5 มกราคม 2556 10:45 น.

ปรางค์

ฟ้าฟื้า ธรรมชาติ

ปรางค์

ประหวัดวัดอารามยามใกล้ค่ำ
ตะวันย่ำหยาดฟ้ายายอแสง
แว่ววัตรเย็นลงศัพท์สดับแสดง
หลัวฟ้าแลงแสงพลบปลุกคบคา

ยอดองค์ปรางค์นภศูลสมบูรณ์ยอด
บัวกลุ่มกอดนอบค้อมน้อมหัตถา
รัดประคดงามระหงส์หลั่นลงมา
ล้วนระดาชดช้อยมาร้อยเรียง

ซุ้มคูหาพระประธานตระกานนัก
มุกสลักเรียงหลั่นจรดฐานเขียง
แม้นโอบทองประดับปรางค์ทั้งข้างเคียง
สว่างเพี้ยงดวงบุหลันในวันเพ็ญ

เมื่ออาทิตย์อัสดงลงไรยอด
แสงกลมทอดยอดปรางค์ครั้งเคยเห็น
ดังต้นปรางค์เทียนค่ำปรุ่งยามเย็น
อาทิตย์เป็นเปลี่ยวเทียนทาบทอทรง

เมื่อแสงทองแห่งฟ้าจวนมาพลบ
แสงโสมจบยอดปรางค์สว่างสงฆ์
คือเทียนทองแท่งธรรมน้อมดำรง
สืบวิมุตติพุทธิพงศ์ดำรงธรรม

อารยะพระโคดมมาโสมนัก
ถมวังวัฏตื้นเขินเกินลงด่ำ
แม้นโสมกรุ่นยุคแก้วแผ้วพระธรรม
ปรางค์คงงามลึกซึ้งถึงแก่นจริง

เสียดายนักมิได้พบพระพุทธเจ้า
พบแต่เค้าโสมทองเพียงสองสิ่ง
เศษบุญหลังยังเหลือพอเจือคิง
มิได้อิงสมานยุคพุทธันดร

ได้พบธรรมไกลหลังยังแจ่มชัด
ในยุคสองสหัสวรรษประภัสสร
ดุจน้ำค้างรดเถาเนาว์ดงดอน
พ้นซอกขอนเห็นรู้อุษามา

แม้นมิตามเหยียบแคว้นดินแดนพุทธ
กิเลสรุดฉุดทาสบ่อาจฆ่า
แต่คงน้อยพร่องบ้างพอบางตา
อาจเทวาเมืองแมนแดนวิมาน

แผ่วมนต์วัตรลงแล้วยังแผ่วว่า
ปรารถนาเมืองพุทธวิมุตติสถาน
แม้นส่อแววบุญหลังยังบันดาล
คงพบพานพุทธธรรมดังหวังใจ

ครั้นหน่อเนื้อพระโคดมจมจ่มร้าง
องค์พระปรางค์เศร้าหมองต้องสลาย
เถิดองค์ปรางค์ยุคพระศรีอาริยเมตรไตรย
หวังปรางค์ใหม่งามล้ำดุจดังกัน...

ฟ้าฟื้น ธรรมชาติ				
1 ธันวาคม 2555 19:32 น.

ไม่รู้กวีบทนี้ จะมีชื่ออย่างไร

ฟ้าฟื้า ธรรมชาติ

ไม่รู้กวีบทนี้ จะมีชื่ออย่างไร

เพียงเดือนต่ำย่ำรุ่งฟุ้งสายหยุด
อุษารุดล้ำฟ้ามาแสงสาง
ขลิบขอบดินไกลโพ้นโค้งโนนลาง
ความสลัวจากจางหว่างเวลา

เพลงไก่แก้วแซวศัพท์สดับรุ่ง
จากชานยุ้งฉางข้าวหนาวอุษา
ตุบกระตุ๊บครกกระเดื่องกระเตื้องมา
จากควบขาโยกย้ำกระหน่ำตำ

ลิ่มกระคอกตอกออกคอกปล่องเปิด
เชือกสายเชิดสนตะพายอ้ายทุยหนำ
เพลงกระโหร่งกระดิ่งส่ายก็ร่ายรำ
ขับลำนำมนต์พระพายสายหญ้ายวง

ลมหนาวปรายชายทุงปรุงมนต์แล้ง
หยอกช่อแดงกลางนาสะแบงหลวง
ชวาลาแดนอีสานตระกานรวง
หมุนโรยร่วงกอดเกี้ยวเกลียวสายลม

พรมหมอกขาวลาดระบำปูน้ำคลอง
อาบผ้าทองแสงฟ้ามาคลี่ห่ม
บางเบียดไหวขยับม้วนกอดนวลลม
เคลียคลอชมน้ำหนาวหลายเช้ามา

บุญพระแม่โพสพบ่จบสิ้น
สืบชีวินควายทุยลุยทุ่งท่า
ให้ข้าวซังจากตอต่อชีวา
เลี้ยงบรรดาวัวควายในลานทอง

เห็นร่อยรอยท้วงเท้าคราวก้าวดำ
ครั้งกอดกำมัดกล้าท้าผยอง
เสียงเวิ้งน้ำรี่ไหลตามไหล่คลอง
ยังทำนองทรงจำนาจำนรรจ์

ริ้วฤดูหนาวนั้นตระการนัก
คลอผ้าถักจากกี่มัดหมี่สาน
ซับน้ำค้างยอดหญ้าคันนาพันธุ์
รอเหมันต์ผันสายในเพลา

ปล่อยไอ้ทุยลุยปรักแต่งสาบกลิ่น
ก่อนไอดินเคยหอมย้อมพรรษา
จัดสำรับข้าวเหนียวเคี้ยวป่นปลา
ปล่อยเวลาเคลื่อนคล้อยคอยค่ำแลง

ไว้ยามย่ำสนธาลาสายหยุด
ขอบดินโพ้นโนนกุดรุดหนีแสง
เมื่อหรีดหริ่งร่ายร้องก้องสำแดง
จึงค่อยแจงควายจรคอนคืนเรือน

เสียงตอกลิ่มกระคอกจะออกดัง
จนกระทั่งฟ้าหนาวมีดาวเปื้อน
ความสลัวมัวคล้อยทยอยเยือน
จะลาเลือนอุษาเช้าคราวต่อไป....

ฟ้าฟื้น ธรรมชาติ				
8 กันยายน 2555 09:35 น.

ในวิถีชีวิตวิถีนี้

ฟ้าฟื้า ธรรมชาติ

ในวิถีชีวิตวิถีนี้

ฟ้าเอิ้นสั่งร่ำร้องฮำฮอนฮัก
ควายนอนปรักฮักแพงแห่งเขตถิ่น
เย็นหยาดนุ่มลุ่มอยู่อณูดิน
หอมหวนกลิ่นสาบกล้าสุดนาไกล

เถียงนาน้อยคอยฮักคนจากบ้าน
มัดคันเบ็ดเสร็จงานข้างคันไถ
น้ำข่อนแห้งจวนขอดกู้ลอบไซ
ระวางไว้เก็บฝันเป็นตำนาน

หอมตอกไผ่สานชะลอมย้อมแววคิด
จุดประกายชีวิตได้ขิดสาน
สืบภูมิรู้ปัญญาแต่บุราณ
เริ่มเกิดงานถักทอรอเหมันต์

เมื่อเริ่มห่างจากฝนหล่นทิ้งช่วง
ฟ้ากว่ากว้างบอกลาหน้าวสันต์
การเก็บเกี่ยวเติบตื่นฟื้นทวงงาน
ฤดูกาลสอนเยาว์จวบเฒ่าวัย

หาปูปลาเลี้ยงตัวพอตัวรอด
สวิงกอดข้างแขนพอควงได้
แล้วชีวิตก็ระบำร่ำคลองไกล
เลือกปลาใหญ่เลี้ยงครัวพอตัวกิน

เก็บตำลึงทอดยอดอวบกอดรั้ว
เร่งคนครัวโหมไฟอุไอกลิ่น
รินน้ำข้าวซาวเกลือพอเผื่อกิน
รองท้องสิ้นหิวหน่อยค่อยเร่งมือ

ตำน้ำพริกปลาต้มสักหนึ่งครก
สำรับวางขันโตกพอยกถือ
เรียกครอบครัวร่วมสันต์อีกวันมื้อ
ล้วนก็คือวิถีชีวิตเรา

เปิดนีออนแทนไฟไต้ตะเกียง
นั่งล้อมเรียงพึงพักพนักเสา
ฟังผญาจ่ายขับค่อยรับเอา
จากตายายแก่เฒ่าท่านเฝ้าสอน

แล้วค่อยเข้าในมุ้งมุ่งผ่อนพัก
ซบแก้มรักวางเฉยเกยเหนือหมอน
เก็บเรื่องราวหว่างวันที่สัญจร
จวบอุษามาย้อนต้อนออกงาน

ในวิถีชีวิตวิถีนี้
คือวิถีสืบไว้ให้ลูกลาน
เหลือพอเพียงเลี้ยงกายกรำลายงาน
ทุกเฮือนบ้านล้วนเช่นนี้มานานแล้ว

ฟ้าฟื้น ธรรมชาติ				
28 สิงหาคม 2555 11:35 น.

หว่านเมล็ดพันธุ์ให้หัวใจ

ฟ้าฟื้า ธรรมชาติ

d2.gif

หว่านเมล็ดพันธุ์ให้หัวใจ

ห้วงหัวใจสานฝันวันระวี
เกิดก่อมีรักใหม่ใจเรียกหา
สานสิ่งเอื้อเกื้อหนุนเจือจุนมา
บ่มเวลาด้วยรักจักงดงาม

รดน้ำใจรินน้ำใจให้เต็มใจ
ทุกข์สุขอยู่อย่างไรได้ไต่ถาม
เฝ้าคิดถึงห่วงใยในทุกยาม
เติมเต็มความรักแท้ให้แก่กัน

แล้วจงมอบเมล็ดพันธุ์สรรค์ความสุข
เพื่อลดเลือนความทุกข์กระตุกขวัญ
รอดอกรักเบิกบานระหว่างวัน
ปล่อยดวงใจดวงนั้นละวางตน

จะได้อยู่กับตัวเมื่อมัวหมอง
อยู่กับห้องหัวใจในบางหน
เฝ้าดูแลเมล็ดพันธุ์หว่านใจตน
เพียรขุดก่นพรวนดินถิ่นหัวใจ

และจะได้รดน้ำใจให้ต้นรัก
สานทอถักกิ่งต้นจนใบใหม่
รอดอกบานผลิผลล้นหัวใจ
รู้ความหมายดอกผลรักตนเอง

เพื่อจะได้ยืนได้เมื่อไร้รัก
เหลือดอกบานทักทายไล่ข่มเหง
เมื่อกลับมาคนเดียวเปลี่ยววังเวง
ฮำบทเพลงส่งท้ายในความหลัง

ในตอนนั้นแผ่นดินใจอุดมแล้ว
ด้วยหน่อแนวเมล็ดพันธุ์สรรค์ความหวัง
เติมน้ำใจเต็มใจได้พลัง
เฝ้าฝากฝังพันธุ์ไว้ในเวลา

และจะได้รู้จักรักที่แท้
ใจแน่วแน่รื้อพังข้อกังขา
วันทุกข์เกี่ยวเกาะรั้งพันธนา
เมล็ดกล้าจะเติบโตมาคุ้มครอง

โรยละอองเกสรให้หัวใจ
อ่อนละมุนกรุ่นละไมขับไล่หมอง
วันความเหงาตรวนปักตอกหลักจอง
แต่ได้มองและยิ้มให้ไม้ต้นงาม
..................
วันความเหงาตรวนปักตอกหลักจอง
ยังได้มองเห็นว่ารักตัวเอง

ฟ้าฟื้น ธรรมชาติ				
16 กรกฎาคม 2555 15:03 น.

วิถี

ฟ้าฟื้า ธรรมชาติ

วิถี

หริ่งเรไรกล่อมแล้วทั่วแนวทุ่ง
ไปสุดคุ้งลำธารละหารห้วย
น้ำยอดคามาโหนหล่นระนวย
ย้อยหยาดสวยรินหยดจรดธารา

ริ้วสายสรวงแดดอุษาขอบฟ้าสาง
ความสลัวจากจางหว่างเวหา
เกล็ดน้ำค้างวางดอกยอดใบคา
โกกิลาพร่ำเพลงบรรเลงไพร

ดอกไม้บานรับอรุณกรุ่นช่วงเช้า
เกสรเร้าหมู่ภมรโอนอ่อนไหว
หญ้าเขียวคลี่หมอกแต้มลงแซมใบ
คลุมลานไพรเขียวสะพรั่งไปทั้งลาน

พะเนินหินแก่งพลาญข้างธารฉ่ำ
นกเป็ดน้ำบินลงสรงสนาน
ตะไคร่เขียวเห็นระเรื่อพอเจือจาน
ประหนึ่งลานอัญมณีขจีดิน

ครวญเสียงลมแผ่วร่ำมารำพัน
กล่อมเงียบงันหลับใหลในซอกหิน
หอบกลิ่นหอมสายป่ามาหลั่งริน
ชโลมดินงดงามหอมดำรง

หนทางกว้างเลาะนาป่าไศล
อาบวินัยองค์พุทธวิมุตติสงค์
ดอกหญ้างามบานเกลื่อนรายเถื่อนดง
ลูบสบงสีเหลืองเรืองมรรคา

คือสายทางจุนเจือเนื้อนาบุญ
องค์อุ้มบุญทรงบาตรศาสนา
ดำเนินผ่านลานไพรสายธารา
งามอากัปกิริยาสง่างาม

เหลืองจีวรพลิ้ววีบ้างสีครั่ง
สองฝั่งทางพุทธชนอยู่ล้นหลาม
พราวดอกไม้สวยสดสีงดงาม
ปลั่งอยู่ท่ามถาดข้าวขาวอวลไอ

หอมเอยหอมกลิ่นข้าวถึงดาวดึงส์
ใส่บาตรซึ้งโลกธรรมสว่างไสว
ผลบุญแผ่แล้วแก้วคลาไคล
ฝุ้งไปไกลทั่วโลกธาตุธรรม

งามวิถีพุทธธรรมค้ำดงดอน
ทานขจรค้ำพุทธอุปถัมภ์
แม้นโลกจมติดหน่วงด้วยบ่วงกาม
ยังเหลือธรรมปลอดปล่อยสร้อยตรวนตรึง

จะยังงามวิถีทางอย่างเช่นนี้
ตราบว่ามีศาสดาใหม่มาถึง
แม้นหลงเหลือเศษธรรมไว้คำนึง
คงจะซึ้งจวบกาลพุทธันดร

ฟ้าฟื้น ธรรมชาติ				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟฟ้าฟื้า ธรรมชาติ
Lovings  ฟ้าฟื้า ธรรมชาติ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟฟ้าฟื้า ธรรมชาติ
Lovings  ฟ้าฟื้า ธรรมชาติ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟฟ้าฟื้า ธรรมชาติ
Lovings  ฟ้าฟื้า ธรรมชาติ เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงฟ้าฟื้า ธรรมชาติ