14 กุมภาพันธ์ 2550 12:00 น.
ฟา
โปรดพินิจพิศให้หนักในหญิงหนึ่ง
หาสวยซึ้งเกินนางใดในโลกหล้า
ถ้อยสรรเสริญเกินอาจเอื้อมในราคา
หากริรับเกรงใจว่าดูกล้าเกิน
เพียงมองเผินมิผุดผาดผงาดเด่น
ดั่งวงจันทร์อันแจ่มเจนไร้เก้อเขิน
ถึงมองนานก็หางามจนพาเพลิน
เช่นเพชรค้ากลางเนินบนปลายคา
แม้กลิ่นหวนชวนหอมให้ใหลหลง
มิอาจเทียบพงพฤกษ์ที่สูงค่า
เป็นเพียงเศษน้อยนิดที่มีมา
ตามประสามาลีป่าค่าไม่ตี
ยิ่งโยกย้ายจากถิ่นสู่เมืองใหญ่
กลิ่นมิอาจกำจายได้เกินที่
ด้วยพฤกษาผกาพันธุ์สูงมากมี
จงพิเคราะห์ถ้วนถี่สุดปลายตา
ใช่จะไร้ความเชื่อถ้อยคำเอื้อน
เจตนาเปล่าจะเฉือนใจสูงค่า
เพียงวอนเว้าเจ้าของแห่งวาจา
โปรดทบทวนยอดปรารถนาให้แน่ใจ
ด้วยหนึ่งหญิงที่จิตหวังรัดเกี่ยว
หาโฉบเฉี่ยวเฉิดฉายเช่นหญิงไม่
ตรองให้หนักอย่าด่วนได้จนเกินไป
ด้วยสิ่งใดพ้นไปได้อาจคืส
ความเป็นหญิงหาพอไม่จะให้รัก
คุณสมบัติมิพร้อมพักคงเป็นอื่น
ให้เวลาตนเสียก่อนอย่าซุนฟืน
พระเพลิงรักอาจห่มคลืนเกินตื่นมา
น้ำมิตรใสที่มอบเพื่อกอบเก็บ
มิใช่ก่อเพื่อความเจ็บในวันหน้า
น้ำใจอุ่นหาใช่หลอกจะตรึงตรา
หวังเพื่อฆ่าวันข้างหน้าถ้าพอใจ
น้ำใจหญิงอย่างฉันกับวันนี้
หาใช่ใจสตรีบนบอนไหว
ฤ เป็นเพียงน้ำค้างพราวเต็มราวไพร
ที่หวังดื่มให้ชื่นใจไม่ได้จริง
หนึ่งคำเพียงเหตุผลของความคุ้น
มิตรภาพเพื่อนอบอุ่นครอบทุกสิ่ง
หากเป็นเพื่อนรักได้ตายแทนจริง
แต่คนรักคือทุกสิ่งของความกลัว
หญิงที่ขาดความรักความอบอุ่น
อาจมองคว้าหาให้วุ่นจนเวียนหัว
ส่วนใจนี้ยอมรับว่าหลอมตัว
อยู่กับความกร้าวกระด้างจนทั่วใจ
ในเมืองใหญ่ดอกไม้ไพรหากมองผาด
คุณก็อาจเข้าใจผิดพลาดได้
ปรารถนาเห็นคุณสุขใช่อื่นไป
โปรดพิจารณาเสียใหม่ให้คู่ควร
14 กุมภาพันธ์ 2550 11:29 น.
ฟา
สวัสดีเจ้าดาวดวงน้อยของแม่
เจ้าคือเนื้อใจแท้ที่รวมหวัง
แรงทั้งกายแม้ชีพวายขอเจ้ายัง
ส่งเสียงดังดั่งน้ำทิพย์ประพรมทรวง
ร่างทั้งสรรพรางค์กายไหวสะท้าน
ทั้งเชิงกรานเกร็งร้าวราวแตกร่วง
ตาลายพราวไม่สำเนียกเสียงทั้งปวง
จิตแทบดับ สิ้นเป็นห่วงได้ฉันใด
เจ้าแดงน้อยตัวนิดขอพิศเจ้า
อย่ากระเง้างอดเอาเถลไถล
ออกมาเถิดแสนรักยื้ออยู่ใย
ทุกหัวใจต่างรอเจ้ากระจ่างตา
จักนานเนิ่นเกินไหวหรือไม่หนอ
จิตจะรอให้เห็นในปรารถนา
พยานรักสุดใจโปรดเวทนา
พยามออกให้พบหน้านะเด็กดี
๒๐.๕๒ น.
๑๓ กุมภา... ๒๕๕๐