหลีกด้ามขวาน..........ง่ามเงื้ออสุรา 
หมายอาทิตยา.................เกตุแก้วทินกร 

เป็นปราดเป็นเปรื่อง 
เป็นร่ายเป็นเรื่อง............เป็นโคลงเป็นกลอน 
เป็นสุรางคนางค์..............เขียนตามคำสอน 
จัดวรรคจัดตอน...............ยี่สิบแปดคำ				
5 มกราคม 2548 14:02 น.

วันพรุ่งนี้

ภาวิดา

วาววิบวาววับวาวจับใจฝัน
วันหนึ่งวันนั้นวันฉันฝันใฝ่
วาวแววแว่วเสียงสำเนียงเพียงใจ
เวียนวนอยู่ในวัยว้างพร่างพราว

ดวงตาคู่นี้ยังมีเรื่องราว
สดใสทุกคราวส่องแสงประกาย
ค้นหาตัวตนที่จัดกระจาย
มุ่งสู่จุดหมายที่ปลายปากกา

งานเรียนเพียรรู้อยู่ในสาขา
ที่ร่ำเรียนมาให้ผ่านให้พอ
ขีดเขียนให้หนักใจรักถักทอ
ละเอียดลออสร้างเสริมลวดลาย

จะวาวแววแสงแข่งสุริยันฉาย
จะนวลละม้ายเจ้าแขรัศมี
จะวิบแวมวับประดับนที
จะวาดพรุ่งนี้ให้สูงให้ไกล				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟภาวิดา
Lovings  ภาวิดา เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟภาวิดา
Lovings  ภาวิดา เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟภาวิดา
Lovings  ภาวิดา เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงภาวิดา