19 มิถุนายน 2550 09:07 น.
ฟา
หลงในรักมักร้าวเมื่อคราวร้าง
โลกอ้างว้างเกินดำรงใจอยู่ได้
ดั่งสิ้นแล้วทุกสิ่งทุกอย่างไป
ราวกับกายตายไปไร้ชีวา
เมื่อแรกรักลุ่มหลงประสงค์ชิด
รื่นเริงจิตพิศสมัยเป็นหนักหนา
เป็นอย่างไรล้วนเลิศเลอจนล้นตา
ไม่มีใครเทียบหน้ามาเท่าทัน
แต่เมื่อเริ่มห่างร้างเสน่ห์หาย
สิ่งใดใดถึงเหมือนเก่าไม่แปรผัน
กลับมีเหตุสารพัดสารพัน
ยกมาอ้างระหว่างกันเพื่อเลิกลา
เป็นเพราะหลงนำหน้าคำว่ารัก
ใจจึงตกลงปลักความโหยหา
ต้องการรักเหลือล้นทุกเวลา
มิเว้นว่างปรารถนาเรื่องส่วนตัว
จนถึงวันถึงคราวที่ตึงเต็ม
ความข้นเข้มในรักก็เริ่มรั่ว
ค่อยไหลออกทุกทางที่เคยกลัว
แก้กลับมั่วเป็นยั่วยุให้แยกไว
หากไม่รักคงไม่ทรมา
น้ำสองตาคงยากที่รินไหล
แต่รักแล้วรักเถิดให้เติมใจ
เพียงรักให้เข้าใจไม่หลงทาง
19 มิถุนายน 2550 08:53 น.
ฟา
เสียงลมพัดกระทบพราวน้ำฟ้า
พร้อมน้ำตารินร่วงไม่ขาดสาย
คิดถึงคำเคยอุ่นยามอิงกาย
ค่ำคืนนี้กลับห่างหายเกินสายตา
เจ้าของถ้อยเอ่ยเอื้อนเมื่อเยือนบ้าน
น้ำคำขานส่งเสียงพร่ำเรียกหา
ยินหรือเปล่าโปรดตอบคำฝากลมมา
คนปวดปร่าน้ำในตากำลังริน
ห่างแสนห่างสุดห่วงใยไม่มีหาย
ขอเพียงกายนะเท่านั้นที่สุดสิ้น
หนึ่งดวงจิตสุดที่รักหากได้ยิน
โปรดโบยบินสู่ฟ้าตรงตารอ
15 มิถุนายน 2550 09:12 น.
ฟา
คืนฟ้าดับดาวสว่างพราวพร่างฟ้า
หันมองตาดาววับพอจับได้
แสงที่ส่องเคียงข้างกลางคืนใจ
ดังแววดาวบนฟ้าไกลในราตรี
คอยเคียงอุ่นบนตักยอดรักยิ่ง
อิงแอบนิ่งซบหน้าไว้ไม่เบือนหนี
สัญญารักพลอดค่ำช่ำฤดี
บทกวีใดจะซึ้งเท่าหัวใจ
นั่งเคียงดาวข้างใจบนดาดฟ้า
น้ำค้างพรมชื้นมาไม่หนาวไหว
เมื่อมีรักห่มล้อมทั้งกายใจ
ก็อุ่นอบอวลไปจนดาวลา