23 มีนาคม 2551 12:57 น.
ภันเต
มองความหวังที่ว่างเปล่าจากตรงนี้
กับนาทีที่ผ่านไปของชีวิต
สักกี่ครั้งกับความหวังที่พลาดผิด
ย่ำมาคิดสะกิดลึกให้รู้จำ
ไม่ใช่ละครนิยายหนังน้ำเน่า
แต่ความเศร้าซ้ำซ้อนตอนความช้ำ
บทคนเศร้าเจ้าทุกข์มากมีกรรม
เคราะห์ร่วมซ้ำกรรมร่วเสริมดวงชะตา
เหมือนคนใกล้จะตายมลายดับ
ไม่อยากรับรู้เรื่องราวเขากล่าวว่า
หมดเรี่ยวแรงจะก้าวเดินไปข้างหน้า
รอเวลาวิญญาณ์ดับลับสมใจ
23 มีนาคม 2551 11:51 น.
ภันเต
ชมป่าดงพงพนากลางไพรพฤก
ลงลืมนึกคึกใจในวิเวก
พันธุ์ไม้งามตามชมสวรรค์เสก
ให้ปัจเจกเอกใจเปลี่ยนแปรปรวน
ชมหอมกลิ่นชมงามกิ่งก้านดอก
ไม่ต้องบอกบรรยายให้คิดหวน
หลงชื่นฟื้นคืนตื่นกลิ่นอบอวล
เหล่าหมู่มวลพฤกไพรในดงดาน
สกุณายังหลงชมดอกไม้
ภมรไต่ต่อต้นบนกลิ่บก้าน
ลมลอยล่องผ่องแผ่วพาดพัดผ่าน
ยวดยิ่งยานหอมปนกลิ่นไพรสน
ไหวยอดหญ้าระริ้วปลิ้วดั่งคลื่น
ระรอกกลืนหายไปในฉงน
มองดอกไม้แช่มชื่นมื่นกมล
แต่มองคนหม่นหมองระแหงใจ
23 มีนาคม 2551 10:58 น.
ภันเต
จากไกลมาห่วงใจคนไกลห่าง
ระยะทางทรมานใจให้ยากยิ่ง
เวลาคอยเนินนานไปทุกสิ่ง
คิดถึงจริงคิดถึงเธออยากเจอจัง
ตอนนี้อยู่อย่างไรเป็นไงบ้าง
ฉันจะวางใจคอยรอความหวัง
คอยแต่คิดถึงเธอไม่เว้นวาง
คนปลายทางจะคิดถึงเหมือนไหมเธอ
21 มีนาคม 2551 13:27 น.
ภันเต
เมื่อตัวตายเหลืออะไรให้เขาคิด
ลองพินิจพิจารณ์ว่าไฉน
ผ่านไปวันวันหนึ่งตายเท่าไร
เหลืออะไรให้โลกได้จดจำ
เกิดมาแล้วทำอะไรให้เขาคิด
ลองวินิจจิตใจก่อนถลำ
ผ่านวันแล้ววันเล่าเช้าจรดค่ำ
สิ่งที่ทำดีหรือเลวก่อนตัวตาย
21 มีนาคม 2551 11:25 น.
ภันเต
วันแล้ววันเล่าที่เคลื่อนผ่าน
ยังมีสารแก่นจำทำให้คิด
ถึงการเกิดก่อมาเป็นชีวิต
ครวญพินิจพิจารณาการเกิดมา
ได้รู้จำจะไม่เสียซึ่งชาติเกิด
รู้ประเสริฐจุดประสงค์ที่ล้ำค่า
เกิดมาเพื่อสร้างสรรค์ให้โลกา
ก่อนโรยราลับล่วงจากโลกไป
จะเหม็นชื่อเหมือนซากที่เน่าหนอน
หรืออาวรณ์อาลัยเสียดายไห้
ก่อนจะดับวันจะถึงคิดอะไร
เลิกหลงใหลในชีวิตไม่จีรัง
อันความตายตั้งแต่เกิดเคลื่อนมาถึง
เพียงเซียวหนึงผ่านมาก็สิ้นหวัง
นับวันใกล้เราท่านจงระวัง
ไม่นานนั่งอยู่อยู่ก็ได้นอน