22 ตุลาคม 2547 09:03 น.

เสี้ยวหนึ่งของมิตรภาพ

ฟา

เสี้ยวหนึ่งของมิตรภาพ
ทุกคนรู้ว่า
               โลกใบนี้มีผู้คนมากมายแค่ไหน  สามารถที่จะหาจำนวนประชากรเป็นตัวเลขได้ค่อนข้างชัดเจน 

 แต่ 
ทุกคนจะรู้ไหมว่า  บนโลกใบนี้  เราจะได้พบเจอใครบ้าง  ชีวิตของเราจะมีเพื่อนมากน้อยกี่คน  ในแต่ละวันเราจะพบกับคนกี่คนใครบ้าง  ในคนเหล่านั้นเราจะพบกับมิตรบ้างไหม  ถ้าพบเราจะพบกี่คนกันล่ะ แน่หละในคนมากมายที่เราต้องพบทุกวันนั้นน้อยคนนักที่จะต้องการให้เขาหรือใครเหล่านั้นปฎิบัติต่อเราอย่างอมิตร  

เพราะนั่นไม่ใช่สิ่งที่คนส่วนมากกระหายจะได้พบแน่  แต่ก่อนที่เราจะได้รู้ว่าคนมากมายที่ได้พบกันนั้นจะเป็นแค่เพียงคนรู้จักหรือมิตร  เขาเหล่านั้นก็เริ่มต้นกับเราจากการเป็นคนไม่รู้จักกันทั้งนั้น  บางครั้งบางคนที่เรายังไม่ได้ทำความรู้จักกับเขาเพียงแค่ผ่านกันไปมา  อาจแค่คุ้นสายตากัน  เขาอาจเป็นมิตรที่ดีกับเราก็ได้ถ้าเราหยิบยื่นไมตรีต่อกัน  หากในไมตรีที่ยื่นไปได้รับการตอบรับมา  มิตรภาพก็จะค่อย ๆ  ก่อตัวขึ้น  แล้วสถานการณ์และเวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์ความเป็นไประหว่างมิตรภาพของทั้งสองฝ่าย  ในทางตรงข้ามหากไมตรีนั้นไม่ได้รับการตอบรับหรือถูกปฏิเสธ  เราก็ไม่เซ้าซี้หรือยัดเยียดในไมตรีนั้น 

แต่
ทำไมหนอ.. ถึงมีคนมองข้ามคนแปลกหน้าไป  มันไม่ใช่เรื่องแปลกประหลาดอะไรกับการทำเช่นนั้น  พอ ๆ  กับการยื่นความเป็นอมิตรให้กับคนที่เราไม่รู้จัก  มันเป็นสิ่งที่สามารถเกิดขึ้นได้

แต่ 
สิ่งที่ทำนั้นมันจะมีประโยชน์อะไรกันเล่า  ก็ถ้าเมื่อเราไม่ต้องการจะผูกมิตร  มองเขาเพียงผ่านตา  แค่คนผ่านมาเท่านั้นไม่ดีกว่าหรือ  เหตุผลใดที่ต้องสร้างเรื่องราวให้ขุ่นข้องขวางไมตรีต่อกันเช่นนั้น

ทุกคนมีความขัดแย้งกัน  แม้แต่ความสัมพันธ์ระหว่างมิตรแท้กับมิตรแท้  ก็มิใช่จะมีแต่ความลงตัวไปซะทุกเรื่อง  ถึงตัวของเราเองก็ตามยังมีความขัดแย้งอยู่ภายในด้วยซ้ำไป  แต่มันไม่ใช่ปัญหาใหญ่โตอะไร  ถ้าเราไม่ทำให้มันใหญ่เกินกว่าที่เราจะควบคุมมันได้  แล้วประสาอะไรกับคนที่เพิ่งเริ่มเดินสู่ถนนสายมิตรภาพด้วยกัน  หรือคนที่ยังไม่ก้าวเข้าไปสู่ถนนเส้นนั้นด้วยกัน  

บางครั้งบางคนเริ่มต้นด้วยความขัดแย้งกัน  แต่นั่นไม่ใช่สิ่งชี้ขาดว่าระหว่างเขาหรือเธอทั้งคู่จะไม่สามารถเป็นมิตรที่ดีต่อกันได้  ความขัดแย้งกัน  ไม่พอใจกัน  ความรู้สึกที่เป็นลบที่เกิดขึ้นนั้น  เราต้องทราบว่ามันเกิดจากอะไร  เพราะเมื่อมีผลเป็นไปไม่ได้ที่จะไม่มีเหตุ  แล้วเมื่อเราพบเหตุนั้นแล้วเรามีส่วนร่วมแห่งเหตุนั้นก็ควรจะมีส่วนร่วมในการแก้ไขมันบ้าง  ถึงจะมีความคิดที่ว่า   ฉันไม่เห็นแคร์  ถึงจะไม่อยากสร้างมิตรภาพต่อกัน  

และถึงแม้จะไม่ใส่ใจว่าใครจะคิดมองเราแง่ลบอย่างไรบ้าง  ก็ไม่มีความจำเป็นอะไรที่เราจะต้องไปทำให้ความรู้สึกของคนอื่นขุ่นข้อง  แม้จะเป็นคนที่เราไม่รู้จักก็ตาม  เพราะไม่มีอะไรประกันได้บนโลกกลม ๆ  ใบนี้ว่าเราจะไม่ถูกแรงเหวี่ยงของมันพาให้เราได้กลับมาเจอกันอีกตลอดกาล

การเอ่ยคำขอโทษ  ไม่ใช่เรื่องน่าอาย  
คำขอโทษเพียงประโยคเดียวอาจเปลี่ยนแปลงอะไรได้มากกว่าที่เราคิด
การที่เรารู้ข้อบกพร่อง  หรือสิ่งที่กระทำล่วงเกินผู้อื่นแล้วปรับปรุงให้ดีขึ้น  ไม่ใช่เรื่องของการเสียฟอร์ม
ถ้าเราเป็นคนมีอีโก้สูง  และยอมรับในบางสิ่งบางอย่างไม่ได้
ก็พยามอย่าทำอะไรที่ทำให้ต้องกลับมาแก้ทีหลัง
คนเราหลงลืม  พลาดพลั้งกันได้
แล้วเมื่อรู้เราควรจะทำเช่นไร
คำตอบมันมีอยู่
เพียงแต่เรา
จะกล้าพอไหม
ที่จะใช้มัน!

               ~~ ขุ่นข้องหมองหมางเรื่องใดมิ่งมิตร	    
                โปรดจงคิดใคร่ครวญอย่าด่วนหาย
                  ยังอยากเห็นเธออยู่จนชีพวาย
                   แล้วจะหายห่างไปไม่ว่ากัน 
                         อย่าให้เป็นเพราะความไม่เข้าใจ
                   ทำให้ใจของมิตรขาดสะบั้น
                    มีสิ่งใดพลาดผิดทำต่อกัน     
                    ต่างขอโทษฉับพลันเพื่อไมตรี~~				
18 ตุลาคม 2547 17:11 น.

สงสารหัวใจฉันบ้าง~

ฟา

สงสารหัวใจฉันบ้างนะคนดี
อย่าเงียบไปแบบนี้จะได้ไหม
รู้หรือเปล่าว่าใครเขาเฝ้าห่วงใย
ต้องทุกข์ใจเมื่อเธอไม่ส่งข่าวมา
   เราไกลกันขอแค่ตัวจะได้ไหม
อย่าต้องให้หัวใจไกลเลยหนา
แม้ไม่อาจได้เคียงใกล้สบนัยตา
ก็โปรดอย่าทรมา-ฆ่าหัวใจ
   เพราะตัวฉันนั้นไม่อาจจะมากรัก
ด้วยแน่นหนักรักเธอไม่หวั่นไหว
ถึงใครเขาจะว่าเราโง่อย่างไร
ให้ต่อว่ากันไปไม่เคยแคร์
   จึงอยากให้คนดีที่ฉันรัก
อย่าทรมานกันหนักกับรักแท้
เพราะไม่มีวันที่ฉันจะผันแปร
แม้หัวใจจะอ่อนแอสักเพียงใด
   ขอเพียงแค่ส่งข่าวคราวมาบ้าง
อย่าปล่อยให้อ้างว้างนานได้ไหม
ภาระกิจรัดตัวหรือเป็นไร
ก็บอกกล่าวกันได้นะคนดี
   เป็นเพราะเธอคือครั้งแรกของใจรัก
จึงไม่คุ้นเคยนักกับแบบนี้
พอเธอห่างก็หวั่นในใจทุกที
เพราะรักมากนะคนดีอย่าโกรธไป
				
16 ตุลาคม 2547 17:54 น.

~วันนี้ที่พี่ลา~

ฟา

   ถึงเวลาแล้วสินะที่ต้องจาก
ทำใจลำบากจังพี่รู้ไหม
ยามที่เรือลอยลำไกลออกไป
โบกมือให้น้ำตาไหลซะทุกที
   พี่เคยบอกให้ไม่ต้องคิดมาก
ไม่ได้ไปลำบากเป็นหน้าที่
เราเป็นน้องนายเรือควรยินดี
เดี๋ยวนานไปกว่านี้ก็ชินเอง
   พี่ไม่อยู่เราก็ต้องเข้มแข็ง
อย่าให้ใครมาแกล้งมาข่มเหง
แต่ไม่ใช่ให้วางโตเป็นนักเลง
เที่ยวอวดเบ่งรังแกรังควานใคร
  เขาจำได้ดีอยู่ไม่ต้องย้ำ
พี่ก็ต้องทำตัวแข็งแรงรู้ไหม
สองเดือนนี้ถ้าป่วยไข้เป็นอะไร
เขาห่วงนะรู้ไหมพี่ชายตัวดี				
13 ตุลาคม 2547 17:39 น.

..เดินหน้า..พระราชนิพนธ์ของ...พลเรือเอกพระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์

ฟา

     เกิดมาทั้งทีมันก็ดีอยู่แต่เมื่อเป็น  อีกสามร้อยปี

ก็ไม่มีใครจะเห็น  ใครจะนึกใครจะฝัน

เขาก็ลืมกันเหมือนตัวเล็น  ครั้นนานไปเขาก็ลืม

ใครหรือจะยืม  ชีวิตให้เป็น  ใครจะเห็นก็จะเห็นแต่น้ำใจ

จำได้แต่ชื่อว่าตัวเราคือทหารเรือไทย  ตายแต่ตัว

ชื่อยังฟุ้งทั่วทั้งกรุงก็ไม่ลืมได้

     (สร้อย)  ทั้งเซาท์  ทั้งเวสต์  ทั้งนอร์ท  ทั้งอีสต์

จะคิดถึงตัวเราใย  จะต้องตายทุกคนไป

ส่วนตัวเราตายไว้ยืน  ไว้ยืนแต่ชื่อ  ให้โลกทั้งหลาย

เขาลือว่าตัวเราคือทหารเรือไทย

     เกิดมาทั้งที  มันก็มีอยู่แต่ทุกข์ภัย  วันนี้

เคราะห์ดี  รุ่งขึ้นพรุ่งนี้จะเป็นอย่างไร  ดีเคยพบ

ชั่วเคยเห็นจนเคยเป็นมีเคยได้  อนาคตเราไม่รู้

ถึงไม่รู้ก็ต้องเดินไป  กลัวไปใยมันก็ล่วงไปในมันก็ล่วงไปตามเวลา

ไม่ตายวันนี้  มันคงไปซี้เอาวันข้างหน้า  วันนี้ยอพรุ่งนี้ด่า

ไม่ใช่ขี้ข้าขี้ปากของใคร  (สร้อย)


(เกร็ด) พระองค์เจ้าอาภากรฯ ทรงเป็นพระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และทรงถือเป็นพระราชบิดาแห่งทัพเรือไทย.....				
13 ตุลาคม 2547 10:51 น.

ไม่คิดจะคิดถึงกันเลยใช่ไหม

ฟา

ไม่คิดจะคิดถึงกันเลยใช่ไหม     โธ่หัวใจเธอช่างร้ายกับฉัน
เธอลืมเลือนไม่เคยห่วงใยกัน     ปล่อยให้ใครเข้ามาผูกพันมากมาย

เธอหลอกกันให้เอาหัวใจใส่     แต่ทำไมถึงไม่คิดถึงฉัน
กลับหมางเมินห่างเหินไปทุกวัน     เหมือนไม่เคยมีกันและกันที่ผ่านมา

คุณต่อว่าต่อขานฉันต่างต่าง     ที่ปล่อยคุณอ้างว้างและเหว่ว้า
กล่าวหาฉันว่าหลอกคุณที่ผ่านมา     ไม่เคยซึ้งคุณค่าความหวังดี

คุณเข้าใจว่าฉันมีใครใคร     ขณะที่คุณไร้ฉันคนนี้
ฉันทิ้งคุณโดดเดี่ยวไม่ใยดี     แล้วแอบไปมีความสุขกับใครใคร

นี่หรือคุณคนที่บอกรักฉัน     อยากเคียงกันมองฟ้าที่สดใส
นี่หรือคนที่อยากอยู่เป็นเพื่อนใจ     คือคนเดียวที่กำลังใส่ร้ายกัน

ฉันเงียบหายไม่ได้ส่งข่าวคราว     คุณคิดถามบ้างหรือเปล่าเวลานั้น
มีอะไรเกิดขึ้นถึงเงียบงัน     ห่วงไหมว่าฉันกำลังเป็นหรือตาย

คุณประชดประชันเข้าใส่ฉัน     อ้างความห่วงใยกันเป็นความหมาย
แต่คุณรู้ไหมว่ากำลังจะทำลาย     ทำร้ายหัวใจคนที่คุณบอกรัก

ฉันไม่โกรธที่ความจริงคุณไม่รู้     ขอแค่อย่าดูหมิ่นน้ำใจกันนัก
สิ่งดีดีที่เคยทำให้ประจักษ์     มิใช่เพื่อลวงให้มารักกัน

ทุกสิ่งอย่างที่ได้ทำต่างจริงใจ     เปล่าทำไปหวังหลอกให้ไหวหวั่น
ถ้าคุณเบื่อไม่อยากจะเกี่ยวพัน     โปรดปล่อยฉันอย่าทำร้ายกันอีกเลย



***หมายเหตุ***
งานนี้ฟาเคยโพสต์ไว้เมื่อวันที่ 2 ตุลา 47 เวลา 13.31
เพื่อน ๆ  พี่ ๆ  ที่เคยอ่านแล้วคงจำได้....
แต่ว่าตอนนั้นหลุดจากล็อกอิน เลยขออนุญาตโพสต์ใหม่
สำหรับคนที่เคยเข้ามาอ่านแล้วและคลิ๊กเข้ามาอีก...
อ่านแล้วหงุดหงิดก็ขออภัย				
Lovers  0 คน เลิฟฟา
Lovings  ฟา เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟฟา
Lovings  ฟา เลิฟ 0 คน
Lovers  0 คน เลิฟฟา
Lovings  ฟา เลิฟ 0 คน
  ฟา
ไม่มีข้อความส่งถึงฟา