3 พฤษภาคม 2546 23:15 น.
ฟองอากาศ
อยากจะรู้ตอนนี้เธออยู่ไหน
อยู่กับใครเธอคิดจะทำไรอยู่
อยากได้เธอเพียงเคียงข้างคอยคู่
เพียงอยากอยู่คู่เธอเพียงลำพัง
แปลกใจจริงวันนี้ไร้เธออยู่
คอยเคียงคู่เคียงข้างสรรค์สัง
ต้องนั่งอยู่ตรงนี้เพียงลำพัง
ห้องคุมขังหัวใจไว้ให้เธอ
รอเพียงเธอมีแต่เธอในความคิด
ฝังในจิตไม่คิดห่างไม่เคยเผลอ
มีแต่เธอคิดแต่เธอคอยบำเรอ
คิดฝันเธออยากได้เธอมาอยู่เคียง
นั่งลำพังจดจ้องนอกหน้าต่าง
มองเห็นฟ้าว่างเปล่าไร้ดาวเรียง
แม้ได้ดาวก็ยังดีมาเทียบเคียง
ขอแค่เพียงดวงดารามาแนบใจ
ยังต้องเศร้าคอยจิตคิดโหยหา
เพราะดาราคืนนี้หมดไปหาย
แม้ดาราหวังเพียงดาวมาคู่กาย
ยังต้องตายหายไปไม่มีดาว
จิตใจเศร้าไร้คนหนึ่งที่คิดถึง
คอยคะนึงตรึงจิตคิดถึงเขา
ใจเราเศร้าตรึงจิตอนิจจังเรา
แม้ดวงดาวหรือเขาก็จากลา.........................
2 พฤษภาคม 2546 23:33 น.
ฟองอากาศ
น่าโศกเศร้าสมเพชแลสงสัย
เป็นเพราะอะไรผู้คนเมื่อเข้าหา
เมื่อเข้ามาถามไถ่ลั่นวาจา
เป็นต้องสรรหาคำพูดจักษ์ตนดี
น่าสมเพชหมั่นไส้ไม่เข้าใจ
ว่าทำไมจึงอวดท่าทำเสียดสี
กดผู้อื่นทับผู้อื่นแต่ตนดี
ทำอย่างนี้มันสุขมากนักหรือไง
ผู้ที่รู้มักไม่พูดตั้งมาดเงียบ
เก็บเงียบเชียบว่าตนเก่งไม่สงสัย
ผู้ที่พูดมักไม่รู้การกลไก
พูดพล่ามไปประจักษ์แท้เห็นตัวจริง
ผู้พูดมากวางมาดตั้งมาดสูง
แผ่ปีกยูงทำว่าเก่งราศีสิงห์
ทำว่าตัวเก่งกว่าใครแต่ที่จริง
ไอ้มาดสิงห์เผยธาติแท้เบาปัญญา............................
1 พฤษภาคม 2546 23:22 น.
ฟองอากาศ
นั่งนิ่งเนตรแน่วแน่เหนื่อยหน่าย
นัยย์ตาใสนงลักษณ์สายสมร
นิ่งแน่วเนตรแววตาแน่นอน
แม่บังอรเหนื่อยหน่ายมองนภา
ว่างวังเวงแว่วเสียงครางวิหค
เหม่อมองพบเหล่าวิหงค์บนเวหา
ความวังเวงวิเวกเกินพรรณา
เกินกว่าจะสรรหาวาจามาเล่าฟัง
ความเงียบงันเงียบสงัดทำเงียบเหงา
รู้สึกงี่เง่างวยงงในพักหลัง
จากจำความภาพสะท้อนการชินชัง
ของคนรักมั่งมีมากหลายนารี
หลอกให้รักให้หลงลุ่มหลงไหล
ลวงล่อให้ตายใจไม่หลบหนี
ไม่น่าเชื่อวางใจคนอัปรีย์
คนไม่ดีต่ำช้าคนจัณไร.................................
1 พฤษภาคม 2546 23:09 น.
ฟองอากาศ
หากเจ็บช้ำท้อแท้สิ้นหวัง
หมดกำลังหนทางวิถี
หมดกำลังใจท้อแท้สิ้นดี
พวกพ้องหลีกหนีหมดหนทางไป
หากเศร้าผิดหวังโศกาเบื่อหนาย
หากอยู่เดียวดายพร้อมกับร่ำไห้
หากเธอเหงาเศร้าสร้อยเปลี่ยวดาย
อ้างว้างเกินไปเจ็บช้ำเกินทน
เคยไหมวันหนึ่งนั่งอยู่กับกระดาษ
พร้อมมึกวาดปากกาหมึกพ่น
ลองเอาหมึกนั้นหยดไหลลงหล่น
แทนความเจ็บขื่นขมในหัวใจ
หมึกหยดหนึ่งหยดนั้นที่หยดลง
หมึกนั้นคงเข้มบนกระดาษมิไปไหน
หมึกนั้นจะซึมลึกลงไป
แต่เห็นไหมใบสุดท้ายไม่มีเหลือเลย
แทนความนัยของหมึกและกระดาษ
หากเธอวาดความเจ็บช้ำลงเฉยเฉย
หมึกค่อยซึมค่อยจางจนหายไปเลย
แทนการเปรียบเปรยของกาลเวลา
เมื่อเธอพลาดเกิดเจ็บช้ำขึ้นมา
วันเวลาจะช่วยกัดกร่อนความโหยหา
เมื่อเธอนั้นผ่านพ้นตามกาลเวลา
ความโศกาจะค่อยจางจนหายไป.......................
30 เมษายน 2546 22:30 น.
ฟองอากาศ
น่าเศร้าจริงนักวันนี้
จริงจริงวันดีแต่กลับเหงา
เป็นวันที่ทุกปีต้องเศร้า
ต้องเหงาอยู่คนเดียวเรื่อยไป
มันดูเหมือนวันธรรมดา
ไม่มีคุณค่ามากกว่าวันไหนไหน
อาจดูไม่มีค่าสำหรับใครใคร
แต่ในใจมีค่าเป็นทวี
แม้แต่มารดาผู้เป็นแม่
เป็นคนสำคัญแน่แท้ในวันนี้
เป็นคนกำหนิดให้ชีวี
ในวันนี้สามสิบเมษายน
มองดูรอบกายฉัน
ฉันนั้นมันไร้ค่าทุกแห่งหน
ไม่ใครสนใจคนอับจน
ไร้ผู้คนเห็นความหมายใด
แม้วันนี้เป็นวันเกิด
วันกำเนิดแต่ก็เหมือนวันไหนไหน
ก็วันนี้ไม่มีสิ่งสำคัญอะไร
แค่วันหนึ่งที่หัวใจเจ็บร้าวราน................
แต่อย่าลืมนะคนดี
ยังมีคนนี้อยู่ข้างข้าง
คอยร้องเพลงครวญคราง
แฮปปี้เบิรธเดย์พลางเบิรธเดย์คิสไป.......................อิอิอิ