24 เมษายน 2548 15:06 น.
ฟ้าตะวัน
ตอน สวนสนุกเเลนเต้
ปุ้ ง ! ปุ้ ง ! ปุ้ ง !
เสียงพลุดังขึ้นเป็นช่วงๆ แสดงถึงความสนุกสนานนั้นกำลังเริ่มขึ้น ลูกโป่งหลากหลายสีสันมากมายต่างแข่งขันกันล่องลอยขึ้นไปบนท้องฟ้าอันผ่องใสบริสุทธิ์
" เซโน่.. เซโน่.. ตื่นได้แล้วลูก " เสียงอันอ่อนโยนจากผู้หญิงข้างๆ เตียงช่วยพลักดันความรู้สึกให้ตื่นขึ้น เซโน่นอนคลุมโปงอยู่บนเตียงนอน ผ้าห่มบังกายไว้แทบมิดตัว เห็นไว้แต่ผมสีแดงของเจ้าตัว ผู้หญิงคนนั้นเดินไปที่หน้าต่างแล้วเปิดม่านออก แสงสว่างแสดส่องเข้ามาในห้อง จนมองเห็นตู้ โต๊ะ เตียงนอน และเจ้าแมวน้อยตัวลายสีน้ำตาลกำลังบิดขี้เกียจอยู่บนพรมใกล้เตียงนอน
เ ก ร๊ ง ! เ ก ร๊ ง ! เ ก ร๊ ง !
เสียงระฆังจากสถานที่หนึ่งดังกังวานเข้ามาให้เซโน่ได้ยินอย่างชัดเจน หลังจากที่เธอเปิดม่านเสร็จก็ลงบันไดไปข้างล่าง เจ้าแมวตัวน้อยก็เดินตามลงไป เซโน่ตื่นลงมาจากที่นอนแล้วยืนบิดตัวไปมา เขาใส่เสื้อสีน้ำเงินแขนสั้น กางเกงสีน้ำเงินขายาว คาดเข็มขัดสีดำ และยังใส่เสื้อสีดำตัวบางๆ ทับอยู่ข้างในอีกตัว เซโน่เดินลงบันไดมาข้างล่างแล้วเดินเข้าไปในครัว
" ตื่นแล้วหรือจ๊ะ "
" ครับแม่ วันนี้ปลุกผมแต่เช้าเลย มีอะไรหรือป่าวครับ " เซโน่ถามแม่ของเขาที่กำลังทำอาหารอยู่ แล้วเจ้าแมวตัวน้อยเข้ามาเลียขาของเขา เซโน่ก็ลูบหัวมันไปมา
" เมื่อกี้มิเชียมาหา เธอบอกว่าถ้าลูกตื่นเมื่อไหร่ก็ให้ไปหาที่สวนสนุกด้วย "
" ถ้างั้นผมไปเลยนะครับ " เซโน่หยิบดาบไม้ที่วางอยู่บนชั้นวางของมาเสียบไว้ที่เอวเข็มขัด
" เดี๋ยวก่อนๆ " แม่ของเซโน่เรียกหยุดก่อนที่เซโน่จะเปิดประตูบ้าน เธอหยิบเงินจากกระเป๋ากางเกงออกมาให้เซโน่
" เอานี่เงิน 200 G เที่ยวให้สนุกนะ "
" ขอบคุณครับ " เซโน่ยิ้มร่าแล้วรีบวิ่งออกไปนอกบ้านทันที
บ้านเกิดของเซโน่เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ที่ชื่อว่าหมู่บ้านแลนเต้ ที่ติดกับทะเล มีท่าเรือขนส่งสินค้าไปขายที่เมืองอื่นอยู่บ้างหมู่บ้านนี้อยู่ติดกับปราสาทหนึ่งซึ่งเป็นที่อยู่ของกษัตริย์ที่มีชื่อราชวงศ์ว่า "ราชวงศ์รูน" ซึ่งคอยปกป้องหมู่บ้านและเมืองอื่นๆ ให้อยู่เย็นเป็นสุขตลอดมา ด้วยเหตุที่อยู่ใกล้กันทางกษัตริย์จึงได้สร้างสวนสนุกไว้เหนือหมู่บ้าน เพื่อไว้เป็นที่หารายได้และชื่อเสียงให้กับหมู่บ้านและได้ตั้งชื่อให้ว่า "สวนสนุกแลนเต้" สิ่งที่สำคัญที่สุดของสนุกแห่งนี้คือ ระฆังยักษ์ ซึ่งเป็นจุดศูนย์กลางของสวนสนุกเลยก็ว่าได้ ระฆังนี้มีอายุมาถึง 200 กว่าปีเป็นระฆังที่สร้างขึ้นของราชวงศ์รูน เพื่อให้ระฆังนี้ไม่ลืมเลือนไปจึงทำเป็นจุดสำคัญของสวนสนุกแห่งนี้
เซโน่วิ่งมาถึงหน้าสวนสนุก ผู้คนจากเมืองต่างๆ หลั่งไหลกันเข้ามามากมาย เซโน่เดินเข้ามาถึงตรงระฆังยักษ์
พ ลั ก ! ! !
จู่ๆ ก็ถูกผู้หญิงคนหนึ่งวิ่งมาชนเข้าเต็มแรงทำให้ล้มลงทั้งคู่
" ขอโทษค่ะ เป็นไรใช่ไหม " เธอพูดขึ้นแล้วปัดฝุ่นออกจากกางเกงและหลังเสื้อ
" อ๊ะ! จี้ จี้ห้อยคอของฉัน " เธอตกใจเมื่อจี้ห้อยคอเธอหล่นหายไป จึงเดินหาอยู่บริเวณใกล้ๆ ที่ชนกันเมื่อกี้ เซโน่เห็นจี้ห้อยคอเส้นหนึ่งหล่นอยู่ข้างๆ จึงหยิบมาดู
" จี้ห้อยคอของเธอ อันนี้หรือป่าว "
" อ๊ะ ใช่ๆ " เซโน่คืนของให้เธอไป
" ขอบคุณนะ นี้เป็นของสำคัญมากเลย "
จี้ห้อยคอรูปร่างคล้ายหินสีน้ำเงินที่เอามาขัดให้ดูเป็นทรงกลม เปล่งประกายสีน้ำเงินชั่วที่ถูกแสงสะท้อน ดูสวยงามมาก เธอสวมจี้ไว้ที่คอดังเดิม
" ลืมแนะนำตัวเองเลยฉันชื่อ รูน่า ยินดีที่ได้รู้จัก " เธอแนะนำตัวเอง เธอแต่งชุดสีฟ้าไปทั้งตัว ใส่เสื้อแขนสั้นกางเกงขายาว เธอมัดผมสีทองของเธอเป็นทรงหางม้า ทำให้ดูเป็นผู้หญิงที่เข้มแข็งต่างจากคนอื่น
" ฉันชื่อ เซโน่ ยินดีที่ได้รู้จัก "
" เซโน่ เธอว่างหรือป่าว คือ..แบบว่าฉันมาแค่คนเดียวน่ะ คือ..ช่วยเป็นเพื่อนเล่นหน่อยได้ไหม " รูน่าพูดเหมือนอ้อนวอน
" อืม... เอางั้นก็ได้ " เซโน่ตอบรับ
" จริงหรอ! งั้นเราไปเล่นกันดีกว่า "
รูน่าจูงมือเซโน่วิ่งไปหาความสนุกสนานในสวนสนุกเหมือนเพื่อนสนิทกัน ทั้งๆ ที่เพิ่งจะรู้จักไม่กี่นาทีที่แล้วนี่เอง
เซโน่พารูน่าไปเล่นกินน้ำผลไม้ จะเป็นการกินแข่งกับเวลา ถ้ากินหมดครบแปดกระป๋องก่อนเวลาหมดจะได้รางวัลไป แต่เซโน่กินไปแค่หกกระป๋องก็อาเจียนออกมา จนรูน่าขำจนน้ำตาไหล ต่อมาเล่นงัดข้อกับชายที่มีกล้ามแขนใหญ่มาก เซโน่ลองเล่นดูส่วนรูน่าก็เอาใจช่วย สุดท้ายก็ชนะจนได้ ก็ได้รางวัลเป็นน้ำผลไม้สองกระป๋อง เซโน่เห็นก็ให้รูน่าทั้งสองกระป๋องเพราะเอียนกับน้ำผลไม้เต็มที ทำให้รูน่ายิ้มตลกให้เซโน่ ต่อมาไปทางด้านขวาของสวนสนุกได้มีระบำชาวเกาะ มีคนแต่งตัวเป็นชาวเกาะอยู่สิบกว่าคน บ้างก็ตีกลอง บ้างก็เต้นแบบสุดฤทธิ์สุดเดช พอเซโน่กับรูน่าเดินเข้ามาก็ถูกชาวเกาะเอาสีมาป้ายหน้าทั้งสองคนพอสองคนมองหน้ากันก็หัวเราะไม่หยุด พวกชาวเกาะก็จูงมือเข้ามาเต้นด้วยกันอย่างสนุกสนาน...
" เฮ่อ... วันนี้สนุกจังเลย " รูน่านั่งพักที่เก้าอี้ยาวหลังจากเต้นจนเมื่อยขา
" เธอเพิ่งเคยมาที่นี่ครั้งแรกเลยหรอ " เซโน่เดินเข้ามานั่งข้างๆ รูน่าโดยถือไอศครีมมาสองอัน
" ใช่ เพิ่งเคยสนุกแบบนี้ครั้งแรกเลย "
รูน่ายิ้มให้เซโน่ที่ยื่นไอศครีมมาให้
" รีบหลบเร็วเข้า! " ไม่ทันที่เซโน่จะกินไอศครีมรูน่าก็จูงมือเขาไปหลบหลังเต้น ไม่กี่วินาทีมีเสียงฝีเท้าที่หนักแน่นเดินอย่างพร้อมเพียงกันผ่านมาที่หน้าเต้น แล้วหยุดอยู่กับที่เมื่อเห็น คนหนึ่งแต่งกายเหมือนอัศวินเหล็กยืนอยู่ข้างหน้า
" หาองค์หญิงเจอไหม " อัศวินพูดเสียงเข้ม
" ไม่เจอเลยครับท่าน "
" คงจะไปที่อื่น.. รีบหากันเร็วเข้า! "
" ครับ !! " ทุกคนพูดเสียงดังฟังชัดอย่างพร้อมเพียง แล้วเร่งฝีเท้าออกไปจากสวนสนุก
" เกือบไปแล้วสิ " รูน่าถอนหายใจ
" รูน่า หรือว่า! รูน่าองค์หญิงราชวงศ์รู..! "
เซโน่ยังไม่ทันพูดจบรูน่าก็เอามือปิดปาก
" ถ้ารู้แล้วก็เงียบๆ ไว้ซี่ " รูน่าพูดเสียงเบาพอให้ได้ยิน เซโน่พยักหน้ารับตกลงรูน่าก็ปล่อยมือออก
" เอาละพวกทหารไปแล้วเราไปเล่นต่อเถอะนะ เซโน่ "
" คะครับ องค์หญิง " เซโน่เริ่มทำตัวไม่ถูก
" นี่ เรียกฉันว่ารูน่านะดีแล้ว "
แล้วทั้งสองก็เดินไปด้านบนของสวนสนุก ก็เห็นคนสิบกว่าคนยืนดูอะไรกัน เซโน่กับรูน่าจึงแซกคนเข้าไปดู ก็เห็นเครื่องประหลาดอยู่สองเครื่องอยู่ห่างกันไม่มากนัก
" เฮ้ย! เซโน่ ทางนี้ๆ " มีเสียงผู้หญิงคนหนึ่งเรียกเซโน่ให้เข้าไปใกล้
" มิเชียนี่เอง " เซโน่เรียกชื่อเมื่อเห็นตัวเธอ
เธอแต่งตัวเสื้อคอปกแขนสั้นกางเกงขาสั้นมีสีผมสีม่วง ใส่แว่นตาค่อนข้างหนาตามกระเป๋าเสื้อกับกางเกงมองเห็นเครื่องมือซ่อมพวกเครื่องจักรต่างๆ อยู่เต็มไปหมด
และมีอีกคนหนึ่งแต่งชุดคล้ายๆ ริเชียซึ่งกำลังเช็คอุปกรณ์อยู่
" มาจนได้นะ เอ๊ะ! ใครนะแฟนหรอ "
" ชะ ใช่ซะที่ไหนเล่า เธอเป็นอง.. "
โ อ๊ ย ย ! !
เซโน่ร้องลั่นเมื่อรูน่าแอบยืบเท้าเข้าเต็มๆ
" สวัสดีจ๊ะ ฉันชื่อรูน่า ยินดีได้รู้จัก "
" ฉันริเชีย ยินดีที่ได้รู้จัก แล้วคนที่อยู่ตรงนั่นก็ลุงทอมเป็นลุงฉันเอง " ริเชียแนะนำลุงของตนให้รู้จัก เขาก็พยักหน้ารับ
( เอ... รูน่า ชื่อมันคุ้นๆ แฮะ ) เธอคิด
" อ้าว เซโน่นายเป็นอะไรนะ กระโดดจับเท้าอยู่ได้ " ริเชียมองเซโน่กระโดดไปมาเหมือนกบโดนน้ำร้อนอย่างท่าทีประหลาดใจ
" เอ่อใช่ ฉันทำเครื่องเสร็จแล้วนะนี่ไงละ ฉันตั้งชื่อว่า เครื่องสลับที่ มันสามารถย้ายจากเครื่องหนึ่งไปอีกเครื่องหนึ่งได้ละ "
" อูย.. นะน่าสนุกดีนะ " เซโน่พูดกับริเชียขณะยังไม่หายเจ็บเท้า
" งั้นนายไปยืนบนเครื่องหนึ่งสิ "
เซโน่ทำตามที่ริเชียบอก เมื่อเซโน่ยืนอยู่กับที่แล้ว ริเชียก็สับคันโยกลง เครื่องเร่งพลังงานจากข้างๆ เริ่มปั่นพลังงานสูงขึ้นเรื่อยๆ ริเชียมองดูนาฬิกาแล้วก็ ดันคันโยกขึ้นไปจนสุด เกิดพลังงานคล้ายสายฟ้าวนไปมารอบตัวเซโน่ ช่วงวินาทีหนึ่งเซโน่ก็หายไป แล้วไปยืนอยู่อีกเครื่องหนึ่งในพริบตา ทำให้ผู้คนแสดงอาการที่เหลือเชื่อพร้อมตบมือให้จนริเชียยิ้มกว้าง มีเพียงเซโน่ที่ยังดูงงอยู่ว่าเป็นไปได้ไง
" น่าสนุกจังฉันขอลองบ้างซิ " รูน่าอาสาเป็นคนเล่นคนต่อไป เธอขึ้นยืนเหมือนเซโน่
ริเชียก็ซับคันโยกอีกครั้ง ช่วงนั้นจี้ห้อยคอของรูน่าก็เปล่งแสงสีน้ำเงินออกมา พอริเชียจับคันโยกขึ้นสุด พลังงานคล้ายสายฟ้าหมุนรวมกันเป็นวงกลม ช่วงพริบตารูน่าก็หายไป หายไป... หลายนาทีต่อมารูน่าก็ไม่ได้มาอีกเครื่องหนึ่ง
" เอ่อ... คือ ต้องขอโทษทุกท่านด้วยนะค่ะ เครื่องมันขัดข้องนิดหน่อย ขอให้ท่านไปสนุกกันที่อื่นก่อนนะค่ะ " ริเชียรีบกล่าวขอโทษผู้ชมที่ยืนดู และแล้วผู้ชมก็ออกไปกันจนหมด
" ริเชีย! ทำไมรูน่าไม่กลับมาละ! " เซโน่พูดอย่างกระวนกระวาย
" ไม่รู้เหมือนกัน เป็นไปได้ไง "
เซโน่มองไปตรงเครื่องที่รูน่ายืนอยู่เมื่อกี้ ก็เห็นจี้ห้อยคอตกอยู่ เซโน่จึงเดินเข้าไปเก็บ จี้ห้อยคอก็เปล่งแสงสีน้ำเงินสว่างออกมา
( จี้อันนี้แน่เลยที่ทำให้รูน่าหายไป )
เซโน่คิดแล้วสวมจี้ใส่ไว้ในเสื้อ
" ริเซีย.. ฉันจะไปตามองค์หญิงกลับมา "
" หา! ตามจะไปตามได้ไง... เดี๋ยว.. องค์หญิง.. รูน่า หรือว่ารูน่าองค์หญิงราชวงศ์รูน
มิน่าละ ถึงว่าชื่อคุ้นๆ " ริเชียทำท่านึกออก
" แต่ว่าเซโน่! ถ้านายไปโผล่ที่อื่นจะทำยังไง! แล้วถึงเจอจะกลับมาถูกหรอ! "
" ยังไงฉันก็ต้องไป! นะ ริเชีย " เซโน่พูดอ้อนวอนเพื่อนสนิทที่รู้จักกันมานาน
" ก็ได้ เอาละนะ " ริเชียจับคันโยกลง แล้วดันขึ้นจนสุด แสงจากจี้เปล่งประกายออกมาอีกครั้ง! พลังงานจับตัวเป็นวงกลมสีน้ำเงิน! แล้วเซโน่ก็หายเข้าไปในวงกลมสีน้ำเงินราวกับถูกดูดกลืนหายไป...
24 เมษายน 2548 11:05 น.
ฟ้าตะวัน
ตอน 5 ความทรงจำ
" ว่าไงเจมส์ อืมกำลังจะออกไป " โยโทรคุยกับเจมส์ขณะแต่งตัวอยู่
" เฮ้ยโย ยัยเรย์ไม่สบายวะสงสัยคงมาไม่ไหวที่พักกแกอยู่ใกล้กันไม่ใช่เหรอช่วยไปเอาเอกสารที่เรย์มาทีสิ"
" อืมๆ เดี๋ยวไปเอาให้ แค่นี้นะ "
โยแต่งตัวเสร็จ ก็หยิบเอกสารงานที่วางอยู่บนเตียงจัดใส่แฟ้มเล็ก โยถือแฟ้มเดินออกไปนอกห้องแล้วล็อกประตูด้วยกุญแจ โยลองเปิดประตูดูเพื่อทดสอบว่าล็อกแล้วหรือยัง
เมื่อโยออกมาจากที่พักของตนเองแล้วเดินไปทางด้านซ้าย ไม่ถึงครึ่งกิโลโยก็เดินมาถึงที่พักของเรย์
( ที่พักของเรย์... อยู่ชั้น 2 ห้อง 4 สินะ)
โยนึกห้องของเรย์ที่เคยมาหาเรย์อยู่ครั้งหนึ่ง โยเดินขึ้นบันไดไปที่ชั้นสองแล้วกดออดหน้าประตูที่ห้องเรย์
" อืมมม... โยเองหรอ... "
" ขอโทษทีเพิ่งตื่นหรอ ขอเอกสารงานหน่อยสิวันนี้เธฮนอนพักอยู่ที่นี่ก็ได้เดี๋ยวพวกเราจะทำกันเอง "
" เอางั้นหรอ... เข้ามาข้างในก่อนสิ "
โยเดินเข้าไปในห้อง ภายในไม่ค่อยจะมีข้าวของซักเท่าไหร่ มีเพียงแค่เตียงนอน ตู้เสื้อผ้า กับโต๊ะทำงานเรย์เดินไปหยิบเอกสารจากลิ้นชักโต๊ะทำงานเอามาให้โย แล้วโยก็เอาเอกสารใส่แฟ้มของตนรวมกัน
" หิวน้ำไหม.. ฉันเอาน้ำส้มมาให้กิน.. "
" เออ... ไม่ต้องหรอกฉันจะไปแล้วละ "
" โย.. พรุ่งนี้เธอว่างไหม.. "
" ก็ว่างช่วงเย็นนะ "
" งั้นพรุ่งนี้เราไปเจอกันที่ร้านอาหารเปิดใหม่กัน.. "
" อืม.. กี่โมงละ "
" ห้าโมงเย็น.. ร้านจะปิดตอนสองทุ่มครึ่ง.. "
" OK OK เธอไปนอนพักก่อนเดี๋ยวจะเป็นหนักนะ "
โยเห็นเรย์เริ่มไอไม่หยุดจึงบอกให้เรย์นอนพัก พอโยออกจากห้องพักของเรย์ก็ขึ้นรถเมล์ไปโรงเรียนทันที เมื่อมาถึงโรงเรียนพวกเพื่อนๆ ที่นั่งอยู่ตรงชุดโต๊ะเก้าอี้ที่อยู่หน้าตึกเรียน ก็เรียกโยกันใหญ่
" เอาของเรย์มาด้วยหรือป่าว " เดียร์ถามโยเผื่อว่าโยอาจจะไม่ได้เอาเอกสารจากเรย์มาด้วย
" เอามาสิ " โยหยิบเอกสารออกจากแฟ้มมาทั้งหมด
" แล้วจะเรียงยังไงดีละ เรียงตามชื่อดีมะ " แคร์ถามความคิดเห็นจากทุกคน
" ฉันว่าเรียงเป็นสายพันธุ์คงง่ายกว่านะ " เจมส์ออกความเห็นซึ่งทุกคนก็เห็นด้วย จึงเริ่มเรียงเอกสารกัน จนกระทั่งถึงเที่ยงก็เรียงกันเสร็จ
" เรียบร้อยแล้ว แค่เอาไปเย็บเล่มก็เสร็จ " เดียร์พูดพรางถอนหายใจออกมาเบาๆ
" เย้ !! เสร็จสักทีโว้ย พรุ่งนี้จะได้เที่ยวให้สะใจเลย "
ซันยิ้มอย่างดีใจพร้อมกอดคอเจมส์ที่อยู่ข้างๆ
" นี่ก็เที่ยงแล้ว พวกเราไปกินอะไรกันดีกว่า "
หลังจากทำงานกันเสร็จพวกโยก็ไปกินอาหารกัน แล้วไปพูดคุยกัน อย่างสนุกสนาน จนถึงเย็น ทุกคนก็แยกย้ายกันกลับไปที่พักของตนเอง...
เช้ารุ่งขึ้นของวันหยุดสุดสัปดาห์แต่ท้องฟ้าวันนี้กลับไม่ค่อยสดใสเท่าไหร่ โยตื่นเช้าขึ้นมาล้างหน้าล้างตาไล่ความอ่อนเพลียออกจากตัว แล้วแต่งตัวใส่เสื้อผ้าอย่างเรียบร้อย โยหยิบหนังสือกับเอกสารจัดใส่กระเป๋าเพื่อนำไปเรียนพิเศษ กว่าจะเลิกเรียนก็ถึงเที่ยงครึ่ง โยเดินออกมาจากที่เรียนพิเศษแล้วไปที่ร้านอาหารทาน ขณะที่กำลังกินอาหารอยู่ฝนก็ตกลงมา พอโยจ่ายเงินก็วิ่งไปขึ้นรถเมล์กลับที่พัก จนถึงบ่ายโมง บ่ายสองโมง
ถึงสี่โมง ฝนก็ยังทำท่าไม่หยุดตก
( เรย์คงจะไม่ไปแล้วละมั่ง )
โยคิดในใจพรางไปที่นาฬิกาซึ่งตอนนี้ก็ห้าโมงแล้ว
( เอาไงดีหว่า มือถือเรย์ก็ไม่มี )
โยนึกไปอยู่สักพัก ก็หยิบร่มออกไปหาที่พักของเรย์
ออดดด.. ออดดด..
เสียงออดหน้าประตูของเรย์ดังขึ้น แต่ก็ไม่มีใครที่จะเปิดประตูเลย
" อ้าว โยนี่เอง " รุ่นพี่ที่โรงเรียนซึ่งอาศัยอยู่ที่พักเดียวกันกับเรย์เดินผ่านมาพอดี
" สวัสดีครับพี่แอน เรย์ไม่อยู่หรือครับ "
" เรย์นะหรอ เห็นเดินออกไปตั้งแต่สี่โมงครึ่งแล้วละ "
โยดูนาฬิกาที่ข้อมือที่ตอนนี้มันบอกว่าห้าโมงครึ่งแล้ว โยไม่คิดเลยว่าเรย์จะไปเพราะดูแล้วเรย์ก็เพิ่งจะฟื้นไข้แถมวันนี้ฝนก็ตกหนักอีก โยรีบวิ่งขึ้นรถเมล์ไปที่เรย์นัดไว้คงปล่อยให้รุ่นพี่ยืนงงอยู่
โยลงจากรถเมล์กางร่มแล้วรีบวิ่งไปที่นัด ที่หน้าร้านอาหารมีผู้หญิงคนหนึ่งยืนถือร่ม ทำก้มหน้าเหม่อลอยเหมือนกำลังคอยใครบางคนอยู่
" เรย์... " โยเปล่งเสียงออกมาให้ผู้หญิงคนนั้นได้ยิน แล้วค่อยๆ เดินเข้าไปใกล้ๆ เธอที่ก้มหน้าอยู่ก็เงยหน้าขึ้นมามองตามเสียงที่ได้ยิน เธอจ้องมองหน้าที่คุ้นเคยอยู่วินาทีหนึ่งแล้วเธอก็ไอเพราะละอองฝน ไอออกมา ไอไม่ยอมหยุด โยรีบวิ่งไปหาเรย์ใกล้ๆ
" ทำไม! รู้อยู่ว่าเธอก็เป็นหวัดทำไมยังจะมาอีก "
โยพูดเสียงถึงความไม่เข้าใจของเรย์
" ถ้าพรุ่งนี้เธอไปโรงเรียนไม่ได้จะทำยังไง! "
" คะ..แค่นี้เอง.. ไม่เป็นอะไรหรอก "
เรย์ยิ้มน้อยให้โยบ่งบอกดีใจและไร้ความกังวล ดวงตาของเธอดูเปี่ยมไปด้วยความสุขแม้ต่างจากใบหน้าที่ดูขาวซีดด้วยพิษไข้
" แค่นี้เอง แค่นี้เอง แค่นี้เอง " มีเสียงคำพูดหนึ่งดังกึกก้องอยู่ในหัวของโย
" ไม่เป็นไรหรอก ไม่เป็นหรอก "
" แมรี่เป็นอะไรหรือป่าว " เสียงเด็กคนหนึ่งฟังดูสั่นๆ แล้วได้ยินเสียงร้องไห้ของเด็กออกมา
" ไม่เป็นไรหรอก แค่นี้เอง เป็นผู้ชายต้องไม่ร้องไห้ง่ายๆ นะค่ะ " เสียงที่คุ้นเคยรับรู้ เคยได้ยิน ตอนนี้หวนกลับมาอีกครั้ง ในความทรงจำของชายผู้หนึ่ง
" โย.. โย " เสียงของเรย์เรียกสติของโยคืนมา
" ไม่เป็นอะไรใช่ไหม.. เธฮ..น้ำตาไหลนะ "
โยลองแตะบริเวณตาดู แล้วรีบเช็ดน้ำตาออก
" เป็นผู้ชาย.. เขาไม่ร้องไห้กันนะ "
" อะ อืม... เข้าไปข้างในกันเถอะ "
จากที่ยืนกันอยู่นาน ทั้งสองคนได้เข้าไปในร้านอาหารที่เปิดใหม่...
23 เมษายน 2548 18:19 น.
ฟ้าตะวัน
ตอน 4 ไวท์ เดย์ซี่
" โอ้โห! บ้านแกแจ่มจริงๆ เลยวะ " เจมส์มองภายในบ้านของโยด้วยแววตาที่เปล่งประกาย
" ยินดีต้อนรับกลับบ้านครับคุณหนู " ลุงแก่คนหนึ่งเดินเข้ามาต้อนรับ
" อืม... เวิร์ด ช่วยพาเพื่อนๆ ของฉันไปที่พักรับรองด้วยนะ " โยพูดจบก็เดินไปขึ้นบันไดไป
" ครับ เชิญทางนี้เลยครับทุกคน " นายเวิร์ดเดินนำไปด้านซ้ายของบ้าน
" ทุกคนงานเอาไว้พรุ่งนี้ดีกว่านะ ตอนนี้มันก็เย็นแล้ว " เรย์พูดไปเดินไปตามทางที่เวิร์ดนำทาง
" ดีเลยเรย์ ฉันจะออกไปช๊อปซักหน่อย " เดียร์พูดอย่างดีใจ
" เดี๋ยวฉันไปด้วยสิเดียร์ " แคร์ถามเดียร์แล้วยิ้มให้
" อืมๆ ดี ฉันได้มีเพื่อนไปด้วยเลย ซันกับเจมส์ก็ไปด้วยกันสิ "
" มีเพื่อนไปช่วยถือของนะสิไม่ว่า " เจมส์บ่นพึมพำ
" เมื่อกี้นายว่าไงนะ เจมส์ " เดียร์ถามเหมือนว่าจะได้ยิน
" เอ่อ... คือ... ฉันพูดว่าไปกันหลายคนก็คงสนุกดีน่ะ " เจมส์พูดติดๆ แล้วแกล้งทำเป็นหัวเราะเบาๆ
" ช่ายยย สนุกแน่นๆ " เจมส์เงียบทันทีเมื่อเดียร์พูด
" ซวยเลยวะซัน "
ทุกคนเดินมาถึงห้องพักซึ่งมีอยู่หลายห้องมาก ห้องหนึ่งสามารถนอนได้ถึงสองคน เมื่อเข้ามาในห้องแสงสีส้มอ่อนๆ จากไฟที่ติดกับผนัง ทำให้รู้สึกอ่อนอุ่นใจ
" โหหห! สุดยอด! ยังกับห้องพักในโรงแรมเลยนะเนี่ย "
" เฮ้ยๆ เจมส์ ลูกตานายจะหลุดแล้ว " ซันล้อ
" แคร์กับเดียร์นอนอีกห้องหนึ่ง ส่วนฉันจะอยู่คนเดียวแล้วกัน " เรย์พูดกับทุกคนจบ ก็เดินแยกออกไปอีกห้องหนึ่ง
เมื่อทุกคนจัดของกันเสร็จออกมาเรียกโยให้มาด้วยกันแต่ โยบอกไม่อยากไปไหนทุกคนเลยออกไปเที่ยวกันเอง จากบ้านของโยเดินออกไปอีกประมาณครึ่งกิโล ก็ถึงตลาดใหญ่ ทุกคนพาก็เที่ยวดูของไปมาอย่างสนุก จนเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว ทุกคนก็กลับมาที่บ้านโย
" เฮ้อออ เที่ยวซะเหนื่อยเลยรีบไปอาบน้ำดีกว่า "
" พวกเราไม่เหนื่อยเลยเนอะยัยเดียร์ ต้องแบกของมาเนี่ย "
" อย่าบ่นเลยน่าซัน เดี๋ยวคราวหน้าฉันจะช่วยนายทำรายงานให้ "
" จริงหรอ พูดแล้วนะ อย่างงี้ค่อยมีกำลังใจหน่อย "
" อาหารเสร็จแล้วครับ เชิญไปทานกันได้ครับ " เวิร์ดเดินเข้ามาพูดแล้วพาทุกคนไปที่ห้องอาหาร ซึ่งโยก็รออยู่ที่นั้นแล้ว
" อื้ม! บ้านนายทำอาหารอร่อยมากเลยโย ขออีกจานดิ "
" เฮ้ย ค่อยๆ กินก็ได้เจมส์เต็มปากเชียว เห็นแล้วอยากอ้วก " แคร์พูด เมื่อทุกคนอิ่มกันแล้วก็พากันไปนอนที่ห้องตนเอง...
เช้าวันต่อมาเรย์ตื่นมาล้างหน้าที่ข้างล่างที่พัก ก็เห็นโยถือช่อดอกไม้เข้าไปในสวนดอกไม้ด้านข้างที่พัก เรย์แปลกใจจึงเดินตามไป สิ่งที่เรย์เห็นอยู่คือ ป้ายหลุมศพป้ายหนึ่งอยู่กลางสวนแสงที่รอดเข้ามาจากต้นไม้ใบใหญ่ที่ให้ร่มเงาแก่สวน เข้ามาสะท้อนไปที่ป้ายถึงเรย์จะยืนอยู่ไกลก็รู้ได้ว่าป้ายนั่นเขียนไว้ว่า" แมรี่ มาเชล "
" เรย์หรอ " โยพูดโดยที่มองป้ายหลุมศพอยู่
" อะ อืม... " เรย์พูดติดๆ แล้วเดินเข้าไปใกล้โย
" โย... คนนี้... "
" เธอเป็นแม่บ้านของที่นี่พ่อกับแม่ของฉันไม่ค่อยได้กลับมาเลยจ้างแกมาคอยดูแลฉันเธอคอยปกป้องฉันเวลาเกิดอันตรายตลอดเวลาเธอเป็นเกือบทุกอย่างที่ฉันอยากจะทำ ทั้งหมดอยู่ภายในใจฉันแค่นี้ก็ดีแล้ว" พูดแค่นี้ ความเงียบก็เกิดขึ้นนอกจากเสียงจากสายลมที่มาโบกพักใบไม้ใบหญ้าฟังดูอ่อนโยน
" เธอชอบดอก ไวท์ เดย์ซี่ มากฉันจึงเอามาให้ทุกเดือน " โยเริ่มพูดอีก
" เธอคงมีความสุขนะ " เรย์พูด
" ใช่... มีความสุข " โยพูดจบก็กำหมัดแน่น
" เอาละ... รีบไปหาเพื่อนๆ กันดีกว่า " โยหันมายิ้มให้เรย์
เมื่อทุกคนอยู่กันพร้อมหน้าก็เริ่มปรึกษาเรื่องงานกลุ่มกัน
" เอาละ จากบ้านของโยเนี่ย ก็คงจะทีดอกไม้อยู่ไม่เกิน 40 กว่าชนิดได้ "
" งั้นพวกเราต้องแบ่งกลุ่มกันไปหารายชื่อมาแล้วละเดี๋ยวฉันกับเดียร์ไปสวนทางเหนือเอง " ซันพูดเสนอ
" งั้นฉันกับเจมส์จะไปด้านซ้ายแล้วกัน " แคร์เสนอ
" ฉันกับโย จะลองไปหาด้านขวานะ " เรย์พูด
" เอ่อเรย์ เรายังไม่ได้ตั้งชื่อกลุ่มเลยนะ " เดียร์หันไปถามเรย์
" งั้นหรอ ชื่อกลุ่ม... ไวท์ เดย์ซี่ ดีไหม "
" ไวท์เดย์ซี่ ก็เพาะดีนะ งั้นกลุ่มเราชื่อ ไวท์เดย์ซี่ แล้วกันนะ เอาละปฏิบัติงานได้เลย! " แคร์พูดให้กำลังใจทุกคน...
23 เมษายน 2548 06:50 น.
ฟ้าตะวัน
ตอน 3 ออกเดินทาง
เช้าวันจันทร์ แคร์ โย เรย์ ซัน เจมส์ ได้มาเจอกันตามที่นัดกันไว้
" ทำไมยัยเดียร์ไม่มาอีกละ " ซันหันไปถามแคร์
" ฮึ! คงตื่นสายอื่นละสิถ้า " ว่าแล้วแคร์โทรเข้าเบอร์เดียร์
" เอ้ย เจมส์ ทายดูมั๊ยว่า เดียร์มันจะตื่นยัง " ซันหันไปถามเจมส์
" ก็คงเพิ่งจะตื่นละมั่ง "
" ฮาาา โหลลล ... " และแล้วก็ได้ยินเสียงพูดของเดียร์
" ยัยบ้า! นี่เพิ่งตื่นหรือไง ทุกคนมารอกันที่หน้าสถานีแล้วนะ "
" อ้าวหรอ โทษทีๆ จะรีบไปเดี๋ยวนี้แหละ "
" หนึ่งแต้มมมม ! " เจมส์พูดลากเสียงแล้วชูหนึ่งนิ้วให้กับซัน
อีกครึ่งชั่วโมงต่อมาก็เห็นเดียร์วิ่งมาที่นัดหมายโดยแบกกระเป๋าใบใหญ่มาสามใบ แต่ที่จริงมีอยู่สองใบที่ไม่ได้ใส่อะไรไว้
" ช้าตามเคยนะ ยัยเฉื่อย " แคร์เริ่มบ่น
" เอาน่าๆ มากันพร้อมแล้วก็ไปกันเถอะ " เรย์รีบชิงพูดก่อนเดียร์
เมื่อคนมากันครบก็เดินไปซื้อตั๋วติดกันแล้วขึ้นไปนั่งบนรถไฟ
" นี่ฉันเพิ่งเคยนั่งรถไฟครั้งแรกเลยนะเนี่ย " เจมส์พูดด้วยความตื่นเต้น
" นี่ เดียร์ทำไมเธอเอา กระเป๋ามาตั้งสามใบเลยละ " เรย์ถาม
" เอ้ยเจมส์... ทายกันสิว่า เดียร์เอากระเป๋ามาทำไมเยอะ " ซันกระซิบเจมส์ ที่นั่งอยู่ข้างซ้ายซึ่งด้านขวาคือโยที่กำลังมองออกไปนอกหน้าต่าง
" ไม่รู้ดิ สงสัยเอามาอวดว่าบ้านรวยมั่ง " เจมส์กระซิบตอบ
" ฉันว่าคงเอาว่าเพื่อใส่ของฝากแน่เลย " ซันบอกเจมส์
" แหม นานๆ ทีฉันจะได้ไปเที่ยวไหนบ้างก็กะจะซื้อของพวกเสื้อหรือกางเกงลายสวยๆ เอาไว้ใส่นะจ๊ะ " เดียร์ตอบเรย์ที่นั่งอยู่ข้างซ้าย
" เสมอแล้วโว้ยยยย " ซันบอกเจมส์เสียงดังจนทุกคนได้ยิน
" อะไรเสมอกันหรอ ซัน " แคร์ถามด้วยความงง
" ป่าวๆ ไม่มีอะไร "
รถไฟแล่นไปตามรางเรื่อยๆ ตามข้างทางที่เต็มไปด้วยทุ่งนาที่ เขียวชะอุ่มอันกว้างใหญ่ เห็นหมู่นกบินไปมาอย่างเพลิดเพลิน ทุกคนก็หลับไปโดยไม่รู้ตัวจนถึงจุดหมายปลายทาง ทุกคนก็ลงจากรถไฟ
" เฮ้อ ถึงซักทีเมื่อยจริงๆ เลย แล้วต้องไปไงต่อละโย " เจมส์ถาม
" ต้องเดินไปท่ารถ แล้วจ้างรถพาเราขึ้นไป " โยอธิบายทุกคนฟัง
" ขึ้นไป ? ขึ้นไปไหน " เรย์ถาม
" ต้องขึ้นเนินสูงไปประมาณ 10 กิโล "
" บ้านแกอยู่บนเขาหรือไงวะ " ซันพูดไปหัวเราะไป
" ก็ไม่เชิงน่ะ เอาละไปขึ้นรถก็เถอะ " ซันหยุดหัวเราะ
ทุกคนนั่งรถโดยสาร ซึ่งกำลังพาขึ้นไปบ้านของโย ...
23 เมษายน 2548 06:45 น.
ฟ้าตะวัน
ตอน 3 ออกเดินทาง
เช้าวันจันทร์ แคร์ โย เรย์ ซัน เจมส์ ได้มาเจอกันตามที่นัดกันไว้
" ทำไมยัยเดียร์ไม่มาอีกละ " ซันหันไปถามแคร์
" ฮึ! คงตื่นสายอื่นละสิถ้า " ว่าแล้วแคร์โทรเข้าเบอร์เดียร์
" เอ้ย เจมส์ ทายดูมั๊ยว่า เดียร์มันจะตื่นยัง " ซันหันไปถามเจมส์
" ก็คงเพิ่งจะตื่นละมั่ง "
" ฮาาา โหลลล ... " และแล้วก็ได้ยินเสียงพูดของเดียร์
" ยัยบ้า! นี่เพิ่งตื่นหรือไง ทุกคนมารอกันที่หน้าสถานีแล้วนะ "
" อ้าวหรอ โทษทีๆ จะรีบไปเดี๋ยวนี้แหละ "
" หนึ่งแต้มมมม ! " เจมส์พูดลากเสียงแล้วชูหนึ่งนิ้วให้กับซัน
อีกครึ่งชั่วโมงต่อมาก็เห็นเดียร์วิ่งมาที่นัดหมายโดยแบกกระเป๋าใบใหญ่มาสามใบ แต่ที่จริงมีอยู่สองใบที่ไม่ได้ใส่อะไรไว้
" ช้าตามเคยนะ ยัยเฉื่อย " แคร์เริ่มบ่น
" เอาน่าๆ มากันพร้อมแล้วก็ไปกันเถอะ " เรย์รีบชิงพูดก่อนเดียร์
เมื่อคนมากันครบก็เดินไปซื้อตั๋วติดกันแล้วขึ้นไปนั่งบนรถไฟ
" นี่ฉันเพิ่งเคยนั่งรถไฟครั้งแรกเลยนะเนี่ย " เจมส์พูดด้วยความตื่นเต้น
" นี่ เดียร์ทำไมเธอเอา กระเป๋ามาตั้งสามใบเลยละ " เรย์ถาม
" เอ้ยเจมส์... ทายกันสิว่า เดียร์เอากระเป๋ามาทำไมเยอะ " ซันกระซิบเจมส์ ที่นั่งอยู่ข้างซ้ายซึ่งด้านขวาคือโยที่กำลังมองออกไปนอกหน้าต่าง
" ไม่รู้ดิ สงสัยเอามาอวดว่าบ้านรวยมั่ง " เจมส์กระซิบตอบ
" ฉันว่าคงเอาว่าเพื่อใส่ของฝากแน่เลย " ซันบอกเจมส์
" แหม นานๆ ทีฉันจะได้ไปเที่ยวไหนบ้างก็กะจะซื้อของพวกเสื้อหรือกางเกงลายสวยๆ เอาไว้ใส่นะจ๊ะ " เดียร์ตอบเรย์ที่นั่งอยู่ข้างซ้าย
" เสมอแล้วโว้ยยยย " ซันบอกเจมส์เสียงดังจนทุกคนได้ยิน
" อะไรเสมอกันหรอ ซัน " แคร์ถามด้วยความงง
" ป่าวๆ ไม่มีอะไร "
รถไฟแล่นไปตามรางเรื่อยๆ ตามข้างทางที่เต็มไปด้วยทุ่งนาที่ เขียวชะอุ่มอันกว้างใหญ่ เห็นหมู่นกบินไปมาอย่างเพลิดเพลิน ทุกคนก็หลับไปโดยไม่รู้ตัวจนถึงจุดหมายปลายทาง ทุกคนก็ลงจากรถไฟ
" เฮ้อ ถึงซักทีเมื่อยจริงๆ เลย แล้วต้องไปไงต่อละโย " เจมส์ถาม
" ต้องเดินไปท่ารถ แล้วจ้างรถพาเราขึ้นไป " โยอธิบายทุกคนฟัง
" ขึ้นไป ? ขึ้นไปไหน " เรย์ถาม
" ต้องขึ้นเนินสูงไปประมาณ 10 กิโล "
" บ้านแกอยู่บนเขาหรือไงวะ " ซันพูดไปหัวเราะไป
" ก็ไม่เชิงน่ะ เอาละไปขึ้นรถก็เถอะ " ซันหยุดหัวเราะ
ทุกคนนั่งรถโดยสาร ซึ่งกำลังพาขึ้นไปบ้านของโย ...