23 พฤษภาคม 2552 15:14 น.
ฟ้าฟื้า ธรรมชาติ
ผู้แสวง ขวดเหล้า ป่าไพร
ณ ราตรีงามเหงาใต้เงาฟ้า
ลำนำหญ้าเริงระบำกับค่ำใหม่
ห้วงทำนองลมบรรเลงบทเพลงไพร
หริ่งเรไรคำร้องกล่อมพงพรรณ
เสียงพฤกษาป่าค่ำกรำจังหวะ
ประหนึ่งว่าดุริยางค์จากทางสวรรค์
สดับโดยผู้แสวงใต้แสงจันทร์
ล้าแรงฝันร้าวระบมอยู่ซมเซา
เพียงได้รับได้ฟังอย่างบังเอิญ
ก็เพลิดเพลินดื่มด่ำลืมความเหงา
ทิ้งความฝันหม่นมัวไว้ชั่วคราว
พักดื่มเหล้าแกล้มเพลงไพรใต้แสงจันทร์
ลืมภวังค์เงียบงัน กาล-เวลา
จำอ้อมกอดผืนป่าเมื่อล้าฝัน
เผยความเจ็บปวดร้าวอันยาวนาน
สำหรับการเยียวยาโดยป่าไพร
ลองเงียบ-นิ่งต่อหน้าพฤกษาชาติ
ลองรับฟังอำนาจที่ยิ่งใหญ่
ลองจับจุดคำนึงคือสิ่งใด
พบทั้วทั้งกายใจได้ปัญญา
สังเกตฝันรับรู้อยู่ข้างข้าง
หลังปล่อยวางความฝันฟังเพลงป่า
ประจักษ์โลกทั้งหลายแก่สายตา
ประจักษ์ฟ้าประจักษ์ไพรและสายลม
จะลาป่าพาฝันอันระวี
หลอมรวมแผ่นธรณีค่อยผสม
ลาปัญหาเรื่องราวร้าวระบม
ปล่อยร่างพรมโดยน้ำค้างในปั้นปลาย
เอนหลังอิงพิงดินจอมปลวกเก่า
วางขวดเหล้ากอดฝันที่มั่นหมาย
นอบน้อมขอบคุณป่าเยียวยาใจ
กับการหลับครั้งใหญ่ในราตรี
ณ ราตรีงามเหงาใต้เงาฟ้า
ผู้แสวงบอกลากับหน้าที่
ลมหายใจเฮือกสุดท้ายให้พงพี
ขวดเหล้านี้ทิ้งไว้ว่า...เคยมาเยือน
14 พฤษภาคม 2552 13:13 น.
ฟ้าฟื้า ธรรมชาติ
เธอรู้ไหม
ชนบทยากไร้รอใครเล่า
รอเธอคืนแผ่นดินถิ่นเคยเนาว์
พี่ชายน้องสาวเฝ้ามองทาง
เธอรู้ไหม
ทุกเสียงไก่เบิกหล้ายามฟ้าสาง
มีพ่อแก่แม่เฒ่ารอลำพัง
ด้วยความหวังจะยลยินปริญญา
เธอรู้ไหม
เรือกสวนไร่มังมูลบ่สูญค่า
ทุกเม็ดข้าวเหลืองทองในท้องนา
ทุกต้นกล้าค้าขายหมายสิ่งใด
มีคนนับ
วันเวลารอเธอกลับเธอรู้ไหม
ตาทุกคู่เฝ้ามองทางอย่างหวังใจ
ด้วยว่าหมายรอใครได้กลับมา
มีคนนับ
จดและจับอายุเธอรู้ไหมหนา
จินตนาการระลึกรู้อยู่เรื่อยมา
ถึงหน้าตา ความเป็นคน ตัวตนเธอ
เธอคงรู้
ว่าเธออยู่ในใจใครเสมอ
เธอคงอยากจะกลับและอยากเจอ
และคงเพ้อรำพันถึงบ้านเรา
เธอไปเรียน
เธอพากเพียรศึกษาเธออย่าเหงา
ในเมืองใหญ่ ผับ-บาร์ มารบเร้า
จงขัดเกลาความฝันจงมั่นคง
เมื่อใดเธอ
ที่เลิศเลองดงามตามประสงค์
กับปริญญางดงามตามจำนง
เธอนั้นจงกลับมาหาบ้านเรา
เธอรู้ไหม
ชนบทยากไร้รอใครเล่า
รอเธอคืนแผ่นดินถิ่นเคยเนาว์
และถึงคราวร้องว่า...."เธอมาแล้ว"
ฟ้าฟื้น ธรรมชาติ