9 มีนาคม 2548 13:05 น.
ภากร
...จรดปากกาตรองตรึกกลั่นความคิด
กำหนดทิศแนวทางความมุ่งหวัง
ชีวิตนี้สิ่งใดที่จีรัง
ใยมานี่งอมทุกข์ทำร้ายตน
...ยังมีสิ่งมากมายให้เริ่มต้น
จงดั้นด้นค้นคว้าตามเหตุผล
ค่อยค่อยคิดประเมินค่ากำลังตน
หากกลัวจนอย่ากลัวต้องเหนื่อยกาย
...เหงื่อโทรมกายท่วมทั่วอาบใบหน้า
ดีกว่าหลั่งน้ำตาไม่ขาดสาย
พลังหมดไร้แรงชีพมิวาย
อย่าทำร้ายตัวเองด้วยจิตเรา
...อดีตที่ผ่านไม่อาจย้อนให้คืนกลับ
อาทิตย์ลับทิ้งไปความอับเฉา
ด้วยสองมือสร้างชีวิตเราคือเรา
วันก่อนเศร้าคิดไปให้ป่วยการ
...กำลังใจเริ่มสร้างจากเราก่อน
อย่าอ้อนวอนขอใครให้สงสาร
ต้องเข้มแข็งสลัดทิ้งความร้าวราน
อย่าสะท้านหวาดหวั่นกับสิ่งใด
28 กุมภาพันธ์ 2548 13:10 น.
ภากร
...แวะมาเยี่ยมเวียนมาชมบทร้อยกรอง
ท่วงทำนองความงดงามตัวอักษร
บวกความฝันจินตนาการลงบทกลอน
เพิมความหวานอ่อนละมุนช่างเพลินตา
...เป็นการมาเข้าชมครั้งสุดท้าย
ก่อนจากไปตามแต่ใจจะค้นหา
ขอขอบคุณเพื่อนทุกคนที่เมตตา
คอมเมนต์มาติชมพลอยชื่นใจ
...น้องกีกี้ หญิงไร้เงา ชมอักษร
ขออวยพรให้สมสุขสวยสดใส
เป็นไม้งามโปรยกลิ่นหอมชื่นหัวใจ
ประดับไว้ไทยโพเอ็มของพวกเรา
...ทั้งเจ้าสาวโลกวิญญาณก้อน่ารัก
แอบเคยทักพูดคุยกระแซะเย้า
นางสาวใบไม้ใช่ใครคือน้องเรา
ขอวอนเจ้าอย่าเงียบหายพี่ห่วงใย
...อีกทั้งเพื่อนและพี่มิได้กล่าว
ทุกเพื่อนชาวนักกลอนมอบใจให้
เราต่างรักตัวอักษรวรรณกรรมไทย
ขอฝากให้ช่วยรักษาคู่แผ่นดิน
26 มกราคม 2548 12:42 น.
ภากร
...มานะมั่นหลับตาฝันถึงหวังสรวง
แลเป่าดวงเทียนดับระยับหาย
เป็นคืนค่ำแห่งแสงจันทร์พรรณราย
รติกายรติรักรัตติกาล
...จัดเตรียมพร้อมน้ำจัณฑ์หอมไฟฟอนสุม
ทั้งทำทุ่มที่เธอฝันฉันจะสาน
เพียงสิ่งใดในโลกหล้าถ้าต้องการ
วจีวานกานต์จะด้นค้นจนวาย
...จะสร้างรักสร้างฝันกันเป็นหนึ่ง
อุ่นไอซึ้งโอบไอรักมิห่างหาย
มิคลายรักตราบเธอนั้นยังมิหน่าย
เคียงคู่กายปลายนิรันดร์ยันนิทรา
...อย่ากังวลพี่จะคงอยู่เคียงเจ้า
แม้นแก่เฒ่าพี่จะเฝ้าหวงห่วงหา
ทุกดาวเดือนของคืนค่ำคือแก้วตา
ถ้าเจ้าพร้อมพี่จะพาเจ้าโบยบิน
...ไร้อาภรณ์ยังอุ่นใจด้วยไอรัก
เพียรทอถักไม่สุดสายดั่งแสสินธุ์
สุดปลายฝันจะเคียงกันเป็นอาจิณ
ทุกแห่งถิ่นเพียงเธอหวังฉันจะพา
แหละคืนนี้คือดวงเดือนในเอื้อมเจ้า
รายรุมเร้าจะเอาใจสิเน่หา
ทุกพรพร่ำพี่จะสรรเพื่อกัลยา
แหละคือรักแห่งชีวา.. หมดชีวิน
12 มกราคม 2548 12:41 น.
ภากร
หากความรักทำเธอเหนื่อยหรือท้อแท้
กายอ่อนแอจิตล้าคิดสับสน
น้ำตานองไม่อยากพบหน้าผู้คน
กอดเข่าตนซบหน้านั่งเดียวดาย
เก็บตัวเงียบเหม่อลอยรักพลาดพลั้ง
รักที่หวังวิมานมาจางหาย
ทุกข์คละเคล้ารักสะดุดมากลับกลาย
เรื่องเลวร้ายโถมทับให้ลำเค็ญ
แหงนมองฟ้า ฟ้ากว้าง น่าใจหาย
ข้างเคียงกายเหงาเงียบไม่พบเห็น
เงาแห่งรักเคล้าคลอที่เคยเป็น
รักเคยเย็นมาร้อนแผดเผาทรวง
อยากให้เธอปลดปล่อยซึ่งความทุกข์
และจงหยุดทำร้ายตัวมีคนห่วง
รักไร้ค่าตัดทิ้งไปรักหลอกลวง
น้ำตาล่วงหล่นไปก็ช่างมัน
พี่คนนี้ขออยู่เคียงข้างเจ้า
หากเธอเหงาเพียงบอกจะปลอบขวัญ
ฐานะใด เพื่อน,พี่ ไม่สำคัญ
แค่เธอนั้นรับรู้ไว้ไม่เดียวดาย
ห้วงอารมณ์ครวญคร่ำจิตช้ำชอก
โดนรักหลอกบั่นทอนสุขจางหาย
รักพี่นี้คงมั่นใจและกาย
มิคิดร้ายทำลายใจให้อาดูร
2 พฤศจิกายน 2547 12:43 น.
ภากร
...เห็นคนอื่นมีรักแล้วอิจฉา
ในแววตาร้อนผ่าวดุจไฟสุม
มองเห็นใครต่อใครรักล้อมรุม
เคยนั่งกลุ้มใยเรายังเหงาใจ
...ด้วยยังหวั่นกลัวเกรงคำว่ารัก
ภาพอดีตมักตามหลอนนึกสงสัย
กลัวย้อนกลับเจ็บปวดในฤทัย
อกหวั่นไหวไม่กล้าคิดผูกสัมพันธ์
...จนมาเจอได้พบเธอคนหนึ่ง
ผู้ที่ซึ่งจุดประกายความสมหวัง
มอบความรักห่วงหาอาทรกัน
ความผูกพันธ์ที่เธอให้อบอุ่นใจ
...ความคิดอ่านกว้างไกลและอ่อนไหว
รักด้วยใจสิ่งภายนอกมิเปรียบได้
เพราะความรักมิอาจเทียบเปรียบสิ่งใด
ฐานะใดแม้หน้าตาใช่สำคัญ
...การศึกษาความรู้วัดไม่ได้
ว่าจิตใจดีงามจะคงมั่น
การันตรีไม่ได้จะรักกัน
ความสัมพันธ์แน่วแน่และนิรันดร์
...รัก..เธอนี้ยึดมั่นด้วยคุณค่า
ไร้มารยาจากจิตแม่จอมขวัญ
รักคือรักซื่อตรงไม่ทิ้งกัน
แม้ว่าวันข้างหน้าจะเปลี่ยนไป
...ขอสัญญาด้วยใจทั้งสี่ห้อง
จะประคองรักนี้ไม่ห่างหาย
ขอรักกันรักเธอตราบชีวาวาย
จะเป็นรักครั้งสุดท้ายที่ขอเจอ