25 มีนาคม 2548 17:33 น.
ภายใต้แสงดาว
เป็นอะไรไปไม่รู้
อาการดูๆเป็นแบบเพ้อๆ
มันชอบนั่งเหมอๆ
ชอบละเมอถึงเธออยู่เรื่อยเลย
ฉันก็เลยนิ่งเฉยมิได้
รีบตะบึงรถไปหาคุณหมอ
ท่านเช็คแขนเช็คขาดูลำคอ
ท่านร้องอ๋ออาการแบบนี้เอง
ท่านบอกว่าเขาเรียกว่าโรครัก
โรคที่มิอาจหักห้ามได้
จะรักษาต้องหล่อเลี้ยงด้วยหัวใจ
รึ จะแค่หัวใจอย่างเดียวก็ไม่พอ
ต้องมีความรักเป็นส่วนประกอบ
และนำความห่วงใยมาสร้างเสริม
นำความรักที่มั่งคงมาเพิ่มเติม
และควรเสริมความรักที่มีให้ในทุกกาล
เท่านี้ก็อาจจะหาย
และจะกลายเป็นความสุขในภายหลัง
แต่ขอให้เธอจงจดจำ
ว่าโรครักนั้นต้องเกิดด้วยกันทั้ง2ฝั่ง
24 มีนาคม 2548 21:11 น.
ภายใต้แสงดาว
บอกกันตรงๆได้ไหม
บอกให้รู้กันไปว่าเธอไม่รักฉัน
บอกให้รู้ว่าต่อไปจะไม่มีคำว่ารักกัน
บอกให้ฉันเลิกฝันแล้วตื่นสะที
เพราะถ้าเธอไม่บอก
ฉันคงต้องหลอกตัวเองอยู่อย่างนี้
หลอกว่าเรายังรักกันยังเข้าใจกันดี
หลอกว่าในเวลานี้มีแค่เรา2คน
บอกมาเถอะอย่ามาแคร์คนไร้ค่า
อย่ามาชักแม่น้ำทั้ง5เพราะเพื่อฉัน
อย่ามาสรรหาคำสวยงามนาๆพรรณ
แค่เพียงเธอบอกกันว่าเราควรจบก็เพียงพอ
24 มีนาคม 2548 01:23 น.
ภายใต้แสงดาว
รู้ก็รู้ว่าเธอไม่รัก
แต่ใจรักปักจิตมิคิดถอน
หัวใจเฝ้าแต่ห่วงอาวรณ์
ดวงสมรหลงรักเธอมิคิดคลาย
23 มีนาคม 2548 21:10 น.
ภายใต้แสงดาว
เธอผิดรู้ไหม
เธอทำให้ใจฉันไหวหวั่น
เธอทำให้ฉันคิดถึงเธอทุกวัน
ทำให้หัวใจฉันไม่สามารถรักใคร
เธอผิดรู้ไหม
ที่มาอยู่ในหัวใจฉัน
มาคอยเข้าฝันกันอยู่ทุกวัน
มาเป็นคนนั้นในจิตนาการ.
รึว่าฉันเป็นคนผิด
ที่แอบไปคิดมากมายกับเธอนี้
แอบเอาเธอไปฝันอยู่ทุกที
ตกลงฉันคนนี้หรือเธอคนดีเป็นคนผิดกัน
15 มีนาคม 2548 15:25 น.
ภายใต้แสงดาว
ก้าวย่างเข้ากุมภาใจเริ่มสั่น
วันสอบนั้นเริ่มใกล้ไม่ถอยนี้
ไม่ใช่กลัวสอบไม่ได้หวั่นชีวี
แค่กูนี้กลัวเสียตัวมึงไป
จบม.3กู..มึงคงต้องห่าง
ความอ้าวว้างคงก่อตัวอยู่ใกล้ๆ
จากที่เคยร่วมทุกข์สุขกันไป
เมื่อห่างไกลใจมึงคงลืมกู
ก่อนห่างไกลกูมีคำจะบอก
ในสมองแม่งมีแต่คำนี้
กูรักมึงจงจำไว้ดีๆ
กูคนนี้ก็จะจำให้ขึ้นใจ