29 กันยายน 2550 12:48 น.
ฟ้าฟื้า ธรรมชาติ
ธรรมชาติสร้างสรรค์งานเป็นนิจ รับชีวิตจากหล้าผืนฟ้าใส
ดอกหญ้าอ่อนสะสั่นก้านสะบัดใบ ประดับไว้พลิกฟื้นให้พื้นดิน
แต่งฟ้าสวยด้วยดาราพระพริ้งเพริศ ตะวันเลิศด้วยรัศมีชิฉายฉิน
แต่งพระจันทร์อำพรวะวรวิล ด้วยฟ้านิลสีมืดกระจ่างจันทร์
เริมจากฟ้าให้น้ำใจไว้รินรด กลั่นเป็นหยดล้ำค่ามหาศาล
ให้ใต้หล้าหมายปองเป็นของกำนัล สู่หมื่นฝันใต้ฟ้าที่ท้าทาย
ฟ้าได้ฟื้นคืนชีวิตให้ธรรมชาติ ธรรมชาติช่วยฟ้าที่ตรงไหน
ธรรมชาติช่วยฟ้าที่หัวใจ ฝากหมู่ไอละอองแก้วไปตอบแทน
ธรรมชาติสร้างฝันมาร้อยฝัน กระจายร้อยสู่พันสู่หมื่นแสน
ไว้สร้างล้านจินตนาการทั่วทุกแดน สร้างภวังค์สร้างแก่นอักษรศิลป์
ฟ้าคือกวีผู้สร้างสรรค์ ส่วนผลงานคือธรรมชาติหมดทั้งสิ้น
ฟ้าคือฟ้าสีฟ้าศิลปิน สร้างฐานศิลป์จากใจให้โลกชม
เหล่านักเลงทั้งหลายระบายฝัน ขีดเขียนจารลงสู่หล้าเพียรเพาะบ่ม
นักเลงกลอนสอนทุกสรรพสิ่งทุกอารมณ์ ด้วยความคมของอักขระที่วาดลาย
29 กันยายน 2550 12:29 น.
ฟ้าฟื้า ธรรมชาติ
หยาดเพชรบนใบหญ้า
พาหมอกเช้ามาพราวพร่าง
เจ้าเปราะเจ้าบอบบาง
ร่างสลายเพราะตั๊กแตน
เพชรพริ้งกลิ้งสะอื้น
น้ำตาชื้นกลืนโศกแสน
แดดสายร่ายรำแพน
มาแผดเผาเจ้าโศกซ้ำ
ระเหยไปสู่ฟ้า
หยาดเพชรจ๋าฝากรักร่ำ
ขับกล่อมเป็นลำนำ
ให้พ่อฟังทางเมืองโน้น
ว่าลูกอยู่ทางนี้
มีสายหมอกที่อ่อนโยน
ชิงช้าที่เคยโหน
ไกวกับพ่อยังผูกพัน
พ่อจ๋าถ้าเป็นได้
หนูจะไกวให้ถึงสวรรค์
แต่แม่คงจาบัลย์
ถ้าหนูไปแล้วไม่คืน
หยาดเพชรกับดอกหญ้า
มีเวลาชั่วหลับตื่น
เธอฉันต้องกล้ำกลืน
สื่งเดียวกันอย่าน้อยใจ
โลกอาจมีตั๊กแตน
อีกหมื่นแสนสั่นหญ้าไหว
ไม่นานก็ผ่านไป
สายลมชื่นจะรื่นริน
คืนนี้สำหรับฉัน
จะหลับฝันกับแดนดิน
ก่อนรุ่งอรุณถวิล
พ่อจะฝากรักมาหา
หยาดเพชรเกล็ดน้ำแก้ว
จากพรากแล้วจงกลับมา
เธอคือสื่อสัญญา
นำคุณค่าอุษาลำเนา
ดอกหญ้าจะเริงรื่น
ฉันจะตื่นคอยชื่นเช้า
คอยรักฝากแฝงเงา
เฝ้าถนอมหอมใจเอย
20 กันยายน 2550 13:03 น.
ฟ้าฟื้า ธรรมชาติ
ดอกไม้งามเหล่านี้คือดอกฝัน ใครปลูกดอกไม้นั้นใต้ฟ้าสวย
เบ่งบานช่อกลีบระรินหอมระรวย มีสีสันสดสวยด้วยใจใส
อยากนิยมชื่นชิดสนิทฝัน แดดฝนพันผูกรักสมัครใคร่
มีกลิ่นหอมเลิศล้ำเพราะน้ำใจ เพราะเจียมตนจึงไหวต่อสายลม
ดอกไม้สวยหนามแหลมระรื่นหวาน ใช่เบ่งบานให้เก็บไปสะสม
บานจากใจบริสุทธิ์สุดชื่นชม เพื่อแสดงความอุดมของผืนดิน
ดอกฝันงามทั้งหลายในใต้หล้า ใช่แสดงแต่คุณค่าวรรณศิลป์
ใช่มีแต่อัครศิลปิน คนเดินดินอย่างเรามีหรือยัง
ทุกคนมีสิทธิจะปลูกจะเพาะเพิ่ม จะต่อเติมหรือจะบั้นจะทิ้งขว้าง
แม้ทำลายใบฝันละลายจาง รากยังฝังแน่นลึกถึงขั่วใจ
โลกภายนอกกว้างใหญ่ออกอย่างนี้ โลกภายในพื้นที่มีแค่ไหน
แขกความฝันจินตนาการพลุ๊กพล่านไป ได้ยื่นน้ำให้ไหมในแต่ละวัน
พื้นที่โลกมากมายดูกว้างขวาง ยังคงพร่างพราวสวยด้วยดอกฝัน
ผืนแผ่นดินหัวใจกว้างใหญ่อนันต์ อย่าปล่อยมันรกร้างว่างเปล่าเลย
19 กันยายน 2550 08:31 น.
ฟ้าฟื้า ธรรมชาติ
หมอกสีจางบางเบาสีจางหมอก ลมเล่นหยอกหมอกเทาขาวขุ่นไหว
มองหมู่หมอกขี่ลมละเลงไกว มองหมอกฉายวัยฝันจินตนาการ
หมอกไม่ลอยขึ้นสูงหมอกกลัวแดด หมอกเลยแผดเหนือดินค่อยลอยผ่าน
หมอกไม่ค่อยลอยลงอยู่อย่างนาน หมอกกลัวซ่านน้ำค้างกลัวเปียกปอน
ลอยแล้วลอยลอยลอยแล้วลอยเล่า ตอนเช้าเช้าและเย็นเย็นเห็นหมอกก่อน
สายเที่ยงบ่ายหมอกล้าขอลาจร ดูหมอกออ้อนสาตาภวังค์คิด
ม่านหมอกหมุนห้อมล้อมรอบตัวเรา สมองโปร่งโล่งเบากระแสจิต
พื้นความฝันความหวังนิรมิต จิตลิขิตโลดแล่นแก่นผวังค์
หมอกบริสุทธิ์สีขาวเมื่อเยาว์วัย คือหัวใจชุ่มชวยด้วยความหวัง
อยากเป็นหมออยากมีบ้านราชวัง อยากจะมีโรงหนังโรงละคร
อุ๊ยนั่นแน่ะเป็นนกเราบินได้ นี่ไงยอดมนุษย์เราจองก่อน
เป็นดาวบนฟากฟ้าดารากร เป็นครูสอนนักเรียนเพียรขยัน
เราก็คือ ป.ปลา ว่ายน้ำได้ ข้ายิ่งใหญ่ผู้วิเศษวิชามั่น
อยู่เหนือฟ้าคือเจ้าของครองตะวัน ฉุดพระจันทร์มาร้อยสร้อยวิเศษดาว
เป็นเสือคำรามก้องร้องในป่า เป็นพญาราชสีห์เป็นม้าขาว
เป็นอัสวินดาบสายฟ้าเกรี้ยวเกียวกราวน่าวน้าวหนาวเป็นจอมเวทย์เสกวิญญาณ
เราคือจอมนาคาว่ายน้ำได้ พ่นน้ำไฟต่อสู้ศัตรูต้าน
เรายิ่งใหญ่ในหล้าจักรวาล ยิ่งใหญ่ในสายธารสมุทรใด
มองหมู่หมอกสีจางบางเบาหมอก ฝันเล่นหยอกหมอกเทาขาวขุ่นไหว
ฝันขี่หมอกโยงเยงละเลงไกว ลมพัดสายหมอกสะบั้นฝันกระเจิง
18 กันยายน 2550 15:53 น.
ฟ้าฟื้า ธรรมชาติ
ผืนน้ำใสมีใครไปแต่งแต้ม ผืนฟ้าแย้มมีใครไปสร้างสรรค์
ป่าไม่เขียวมีใครระบายพรรณ สร้างจากงานฝีมือใครใคร่ขอชม
ฟ้าสร้างเมฆเมฆสร้างสีสันฟ้า น้ำสร้างหล้าสร้างน้ำที่เหมาะสม
ป่าสร้างป่าราสัตว์สร้างสายลม ทุกสิ่งบ่มเพาะพันธุ์ชีวานัย
ธรรมชาติสร้างสรรค์พันธุ์ธรรมชาติ คนเรามีอำนาจสร้างได้ไหม
คนสร้างคนเท่านั้นที่มั่นใจ และทำลายฟ้าน้ำจนยับเยิน
น้ำตาฟ้าบ่าถ้วมอุทกไหล ลมหายใจไม้ป่าพายุเผิน
น้ำใจน้ำย่ำแย่แก้ยากเกิน กำลังเงินจากหล้ามาปลอบใจ
ธรรมชาติทั้งหลายใช่เพียงวาด ธรรมชาติสามารถลบออกได้
ลบเผ่าพันธุ์มนุษยชาติผู้ทำลาย เหลือเอาไว้แต่เดียรัจฉาน....ผู้สร้างทุน