16 กรกฎาคม 2555 15:03 น.

วิถี

ฟ้าฟื้า ธรรมชาติ

วิถี

หริ่งเรไรกล่อมแล้วทั่วแนวทุ่ง
ไปสุดคุ้งลำธารละหารห้วย
น้ำยอดคามาโหนหล่นระนวย
ย้อยหยาดสวยรินหยดจรดธารา

ริ้วสายสรวงแดดอุษาขอบฟ้าสาง
ความสลัวจากจางหว่างเวหา
เกล็ดน้ำค้างวางดอกยอดใบคา
โกกิลาพร่ำเพลงบรรเลงไพร

ดอกไม้บานรับอรุณกรุ่นช่วงเช้า
เกสรเร้าหมู่ภมรโอนอ่อนไหว
หญ้าเขียวคลี่หมอกแต้มลงแซมใบ
คลุมลานไพรเขียวสะพรั่งไปทั้งลาน

พะเนินหินแก่งพลาญข้างธารฉ่ำ
นกเป็ดน้ำบินลงสรงสนาน
ตะไคร่เขียวเห็นระเรื่อพอเจือจาน
ประหนึ่งลานอัญมณีขจีดิน

ครวญเสียงลมแผ่วร่ำมารำพัน
กล่อมเงียบงันหลับใหลในซอกหิน
หอบกลิ่นหอมสายป่ามาหลั่งริน
ชโลมดินงดงามหอมดำรง

หนทางกว้างเลาะนาป่าไศล
อาบวินัยองค์พุทธวิมุตติสงค์
ดอกหญ้างามบานเกลื่อนรายเถื่อนดง
ลูบสบงสีเหลืองเรืองมรรคา

คือสายทางจุนเจือเนื้อนาบุญ
องค์อุ้มบุญทรงบาตรศาสนา
ดำเนินผ่านลานไพรสายธารา
งามอากัปกิริยาสง่างาม

เหลืองจีวรพลิ้ววีบ้างสีครั่ง
สองฝั่งทางพุทธชนอยู่ล้นหลาม
พราวดอกไม้สวยสดสีงดงาม
ปลั่งอยู่ท่ามถาดข้าวขาวอวลไอ

หอมเอยหอมกลิ่นข้าวถึงดาวดึงส์
ใส่บาตรซึ้งโลกธรรมสว่างไสว
ผลบุญแผ่แล้วแก้วคลาไคล
ฝุ้งไปไกลทั่วโลกธาตุธรรม

งามวิถีพุทธธรรมค้ำดงดอน
ทานขจรค้ำพุทธอุปถัมภ์
แม้นโลกจมติดหน่วงด้วยบ่วงกาม
ยังเหลือธรรมปลอดปล่อยสร้อยตรวนตรึง

จะยังงามวิถีทางอย่างเช่นนี้
ตราบว่ามีศาสดาใหม่มาถึง
แม้นหลงเหลือเศษธรรมไว้คำนึง
คงจะซึ้งจวบกาลพุทธันดร

ฟ้าฟื้น ธรรมชาติ				
16 กรกฎาคม 2555 09:34 น.

ฤามนต์สายรกสิ้น?

ฟ้าฟื้า ธรรมชาติ

ฤามนต์สายรกสิ้น?

โอม...วันเดือนไหนปีไหนให้ฮำฮอน
โคกดินดอกฮูกกี่ที่นาไร่
สืบเทือกท้าวข้าวเหลืองมาเรืองใจ
เต็มยุ้งใหญ่ทั้งปีกสิกรรม

อดีตกาล...
ย่ำบาดาลดินชุ่มนาลุ่มต่ำ
กลิ่นไอกล้าทายทักทุกปักดำ
มือเท้าย่ำในตมโลมวิญญา

ครัวไม้ไผ่เตาตั้งควันรันเตา
ต้ำน้ำร้อนตอนเช้าหนาวพฤษา
เตรียมผ้าอ้อมรับขวัญหลานเกิดมา
ตามประสาความรักฮักแพงกัน

ฝังสายรกกลบไว้ใต้กระได
ฝากแผ่นดินผืนใหญ่ไว้รับขวัญ
เป็นมนต์คล้องสายใยใจผูกพัน
หมายสำคัญสำนึกบุญคุณแผ่นดิน

แม้นพลัดพรากจากไปไกลลิบลิ่ว
ร้างทุ่งทิวไร่นาธารพลาญหิน
หวนคิดถึงถิ่นที่มีทำกิน
ด้วยมนต์ดินกลบรกปกสายแนน

สำนึกรักมรดกแม่ยกให้
ทุ่งนาใหญ่ไรกว้างเฝ้าหวงแหน
สืบเทือกท้าวข้าวเหลืองเรืองดินแดน
หุงทดแทนบุญถนอมกล่อมเลี้ยงมา

ปัจจุบันกาล...
สาวไทบ้านหนีทุ่งไปมุ่งหา
อยู่เมืองหลวงเย็นฉ่ำน้ำประปา
ล้างไอกล้าหอมจางลางเลือนไป

ประเพณีสู่ขอก็เป็นหมัน
ส่งลูกหลานคือคนผลผลิตใหม่
ฝากถนอมเลี้ยงจักจากตายาย
ลูกเลยได้พ่อแม่แก่ชรา

ทิ้งท้องทุ่งนาไรให้รุงรก
ทุ่งโสโครกมูลมังร้างหนักหนา
โอ้ละหนอพระคุณบุญท้องนา
ปลูกหญ้าคางามเรียวเขียวขจี

ทั้งเสื้อผ้าค่านมขนมหลาน
มือเหี่ยวนั้นควานหาตามหน้าที่
ไร่นาขาดข้าวร้างอยู่ค้างปี
ข้าวเคยมีลดน้อยคอยเศร้าใจ

โอม...วันเดือนไหนปีไหนให้ฮำฮอน
โคกดินดอนฮูกกี่ที่นาไร่
ดูปลูกหญ้าแทนเข้าลูกเต้าใคร?
หรือมนต์รกใต้กระไดคลายเสียแล้ว!?

ฟ้าฟื้น ธรรมชาติ				
13 กรกฎาคม 2555 10:29 น.

ธรรมฤดู

ฟ้าฟื้า ธรรมชาติ

ธรรมฤดู

หริ่งเรไรย่ำรุ่งกล่อมทุ่งนา
พิรุณฟ้าอุ้มสรวงปวงสรรค์
พร้อมหล่อเลี้ยงนาข้าวคราวตั้งครรภ์
ลมจำนรรจ์ผ่านทุ่งปรุงท้องนา

ริ้วเมฆฝนค้างฟ้าเวลารุ่ง
สลัวทุ่งครองทางหว่างอุษา
แผ่วเสียงเพลงโพระดกโฮกป๊กมา
ปลุกนิทรางัวเงียเพลียอรุณ

ค่อยค่อยลืมเปลือกตาลอดคาแฝก
เค้าฝนแรกครองฟ้าตั้งท่าหนุน
เบียดเรือนกายกอดหมอนอ่อนละมุน
เสพสมดุลบุญวสันต์รับขวัญไพร

ลุกขึ้นห่มแพรไสบลายดอกขิด
มาจุ่มพิตดวงหน้าแววตาใส
หอมหมอกซึมลอดด้ายสายแพรไพร
ชื่นหัวใจชื่นเช้าพอหนาวเจือ

กระบวยน้อยจ้วงน้ำล้างใบหน้า
ซึ้งฝนฟ้าพระพิรุณเป็นบุญเหลือ
หนาวหน่วงร่างซ่านขวัญจนสั่นเครือ
หนาวนวลเนื้อลมลูบจูบเรือนกาย

ให้หวั่นยิ่งกริ่งกมลองค์สมภาร
ผู้สร้างทานผ่านยุคทุกสมัย
เมื่อลมฝนตั้งท่ามาโปรยปราย
ทำฉันใดกันเล่าเหล่าพุทธชน

จักรั้งรอไหมนั้นธรรมทายาท
ฤาเพียรทานใส่บาตรกลางหยาดฝน
วงกระเพื้อมเลื่อมน้ำทั้งลำชล
กระแซะเซ็นกระเด็นโจนฝนลงไพร

แม้นข้าวขาวสุขสวยนองด้วยน้ำ
สมภารธรรมตักฉันไม่หวั่นไหว
มิหมายลิ้มชิมซดในรสใด
หมายแรงกายปฏิบัติเพรียขัดเกลา

กระแสฝนหล่นหลั่งอยู่พรั่งพราย
กระแสธรรมอวลอายอุ่นในหนาว
เติมธาราห้วยหานลำธารยาว
เติมธาราสุขสกาวพราวนิพาน

หอมแสนหอมกลิ่นบุหงาระดาไม้
คราวลมไล้ลมลิ่วลอยผิวผ่าน
หลังเค้าฝนเผยฟ้ามาตระกาน
ธรรมชาติไขลานเผยกาลบุญ

ฝนเกิดก่อสะกิจใจให้ได้คิด
เฉกชีวิตเกิดนับและดับสูญ
ผู้สดับรับค่าพุทธาคุณ
เห็นต้นทุนธรรมสร้างหว่างฤดู

พบสัจธรรมธรรมชาติวาดวางไว้
มิเลือกเผยแก่ใครให้ทุกผู้
ซ่อนความหมายในยุคทุกฤดู
ล้วนเป็นอยู่เช่นนั้นนานมาแล้ว

ฟ้าฟื้น ธรรมชาติ				
6 กรกฎาคม 2555 13:32 น.

หุงตำนาน

ฟ้าฟื้า ธรรมชาติ

หุงตำนาน

งามพรรษาฟ้ารุ่งลุกหุงข้าว
ผมดำยาวตัดสีขี้เถ้าหอม
เรียงเศษฟืนหลั่นแถวเป็นแนวดอม
บิดกระลอมตอกเก่าเผาเชื้อไฟ

จิบน้ำข้าวซาวเกลือเจือรองท้อง
หวานน้ำรองชายคาแฝกแรกฝนใหม่
โอ้ละหนอบุญฟ้ามาจากใด
โพสพใยเลี้ยงคนแต่บุราณ

สืบครองสงฆ์องค์ล้ำธรรมสาวก
อุปถัมภกหุงหาภัตตาหาร
ใส่บาตรเอื้อเกื้อหนุนสืบบุญทาน
สืบวิญญาณธรรมพุทธวิมุติไกล

อุษาโยคย่ำรุ่งปรุงวสันต์
ห้วยเถื่อนหนองคลองธารยังซ่านไหล
เปรียบเวลาผ่านเคลื่อนเลื่อนครรไล
คู่กันไปกับสัทธรรมพระสัมมาฯ

ชื้นละอองเรือนกายไสบบาง
เย็นบ่สร่างกายนักตรึงหนักหนา
เย็นน้ำค้างวางดอกยอดใบคา
น้ำค้างนาวางดอกข้าวยอดนั้น

เจ้าพายุดับแล้วแก้วตะเกียง
ห้อยเสาเอียงเถียงนาดูน่าขัน
ผ่านหลายฝนเติมต่อทอตำนาน
เหงื่อแรงงานเติมยุ้งจากทุ่งทอง

เติมเต็มเม็ดทุกเม็ดของเม็ดข้าว
ทุกคำคราวรวยจนคนทั้งผอง
อิ่มพระคุณบุญแม่โพสพทอง
อิ่มเอมท้องอิ่มหนำทุกคำเคี้ยว

ความอุดมห่มโลกวิโยคอุษา
สายคันนารายทางยังแน่นเหนียว
ตราบท้องนาทั่วถิ่นแผ่นดินเดียว
จะยังเขียวความขจีตราบตรีกาล

งามพรรษาฟ้ารุ่งลุกหุงข้าว
ผมหงอกขาวเท่าสีขี้เถ้าถ่าน
หุงชีวิตหุงข้าวหุงตำนาน
ล้วนสืบสานต่อยุคทุกรุ่นไป

ฟ้าฟื้น ธรรมชาติ				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟฟ้าฟื้า ธรรมชาติ
Lovings  ฟ้าฟื้า ธรรมชาติ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟฟ้าฟื้า ธรรมชาติ
Lovings  ฟ้าฟื้า ธรรมชาติ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟฟ้าฟื้า ธรรมชาติ
Lovings  ฟ้าฟื้า ธรรมชาติ เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงฟ้าฟื้า ธรรมชาติ