25 กุมภาพันธ์ 2551 12:16 น.
ฟ้าฟื้า ธรรมชาติ
กลีบโรยโปรยเหลืองลมเนื่องหนุน
สมดุลหมุนติ้วพลิ้วตามสาย
คลื่นรับขยับเร้นเย็นกระจาย
ช้ำชอกออกลายกระอายชล
ส่วนหนึ่งซึ่งน้อมลงพร้อมสรรพ
คำนับวารีขุ่นสีข้น
ยินคลื่นปวงคล้ายเป็นตายคน
เลือดปนใครแปรแม่น้ำก
ู
เหลืององค์สงฆ์ชัดโปรดสัตว์เช้า
อกอ้าวข้าวอุ่นคอยกรุ่นอยู่
คูนเบื้องเรืองบาตรยาตรฤดู
เช้าชูช่อชื่นริมคลื่นคำ
พรายแสงแดดขุ่นกระสุนเข้า
โขงเราโขงใครไหวเช้า-ค่ำ
ปลาบึก-ปืนกราดฆาตกรรม
คูนร่วงคนร่ำเลือดโขงริน
เงื้อมเงาเหล่าร้ายคล้ายเรือล่อง
แกะกล่องระเบิดแก่งแหล่งหิน
ร้อยทุนเลื้อยเขี้ยวเลี้ยวกิน
หน้าดินพังกล่น...หนอจนใจ
ใครตุนคูนต้นควรต้องตัด
ไทร-โพธิ์สารพัดต้องจัดให้
ชาวบ้านชาวช่องคุณต้องไกล
ทางปืนทางไปอินโดจีน
ขอบโขงทั่วหล้าว่าทุนโลก
ดูก่อนวิปโยคโลกมีศีล
เด็กน้อยลอยน้ำตามป่ายปีน
มือ-ตีนต่างโตรกโลกเสรี
นาคาสิบห้าค่ำรับคูนหล่น
ความเชื่อเหนือชลใช่ป่นปี้
เป็นมาปลา กุ้ง สะดุ้งมี
ตอคูนบ่หนีการแตกบาน
วสันต์เม็ดซ่าลงมาเสร็จ
เมล็ดคูนสืบคงรู้ซ่าน
ข้าว ปลา นา น้ำ คือตำนาน
ลูกหลานคงรู้สูคือใคร
วับ-วับจีวรพระคุณเจ้า
กลับวัดตรัสเช้าพร้อมข้าวใหม่
คูน-โขงรับธรรมลำนำไท
ผลิ-ร่วงล้วนในแม่น้ำเรา
หนุ่มน้อยรู้สึกสำนึกน้ำ
ควบกล้ำคำยื่นกลับคืนเหย้า
เชื่อมโยงโขงใหญ่ฟังวัยเยาว์
น้ำใจไผเน่าพอเฮานึก
วันนี้พอหอมปากหอมคอก่อนนะครับ วันหลังจะเอาตอนที่สองมาฝาก