19 พฤศจิกายน 2553 18:30 น.
ภัคพล
โลกสมัยเปลี่ยนไปปู่หวนคิด
ช่วงชีวิตไม่เหมือนเก่าจริงแน่หรือ
เหมือนเป็นฝันประหลาดคำเล่าลือ
นี่คือความจริงสิ่งแน่นอน
ปู่ฟังหลานโลกนี้มีสาระ
แม้นพบปะนัดหมายผ่านอักษร
ใช้อีเมลล์เร็วทันใจไม่ขาดตอน
ใครถึงก่อนอยู่ที่ไหนไม่ประวิง
ถ้าหลงทางไม่ต้องใช้ในเข็มทิศ
แค่สะกิดด้วยมือคือทุกสิ่ง
จีพีเอสนำทางได้พึ่งพิง
ไม่หยุดนิ่งเครื่องมือนนี้พัฒนา
แม้นแต่รถที่ปู่ขับไม่เหมือนก่อน
หลานจะสอนไม่ต้องขับเยียบเกียร์หน้า
เพราะมันติดอัตโนมัติเกียร์นำพา
ไม่เชื่องช้าสิ่งใดให้หมองมัว
ยุคสมัยของหลานนี้สบายล้ำ
จะน้อมนำสิ่งใดได้ถ้วนทั่ว
เพิ่มความสุขสบายใจทั้งครอบครัว
ลดความกลัวเป็นความอยากดั่งฤทัย
ปู่ถามหลานเด็กสมัยไม่เข้าวัด
ปฎิบัติความดีกันบ้างไหม
ฟังพระสวดเจริญธรรมให้ฉ่ำใจ
เด็กรุ่นใหม่ปู่เห็นไม่เหลียวแล
หลานบอกปู่วัดนั้นหรือมีมากหลาย
เเสนสบายหยดเหรียญลงดั่งใจแน่
เสียงพระสวดหลายรอบสมดวงแด
จริงแน่เเท้ไม่ต้องวัดมีทั่วไป
ขอเพียงแค่มีเงินทำบุญมาก
ลดความอยากเพิ่มสบายจิตแจ่มใส
ปู่ฟังหลานแล้ววาบหวิวในดวงใจ
โลกสมัยยุคนี้มันง่ายเกิน
12 พฤศจิกายน 2553 19:05 น.
ภัคพล
ร้อยลำนำคำกลอนอักษรศิลป์
ผสมจินตนาการสืบสานฝัน
หลานสอนปู่รู้โลกกว้างให้ก้าวทัน
ฟังให้มั่นปู่ต้องเรียนเพียรวิชา
ไม่ให้เหมือนโลกเก่าแก่แต่กาลก่อน
หลานจะสอนปู่ให้ได้คุณค่า
เเต่เเรกเริ่มยุคสมัยพัฒนา
โลกาผันเปลี่ยนตามกาล
นี่คือ ทีวี จอกว้างขวาง
ทุกช่องทางมีรูปภาพมีคำขาน
แม้นอยู่ไหนก็ได้เห็นเป็นสำราญ
ใจเบิกบานเหมือนดวงตาวิเศษคุณ
อีกอย่างคือปู่อยากรู้คือหูทิพย์
หลานจะหยิบยกมาไว้ไม่สิ้นสูญ
วิทยุ เครื่องเสียง ที่เพิ่มพูน
ทุกอย่างสร้างให้สมบูรณ์ดั่งใจปอง
ปู่บอกว่า อยากเป็น เทวบุตร
อยากสมมุติอยู่บนฟ้าได้ลอยล่อง
หลานจะพาปู่ขึ้นฟ้าไม่ลำพอง
เเต่จะต้องจองตั๋วขึ้นเครื่องบิน
ปู่นี้ ไม่เคยเห็น ไม่เคยรู้
ในยุคปู่ ไม่ได้มีให้ถวิล
เคยได้ฟังแต่ทำนายบนแผ่นดิน
ว่าโลกนี้จะสูญสิ้นของโบราณ
หลานฟังปู่พูดไปใจจะกล่าว
ทุกเรื่องราวเวลาแปรผันผ่าน
สมัยใหม่ต้องเรียนรู้ให้ทันการณ์
จะอยู่บ้านทำสวนคงไม่มี
ยุคสมัยรุ่นหลานเป็นยุคใหม่
ปู่ฟังไว้ คอมพิวเตอร์ ทำหน้าที่
มันทำได้ทุกอย่างในทันที
มันช่วยชี้นำทางสร้างเครื่องมือ
28 ตุลาคม 2553 22:20 น.
ภัคพล
อโณทัยเบิกฟ้าอำภาผ่อง
ทอแสงทองแจ่มจ้าบนฟ้ากว้าง
ระยิบระยับดับความมืดความจืดจาง
เปล่งประกายส่องสว่างรับอรุณ
สายฝนหยาดสุดท้ายจากปลายฟ้า
โปรยสั่งลาสิ้นฤดูสู่ไออุ่น
เดือนสิบเอ็ดน้ำหลากมาเจือจุน
คอยนำหนุนเดือนสิบสองนองนที
ฟ้าหลังฝนที่สดใสให้ความสุข
คลายความทุกข์คลายกังวนได้ทุกที่
เสียงไก่โห่รับขวัญวันดีดี
สู่เช้านี้ที่สุดสวยทั่วนภา
ธรรมชาติปลายฝนถึงต้นหนาว
ล้วนพร่างพราวแลเห็นเป็นสง่า
เขียวชอุ่มกลิ่นไอไพรพนา
เป็นคุณค่าแห่งความงามน่าชื่นชม
สิ้นสายปลายฟ้าคราสิ้นฝน
ใจคนสุขใจไม่ขื่นขม
รับวันใหม่สู่ฤดูที่หนาวลม
จะพร่างพรมความเหงาเข้าสู่ใจ...
4 ตุลาคม 2553 16:33 น.
ภัคพล
ต่างความรู้ต่างความคิดต่างความฝัน
ต่างมุ่งมั่นต่างอดทนต่างฝึกฝน
ต่างแข่งขันต่างแกร่งแย่งต่างดิ้นรน
ต่างสับสนต่างครุ่นคิดต่างจิตใจ
มีสมองมีมือมีแข้งขา
มีเวลามีความหวังมีไกลใกล้
มีพลังมีดวงดาวมีทางไป
มีสายใยมีความรักมีผูกพัน
ก้าวต่อก้าวก้าวต่อไปถึงที่สุด
ก้าวเร่งรุดก้าวเร่งรีบก้าวล้มนั่น
ก้าวที่ดีก้าวรอบคอบก้าวฟ่าฟัน
ก้าวที่มั่นก้าวค่อยค่อยก้าวดีดี
พักผ่อนได้พักก่อนเถิดพักสักครู่
พักลองดูพักไตร่ตรองพักทุกที่
พักเก็บแรงพักเติมใจพักสักที
พักวันนี้พักวันไหนพักเพียงพอ
เพียงแค่คิดเพียงแค่ฝันเพียงเพื่อสร้าง
เพียงเดินทางเพียงศึกษาเพียงเติมต่อ
เพียงสามารถเพียงเคียงคู่เพียงอยากรอ
เพียงเกิดก่อเพียงสืบสานเพียงหวังเอง
วันข้างหน้าวันไหนวันนี้หรือ
วันนั้นคือวันสดใสวันเราเก่ง
วันแห่งฝันวันแห่งสุขวันครื้นเครง
วันที่เล็งวันที่ได้วันหมายปอง
สุขทั้งกายสุขทั้งใจสุขล้ำยิ่ง
สุขเสียจริงสุขสันต์สุขฉลอง
สุขเพราะรู้สุขเพราะคิดสุขเรืองรอง
สุขเป็นของสุขตัวเราสุขที่ดี.
27 กันยายน 2553 23:49 น.
ภัคพล
ณ มุมหนึ่งใต้โค้งฟ้า
ฉันนั่งเขียนคำว่า ข้าคิดถึง
ส่งให้ใครสักคนที่ตราตรึง
ฝากไปรษณีย์ดาวไปถึงว่าห่วงใย(ไม้หอม)
อยากจะฝากของขวัญผูกพันนิจ
อยากจะฝากความคิดที่ส่งให้
อยากจะฝากความรักที่ล้นใจ
อยากจะฝากดาวมอบไว้ให้แด่เธอ(ภัคพล)
ส่งให้เธอคนดีที่คิดถึง
จากใครหนึ่งซึ่งรำพึงถึงเสมอ
ฝากกับดาวว่าคิดถึงอยากพบเจอ
รักล้นเอ่อคิดถึงเธอหมดหัวใจ(ไม้หอม)
ถึงห่างไกลสุดฟ้ากว้างทางลำบาก
แต่รักหากเก็บใส่ซองที่ยิ่งใหญ่
เก็บรอยยิ้มที่เป็นห่วงเก็บดวงฤทัย
ฝากดาวไปส่งถึงแด่คนดี(ภัคพล)
ติดแสตมป์ด้วยคิดถึงและห่วงหา
ปิดผนึกจ่าหน้าปากกาสี
ด้วยหมึกแดงแฝงรักที่ฉันมี
ส่งถึงเธอคนที่อยู่แสนไกล(ไม้หอม)
ฝากดาวหอบเอาความรักที่มีอยู่
ใส่ลงตู้ไปรษณีย์ดาวพราวสดใส
ให้เธอหายเหนื่อยล้าทั้งกายใจ
คนทางนี้ยังห่วงใยทุกเวลา(ภัคพล,ไม้หอม)