6 กุมภาพันธ์ 2550 21:33 น.
พ่อทูนหัว
World Philosophy Day, 16 November 2006
๒๕ ลงใต้ประชามีไฟการศึกษา
เมืองฉันจัดงบให้มาเพียบ(ประมาณ)
วิทยาการแข่งขันเฉียบ
ราบเรียบร่มรื่น(ชื่นใจ)
๒๖ เป็นชุมชนโบราณใหญ่
ศูนย์ร่วมใจมิได้มีเผ่าอื่น(พันธุ์)
ศาสนาศรัทธาเคร่งครัดทุกวันคืน(คัด)
ยืนหยัดด้วยตนเอง
๒๗ มีพื้นที่กว้างใหญ่ทำเกษตร(๑)
ขอบเขตเพาะปลูกตรงเผง
ปลูกพืชไร่ได้ไม่หวั่นเกรง
มิวังเวงรัฐจัดให้ปลูกหมดลดจำนวน(ล้นตลาด)
๒๘ หลายโรงงานแหล่งนี้(๒, ๓, ๔)
รับผลผลิตที่ไร่สวน
เกษตรกรไม่เดินขบวน
สมควรทราบราคาล่วงหน้าเป็นปี(ซื้อขายล่วงหน้า)
๒๙ ประเพณีชาวใต้
บูชาเทพพืชไร่สุขศรี
ฝนฟ้าแสงสุรีย์
มีร่ายรำตามทำนอง
๓๐ ชำนาญพื้นฐาน
คือการเพาะปลูกเป็นหนึ่งวิธีใช้พลังงานเป็นสอง
วัวควายต้องใช้ตามครรลอง
ถูกต้องประหยัดพลังงาน(บางเวลา)
๓๑ เมื่ออยู่ดีมีใช้
เพียงเสียนิสัยต้องกล่าวขาน
ว่างมาก หยุดนาน
เจือจานการพนัน
๓๒ เด็กผู้ใหญ่เป็นไปหมด
รัฐจดให้เล่นอย่างสมานฉันท์(ทะเบียน, พี่น้อง)
เล่นได้เพียงหนึ่งพัน(สตางค์, ผู้ใหญ่)
น้องฉันเล่นได้เพียงยี่สิบห้าสตางค์
๓๓ ผู้ใดพนันจนหมด
รัฐกำหนดต้องสะสาง(แจ้งรัฐ)
ที่มาของสตางค์มิอำพราง
อีกอย่างผิดทั้งผู้ให้และผู้ยืมมา(เล่น)
๓๔ ทราบพื้นฐานเมืองฉันเล็กน้อย
แล้วค่อยมาดูการศึกษา
ทำอย่างไรพัฒนา
ไม่หันหน้าลงคลอง..........ฯ
พ่อทูนหัว@ข้างสวนสัตว์
6 กุมภาพันธ์ 2550 21:24 น.
พ่อทูนหัว
ด้วยแรงงาน หยาดเหงื่อ เมื่อลงปลูก
๑. ต้นข้าวปลิว ลิ่วลู่ อยู่ท้องทุ่ง
รวงเปล่าพุ่ง มุ่งฟ้อง ร้องสวรรค์
อุทกภัย ในหล้า มาประดัง
เกษตรยัง เมินตน ลืมผลงาน
๒. เมล็ดข้าวนิด ติดรวง ทวงกำหนด
เศร้าสลด เคียวทื่อ สื่อประสาน
ลืมลงแขก ลงหวด นวดกลางลาน
กลับประจาน ลานเกลี้ยง เปลี่ยนเลี้ยงปลา
๓. อกหนออก อกใคร ไม่เคยคิด
ชาวนาผิด ถูกจ้อง ต้องปุจฉา
ผลผลิต เงินหรู อยู่ในนา
แต่ฝนฟ้า น้ำหลาย ทำลายรวง
๔. ด้วยแรงงาน หยาดเหงื่อ เมื่อลงปลูก
โสหุ้ยถูก หว่านไป ให้แหนหวง
ค่าถากไถ ปุ๋ยยา ตามมาทวง
ระกำทรวง ทุนหาย ละลายไป
๕. ข้าวมีรวง พ่วงเม็ด เล็ดลอดน้ำ
รอยชอกช้ำ ย้ำมา น้ำตาไหล
ถึงเตรียมรับ เหตุการณ์ ตั้งนานไกล
ยังไม่ไหว เที่ยวนี้ กาลียุค
๖. ไม่มีเงิน จ้างแขก แยกเหลือเกี่ยว
ต้องเอาเคียว ลับคม รมควันสุก
ที่ละยอด ละกอ พอคลายทุกข์
ทำสนุก พูดคุย กับทุยเรา
๗. นาหลายไร่ บัลลัย ในเที่ยวนี้
ฟังวจี รู้จะจะ รัดถะ เขลา
ว่าดีแน่ แก้ปัญหา ปัญญาเบา
เงินสดเอา ใส่บัญชี เที่ยวนี้คลีน
๘. ต้นข้าวล้ม ราบเฉียง เอียงทางเหนือ
มันคงเบื่อ พวกรำสาก ปากพร่ำศีล
ความคิดมี เพียงน้อย เท่ารอยตีน
ให้ป่ายปีน วนอยู่ เหมือนปูนาฯ
พ่อทูนหัว@ข้างสวนสัตว์
1 กุมภาพันธ์ 2550 21:52 น.
พ่อทูนหัว
WORLD SCIENCE DAY FOR PEACE AND DEVELOPMENT 2006[10/11/2006]
๑๕ ประเทศฉันเมืองฉันไม่ใหญ่
ไม่มีพิษสง
มากหลายเผ่าพันธุ์ดำรง
ยืนยงเป็นชาติอธิปไตย
๑๖ แบ่งแยกเหนือใต้ออกตก
เมืองหลวงภาคกลางยกให้
ไม่ได้แบ่งเหมือนไทย
ไว้เพื่อพัฒนา
๑๗ ภาคเหนือมีทะเลใหญ่กว้าง
ติดต่อกับต่างประเทศทั่วทิศา
ประชาชนเก่งเรื่องการค้า
ทำมาหารับประทาน
๑๘ ชนเผ่ามีความรู้ทางทะเล
ก่อนร่อนเร่อาจหาญ
สู้แหลกตีแตกแหลกลาญ
พ่อค้าอันธพาลหรือนักเลง
๑๙ บางครั้งขาขึ้นนำสินค้าขาย(๑)
ขากลับออกลวดลายข่มเหง
ปล้นสะดมข่มขืนมิหวาดเกรง
สินค้ากะเตงเต็มลำ
๒๐ ประชาชนภาคนี้นักสู้
เด็กรู้หากินอิ่มหนำ
พอเห็นน้ำก็เห็นกุ้ง หอย ปูปลาจับมาทำ(๒)
อาหารเช้ากลางวันค่ำไม่อดตาย
๒๑ เก่งเรื่องการฝีมือ
เล็กใหญ่ฝึกปรือทำขาย
เป็นอุตสาหกรรมต่อเรือใหญ่จนพาย(๓)
อาชีพเลี้ยงกายเพียงพอ
๒๒ เทวดาผีสางนางฟ้า
ผีน้ำ แม่ย่า ยังขอ(เวลาออกทะเล)
เทพแห่งดาว จันทร์ อาทิตย์ พะนอ
สรรเสริญเยินยอภาวนา
๒๓ เป็นขนบธรรมเนียมรวมหมู่
รวมใจชนอยู่ครบหน้า
อยู่หนอยู่แห่งไหนกลับมา
ถือว่าเป็นประเพณี
๒๔ เมืองฉันจัดให้มีการศึกษา
สำหรับชาวประชาท้องที่
จัดอย่างไรไม่เหมือนเมืองไทยมี
ดีไม่ดีไม่ขอเปรียบเทียบ(ด้วยสาเหตุ กำลังจะพัฒนา)....ฯ
พ่อทูนหัว@ข้างสวนสัตว์
31 มกราคม 2550 20:53 น.
พ่อทูนหัว
ควายถึงปลง อะพิโธ่ โง่กว่ากู
ของของเรา อันเก่า เจ้าไม่ชอบ
เป็นระบอบ ชั่วช้า บ้าฉิบหาย
วิธีอื่น สุดแสน จะง่ายดาย
ไม่ขวนขวาย หาทาง เลือกสรรเอา
สิบล้านคน ชนชั้น กรรมาชีพ
เอาตีนถีบ จมูกโผล่ ไม่โง่เขลา
รู้หนึ่งสิทธิ คอยเถียง ออกเสียงเรา
ว่าเลือกเขา เอาเขา เข้าผู้แทน
อีกเพียงหยิบ สามสิบล้าน แถวบ้านนอก
เกษตรกร ถูกหลอก สิทธิหวงแหน
ข้อกล่าวหา สุดมั่ว ทั่วดินแดน
แค้นแสนแค้น ขายเสียง เถียงไม่เป็น
อยากได้สิทธิ ควรรู้ สู่อ้อมกอด
ให้เสียงลอด เข้าสู้ หูตาเห็น
ว่าการสร้าง ร่างรัฐธรรมนูญ ไม่ยากเย็น
สามประเด็น ไม่ยุ่งยาก ลำบากทำ
ที่อ้างกล่าว ยาวยุ่ง มุ่งให้เกิด
ว่าบรรเจิด ถูกต้อง มองแล้วขำ
แก้เที่ยวนี้ ทั้งหมด ต้องจดจำ
จะรีบนำ กลับไปใช้ ให้มวลชน
ทำอะไร ทำอย่างไร จะไม่ว่า
จะไม่ค้าน ให้ล่าช้า ว่าน้อยหน
ให้รับรู้ ความต้องการ ของผู้คน
จะอดทน อีกหน่อย คอยไม่นาน
ถ้าสำเร็จ เสร็จสิ้น ริบบิ้นผูก
ระบายลูก กระดาษตัด มาคัดสาน
มีแต่สี เขียวขี้ม้า น่าชื่นบาน
นำใส่คาน แหนแห่ ตามแตรวง
ไปตามตรอก ตามตรง ตามกรงม้า
เสียงโห่ฮา กาละมังขวด เสียงสวดสงฆ์
เฉลิมฉลอง ชาติไทย ให้ยืนยง
ควายถึกปลง อะพิโธ่ โง่กว่ากู
พ่อทูนหัว @ ข้างสวนสัตว์
31 มกราคม 2550 20:44 น.
พ่อทูนหัว
รากหญ้าแห่งกวี
สรรพเล่ห์สรรพกลเก้า เก็บหมด
เม็ดคั่นเบี้ยโคนจด แม่ม้า
หันเรือเล่นลมหด เอียงแล่น
ขุนเคร่งเขย่งท้า คุมเข้มกลางสมร ฯ
ขุนเขียวขึ้นขี่ม้า รำกลอน
เร็วเร่งลัดตัดตอน กล่าวอ้าง
รบไปไม่สังวร ตัวเบี้ย
เพียงเพื่อรีบสรรสร้าง ปั้นน้ำเป็นตัว ฯ
เม็ดทัพหน้าสื่อบ้า หลายหัว
แต้มแต่งให้โลกกลัว ร้อยแก้ว
ทุกอย่างยิ่งพันพัว ทุจริต
เสพร่ายวจนพจน์แล้ว ชนให้สงสัย ฯ
มาดแอ็คเดินหน้าเหี้ยม ชักใย
ทุกอย่างต้องบรรลัย ป่นปี้
ล้มล้างอย่างมีนัย โฉดชั่ว
โคลงโคนต้องหลีกลี้ อย่าได้สบตา ฯ
กาพย์โผล่ผลุบเลี่ยงโล้ เภตรา
มีหนึ่งครบปัญญา เลิศล้ำ
เดินตามรอยองค์อาฯ สอนไว้
สองล่องจ้องขย้ำ ลอยฟ้าเมาฝน ฯ
มีสติด้วยพ่อม้า สีหม่น
รู้เล่นยุทธหมากกล ฉันท์สู้
บุกถอยหรือเวียนวน เรียบค่าย
ทุกอย่างพึงต้องรู้ ว่าร้ายหรือดี ฯ
หมากรุกมีเบี้ยไว้ ยอมพลี
อีกฝั่งใช้วิธี เบี้ยล้อม
กลหมากด้นเข้าตี รวมหมู่
ขุนกลอนที่เพียบพร้อม จึ่งแพ้กลางกระดาน ฯ
การเล่นเคารพรู้ อาจารย์
โคลงฉันท์กาพย์กลอนกานต์ ร้อยแก้ว
พึงรู้กระแสธาร ทุกข์แห่งศรัทธา
เบี้ยร่ายด้นฟังแล้ว รากหญ้าแห่งกวี ฯ