1 พฤษภาคม 2546 23:22 น.
ฟองอากาศ
นั่งนิ่งเนตรแน่วแน่เหนื่อยหน่าย
นัยย์ตาใสนงลักษณ์สายสมร
นิ่งแน่วเนตรแววตาแน่นอน
แม่บังอรเหนื่อยหน่ายมองนภา
ว่างวังเวงแว่วเสียงครางวิหค
เหม่อมองพบเหล่าวิหงค์บนเวหา
ความวังเวงวิเวกเกินพรรณา
เกินกว่าจะสรรหาวาจามาเล่าฟัง
ความเงียบงันเงียบสงัดทำเงียบเหงา
รู้สึกงี่เง่างวยงงในพักหลัง
จากจำความภาพสะท้อนการชินชัง
ของคนรักมั่งมีมากหลายนารี
หลอกให้รักให้หลงลุ่มหลงไหล
ลวงล่อให้ตายใจไม่หลบหนี
ไม่น่าเชื่อวางใจคนอัปรีย์
คนไม่ดีต่ำช้าคนจัณไร.................................
1 พฤษภาคม 2546 23:09 น.
ฟองอากาศ
หากเจ็บช้ำท้อแท้สิ้นหวัง
หมดกำลังหนทางวิถี
หมดกำลังใจท้อแท้สิ้นดี
พวกพ้องหลีกหนีหมดหนทางไป
หากเศร้าผิดหวังโศกาเบื่อหนาย
หากอยู่เดียวดายพร้อมกับร่ำไห้
หากเธอเหงาเศร้าสร้อยเปลี่ยวดาย
อ้างว้างเกินไปเจ็บช้ำเกินทน
เคยไหมวันหนึ่งนั่งอยู่กับกระดาษ
พร้อมมึกวาดปากกาหมึกพ่น
ลองเอาหมึกนั้นหยดไหลลงหล่น
แทนความเจ็บขื่นขมในหัวใจ
หมึกหยดหนึ่งหยดนั้นที่หยดลง
หมึกนั้นคงเข้มบนกระดาษมิไปไหน
หมึกนั้นจะซึมลึกลงไป
แต่เห็นไหมใบสุดท้ายไม่มีเหลือเลย
แทนความนัยของหมึกและกระดาษ
หากเธอวาดความเจ็บช้ำลงเฉยเฉย
หมึกค่อยซึมค่อยจางจนหายไปเลย
แทนการเปรียบเปรยของกาลเวลา
เมื่อเธอพลาดเกิดเจ็บช้ำขึ้นมา
วันเวลาจะช่วยกัดกร่อนความโหยหา
เมื่อเธอนั้นผ่านพ้นตามกาลเวลา
ความโศกาจะค่อยจางจนหายไป.......................