14 กุมภาพันธ์ 2550 12:26 น.
ฟา
สวัสดีพี่ชายสุดหัวใจ
คุณทราบหรือไม่คะหัวใจแสนดีสำหรับน้องผู้อ่อนล้า
ตลอดเวลาที่ราวกับเนิ่นนานนั้นหายเงียบไปไหนกันแน่ ที่สุดของความแน่นอน
ของหัวใจน้องความเงียบที่หายไป เต็มไปด้วยความทรมานแห่งกายหยาบและ
หัวใจน้องที่ปรารถนาจะให้มันละเอียดค่ะ
โรคความป่วยไข้เข้ารุมเร้าอย่างเคย จะเรียกแบบบ้าน ๆ คงจะว่าได้ว่าน้องนี้
ถูกรุมกินโต๊ะ แม้ไม่ใช่โรคเก่าอันพร้อมกำเริบ แต่ก็เป็นโรคใหม่ที่สุดแสนจะ
ใจดี ในการนำพาความเจ็บปวดทรามานมาให้อย่างต่อเนื่องห้าวันเต็มแรกนั้น
น้ำแดง ๆ ขุ่นบ้าน ใสบ้าง เป็นก้อนบ้าน แข่งกันออกจากทางหายใจบนหน้าซีด
ๆ ของน้องอย่างต่อเนื่อง หากเป็นเพียงแค่นั้นคงไม่กระไรนัก แต่แน่หละ
เมื่อจะใจดีนำพาความทุกข์แห่งร่างกายมาแล้ว ก็ต้องให้ครบกระบวนพลสินะคะ
น้องจากน้ำสีแดง ก็พร้อมมาด้วยการปวดลึกขึ้นไปถึงส่วนสั่งการของร่างกาย
การหายใจก็ลำบากมาก โดยเฉพาะเวลาที่ไม่มีดวงตะวันประดับฟ้าแล้ว
ความทรมาที่ต้องเก็บเงียบอยู่กับตัวเองมาตลอด ยังความสลดหดหู่ใจอย่างต่อ
เนื่อง สภาพที่ทุลักทุเลก็ทุเรศทุรังหนักไปยามพ้นตาคนอื่น
พอพ้นช่วง ก็ได้ของขวัญรับความพ้นทุกข์ อย่างทันท่วงที
กล้ามเนื้อหลังได้รับการกระทบกระเทือนจนเรียกได้ว่ากลับมาทรมานอีก
ที่เป็นกังวลที่สุดคือกระดูกสันหลังที่เคยเจ็บมาก่อนหน้า แต่ของขวัญชิ้นนี้
ก็ยังย่อมอยู่ไม่ใหญ่จัดนัก เพราะไม่ได้ลามไปถึงแกนสำคัญของร่างกาย
ตอนนี้กายหยาบของน้องพี่ แทบไม่ต่างจากกระดูกชิ้นใหญ่ ๆ มาต่อกัน
โดยมีหนังซีด ๆ ห่อหุ้มอยู่ พี่คะน้องอยากมีคนรักที่คอยอยู่ข้าง ๆ ยามนี้จัง
ดูจะโลภมากเกินไปไหมคะ
อ้อ...หัวใจแสนรักอาจจะมีคำถามเรื่องงาน ออกก่อนจะเจ็บหนักตรงท่อ
หายใจหละค่ะ
ตอนนี้ทำอะไรได้ด้วยการเก็บกดความเจ็บ(อย่างเคย)ได้ไม่ต่างไปจาก
คนปรกติแล้ว เรื่องงานไม่นานนักจะเข้าทำงานที่ที่ใหม่ค่ะ ดูท่างานจะมากกว่า
เคยหลายเท่าตัว แต่ใจพร้อมค่ะ แม้กายจะไม่อำนวยตลอดเวลาก็ตาม
แต่น้องยึดหลัก ให้ใจลากสังขารไป
พี่คะ จริง ๆ น้องปรารถนาที่จะบอกกับพี่ทุกวันอย่างเคย มิใช่แค่วันนี้
เท่านั้น น้องรักพี่ค่ะ ขอบคุณวาสนาการพบกันที่พี่บอก น้องไม่เคยสักครั้ง
ที่จะนึกขบขันในคำพี่ ตอนนี้น้องขอพักก่อนนะคะ