2 เมษายน 2548 19:55 น.
พู่กันของหูกวาง
มันเหมือนกับตอนเราดูหนังสักเรืองนึงนะครับ ต้นเรื่อง กับท้ายเรื่อง ในบางมุมของชีวิต คนเราไม่สามารถฝากความหวังทั้งหมดไว้กับอนาคตได้
บางทีพลิกโผจนแทบไม่ทันตั้งตัว หรือเซล้ม จนไม่เหลือแม้แต่แรงจะยืนอยู่กับที่
เวลานี้ผมมีความรู้สึกนั้นอยู่อย่าเต็มเปี่ยม ระหว่างกลางเรื่องเรื่องนึงในชีวิต ผมเริ่มรู้แล้วในทันทีว่าตอนจบของเรื่องนี้คืออะไร ผมจะต้องพ่ายแพ้ให้กับอะไรบางอย่างที่ผมพยายามเอาชนะมาตลอด ....
ความหวังเป็นสิ่งที่ดี เป็นสิ่งที่คนเราใช้เป็นกำลังใจ เพื่อต่อสู้กับใจตัวเอง และปัญหาบนทางข้างหน้า แต่ในความหวังนั้น มีความสูงงง...ความสูงในตัวมันเอง บางคนหวังมากเกินไป จริงจัง และ เชื่อมัน ว่าสุดท้ายสิ่งที่ได้คือถ้วยแห่งชัยชนะ...อาจไม่มีความผิดสักนิด ที่คนเราจะหวังสูงเกินไป เพราะเรารู้ตัวดีว่าเราได้พยายามจนสุดความสามารถ และเฝ้าภาวนาในสิ่งที่ทำไป จะต้องได้ผลออกมาดี...
แต่ในความไม่ผิดนี้..ยังมีความจริง..ที่เรายังต้องรับรู้อยู่ทุกเสี้ยววินาทีของชีวิต บางคนไม่ได้เผื่อใจในความผิดหวัง หรือ สะดุดหกล้มกับปัญหา จุดพลิกผันเพียงเล็กน้อย จึงทำให้ความหวังที่กองอยู่ทั้งหมด พังครืนลงมาทับตัวเอง จนกินไม่ได้ ลุกไม่ไหว หายใจไม่สะดวก..พึ่งจะรู้เมื่อไม่นานมานี้แหละ ความผิดหวัง จาก ความหวังจริง ๆ แล้วมันปวดร้าวเพียงใด..
..มันสิ้นหวัง...มันหมดกำลังใจ..
ทางออกของปัญหาทั้งหมดเหรอครับ..แต่ว่า ความสิ้นหวัง และความหมดกำลังใจนี้ ถือเป็นปัญหาหรือเปล่า อาจจะใช่เมื่อหลายสิ่งรอบข้างกดดันให้เราเกิดความทุกข์ และไม่กล้าที่จะเผชิญกับปัญหา จมอยู่กับความพังทะลายที่ไม่มีวันก่อร่างขึ้นมาใหม่ได้ จับจดอยู่กับความผิดเหล่านั้น จนมองข้ามทางออกที่แทรกอยู่ระหว่างเวลาที่ผ่านไป...
บางทีความสิ้นหวัง และ หมดกำลังใจ อาจจะเป็นบททดสอบของชีวิตคนเราที่แท้จริง ความสุขที่รออยู่ข้างหน้า อาจจะไกลเกินสายตาที่จะทอดมองไปค้นหา มือที่กำลังปาดน้ำตาอยู่อาจจะเอื้อมไปไม่ถึง..แต่เมื่อคนเราได้พบถึงความสุขนั้นแล้ว มันคงมีค่ามากกว่าสิ่งใด..
แน่ล่ะครับ ความสุข ในบางคน อาจจะมีน้อยกว่าความทุกข์เสียด้วยซ้ำ แต่คุณค่ามันไม่ได้อยู่ที่ความเท่าเทียมของโอกาสแห่งความสุขและความทุกข์กระมังครับ
"ตราบที่ ดวงอาทิตย์ยังไม่เคยหายไปจากรุ่งเช้าฉันใด ความสุขและทุกข์ ก็คงไม่หายไปจากชีวิตคนเราได้ฉันนั้น"
ถึงวันที่ผิดหวัง เสียใจ ก็ขอให้ร้องไห้ฟูมฟายไปซะ หมดเรื่องหมดราว มันไม่ใช่เรื่องน่าอายกระมัง เหมือนวันนี้ที่ผมเองก็ได้เสียน้ำตาให้กับความผิดหวังที่คิดว่ายิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิต ผมฝากความหวังไว้กับตัวเอง และเชื่อมั่นตลอดว่าจะต้องสำเร็จ...แต่สุดท้าย ความสุข ก็ไม่ได้ผ่านมาในช่วงเวลานี้ของผม..
ต้นตอที่ใหญ่ที่สุดสำหรับผมตอนนี้น่ะเหรอครับ..
อย่าตั้งคำถามเลยนะครับ ว่าผมผิดหวังกับเรื่องใด วันนี้แค่อยากจะบอก อยากระบายความรู้สึกตัวเอง และพยายามให้กำลังใจตัวเองไปด้วย..
ร้อง ๆ ๆ ๆ สะอื้น..ให้น้ำตามันไหล ๆ ๆ ออกมา อย่าโทษฟ้า อย่าโทษพระเจ้า เพราะในวันที่เรามีความสุข เรายังไม่เคยนึกถึงท่านเลย ร้องไห้ไปสักวันนึกน้ำตาก็คงเหือดแห้งไปเอง มีอยู่ข้อความนึง ประทับใจที่มันเป็นเรื่องที่คาดไม่ถึงสำหรับคนตัวเล็ก ๆ บนโลกอย่างผม..
"ในแต่ละวันคนเราร้องไห้กันไม่รู้เท่าไร แต่น้ำตาก็ไม่เคยท่วมโลกสักที"
ณ เวลานี้เอง คนที่เสียใจ หมดหวัง คงไม่ใช่เพียงผมคนเดียว..อ่านมาถึงตรงนี้แล้ว ผมก็ดีใจ และขอบคุณท่านมากนะครับ อย่างน้อยความสุขเล็ก ๆ ของผมตอนนี้ก็ยังได้รู้ว่ายังมีคนติดตามความรู้สึกของผม ถ้าไม่เสียเวลา ช่วยคอมเมนต์หน่อยนะครับ ว่าครั้งนึงท่านเองก็เคยรู้สึกผิดหวัง และหมดกำลังใจเหมือนกัน..
หลากหลายบทเรียนของชีวิตยังมีมาทดสอบเราอยู่เรื่อย ๆ บางเรื่องเราไม่อาจคาดเดาตอนจบของมันได้ เหตุที่เรายังหวังอยู่ ว่าจะต้องเป็นอย่างที่คิดไว้..มีใครบ้างล่ะครับ ที่คิดว่าตอนจบเราจะพ่ายแพ้...
..ถ้าคิดอย่างนี้ เราจะมีกำลังใจจะเดินก้าวไปต่อเหรือครับ..
ไม่รู้ว่าวันพรุ่งนี้..ไม่สิ คืนนี้ผมยังจะเสียใจให้กับความผิดหวังนี้อยู่หรือเปล่า แต่จะพยายามเชื่อด้วยกำลังของหัวใจที่เหลือน้อยเต็มทีว่า อีกไม่นาน ทุกเหตการณ์จะผ่านไป..ความสุข จะต้องผ่านมาทักทายผมบ้าง
และผมจะพยายามเรียนรู้บางอย่าง และภูมิใจในตัวเองอย่างน้อยยถึงน้อยที่สุด...
"แม้รอยเท้าที่ก้าวไปอาจจะไม่สวยงาม แต่ฉันก็ภูมิใจหากต้องสะดุดลงบนทางที่ขรุขระ...มากกว่าลื่นหกล้มบนถนนที่ราบเรียบ"
อ่อ..ลืมบอกอย่างนึงครับ โลกไซเบอร์ใบนี้ ถึงแม้จะรวบรวมทุกเรื่องราวของชีวิต ขอให้เรียนรู้ และเข้าใจมันอย่างฉลาด และพร้อมที่จะปรับใช้กับชีวิตนะครับ ยังไงก็ตาม ความรู้สึกทั้งหมดของคนคนนึงย่อมแตกต่างจากใครอีกหลายคน และ ที่ที่นี้ ก็ยังคงเป็นโลกแห่งความฝัน ที่ผมแอบมาอยู่บ่อย ๆ ยามที่ต้องการหนีปัญหา และเมื่อถึงคราวปิดเครื่องเดินออกไปรับรู้ความจริง..เมื่อนั้น..
นั่นแหละ..ตัวของคุณ..ชีวิตของคุณ..และความรู้สึกของคุณ..ของแท้..!!!
อืออ..++
31 มีนาคม 2548 09:52 น.
พู่กันของหูกวาง
...ความรู้สึกของคนเราในมุมเหงา มักต้องการความอบอุ่นในโลกแห่งความเป็นจริง ต่างต้องการค้นหาคำตอบที่ไม่มีคำถาม วันเวลามักบอกอะไรบางสิ่งให้คนเราได้เรียนรู้เสมอ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องดี หรือเรื่องร้าย สิ่งต่าง ๆ จะเปลี่ยนแปลงไปมากน้อยเพียงใด คนเราน่าจะอยู่เพื่อรับรู้เรื่องร่าวต่าง ๆ นั้นหรือเปล่า ...กำลังใจเป็นสิ่งสำคัญ แต่เพราะควาเหงาใจในบางที ก็ทำให้คนเรารู้สึกขาดกำลังใจได้ ...
...ลองเรียนรู้ตัวเองดูบ้าง อาจจะทำให้เรารู้ได้ว่า ความเหงานั่นก็เป็นเพียงแค่ความรู้สึกหนึ่ง บอกให้เรารู้ได้ว่าวอยู่คนเดียวนานเกินไป...
บอกตัวเองในความคิดถึง..คนเรานั้นสามารถสื่อสารถึงกันได้ด้วยความผูกพันเก่า ๆ สิ่งต่าง ๆ จะไม่เปลี่ยนไป ทุกสิ่งจะอยู่ในที่เดิม ๆ ถ้าเรายังจะรักที่จะคิดถึงมันอย่างสุขใจ
...เพราะเราปฏิเสธไม่ได้ว่า ทุกวันที่เกิดขึ้นย่อมไม่เหมือนเดิม..แต่เรายังอยู่กับสิ่งเดิมได้ ด้วยการคิดถึง..มองมันในแง่ดี และทำให้เป็นกำลังใจ....
...แต่ละวันนี้..ความเหงา ก็คงยังไม่ห่างหายไปจากชีวิตใครคนใดคนนึง ยังคงล่องลอยวนเวียนเข้ามาทักทาย ในมุมมืดเล็ก ๆ มุมหนึ่ง ที่มีใครบางคนนั่งนึกถึงวันเก่า ๆ ด้วยความอ้างว้าง..ยังยิ้มกันได้นะครับ..ตอบรับความเป็นจริงนี้ เสียน้ำตาให้กับความหลังบ้าง แต่ไม่ใช่เพื่อรื้อฟิ้น เรากำลังนำมาเป็นฐานของวันใหม่ต่างหาก..ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในวันวาน จะดีร้ายเพียงใด ล้วนก่อเกิดทำให้เราเป็นเราอยู่ได้ทุกวันนี้ อาจะไม่มีสิ่งที่ดีกว่า..แต่ก็จะไม่มีสิ่งที่เลวร้ายกว่า..สิ่งที่สวยงามย่อมมีผ่านเข้ามาในชีวิเราเสมอ ขอเพียงรอ เดินผ่านความเหงาเดียวดายมาอย่างยินดี บอกกับตัวเองว่าเราก็เหงาเป็น คิดถึงเป็น และร้องไห้เป็น...
...ลองหลับตานึกถึงวันที่เราล้ม ความทุกข์เศร้า ความเสียใจในวันนั้น..วันนี้เรามองมันอย่างไร เรื่องบางเรื่องเราอาจเข้าใจมันได้มากขึ้นและมองได้กระจ่างกว่าวันที่เกิดปัญหา..เวลาเป็นตัวแปรสำคัญทีเดียว..
รอคอยให้ความทุกข์เศร้า ความเหงา และ ปัญหาต่าง ๆ ผ่านไปพร้อมกับเวลานะครับ ถึงแม้ว่ามันจะช้าในความรู้สึกไปบ้าง แต่ลองสังเกตดูสิครับ ตั้งแต่คุณอ่านมาจนถึงบรรทัดนี้ คุณได้ผ่านเวลานั้นมาแล้วเท่าไร..และจะถึงคืนนี้อีกไม่นาน...ต่อไปก็จะเป็นพรุ่งนี้เช้า....วันต่อ ๆ ไปจะต้องเกิดขึ้นกับตัวคุณแน่ ๆ ครับ..ขอให้รอวันนั้นนะครับ..
...เพราะยังมีอีกหลายความรู้สึกที่เกิดพร้อมกับความเหงา..แม้วันนี้อาจไม่มีกำลังใจดีดีคอยเคียงข้าง..แต่ลองบอกรักตัวเองบ้างก็ยังดีนะครับ..จับมือคุณขึ้นมา แล้วบอกมันว่า "รักนะดูแลตัวเองดีดีล่ะ"...วันพรุ่งนี้ที่คุณตื่นมา จะรู้สึกได้ทันที ว่ายังมีความรักเกิดขึ้นได้กับตัวคุณ..และคนรอบกาย..
ใช้ชีวิตให้ดี และมีความสุขมาก ๆ นะครับ...
24 มีนาคม 2548 00:59 น.
พู่กันของหูกวาง
หากว่าท้องฟ้ามีมิติเดียว คนเราก็คงมองอะไรที่เหมือน ๆ กัน คิดอะไรที่เหมือน ๆ กัน..ความขัดแย้งระหว่างความรู้สึกในความเป็นจริงคงไม่เกิดขึ้น..
ผมว่าคนเราคงมองได้เพียงแต่สิ่งที่ตัวเองมองเห็น..และมักจะละเลยสิ่งที่ไม่สามารถมองเห็น..หรือไม่แคร์ว่ามีสิ่งใดหายไป
คนเรามองเพียงแต่ว่าน้ำบริสุทธิ์เท่านั้นที่มีประโยชน์ แต่ไม่เคยสังเกตเลยว่ามันไม่มีปลาอาศัยอยู่...นั่นสิครับ แม้แต่สิ่งที่ดีที่สุด ก็อาจจะไม่ใช่สิ่งที่เหมาะสมที่สุด
มุมมองของความรู้สึก..ใครบางคนตอนนี้ คงอยู่ในมุมของความเหงา บางคนอยู่ในมุมของความสุข..ยังไงผมก็ดีใจนะครับ ที่ได้เข้าใจในทุก ๆ มุมของชีวิต ...
อ้อ...อย่าลืมกำลังใจที่สำคัญที่สุดของคุณนะครับ..อาจจะไม่ใช่คนรักที่จะคอยเติมเต็มความรู้สึกให้คุณหมุนอยู่ในมุมของความรักเพียงอย่างเดียว..เพียงแต่มันคือตัวของคุณที่จะรักตัวคุณเองได้อย่างบริสุทธิ์ใจนะครับ..
14 ตุลาคม 2547 19:01 น.
พู่กันของหูกวาง
คุณถามตัวเองอยู่รึเปล่าว่าพอเพียงกับสิ่งที่ตัวเองเป็นอยู่ไหน หลายคนบอกว่าสิ่งที่ได้มา น้อยกว่าสิ่งให้ไป ...ไม่จริงหรอก...เพราะทุกสิ่งที่คนเราได้มานั้น ล้วนเป็นสิ่งที่พอดีที่สุดแล้วสำหรับชีวิตที่คุณเป็นอยู่ ....
แม้กระเค้าคนนี้ที่ผมพูดถึง
วันนี้ผมตั้งใจจะไปสอบเอ็น ดั๊นไปไม่ทันสอบ รถ บขส. บ้าไม่ยอมออกจากท่าซะที ทั้งทั้งที่บอกผมว่าเดี๋ยวออก ๆ บอกมาครึ่งชั่วโมงยังไม่มีทีท่าว่าจะออก ตัดสินใจเดินลงรถอย่างรมณ์เสีย มานั่งกินไอติม ซดชาเขียวอยู่สักพัก ก็เริ่มเดินไปตามทางเท้าข้างถนน วันนี้ยังไงก็ไปสอบไม่ทัน...เผอิญเห็นคนพิการคนหนึ่ง เค้าขายล็อตเตอรี่อยู่ข้างถนน เขาใช้มือทั้งสองข้างแทนเท้าในการเคลื่อนตัวเอง ขาเค้าทั้งสองข้างลีบเล็กไขว้พาดอยู่บนไหล่ เนื้อตัวเลอะละอองฝุ่น ไม่น่าเชื่อเค้ายังสามารถสะพายกล่องล็อตเตอรี่ เผลก ๆ ไปตรงข้างทาง ตอนนั้นรถติดไฟแดง คนมองเค้าด้วยสายตาเวทนา สงสาร มองดูหัวคิ้วของคนเหล่านั้น ขมวดเล็ก ๆ ปากของพวกเค้าแบะออกเล็ก ๆ ยืนกระพริบตา ปริบ ๆ ... เชื่อว่าใบหน้าเช่นนี้ คงไม่มีใครอยากได้รับ (แม้กระทั่งคนที่ทำใบหน้านั้นใส่เค้า) และไม่มีใครคิดจะลงจากรถไปซื้อล็อตเตอรี่ของเค้า ตอนนั้นคิดยังไงไม่รู้ รู้สึกอยากทำอะไรสักอย่างให้ผู้คนเหล่านั้นได้เห็น เลยวิ่งข้ามถนนไป (ใส่ชุดนักเรียนอยู่ คงเด่นในสายตาคนเหล่านั้นที่จ้องมองน่าดู) เข้าไปบอกให้เค้าเลือกให้คู่นึง เค้าเลือกให้อย่างตั้งใจ สังเกตว่ามือเค้าจะหยิบอันนี้ก็ไม่ดี อันนั้นก็ไม่เอา สุดท้ายได้มาคู่นึง...สังเกตใบหน้าที่ดำคล้ำ แต่มองเห็นรอยยิ้มเค้าฟันขาว ๆ เหลือง ๆ ส่งความจริงใจให้ผมอย่างเต็มปรี่ ถึงแม้ว่าราคาที่เค้าขายจะสูงกว่าราคาจริงสักหน่อย..ก็ควักตังค์ให้ไป โน้มตัวขอบคุณเค้าอย่างสุภาพที่สุด แล้วรถที่ติดไฟแดงก็เริ่มทยอย เคลื่อนตัวไป ผมข้ามมาอีกฝั่ง ยังคงมองเห็นเค้าชูล็อตเตอรี่ ใช้มือเผลก ๆ ไปตรงข้างถนน ทั้งมีรอยยิ้มสู้กับควันจากท่อไอเสีย กรำแดดอยู่อย่างไม่คิดท้อแท้...
ไม่มีอะไรจะทำให้ผมรู้สึกดีใจไปมากว่านี้อีกแล้ว รู้สึกตัวเองยังมีอะไรที่คนอื่นไม่มี ไม่ใช่ว่าการเปรียบเทียบกับคนที่ด้อยกว่า เป็นการดูถูกเค้า..ทุกคนล้วนมีค่าของชีวิตเท่ากัน เพียงแต่เราอย่าไปรังเกียจเค้าอย่าไปรังแกเค้า เคารพในสิทธิ์ที่จะมีชีวิตและร่างกายอยู่บนโลกใบนี้ สิ่งที่ผมคิดเทียบกับตัวเอง สิ่งที่ผมมีแต่เค้าไม่มีคือความสมบุรณ์ของร่างกาย..แต่ในความสมบุรณ์ของร่างกายนั้น บางคนยังไม่พอใจกับสิ่งที่มี ในรูปร่างและหน้าตา ฐานะ อำนาจ เงินทอง ...และสิ่งที่เค้ามีแต่ผมไม่มี คือกำลังใจ ความมุ่งมั่น ตั้งใจ และอดทน ครั้งนึงผมคิดท้อแท้ไปไม่รู้กีร้อยต่อกี่ร้อยครั้ง ในขณะที่เค้าเอง ก็ยังคงต่อสู้กับชีวิต และร่างกายอย่างอดทน...
เคยมองหาบางสิ่งที่รู้สึกว่าตัวเองขาดไป...สุดท้ายแล้วก็พบว่ามันไม่มี สิ่งที่ยังเป็นอยู่ ก็ยังทำให้ผมเป็นคนคนนึงอยู่บนโลกได้อย่างปกติ สิ่งที่มีอาจไม่พออยู่บ้างในบางความรู้สึก อยากหล่อ อยากเทห์เหมือนคนอื่น ๆ เค้า อยากเก่งอยากฉลาด อยากรวย อยากเป็นที่รู้จัก เป็นที่รักของใคร ๆ ...สุดท้ายคนคนนี้ก็ยังเป็นผมคนเดิม ไม่ได้แตกต่างจากใคร และไม่ได้มีอะไรที่มาก หรือน้อยกว่าใคร...บางทีก็ดีใจ บางทีก็เสียใจ เพราะบางที คนเราก็ไม่จำเป็นต้องไขว่คว้าให้เกินตัวเอง
เพราะบางสิ่งที่ยังมีอยู่บนโลก...สุดท้ายแล้ว มันก็ยังไม่ใช่สิ่งที่ทุกคนเสาะแสวงหากันอยู่ดี..ยังคงมีสิ่งอื่นอีกมากมายที่คนต้องการ เมื่อได้มันมาแล้ว สิ่งอื่น ๆ ก็ยังคงตามมาให้เกิดความต้องการกันอีกไม่มีใครรู้หรอกครับ ว่าสิ่งนั้นคืออะไร เว้นเสียแต่ว่า เราจะค้นหาสิ่งนั้นเจอด้วยตัวเอง สิ่งที่คนเราได้หลงลืมไปในชีวิตประจำวันที่เร่งรีบ..มองหาแต่ผลประโยชน์เพื่อตัวเอง...
ลองมองดูหัวใจคุณเองสิครับว่าคุณขาดสิ่งไหน...แล้วมองหัวใจคนอื่นสิครับว่าเค้ามีสิ่งใด
แบ่งปันกันให้ดีบอกไม่ได้คุณจะมีความสุขรึเปล่า ....รอยยิ้มที่เผลอออกมานั่นต่างหาก ที่บ่งบอกว่าคุณมีความสุข
สิ่งดีดียังคงมีที่นี่เสมอ ไม่ว่าคุณจะอยุ่ที่ไหน เปิดเวปนี้ อ่านข้อความดีดีที่หลากหลายคน หลากหลายความรู้สึก บรรยายออกมา มันยังทำให้คนเรารู้ว่า ...สิ่งที่คนเรามีที่แตกต่างนี่แหละ ที่ยังทำให้โลกใบนี้ คนเหล่านี้ ยังมีความรู้สึกที่ดีดีไม่จบสิ้น ขอบคุณ ป๊ากับม๊า พี่น้องปู่ย่าตายายลุงป้าน้าอา อาจาน และทุกคนที่เกี่ยวพัน ขอบคุณไทยโพเอ็ม ขอบคุณร่างกายของผม ขอบคุณสมองและสองมือ และขอบคุณที่โลกนี้มีแว่นตา มันทำให้คนสายตาสั้นอย่างผม มองเห็นอะไรชัดขึ้นเยอะ ...^____^...
14 กันยายน 2547 18:28 น.
พู่กันของหูกวาง
ตั๊ก..ยังพอจะจำอะไรเกี่ยวกับข้าได้บ้างมั๊ย ข้าไม่รู้หรอกนะ ว่าตอนนี้เกิดอะไรขึ้นกับเอ็งบ้าง เรื่องราวต่าง ๆ ตอนนี้ ไม่ใช่ข้ากับเอ็งที่ได้ร่วมเผชิญด้วยกัน ข้ารู้สึกหวั่น ๆ ที่เอ็งต้องห่างข้าไป ไม่ใช่ว่าเอ็งจะแก้ปัญหาด้วยตัวเองไม่ได้หรอก แต่มันเป็นความเป็นเพื่อน..ที่มันยังคั่งค้างอยู่กับช่องว่างของเวลาที่ทำยังไง มันก็ยังไม่กลายเป็นอตีตซักที..ข้านึกอยู่เสมอ ว่าเอ็งยังอยู่บ้าน ข้ายังคงโทรหาเอ็งบ่อย ๆ เผื่อว่าวันไหนเอ็งจะอยู่...มันเป็นความเพ้อเจ้อของคนคนนึงแหละที่รู้ตัวเองดีว่าทำอะไรไม่ได้นอกจากนี้ มันทำให้ข้าสบายใจนะ เวลาที่ข้าโทรไป เหมือนกับว่าอีกวินาทีนั้น เอ็งจะต้องมารับ..ความรู้สึกที่หัวใจข้าหายห่างไปนาน
เอ็งก็เหอะ ตั๊ก เรื่องของข้ากับเอ็ง สุดท้ายก็เป็นได้แค่คนรู้จัก เพื่อนซี้ที่เอ็งเคยพูดถึง มันค่อย ๆ เลือนไปจากความคิดข้าแล้วหละ ข้าไม่เคยที่จะคิดหาความหมายของคำคำนี้เลย เพราะถึงยังไงข้าก็อาจจะไม่มีวันได้ตอบแทนความหมายนี้..มันคงลึกซึ้งเกินกว่าข้าจะเป็นคนค้นหาเพียงคนเดียว..เวลาที่มันเดินไปข้างหน้าเรื่อย ๆ คงยิ่งทำให้เอ็งทิ้งความหลังลงเรื่อย ๆ บางสิ่งบางอย่างที่ข้าจดจำมาตลอดช่วงเวลาที่เราไม่เจอกัน ข้าคงไม่กล้าที่จะถ่ายทอดออกมาเป็นถ้อยคำ เพราะข้าเอง คงไม่มีวันได้รับสิ่งนั้นตลอดชีวิต..ใช่ตลอดชีวิต ทั้งเอ็งและก็ข้า ก็โต ๆ กันมากแล้วนะ จะให้กลับไปเป็นกันเหมือนเดิมน่ะคงไม่ได้หรอก..แค่เราจะพอมีเวลาพบกันยังไม่มีเลย..ก็เลยไม่มีประโยชน์อะไรที่ข้าจะไปทวงถามสัญญาเหล่านั้น..ปล่อยให้เป็นความทรงจำที่ดีของข้าดีกว่า..
ขอบคุณสำหรับทุกสิ่งนะ..และก็ขอบคุณที่เป็นเพื่อนกับข้า..
ขอบคุณที่รักข้า..ข้าก็รักเอ็ง
ขอบคุณเวลาที่ทำให้เอ็งกับข้าได้พบกันและจากกัน มันทำให้ข้าโตขึ้นมาก
ขอบคุณองค์การโทรศัพท์ที่ทำให้เราได้โทรคุยกัน
ขอบคุณคุณพ่อคุณแม่เอ็งที่ทำให้เอ็งเกิดมา
ขอบคุณวินมอไซค์ ถนนหนทาง ที่ทำให้เกิดเรื่องราวต่าง ๆ มากมาย
ขอบคุณตัวหนังสือที่เอ็งเคยเขียนให้ข้า
ขอบคุณศูนย์ฝึก รด. ที่ทำให้รู้ว่าข้าขาดเพื่อนอย่างเอ็งไม่ได้
ขอบคุณกระโปรงของเอ็งด้วย มันเลอะมากเลยนะ
ขอบคุณท้องฟ้าที่ทำให้มีกลางวันกลางคืน
ขอบคุณความเหงา..มันทำให้ข้ารักเอ็งมากขึ้นทีเดียว
ขอบคุณทุกอย่างที่หล่อหลอมเป็นเรื่องร่าวระหว่างเอ็งกับข้า
และสุดท้าย
ขอบคุณรอยจูบนั้นด้วย..มันทำให้ชีวิตข้ารู้สึกอบอุ่นตราบทุกวันนี้..
และหวังว่าคงได้เจอเอ็งอีกนะ ตั๊ก..ต้องได้เจอกันแน่นอน..