21 ธันวาคม 2546 12:04 น.
พู่กันของหูกวาง
แสงอาทิตย์...สาดส่อง...ทั่วท้องฟ้า
ถึงเวลา...ของบางคน...บนความหวัง
ต่างออกมา...ทำหากิน...ณ ถิ่นทาง
ที่รกร้าง...ห่างผู้คน...ทนหมองมัว
ถือแก้วน้ำ...หนึ่งใบ...ใช่ใส่น้ำ
วางลงคว่ำ...บนพื้นปูน...ทูนเหนือหัว
ก้มลงต่ำ...ทนเจ็บช้ำ...ประจำตัว
โรคต่างระรัว...ลงสู่ร่าง...อย่างทรมาน
กายอ่อนเพลีย...แม้เหนื่อยหนัก...พักมิอาจ
พนมวาด...ไหว้ผู้คน...จนสงสาร
หนึ่งเหรีญบาท...ปัดลงสู่...ประตูทาน
หล่นลงลาน...บนแก้วน้ำ...สิ่งทำกิน
ไม้ไกล้ฝั่ง...ยังนั่งอยู่...ใกล้คูหา
คนเดินผ่าน...ไปมา...น่าถวิล
คนรวยล้น...เดินชน...คนทำกิน
ไม่สนสิ้น...ใครเป็นไร...ไม่หันมอง
น้ำตาร่วง..ลงแทนทาน...บนลานแก้ว
ชราแล้ว...ยังหาทรัพย์...น่าหม่นหมอง
ผู้เป็นบุตร...ไม่มิรุจ...หันมามอง
ปล่อยให้ใจ...ยิ่งขุ่นข้อง...ของหญิงชรา
หรือชีวิต...ที่เป็นอยู่...อดสูนัก
เวรกรรมจัก...กำหนดให้...ใจโหยหา
ทำกรรมดี...คงได้ดี...ตามเวรา
ทำกรรมชั่ว...ต้องมัวมา...เป็นทาสีใคร...(ทาสี-แปลว่าทาส)
เห็นเช่นนั้น...อาจเป็นท่าน...สักวันหนึ่ง
ต้องมานนั่ง...ขอสลึง...พึงกราบไหว้
จงเร่งทำ...แต่กรรมดี...ทุกทีไป
แล้ววันหนึ่ง...คงถึงวัย...ได้สุขดี...
20 ธันวาคม 2546 16:56 น.
พู่กันของหูกวาง
ณ มุมหนึ่งของฟากฟ้า...
เธอรู้ไหมว่า...มีใครคอยคิดถึง
ทุกสิ่งทุกอย่าง...เหมือนถูกตราตรึง
พันธนาการอยู่กับสิ่งหนึ่ง...ที่ห่างไกล
ไขว่คว้าได้เพียงความฝัน...
เพราะรู้ดีว่าความเป็นจริงนั้น...มันคว้าไม่ได้
ได้แต่มองนภา...บอกฟ้าอีกฟากว่าห่วงใย
ไม่รู้ว่าเธอจะได้ยินไหม...อยากให้เข้าใจตรงกัน
ยามฟ้าฟากนี้หม่นหมอง...
ใจมันลอยล่องเหม่อมองฟ้าฟากนั้น
ฟ้าฟากของเธอ...คงสว่างใสไร้หมอกควัน
อยากรู้ว่าเวลานั้น...เธอจะคิดถึงกัน...บ้างไหมเธอ
สายรุ้งที่พาดผ่านฟ้า...
คิดว่าคงถึงเวลา...ที่รอมาเสมอ
เขียนจดหมาย...ฝากสายรุ้งไปถึงเธอ
คิดถึงจังนะเออ...เมื่อไรจะกลับมาเจอกัน...
20 ธันวาคม 2546 16:33 น.
พู่กันของหูกวาง
ตืนขึ้นมา...ธรรมดา...ตอนเช้า-เช้า
รีบเร่งเข้า...ต้องไปเรียน...เพียรหนังสือ
หลับตาลุก...ปลุกตาสว่าง...อย่างสลึมสลือ
หยิบหนังสือ...ออกจากบ้าน...พลันก้าวไป
ใจเหมือนเดิม...ไม่เคยเพิ่ม...ขาด-เติม-ลด
ยังคงหมด...ความรู้สึก...นึกหวั่นไหว
ทุกย่างก้าว...ที่ก้าวย่าง...ร้างแรมไป
รอบทิวทัศน์...ไม่มีอะไร...ที่เปลี่ยนแปลง
เดินบนดิน...ถิ่นขาดน้ำ...ที่แห้งแตก
รอยดินแยก...ยังคงอยู่...ดูระแหง
เหมือนเมื่อก่อน...ตอนขาดฝน...อย่างรุนแรง
ยังคงแห้ง...เหือดน้ำทำ...ชุ่มฉ่ำดิน
ผ่านต้นไม้...ต้นเดิม...กลางทุ่งกว้าง
ยังอยู่ร้าง...เพียงหนึ่งต้น...บนฐานถิ่น
เป็นร่มเงา...ให้ชาวเรา...ได้ทำกิน
ยังคงเดิม...หมดสิ้น...ทุกสิ่ง-นานา
ถึงที่หมาย...ปลายถนน...บนทางเท้า
เร่งรีบเข้า...ถึงโรงเรียน...เพียรศึกษา
แม้เหมือนเดิม...ยังได้เพิ่ม...เติมปรัชญา
เข้าสู่ห้วง...ของตำรา...อย่างถาวร
แม้ไม่เปลี่ยน...ยังเหมือนเดิม...ในทุกสิ่ง
ก็สุขยิ่ง...แม้ว่าใจ...ยังไฝ่หา
ความผกผัน...ของชีวิต...มีนานา
ได้แต่รอ...กำหนดฟ้า...ลงมาสู่ดิน...
13 ธันวาคม 2546 18:41 น.
พู่กันของหูกวาง
พอสร่างรัก...ชักเริ่ม...ประเดิมเหล้า
ให้มัวเมา...เคล้าความช้ำ...ที่กำสรวล
เป็นฉันเอง...ที่ไขว้เขว...ใจเรรวน
ยังคิดครวญ...ถึงหน้าเธอ...เสมอมา
เมา เมา เมา...เมา เมา...เมา เมา เมา
ให้น้ำเหล้า...ทำให้ลืม...ความห่วงหา
เมาน้ำเหล้า...ดีกว่าเขลา...เมาน้ำตา
เสียเวลา...ทนเจ็บซ้ำ...อยู่ร่ำไป
สิ่งที่หลอก...ทำให้ชอก...และบอบช้ำ
เจ็บควรจำ...ไม่ลึกถลำ...ทำได้ไหม...?
บอกตัวเอง...ทั้งที่ตัว...มัวเมามาย
ที่เป็นอยู่...รู้เพราะใคร...ทำใจพัง
จะเอะอะ...ระราน...พลันดื่มต่อ
นั่งหัวร่อ...กับชีวิต...ที่ผิดหวัง
คนหนึ่งคน...ช่างสับสน...ล้นกำลัง
ไม่อาจยั้ง...ความเจ็บแปลบ...ที่แยบยล
ไม่รู้จัก...สร่างเหล้า...เอาเมื่อไร
หรือจักให้...เมาอย่างนี้...ดีเหลือล้น
หากแต่ใจ...ยังไม่วาย...คลายกังวล
ก็ยอมทน...บ่นกับเหล้า...พลางเมาไป
เมือใดสร่าง...ก็คงร้าง...จากความรัก
ไม่เสียหลัก...จนอกหัก...ให้หวั่นไหว
หากวันหนึ่ง...หวนคิดถึง...อีกเมือใด
คงกลับมา...หาเหล้าใหม่...ให้...เมา...เหมือนเดิม
13 ธันวาคม 2546 17:30 น.
พู่กันของหูกวาง
เธอเคยบอก...กับฉัน...ในวันหนึ่ง
คนที่ซึ้ง...คิดถึง...และห่วงหา
ช่างอบอุ่น...แสนดี...เหลือคณา
จักพึ่งพา...ก็พาได้...ดั่งใจปอง
เป็นคนดี...มีน้ำใจ...ให้รอยยิ้ม
คนกรุ้มกริ่ม...เป็นที่รัก...ของเพื่อนผอง
ทั้งดวงตา...พาใจ...ให้แอบมอง
ยังคงจ้อง...คนนั้น...ทุกวันวาน
แล้วเป็นใคร...ใจยังนึก...ถึงคนนั้น
ฉันชักหวั่น...คนที่ฝัน...นั้นคนไหน
หรือเป็นเขา...เหรือเป็นเค้า...หรือใครใคร
ก็วุ่นวาย...สับสนใน...ใจของเธอ
อยากรู้นัก...ที่เธอมัก...ชอบพูดถึง
คนหน้าบึ้ง...คือฉันคิด...พินิจเสมอ
ใครคนนั้น...ฉันไช่ไหม...ในใจเธอ
หรือเป็นเพียง...ความเพ้อเจ้อ...ของคนไกล...