28 มีนาคม 2553 17:46 น.

ชายทอผ้าไหม

ฟ้าฟื้า ธรรมชาติ

ชายทอผ้าไหม

ริ้วลมหนาวเหงาวิโยคโวกวิเวก
มนต์หนาวเสกการพรากไปจากถิ่น
ดอกหญ้างามพร่ำพรอดกอดแผ่นดิน
น้ำค้างรินแผ่ลาดหมาดดินดำ

คูนลออช่อสล้างครั้งเติบตื่น
คอยหยัดยืนฝืนหนาวแต่คราวค่ำ
ล่วงยามเช้าหนาวน้ำค้างต่างฝนพรำ
ดอกหนักฉ่ำชื้นต้นโหนโตงเตง

ฟางราบเรียบเรียงหลั่นเฉกชั้นผ้า
แผ่กระจายไก่กล้ามาข่มเหง
ดุเหว่าร้องวอนหวังกลบวังเวง
ทุกกาลเพรงลาล่วงห่วงอันใด

สิบดุเหว่าเพียงดุเหว่าวอนเว้าอยู่
คนฮักแพงบ่รู้ว่าอยู่ไหน
ร้อนปลายแล้งแจ้งข่าวตามต่าวไป
เฒ่าพ่อใหญ่แม่ใหญ่ใครคนรอ

วงสำหรับกับข้าวก็เว้าแหว่ง
ขาดคำแพงนั่งเพิ่มมาเติมต่อ
น้องและหลานฝันหาน้ำตาคลอ
เอื้อยเฮาหนอเป็นได๋ไผเหลียวแล

หอมข้าวพ่องามไหมแม่แต่ขาดเอื้อย
หนาวลมเฉื่อยคอยกรายไม่แยแส
"กี่" ที่รัก "กระสวย" ด้ายพร้อมไหมแพร
ไผหนอแม่จะสืบถอต่อตำนาน

กลัว "กี่" เก่าตามกาลผ่านคืนล่วง
แสนเป็นห่วงคนจะเก่ากลัวร้าวฉาน
ไปเย็บจักรปักถงสาวโรงงาน
"หูก" ทางบ้านนึกหน้าต่อนาที

ตราบสวนหม่อนหากไม่ร้างใบยังเขียว
จะยังเหลียว"ฟืม" "หูก" ทุกวิถี
"กระด้งไม้" "ไน" "อัก" ความรักมี
งานไหมนี้ต้องถักทอก้าวต่อไป

อุษาเช้าหนาวหายไกลลิบลับ
ฟ้าพายัพยังมั่นไม่หวั่นไหว
"กระสวย" ไม้ไม่เลือกถือโดยมือใคร
เสมือนไหมบ่เลือก "กี่" ที่ถักทอ

"สองตายายพ่อแม่ก็แก่แล้ว
วิถีแนวแห่งไหมต้องไปต่อ
แม่เรียงไหมใส่ "หูก" ผูกรั้งตอ
ยก "กี่" วางเลยพ่อ ผมทอเอง"

ฟ้าฟื้น ธรรมชาติ				
19 มีนาคม 2553 09:54 น.

โศกนาฏกรรม

ฟ้าฟื้า ธรรมชาติ

โศกนาฏกรรม

โศกนาฏกรรม
มาดื่มน้ำเย็นเย็นกันสักหน่อย
มากล่าวสรรค์วรรณนาวาจาถ้อย
แถลงสร้อยมธุรสนโยบาย

โศกนาฏกรรม
ชมร้องรำหน่อยหนึ่งอย่าพึ่งหน่าย
พักผ่อนบ้างอย่ามัวสร้างความวุ่นวาย
ดูนางกรายงามงามยามย่างเดิน

โศกนาฏกรรม
มาฟังคำหวานป้อยอสรรเสริญ
กรอกหูขวาหูซ้ายให้เพลิดเพลิน
มาหยอกเอินกายใจให้ดูดี

โศกนาฏกรรม
มาอิ่มหนำกับกินทานอาหารนี้
นั่งนอนกินต่อเติมเสริมอ้วนพี
ข้าทาสมีคอยป้อนเมื่อตอนกิน

โศกนาฏกรรม
มาปะน้ำอบปรุงประทินกลิ่น
ให้หอมนานหอมแน่นทั้งแผ่นดิน
ให้รวยรินตรึงใจ

โศกนาฏกรรม
รับทองคำเอาไปไว้ใช่ก่อน
ทั้งหอห้องโอ่โถงพร้อมโรงนอน
ประตูกลอนลงมุกฟูกใยทอง

โศกนาฏกรรม
คื่นล่วงค่ำยามนี้ฟ้าสีหมอง
มานอนหลับพักสบายให้พี่น้อง
คอยปกป้องจนกว่าเวลาสาง

เฝ้ามองโศกนาฏกรรม
เห็นเงื่อนงำวิปริตผิดหลายอย่าง
ต้องปรับเปลี่ยนแล้วสิวิถีทาง
ต้องบาดหมางแบ่งแยกแตกกันไป

นี่แน่ะ! เจ้าโศกนาฏกรรม!
เราอยากนำความเข็ญไปเซ่นไหว้
บ้านเมืองนี้มียอดคนหนแห่งใด
จะผลักไส่ไล่โศกนาฏกรรม!				
18 มีนาคม 2553 13:57 น.

ระหว่งไฟตะเกียง และคืนมืด

ฟ้าฟื้า ธรรมชาติ

ระหว่งไฟตะเกียง และคืนมืด

มีบางอย่างต่างชัดที่วัดได้
มีความหมายแอบนอนหลับซ่อนอยู่
พกพาความส่วนตนเผยคนรู้
เผินเผินดูเห็นชัดว่าขัดแน่

เช่นความมืดคืนสงัดรัตติกาล
เตียงเกียงนั้นแตกต่างทั้งสองสิ่ง
เช่นขาว-ดำ ดับ-สว่างต่างกันจริง
ล้วนอ้างอิงจากที่เห็นความเป็นไป

นิ่งและไหวไฟวาวอันพราวพร่าง
มืด-สว่าง ไหว-หยุด จุดต่อไหน
เพียงเพ่งผ่านขอบวามความเป็นไฟ
จะเผยนัยรอยเชื่อมเหลื่อมล้ำกัน

ความเป็นไฟในนามของความมืด
ย่อมจะยึดความสว่างวางรากฐาน
และความมืดนามไหนในไฟนั้น
ย่อมยึดการครองที่ด้วยสีดำ

ไฟกะพริบริบหรี่ไปกี่รอบ
ไฟเท่านั้นที่จะตอบเมื่อสอบถาม
คืนจะแจ้งจันทร์มีสักกี่ยาม
คืนเผยความลับได้หากหมายฟัง

นัยซ่อนอยู่ข้างในจะได้ตอบ
ใน-นอกกรอบ ปฏิพัทธ์หรือบาดหมาง
อาจคือรักขาว-ดำยังอำพราง
มืด-สว่างอาจปะทะจราจล

ในคืนมืดตะเกียงไฟได้แยกชัด
ล้วนชี้ขาดสว่างแจ้งทุกแห่งหน
ในแสงไฟมืดแยกจำแนกตน
จุดบอดหม่นดับในไฟก็ไม่มี

สองต่างสองคุณสมบัติดูขัดแย้ง
หากมืด-แสงร่วมชะตาและหน้าที่
แสนงดงามงามกว่าคืนราตรี
ที่ไร้สีแสงสว่างความเป็นไฟ

หรือเปลวไฟลุกสว่างอย่างหมดจด
คุณค่าคงอับยศหมดความหมาย
แม้นให้แสงสาดกระจ่างนำทางใด
ขณะฟ้าคงไว้ด้วยตะวัน

สังเกตุไหมแสงไฟและกลางคืน
การเติบตื่นมืด-สว่างล้วนรังสรรค์
เมื่อฟ้าร้างสุริยะอันตรธาน
ทั้งคู่นั้นก็พบกันทุกครั้งไป

มืด-สว่างต่างนักเห็นชัดอยู่
เพียงมองดูรู้รับสัมผัสได้
แยกเห็นชัดมืด-สว่างต่างกันไกล
แต่รอยต่อมืดและไฟไหนติดกิน?

ฟ้าฟื้น ธรรมชาติ				
17 มีนาคม 2553 07:56 น.

เด็กน้อยกับมะม่วง

ฟ้าฟื้า ธรรมชาติ

เด็กน้อยกับมะม่วง

มะม่วง มะม่วงมัน มันเต็มต้น
ดกจน เกินใจ ไว้เกินห้าม
หัวโจก นำหน้า พาปีนตาม
แอบยาม ชายชรา หลับตานอน

ปีนปีน แยกย้าย กันไปปีน
เด็ดโยน ลงดิน ตุนไว้ก่อน
ระวังนะ มดกล้า จะมารอน
เนื้ออ่อน เจ็บช้ำ ยามมันกัด

"เบาเบา อย่างดัง ระวังตา..
รีบเก็บ ใส่ผ้า อย่าให้พลาด...  
เจ้าของ มะม่วง หวงชะมัด...
กลัวเขา ไล่ฟาด ตีพวกเรา..."

"พูดอะไร ใครหยุด พูดกับข้า?"
หัวโจก มองมา ทำหน้าเขลา 
จำเป็น นี่หวา จะพูดเบา
"หูเน่า รึไง ไม่ได้ยิน!"

มดแดง ก็หวง มะม่วงมาก
กัดกระชาก เนื้อหนัง อย่างบ้าบิ่น
อดทน อย่างมาก เพราะอยากกิน
รีบปีน รีบเก็บ โอยเจ็บตัว

แค่จาม เบาเบา เสียงเหล่านั้น
เด็นหนอ ก็สะท้าน กันไปทั่ว
เดี๋ยวเขา จับได้ ใจมันกลัว
ตัวเบา ขั้นเทพ เก็บให้ไว

พอเสร็จ ก็หาร เป็นขั้นตอน
หัวโจก เอาก่อน ค่อยทอนใหม่
คอยแบ่ง คอยหาร อย่างมั่นใจ
ลักมะม่วง ลูกใหญ่ ขอโทษที

เดินไป กินไป มะม่วงมัน
เป็นสุข สนุกสนาน กันเต็มที่
เลาะนา ผ่านนา คันนามี
น้องพี่ เตี๊ยสูง จูงกันมา

เฮ๊ยมา ทางนี้ มีแข่งขัน
วิ่งกัน ฉุกละหุก ไปทุกหน้า
บ้างล้ม คะมำหก ตกคันนา
เพื่อนหัว เราะร่า ว่าโง่จริง

เทียวเล่น ตามนา ประสาเด็ก
ตัวเล็ก ยังนึก รำลึกยิ่ง
ซุกซน ราวค่าง ไม่ต่างลิง
ทุกสิ่ง ล้วนงาม ตามเพื่อนพ้อง

กลับบ้าน ยามค่ำ ตะวันตก
เงื่อยซก ไหลบ่า เสื้อผ้าหมอง 
มอมแมม อยู่นา ขอบฟ้าทอง
หิวข้าว เบาท้อง ต้องกลับแล้ว

แม่ไล่ อาบน้ำ แต่ยามค่ำ
บักคำ มากิน น้ำจิ้มแจ่ว
เรียกพ่อ สูเถิด เลิกเฮ็ดแนว
ค่ำแล้ว แม่หา ข้าวปลาหุง

เย็นล่วง คืนถาม ยามเดือนดับ
ไฟวับ ใจเอื้อน ต่อเพื่อนฝูง 
นอนคิด นึกรู้ อยู่ในมุ้ง
ถึงลุง ตาคนนั้น เจ้าของสวน

ถามแม่ ที่นอน อยู่ข้างข้าง
"แอบบ้าง ลักไว้ ใช้ไปป่วน
กลัวตา เข้าใจว่า ลูกมากวน
กลัวตา จะด่วน หยิบไม้ตี"

แม่ยิ้ม แล้วเอ๋ย เฉลยบอก
"ไม่หรอก ตาเขา กับเรานี้
เป็นดอง สัมพันธ์ กันนานปี
แล้วขโมย ก็ไม่ดี ที่จะเป็น"

เหนื่อยล้า ขาแขน ก็แน่นปวด
มนต์สวด เสร็จก่อน ค่อยนอนเล่น 
กอดแม่ เผลอหลับ กับลมเย็น
ฝันเห็น ชายชรา มาไล่ตี

ฟ้าฟื้น ธรรมชาติ				
16 มีนาคม 2553 15:23 น.

วังน้ำเดือด

ฟ้าฟื้า ธรรมชาติ

วังน้ำเดือด

บางแง่มุมความหลังฝังริมน้ำ
บนความช้ำตลิ่งหันตะวันหาย
แยกดินดำค่ำนั้นอันตราย
แยกดินแดงเดือนหงายสลายเงา

เรือสะล่างระหว่างวันออกสัญจร
ฝั่งอาวรณ์คอยฟังระหว่างเฝ้า
คลื่นความคิดปะทุถั่งระหว่างเรา
ใครสืดสูบลูบเคราเผาสัญญา

ล้านฝูงเรือทั้งรบทั้งหลบหนี
ปลาเก้าอี้กระพือครีบบีบผู้กล้า
น้ำเดือดหยดรดญาติอำมาตยา
ทัศนา ทักษิโณโต้วิญญาณ

หรือไฟโลมโถมกั่งวังธารแดง
คนฮักแพงจากพรากอยากกลับบ้าน
ลมหัวกุดก่อวิฤติอดีตกาล
อวสานลอยล่องข้องอัตตา

ฟังแง่มุมก่อน-หลังคลั่งฟองคลื่น
ใครสะอื้นลำคลองต้องถูกฆ่า
ปีศาจน้ำนอนรอมรณา
อนิจจาเรือน้อยลอยอังคาร

พ่อคลองเตยท้ายเรือสวมเสื้อแดง
ลุงเสื้อเหลืองร้อนแรงแห่งคลองสาน
พี่น้ำเงินคลองจั่นมาทำการณ์-
ทุนบันดาล-ศักดินา โอ้วาริน

ไอองศาพุ่งพล่านสถานการณ์ต่าง
คลื่นกลืนร่างต่างระดับนับไม่สิ้น
ตลิ่งชันตะวันช้ำจนชาชิน
เรือติดดินล่องรักถูกกักตุน

ฝั่งหนึ่งจมระทมเลือดเดือดกระดูก
อีกฝั่งถูกกล่าวหาดังห่ากระสุน
ลำตะเคียนปริแยกแตกเป็นพรุน
พรายสถุลจ้องจิบอธิปตน

-----------------
โอ้เอยมหานทีทันดร
ลูกเรือแรมรอนตอนฟ้าหม่น
อกเอยมหาประชาชน-
อดทนปะทะเล่ห์ทะเลไฟ

เหงื่อผุดมนุษยชาติก็ปาดเหงื่อ
คลุมเครือส่วนมากอยากโปร่งใส
ปลายธารไม่รู้อยู่ที่ใด
แผ่วเพลง "ทะเลใจ" ก็ไม่เพลิน

น้ำนองสองฝั่งระวังซุง
ลับคุ้งอาจละเอียดเบียดผิวเผิน
น้ำลดร่องรอยค่อยค่อยเดิน
เผชิญเรือตนคนละลำ

เขตน้ำลึกดึกดื่นคลื่นไหลหลับ
โลกรอรับคลี่คลายพายคืนค่ำ
ขณะธารธรรมชาติประกาศธรรม
โศกนาฏกรรมเดือดดาลโปรดผ่านไป

โขงรัก คำไพโรจน์
กลุ่มร้อยแสงจันทร์ มหาสารคาม				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟฟ้าฟื้า ธรรมชาติ
Lovings  ฟ้าฟื้า ธรรมชาติ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟฟ้าฟื้า ธรรมชาติ
Lovings  ฟ้าฟื้า ธรรมชาติ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟฟ้าฟื้า ธรรมชาติ
Lovings  ฟ้าฟื้า ธรรมชาติ เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงฟ้าฟื้า ธรรมชาติ