19 มิถุนายน 2554 13:34 น.
ภัคพล
น้อมรำลึกครูกลอนสุนทรภู่
น้อมเชิดชูคารมคำคมไข
อัจฉริยะกวีศรีชาติไทย
นามลือไกลสุนทรภู่ครูกวี
เป็นจินตะกวีภู่รู้แจ้งชัด
เป็นเอกอรรถกวีไทยสมศักดิ์ศรี
เป็นปฎิภาณกวีเลิศเทิดความดี
ผลงานมีค่าล้ำเป็นตำรา
สุนทรภู่กวีแก้วที่แพร้วเพริศ
คิดล้ำเลิศเกื้อหนุนมีคุณค่า
บทไพเราะ เหยาะยิ้ม ปริ่มน้ำตา
ด้วยปัญญาที่ว่องไวในอารมณ์
เป็นครูกลอนอมตะประเสริฐล้ำ
ทุกลำนำกลอนไพเราะความเหมาะสม
ทั่วถิ่นฐานแดนไทยต่างชื่นชม
ทั้งคำคมคำหวานซึ้งตรึงดวงมาน
กวีเอกของโลกของสยาม
กระฉ่อนนามเลื่องลือชื่อขับขาน
เป็นสุดยอดกวีตลอดกาล
เป็นหลักฐานศรีศักดิ์นักกลอนไทย
ร้อยวลีเทิดกวีสุนทรภู่
ร้อยเรียงคำมาเชิดชูความยิ่งใหญ่
ขอตามรอยครูกลอนตลอดไป
ตราบเท่าลมหายใจไม่ดับวาย.
6 มิถุนายน 2554 17:42 น.
ภัคพล
บ้านของพ่อก่อสร้างอย่างละเอียด
ความละเมียดละไมเอาใจใส่
มีหลังคาทาสีผ่องเรืองรองไกล
ตัวบ้านใหญ่สวยงามความลงตัว
ปลูกต้นไม้ให้ร่มภิรมย์รื่น
หอมสดชื่นกลิ่นมาลากระจายทั่ว
สุขสราญรากฐานแกร่งแห่งครอบครัว
ไม่หวาดกลัวภัยเภทเหตุราวี
แรงแสงแดดแผดกล้ามากรานกล้ำ
ฝนกระหน่ำพายุพัดกระซัดที่
สีงามผ่องหม่นหมองไปในทันที
บ้านเปลี่ยนสีเป็นไคลคราบตราบทุกวัน
งามต้นไม้ไหวลมล้อพ่อปลูกไว้
แต่ขาดใครดูแลด้วยใจมั่น
ไม้เคยร่มกลิ่นหอมด้วยสวยครบครัน
ถึงครามันให้ผลได้ยลชม
ไม้แตกกิ่งเป็นหอกแกร่งคอยแทงทิ่ม
ผลได้ชิมมีรสชาดเฝื่อนฝาดขม
ดอกส่งกลิ่นคราบคาวเลือดสุดระบม
ซ่อนเงื่อนปมปัญหาอย่ารั้งรอ
บ้านของพ่อคงสวยเด่นเป็นสง่า
หากประชาคนในบ้านช่วยสานต่อ
ช่วยดูแลเอาใจใส่ไม่แตกกอ
เท่านี้พ่อก็ผ่อนทุกข์สุขสำราญ.
2 เมษายน 2554 09:43 น.
ภัคพล
เพชรเอก..เฉกฉายประกายวับ
ประดับ..สูงไว้ในสยาม
ศิลป์ศาสตร์..ปราดเปรื่องเลื่องพระนาม
คุณงาม..ปกเกล้าผองชาวไทย
วัฒนธรรม..ยังคงดำรงมั่น
แวววรรณ..กานท์กวีที่ยิ่งใหญ่
คีตะ..แว่วหวานกังวานใจ
ศิลปะ..ก้องไกลทั่วโลกา
อัจฉริยะเจ้าฟ้าหญิงมิ่งขวัญราษฎร์
ปิยะชาติปิยะชนคนทั่วหล้า
เทิดพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนาฯ
ดั่งแสงทองส่องฟ้าไทยธานี
พระเทพฯ..แห่งไพร่ฟ้าอาณาชาติ
เทิดทูน..จอมปราชญ์ศาสตร์ศิลป์ศรี
ร้อยใจ..จงรักด้วยภักดี
ร้อยกวี..ขอพระองค์ทรงพระเจริญ.
ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ
1 เมษายน 2554 19:32 น.
ภัคพล
ใจคนใช่มีไว้เพียงดำรงร่าง
มันถูกสร้างให้มีความรู้สึก
ที่ซ่อนไว้ในร่างสุดหยั่งลึก
เพื่อผนึกหล่อหลอมเป็นอารมณ์
แปลกที่ว่าจิตใจทำไมทุกข์
บ้างก็สุขรวมกันให้เหมาะสม
ครั้นเศร้าใจเศร้าแสนเศร้าสุดระบม
ยากจะข่มให้หายไปจากใจตน
อะไรล่ะที่ทำให้ใจเศร้าหมอง
เพราะจับจองทุกสิ่งเพื่อหวังผล
เฮ้ยใจคน ป่นปี้หนีไม่พ้น
ต้องจำนนความรู้สึกมีให้กัน
หลายคนบอกความรู้สึกใช่ของเล่น
คงจะเป็นอะไรที่ไหวหวั่น
อ่อนไว้ตามคำพูดสารพัน
สุดท้ายนั้นสุขกับทุกข์ที่เข้ามา
ขอเถิดขอความรู้สึกสำนึกจิต
รวมชีวิตปล่อยปลงคงล้ำค่า
ดั่งต้นไม้เอนไหวตามลมพัดพา
ยังดำรงชีวาอยู่ต่อไป
ถึงจะเป็นความรู้สึกอะไรก็ช่าง
ใจจะสร้างความดีที่ยิ่งใหญ่
สุดท้ายชีพต้องตายจากให้อาลัย
ความรู้สึกของใจก็ไม่มี.
22 กุมภาพันธ์ 2554 17:00 น.
ภัคพล
“ตะวันฉายพรายแสงอันแรงกล้า
สะท้านฟ้าสะท้อนตาคราชมแสง
แรกเริ่ม..คิมหันต์อันร้อนแรง
ยามลมแล้งพัดผ่านเนื้อกร้านลม
อินทนิลผลิดอกออกชูช่อ
ลมพัดล้อปลิวแกว่งแรงถาถม
ดอกบอบบางร่างร่วงรวยระทม
หล่นโรยห่มสู่พื้นธรณี
อินทนิลแรกแย้มแต่งแต้มต้น
ผลิดอกยลลมร้อนก่อนลาหนี
เผยกาย..รับแสงแห่งสุรีย์
ก่อนที่..แตกดับลับตา
ความบอบบางของดอกบอกสำนึก
ความรู้สึกใจคนสับสนค่า
มันเปราะบางเป็นเสมือนดั่งมาลา
จะแตกอ้าร่วงหล่นคงสักวัน
แม้นหน้าร้อนล่วงผ่านดังกาลเก่า
อินทนิลจะว่างเปล่าให้โศกศัลย์
ขอแต่กายขอแต่ใจให้ผูกพัน
ให้คงมั่นเที่ยงแท้และแน่นอน
จะจดจำลมร้อนในครั้งนี้
ช่อมาลีอินทนิลเป็นคำสอน
เกิดขึ้น..สวยงาม..ในความร้อน
ลาลับก่อน..ทิ้งไว้ในปรัชญา..”