17 ตุลาคม 2551 17:21 น.
ฟา
ไฟที่ก่อกลางบ้านกลางลานเมือง
ละลายความรุ่งเรืองมิเหลือได้
ไม่มีเว้นหรือข้ามพื้นทางใคร
แม้ไม่ผ่านสัมผัสไปก็ยังมี
ไม่ต้องผ่านเฉียดใกล้ข้างกองเพลิง
เพียงแค่หลงระเริงแสงอยู่ตรงนี้
ที่ที่เราพักอยู่นี่ก็มี
กี่กองที่ลุกโชนโหมกระพรือ
ใช่ห่างไกลถึงแห่งใดตรงไหนหรอก
ไม่ต้องมองตาออกไปส่องสื่อ
ไม่แบ่งว่าเพ่งจ้องหรือปริบปรือ
หลับตาหรือก็เห็นได้ตั้งหลายกอง
มองสิมองส่องเข้าข้างในนี้
ในตัวที่เป็นเจ้าของตาทั้งสอง
ที่หัวใจตนเองมันจับจอง
อยู่กี่กองนับดูอยู่ข้างใน
ดูอะไรยินอะไรได้มาบ้าง
ก็เก็บวางเอาลงกันตรงไหน
มิใช่ที่ตรงนี้หรือหัวใจ
ที่สุมกันเอาไว้จนร้อนรน
17 ตุลาคม 2551 17:05 น.
ฟา
ใจมีเพียงหนึ่งดวงในห้วงหนึ่ง
ไร้ซึ่งความลึกซึ้งกับคนไหน
มีชีวิตผ่านวันสั้นจนไกล
ไม่คิดให้ผู้ใดเข้าเคล้าคลอ
เห็นหมู่ชนมากมายในวัยฝัน
เฝ้าผูกพันมั่นกับรักอย่างจดจ่อ
บางคู่รักแล้วก็ร้างระหว่างรอ
สุดที่จะสานต่อซึ่งสัมพันธ์
กับบางหมู่บางชนคนบางกลุ่ม
ใช้รักอุ้มโอบใจได้อย่างฝัน
มีชีวิตชีวาน่าอัศจรรย์
อิ่มในสุขหฤหรรทุกวันไป
บ้างก็อยู่ดูรักเรื่อยอย่างนั้น
ราวทุกวันเลื่อนพ้นหม่นความหมาย
เมื่อเกิดมีรักแล้วก็ปล่อยปลาย
ให้จืดจางห่างหายในจินตนา
ยามไม่มีรักดีอันใดหนึ่ง
ใจก็คอยเพียงซึ้งภาพหนักหนา
เห็นคู่รักก็เรียนรู้ต่างนานา
เผื่อเวลาเป็นของเราจะเข้าใจ
เวลารักเวลานั้นเสน่หา
หากมีมาจะหน้าตาประมาณไหน
ผู้ซึ่งเป็นที่รักสุดอาลัย
จะเป็นใครหนอใครอยากรู้จัง
17 ตุลาคม 2551 16:45 น.
ฟา
เริ่มใจจากความว่างระหว่างจิต
เวลาผ่านหัดพิศตามสมัย
เรื่องชีวิตสารพันครั้นหัวใจ
กับโยงใยสายรัดสะบัดเกลียว
จากความว่างข้างในก็ใคร่พบ
ใจบรรจบกับใจหนึ่งไม่เฉลียว
จากโลดแล่นปราดไปจนคล่องเปรียว
กลับล้าช้ากึ่งลดเลี้ยวบนเส้นทาง
โอ้ความรู้สึกที่รักยากหักจิต
ก่อเกิดดั่งน้ำพิษให้หมองหมาง
มิใช่ลาเลิกรักเร้าหรือจืดจาง
หากแต่ไม่มีความห่างหว่างกันพอ
ยิ่งได้รัก รักมากลำบากจิต
ใจเห็นพิษแฝงเร้นราวตะขอ
ปักตรึงไว้เกี่ยวกั้นตะครั้นตะครอ
เกินกว่าขอเกินกว่ารักลำบากใจ
จักหันซ้ายแลขวาในหลายสิ่ง
อึดอัดจริงความหวงที่ถ่วงไห้
ร้าวรอยยับทับทรวงทุกห้วงใจ
นี่หรือรักห่วงใยแทบไร้ปราณ
โอ้ความรู้สึกรักนี้หนักแสน
จะก่อให้ห่วงหวงแหนเกินขนาน
ยิ่งสะสมบ่มในรักกันเนิ่นนาน
เหมือนยิ่งหว่านความอึดอัดเข้าซัดใจ
ยิ่งรักนานยิ่งเพิ่มห่วงเข้าถ่วงจิต
พอหัดพิจารณาหาทางไหน
จะได้เพิ่มช่องว่างลมหายใจ
ให้ยืดยาวเอาไว้เป็นส่วนตน
เพราะเมื่อหันทางไหนไปทางหนึ่ง
อีกคนซึ่งคือรักติดใกล้ทุกหน
นี่หรือรักที่เกิดกันในหมู่คน
ร้ายเหลือทนร้ายเหลือใจที่ได้รัก
17 สิงหาคม 2551 04:37 น.
ฟา
สายลมแผ่วผ่านผิวเกือบรุ่งสาง
จันทร์กระจ่างแจ่มฟ้ากว่าคืนไหน
รอบรอบดวงดารายังพราวไกล
มิร้างไร้เช่นเคยเมื่อเดือนเพ็ญ
อาจจะหนาวคราวเดี่ยวที่มองเจ้า
เคยใจเหงากอปรเศร้าที่ได้เห็น
มองแต่ค่ำย่ำเช้าที่เราเป็น
ไม่อาจเห็นอย่างเช่นคืนนี้เลย
ความลับรอบของจันทร์กระจ่างฟ้า
หาใช่ดาวพราวตาซึ่งนิ่งเฉย
แต่หากเป็นวงแหวนไม่คุ้นเคย
เธอเฉลยแผ่วเบาถึงเงาจันทร์
แสงชมพูล้อมรอบเดือนสุกใส
ทั้งหวานไหวขับไล่ความโศกสรร
จันทร์ทรงกลดลดความกลุ้มในคืนพลัน
ขอบคุณจันทร์ขอบคุณเธอขอบคุณใจ
29 มิถุนายน 2551 18:57 น.
ฟา
ต้องให้กราบลงตรงแทบเท้าไหม
เธอถึงเห็นใจไม่ไปกับเขา
คิดดูเอานะเรื่องราวของสองเรา
แรกเริ่มวันเก่าใครก้าวเข้ามา
คนเริ่มความรักครั้งนี้ไม่ใช่ฉัน
ที่เข้ามาพร่ำคำรักกันเธอหรอกหนา
ถึงวันจะจบที่ส่งคืนคือโมทนา
ให้มือที่สามดีกว่าฉันแค่นั้นเอง