27 พฤษภาคม 2551 21:30 น.
ฟ้าใส, ราตรีผีเสื้อ
ค่ำคืนแห่งความเหงา
แสงดาวเลือนหายจากปลายฟ้า
มีแต่เมฆกลุ่มใหญ่มหึมา
เตรียมโปรยปรายฝนซาแล้วหลั่งริน
ใจเอ่ยใจดวงน้อยๆของฉัน
วันนี้ดั่งพระจันทร์เศร้าถวิล
ซึมเหงาน้ำตาเป็นอาจิณ
ใจถวิลหารักจากใครสักคน
ฟ้าจ๋าฟ้าที่มืดสนิท
ใจฉันผูกติดกับความเศร้าหสับสน
เพราะคืนนี้ขาดคนข้างกายให้ได้ยล
ดั่งที่เมฆตั้งเค้าฝนแล้วรวงโรย
เธอหายไปไหนใยไม่กลับ
ลาลับจากแล้วหรือที่รักเอ๋ย
รีบมานะคนดีพี่รอเชย
ฝนเอยช่วยตามเธอมาให้ที
หวัดดีครับ ทักทายกันตามระเบียบอ่ะครับ วันนี้ดูเหมือนฝนจะตกก็เลยเขียนกลอนแบบนี้อ่ะ เผื่อว่าจะโดนใจของใครบ้าง
แล้วเจอกันครับ รักษาสุขภาพด้วยนะครับ เพื่อนๆ
14 พฤษภาคม 2551 15:51 น.
ฟ้าใส, ราตรีผีเสื้อ
สวัสดีพี่น้อง ชาวผองเพื่อน
แวะมาเยื่อนเพื่อนมิตรผู้ขีดเขียน
ถ่ายทอดใจออกมาคอยแวะเวียน
เป็นนักเขียนนักแต่งแปลงสำนวน
ขอเป็นกำลังใจให้นักแต่ง
ความเข้มแข็งจงอยู่คู้ยิ้มสรวล
ความทุกข์ยากทุกข์ใจอย่าได้รังควาญ
สุขสรวจสมชื่นหมื่นๆปี
8 พฤษภาคม 2551 21:03 น.
ฟ้าใส, ราตรีผีเสื้อ
หนทางแห่งชีวิตที่สับสน
ผู้คนตามถนนเดินค้นฝัน
ต่อสู้ชะตาชีวิตขีดเส้นกัน
เดินกันไปตามหาฝันที่อยู่ไกล
ขอเป็นกำลังใจให้ขับเคลื่อน
ผ่านวันเดือนเลือ่นลอยคืนเดือนหงาย
ฟ้าสว่างพอเห็นทางเดินย่างกาย
ฝ่าคืนวันอันโหดร้ายกระหน่ำรุม
ตะเกียงเอ๋ยเจ้าตะเกียงพายะน้อย
แสงหริบหรี่ดุจหิ่งห้อยฝ่ามรสุม
อดทนไว้อุปสรรคนานับรุม
เอาหัวใจที่ชื้นชุ่มหล่อเลียงใจ
สักวันคงเดินทางได้ถึงฝัง
ด้วยพลังแห่งนักสู้สุ่จุดหมาย
ขอเป็นคนคอยเสริมส่งกำลังใจ
ให้ทุกคนก้าวสู้ไปไม่ท้อลง
ห่างกายไปนานครับสำหรับฟ้าใส เพราะไม่มีเวลาเข้ามาทักทายกับมิตรรักนักแต่งกลอนเลย วันนี้ได้มีโอกาสเข้ามาทักทายบ้างแค่เวลาอันน้อยนิด เอาไว้คราหน้าคงได้พบกันไหม่นะครับ ขอบคุณทุกคนที่เป็นกำลังใจให้สำหรับคำติชมบทกลอนและผู้แวะเข้ามาอ่านครับ (ฟ้าใส,ราตรีผีเสื้อ)