31 มีนาคม 2552 18:07 น.
ภัทราภา
ทั้งสองตามืดบอดดำสนิท
โลกมืดมิดจิตหดหู่รู้ไฉน
อยู่โดดเดียวเดียวดายไม่มีใคร
ลูกหลานไม่ดูแลเพราะแม่จน
แม่ไม่มีสินทรัพย์ที่จะให้
แม่ไม่ใช่เศรษฐีรวยเหลือล้น
แม่เป็นเพียงชาวนาคนจนจน
ลูกทุกคนจึงไม่แลแต่แม่คอย
แม่ไม่หวังที่จะอยู่อย่างเศรษฐี
แค่ขอมีลูกสักคนให้อาศัย
แม่ไม่หวังจะอยู่บ้านสิวิไร
แค่ขอให้ลูกสักคนทนเลี้ยงดู
แต่ตอนนี้ไม่มีแม้ป้องลมเป่า
พายุเข้าฝนสาดมาไม่อาจหนี
ตามืดบอดเงินติดตัวก็ไม่มี
ทุกวันนี้อยู่อย่างไรใครเห็นกัน
ลูกบอกว่าไปหางานที่กรุงเทพ
อยู่สุขเสพแสงสีที่ไฉน
ลืมกลับมาหาแม่แก้วขวัญใจ
ไม่มีเงินไม่เป็นไรให้กลับมา
จนบัดนี้หญิงชราคนแก่แก่
นั่งชะแง้คอยลูกกลับมาหา
นั่งรอคอยวันที่ลูกจะกลับมา
แต่ตอนนี้เจ้าลูกยาอยู่ที่ใด
29 มีนาคม 2552 13:31 น.
ภัทราภา
ยามลมหนาวโบกพัด ใจพี่
ร้างราตรีนึกถึง ถวิลหา
หนาวแสนหนาวหนาวเหน็บ เจ็บอุรา
ฝากลมหนาวพัดพา ใจข้าไปont>
29 มีนาคม 2552 12:39 น.
ภัทราภา
สุริยนต์ส่องแสงแรงจากฟ้า
แผ่นภาขจรจ้ารัศมี
หมู่วิหกบินผกผินรื่นฤดี
คงไม่มีที่ใดเปรียบเทียบบ้านเรา
อยู่ท้องนาทาบฟ้าถึงทิวทุ่ง
หอมกลิ่นฟุ้งไอดินถิ่นฟางข้าว
เหลืองอร่ามท้องนาพาสกาว
เห็นรวงยาวดั่งเพชรเจ็ดมณี
ยามอาทิตย์อัสดงก็หลงแสง
ท้องทุ่งแดงดั่งทิบทิมประจิมสี
ดาวระยับเดือนประดับดั่งมณี
แต่งแต้มสีบุษราพาน่าชม
ไม่ต้องมีแสงนีออนสว่างนัก
ไม่ต้องมีเครื่องจักรพัดลมเป่า
แสงสลัวตะเกียงรั้วส่องเรียงราว
เพียงสายลมพัดเบาเบาเราชื่นใจ
28 มีนาคม 2552 23:03 น.
ภัทราภา
ชีวิตนี้ใครเล่าเป็นผู้ลิขิต
ยากจะคิดจะแก้ข้อสงสัย
คนข้างบนหรือเราเขาหรือใคร
ที่ทำให้ชีวิตผิดแปลกกัน
ไม่สมหวังในรักก็หนักจิตร
คล้ำควรคิดผู้ลิขิตบนฟ้านั่น
ทำไมหนอต้องเป็นเราเพียงเท่านั้น
เหตุใดกันเธอและฉันยากเข้าใจ
บ้างก็อ้างโชคชะตาฟ้าลิขิต
แต่ไม่คิดย้อนดูเพราะไฉน
บ้างก็อ้างที่เป็นอยู่นี่เพราะใคร
ถ้าไม่ใช่พรมลิขิตชีวิตตน
หากมัวคิดเช่นนี้ไยดีเล่า
หากมัวเอาพรมลิขิตสถิตไว้
ต้องตัดสินชีวิตด้วยจิตใจ
จิตของใครถ้าไม่ใช่จิตของเรา
อยากจะทำสิ่งใดไยรออยู่
อยากจะคู่กับใครไยรอเล่า
อยากจะเป็นอะไรใจของเรา
เพียงอย่าเอาพรมลิขิตสถิตน
28 มีนาคม 2552 22:36 น.
ภัทราภา
จงลองมองธรรมชาติลอบตัวท่าน
จงมองมันด้วยจิตพิศสมัย
จงมองมันให้ลึกซึ้งถึงข้างใน
จงมองให้เห็นซึ้งถึงสัจธรรม
จงลองมองป่าไม้อนุรักษณ์
น้อยคนนักที่คิดจะสงสัย
มีใคนบ้างที่คิดและเข้าใจ
พวกป่าไม้อยู่อย่างไรใครเห็นกัน
ต้องดูแลอนุรักษณ์ไม่รู้สิ้น
ต้องอยู่กินไม่สุขอย่างสวรรค์
ต้องบุกป่าฝ่าดงวนาวรรณ
ต้องฝ่าฟันต่อสู้พวกหน้าเงิน
ต้องดูแลสัตว์ป่าทั้งน้อยใหญ่
ต้องคุ้มภัยลาดตระเวนแดนเขตขันต์
ต้องพิชิตต่อสู้เพื่อพวกมัน
สัตว์ป่านั้นไม่อาจสูคู่กับปืน
ทั้งลักลอบตัดไม้ลำลายป่า
ทั้งลักพาชีวิตสัตว์ไม่อาจฝืน
ด้วยจิตมุ่งป่าและสัตว์ต้องยั่งยืน
แต่กลับฝืนปณิธานอำนาจคน
ถ้าขัดขวางทางเงินโดนเล็งไว้
ถ้าขัดใจไม่เปลี่ยนชีวิตสั้น
พวกใจทรามหน้าเงินร่วมมือกัน
พวกป่าไม้เท่านั้นจึงเข้าใจ