13 ตุลาคม 2547 08:45 น.
ฟา
ตรงเส้นขอบฟ้าที่ตัดกันจำได้ไหม
เราเคยเคียงใกล้มองไปตรงนั้น
ในวันก่อนเก่าที่เรายังผูกพัน
ต่างร่วมสร้างฝันคู่กันอย่างสุขใจ
ยามลมหนาวพัดผ่านเราทุกหน
กายเราสองคนอิงแอบชิดใกล้
เธอโอบกอดฉันเพื่อมอบอุ่นไอ
ฉันกอดตอบไว้เฉกเช่นเดียวกัน
แต่ในวันขอบฟ้าเส้นเก่า
ทำฉันสุดเหงาใจเศร้าไหวหวั่น
กายสั่นสะท้านสะท้อนใจทุกวัน
อยากมีเธอนั้นเคียงกันเหมือนผ่านมา
ลมหนาวมาเยือนย้ำเตือนอีกหน
ยิ่งคิดถึงคนที่ปรารถนา
โปรดรับรู้เถิดทุกทุกเวลา
รอเธอกลับมามองเส้นขอบฟ้าข้างกัน
11 ตุลาคม 2547 09:42 น.
ฟา
ทุกคนต่างมีดวงไฟคนละดวง
มันจะสว่างไสวอยู่ในอวัยวะที่เราสุดหวงคือหัวใจ
ดวงไฟบางดวงแสงก็อ่อนแรงเกินกว่าจะมอบความอบอุ่นใด ๆ แก่เจ้าของได้
ในทางกลับกันดวงไฟบางดวงก็ร้อนแรงปานจะแผดเผาให้หัวใจมอดไหม้เป็นผุยผง
แต่ดวงไฟบางดวงก็มีแสงพอดี ๆ ตามการควบคุมของจิตใจเจ้าของดวงไฟนั้น
แม้ว่าดวงไฟในหัวใจของทุกคน จะมีบางครั้งคราที่โรยแสงเหมือนจะลาจากไปและบางเวลาก็ค่อยลุกโชติช่วงขึ้นอีก เป็นเช่นนี้เรื่อยไป ไม่หยุดหย่อน
ถึงบางครั้งจะหนาวเหน็บเมื่อคราวอ่อนแสง
หรือจะร้อนรนเมื่อดวงไฟนั้นร้อนแรง
มันก็เป็นธรรมดา ไม่ใช่สิ่งแปลกประหลาดอะไร
เพราะเมื่อเจอกับสายลมที่พัดผ่าน หรือม่านฝนที่โปรยปราย ดวงไฟก็ย่อมจะมีปฏิกิริยาต่อสิ่งที่มากระทบ แต่จะไม่มีวันที่ดวงไฟแห่งรักในหัวใจจะมลายหายไปตราบที่โลกนี้ยังมีรัก...
ขอบคุณแสงของความอบอุ่น
ที่เคยเกื้อหนุนมอบให้
ยามที่อ่อนล้าท้อแท้ใจ
ยังรู้มีใครห่วงใยกัน
ขอบคุณความสว่างในดวงตา
ที่ส่งมาล้างลบภาพเพ้อฝัน
ให้เห็นความกระจ่างของกลางวัน
เข้าใจถึงความสำคัญที่ตัวมี
ขอบคุณไอแห่งความร้อนแรง
ที่เคยแฝงมาอยู่ข้างใจนี้
ช่วยเพิ่มเติมกำลังน้อยเต็มที
ให้โหมกลับมามีพลังใจ
อยากบอกว่าคุณคือดวงไฟแห่งความรัก
ที่คอยปลุกปลอบเป็นหลักคนอ่อนไหว
คุณคือทุกแสงสว่างตรงกลางใจ
ที่ไม่อาจมีใครมาทดแทน
11 ตุลาคม 2547 09:31 น.
ฟา
ตราบใดที่โลกนี้ยังมีรัก
อุปสรรคมิอาจขวางกางกั้นได้
ขอเพียงเธอกับฉันมีหัวใจ
เป็นหนึ่งเดียวกันไว้อย่างมั่นคง
ตราบที่ใจของเรามั่นในรัก
ซื่อตรงนักมิใช่เพียงความลุ่มหลง
เราจะก้าวต่อไปได้อย่างอาจอง
เต็มไปด้วยความทรนงที่ควรมี
หากต่อไปกาลข้างหน้าถ้าต้องพราก
จะมีเพียงการตายจากกันแค่นี้
จะจากกันด้วยเหตุอื่นคงไม่มี
เพราะในใจดวงนี้มีแต่เธอ
ขอยืนยันในสัตย์มั่นไม่หวั่นไหว
ตราบใดในหัวใจมีเธอเสมอ
ถึงแม้ว่าโลกสิ้นไร้รักมิอาจเจอ
ฉันจะขอรักเธอตลอดกาล
ตราบที่โลกนี้ยังมีรักอยู่ ฉันจะดูแลความรู้สึกที่มีต่อเธอให้คงอยู่อย่างสม่ำเสมอ
จนตราบที่โลกนี้ร้างแล้วซึ่งรัก ฉันก็จะยังคงซื่อสัตย์ต่อหัวใจตัวเองอย่างมั่นคงนิจนิรันดร์
10 ตุลาคม 2547 13:23 น.
ฟา
อาจไม่ดีได้ถึงครึ่งของเขา
พอทดแทนความเหงาเธอได้ไหม
อาจไม่ใช่ที่เธอรักหมดหัวใจ
ในความหมายคงไม่ใช่คนสำคัญ
เป็นแค่คนธรรมดาที่มีรัก
ความรู้สึกแน่นหนักไม่ไหวหวั่น
พอพบเธอหัวใจยิ่งยืนยัน
เธอคือคนที่ฉันจะฝากใจ
แต่เธอกลับบอกว่ายังมีเขา
คนรักเก่าที่ทำให้ต้องร้าวไหว
กลัวใจฉันทนไม่พอตลอดไป
กลัวต้องทำร้ายใครที่รักกัน
ฟังนะฟังคนดีสุดที่รัก
หัวใจฉันจะแน่นหนักไม่ไหวสั่น
วันข้างหน้าแม้จะนานอีกกี่วัน
จะรักเธอแทนเขาคนนั้นให้ดี
9 ตุลาคม 2547 18:42 น.
ฟา
สองมือน้อยค่อยกราบลงตรงเบื้องบาท
แทนคำพูดขอโอกาสอีกสักหน
แทนคำขอบคุณที่ให้ชีวิตตน
แทนทุกความสุขล้นที่ให้มา
แม้ชีวิตแสนสั้นของฉันนี้
จะไม่มีหลายสิ่งที่ฝันหา
จะเจือทุกข์คลุกเศร้าเคล้าน้ำตา
แต่ก็ยังคงมีค่าสำหรับคุณ
อาจจะมีหลายครั้งคราของชีวิต
ที่ทำให้ต้องหงุดหงิดจิตว้าวุ่น
ความชื่นใจอาจหลงลืมมาเจือจุน
อาจทำให้คุณอ่อนล้าท้อแท้ใจ
ก็เคยคิดถ้าในสักวันหนึ่ง
ต้องทำให้คุณขึงโกรธใจสลาย
ก่อนจะถึงวันนั้นถ้าฉันตาย
ไปก่อนมีเรื่องร้ายจะดีไหม
คุณจะได้ไม่เจ็บปวดไปกว่านี้
หากต่อไปฉันไม่ดีอย่างฝันไว้
ถ้าชิงตายก่อนคุณอาจดีไง
คุณจะได้ไม่เสียใจในตัวฉัน
รู้แล้วล่ะว่าที่คิดไม่เข้าท่า
มันทำให้คุณเจ็บปร่าใจไหวสั่น
หนึ่งกราบนี้คือขมาและยืนยัน
ว่าชีวิตที่เหลืออยู่นั้น.....
.....ฉันจะใช้มันให้แม่ภูมิใจ
คงไม่มีแม่คนไหนที่อยากเผาศพลูกตัวเอง
คงไม่มีแม่คนไหนที่อยากให้ลูกตายก่อน...
ถ้ามีเหตุการณ์แบบนั้นเกิดขึ้นหัวใจแม่จะเป็นเช่นไร?