28 ธันวาคม 2547 19:50 น.

-- อาลัย..ปักษ์ใต้ --

พู่กัน (เฉพาะกิจ)

เกิดเหตุการณ์พาลเศร้าเป็นเงาทุกข์
ทั้งโจรบุกใต้พรั่นใจหวั่นไหว
อีกหมุ่ยฟ้าพากระหน่ำอยู่ร่ำไป
ทั้งหวัดนกพาตกใจไทยทั้งปวง

ปลายปีนี้สี่สิบเจ็ดระเห็ดเหิน
เด็กใต้น้อยค่อยเดินตามเนินสรวง
ซากหัวใจถูกทับนับร้อยดวง
อยู่ในห้วงทรงจำจนเจียนตาย

ที่ลาลับดับสิ้นก็สิ้นแล้ว
ไม่เหลือเลยวี่แววแห่งความหมาย
ปราศเสียงสำเนียงสุขทุกหาดทราย
พบแต่เพียงเสียงร่ำให้ในราตรี

น้ำตาฟ้าไหล่บ่าเป็นห่าฝน
หรือผู้คนโศกาหมองราศี
พื้นแผ่นดินถิ่นฟ้าทั่วธานี
ต่างอาลัยน้องพี่ที่จากลา

โลกเอย...ข้าเคยถามทวงความไหม
ว่าเมื่อไรจะสิ้นภัยสักทีหนา
เราสูญคนเหลือล้นค้นคณา
และหวังว่ากาลเวลาจะปลอบเรา

สิ้นเสียแล้วแสงเดือนจันทร์เคลื่อนคล้อย
หมู่ดาวร้างเลื่อนลอยคล้อยเวหา
เหลือเพียงฟ้าสีดำหวังอำลา
เป็นสุขเถิดชาวใต้จ๋าข้าอาลัย


โอ่..ปักษ์ใต้บ้านเรา...โอ่...........ปักษ์ใต้บ้านเรา...........................................................


				
22 พฤศจิกายน 2547 16:23 น.

-- ณ มุมหนึ่งเบื้องหน้า --

พู่กัน (เฉพาะกิจ)


แบกกระเป๋าใบใหญ่เตรียมไต่ฝัน
รุงรังพันกันแสนสับสน
หอบแบกทรัพย์สำรับ..(กลัวอับจน)
ลากสู่ทางถนนที่ท้าทาย

สายตาหมายมุ่งมองเบื้องหน้า
เนินถนนสุดตาไร้ความหมาย
หมอกครึ้มเมฆฝนกลุ่นกำจาย
หรี่ดวงตาพร่าลายมองปลายทาง 

แลมืดมัวมองดูไม่สู้เห็น
แม้แสงแดดแสดกระเซ็นยามรุ่งสาง
เล็ดรอดใบไม้สู่รายทาง
เพียงจุดยืนระหว่างกลาง...ทาง - เบื้องหน้า

หวาดกลัวเกี่ยงการกระทบแทก
มุมมืดปลอมแปลก..แหวก...(ผวา!!)
ตรงเส้นทางสุดท้าย..ปลายสายตา
ไม่สู้ก้าวไปเบื้องหน้าด้วยท้าทาย

.... หรือจะปล่อยเวลาลับอยู่กับที่
       เพียงไม่รู้จะร้ายดีสักเพียงไหน
       รอคอยแสงส่องมองทางไป
       แล้วอีกเมื่อยามใดจะถึงกาล ....

.....???

...

ตัดสินใจอย่างไร??...ขอใคร่บอก
หากถึงทางตรอกออกสู่ฝัน
จะถอย หรือ สู้อย่างดุดัน
ไม่สนผลนั้นเป็นเช่นไร...




 ถึงแม้ที่หมายเบื้องหน้า
อาจไร้สิ่งล้ำค่าเปี่ยมความหมาย
ทุกนาทีที่เคยบุกและฝ่าไป
จะยังเป็นสิ่งภูมิใจ..ประจำตัว 
				
11 กันยายน 2547 20:46 น.

--- เวลาในสายลม ---

พู่กัน (เฉพาะกิจ)

แว่วเสียงบิดพลิ้วของเวลา
เลยผ่านพัดพาท้าแดดฝน
ล่วงลับนับกาลนานเกินทน
รั้งคนหนึ่งคนเพียรก้าวไป

ริมสายเส้นทางกว้างกว่ากว้าง
เวลาเริ่มร้างค่อยห่างหาย
เลือนลับไปกับตาเบื้องหน้า - กาย
จำเป็นต้องเข้าใจในเวลา

เพียงผ่านพ้นกับหนึ่งคนบนทางเปลี่ยว
มิอาจเหลียวนอกจากทางข้างหน้า
เวลาผ่านจึงผ่านไปไร้ราคา
มีให้เชยคุณค่าเพียงว่า..เคย


                       เคย..ผ่านมายังที่ซึ่งเคยผ่าน
                       เคย..รู้สึกร้าวรานครั้นอ่อนไหว
                       เคย..พบเห็นเป็นประสบพบสิ่งใด
                       เคย..บ้างไหมเห็นเวลาผ่าสายลม..


ครั้นเวลานานเนิ่นเกินเอื้อมถึง
อาจเป็นสิ่งหนึ่งเคยกังขา
เหตใดใครทางหวงเวลา
เพียงเพราะว่าดวงตายังปิดบัง

ในความจริงสิ่งสรรยังสรรสร้าง
เวลา - หนทาง - และความหลัง
คงเหลือตกหมกตะกอนตอนภวังค์
จงตื่นขึ้นเสียบ้าง..อย่าลืมไป..

เพียงเข็ม 2 เล่มบนหน้าปัด
ยังองอาจโบกสะบัดเวลาได้
คนเราทั้งมวลควรก้าวไป
ด้วยเข็มแข็ง แข็งใจ..ในเววตา


พู่กันของหูกวางเองนะครับ ....นี่ก็บ้านอีกหลังที่สะสมกลอนแปด แบบปรัชญา ๆ น่ะครับ ชอบไม่ชอบติกันได้นะครับ.....				
29 มิถุนายน 2547 09:15 น.

--- นิยายตะวัน ---

พู่กัน (เฉพาะกิจ)


                   เปลี่ยนสีเทาทาบฟ้ามาเป็นฟ้า
                      คงถึงคราแสงส่องละอองใส
                   ตาวันกรุ่นระอุแดดแผดอุ่นไอ
                   ส่องฟ้าให้เป็นฟ้างามยามรุ่งเช้า

                เสียงจิ๊บจิ๊บเจื้อยจ้อยเที่ยวคอยร้อง
                    ตามครรลองท้องนาดูน่าเหงา
                   แสงทองเริ่มเจิมฟ้าท้าตามเงา
                   ท้าให้เราลุกขึ้นตื่นจากคืนวาน

                     เพื่อรับไออบอุ่นจากทุ่นฟ้า
                เป็นศรัทธาสร้างกำลังหลังความฝัน
                   เบิ่งใจเปิดเพื่อเจิดจ้ารับตาวัน
                      แววตานั้นจงมุ่งไปในสายทาง

                  เหนื่อยอ่อนเพียงร้อนลงชั่วพัก
                  ลมสลักจะพัดพลิ้วปลิวผ่านหลัง
                    นั่งลงพักสักชั่วครู่เพื่อดูทาง
                    แล้วก้าวย่างต่อไปใต้แสงทอง

                  พลิกตะวันผันผวนใกล้จวนบ่าย
                 ร้อนมากหลายพาใจให้ไหม้หมอง
                        แผดรังสีสุริยะระอุพอง
                ผ่านเพียงต้องหลบร่มพรมร่มไม้

                กระจัดฟ้าแต่คราเช้าจนคราวคล้อย
                ตะวันค่อยลอยเคลื่อนเยือนธารใส
                    ไม่นานนักก็จากลาลงฟ้าไป
                   เลือนแสงไฟร้อนระอุดูดุดัน

                  แสงตะวันพลันจางลงกลางน้ำ
                      สนธยาเย็นย่ำคื่นค่ำฝัน
                วิถีชนเปลี่ยนเส้นทางกันกลางคัน
                   แบ่งส่วน-ชั้น ชีวากลางราตรี

                     สิ้นแล้วนิยายปลายตะวัน
                   โลมชายฝันฟ้าเหงา-เศร้า-สุขี
                  ครั้นหมดคืนตื่นอีกคราทองธาตรี
                 จะส่องศรีทั่วฟ้าครามเช่นยามเดิม


				
28 มิถุนายน 2547 11:41 น.

--- ครวญจันทร์ ---

พู่กัน (เฉพาะกิจ)



            ร้อยดาวเดือนเคลื่อนคล้อยลอยเกลี่อนฟ้า
                    อุ่นจันทราทาบใจในคืนหนาว
                เสียงหรีดหริ่งกริ่งกรั่งดังกริ่งกราว
                คืนสกาวฟ้ากราวเมฆดุจเสกมนต์

                    ฉันนั่งลงตรงพื้นใกล้ผืนน้ำ
                นอนลงต่ำเงยหน้าเทียมหญ้าสน
              มองเมฆคล้อยลอยคว้างกลางลมบน
                   บังจันทร์จนมืดคล้ำปานย่ำใจ

                ดับลงแล้วจันทร์เจ้าฉันเหงานัก
                ตรงที่พักฉันนอนลงพงหญ้าไหว
           กลับหมองหม่นเหมือนมารมาผลาญใจ
               ให้ร้าวไหวอ่อนแรงไร้แสงจันทร์

                 ขอลมฟ้าลมดาวช่วยพราวพัด
                 โบกสะบัดเมฆาเบื้องหน้านั้น
              เพียงแสงนวลยวนตาส่องมาพลัน
              ความเหงานั้นคงจางไปในใจเรา

                    ค่ำคืนหนาวคืนนี้ไม่มีรัก
             ฉันนอนพักพิงกอหญ้าแววตาเหงา
               คล้อยต่ำแล้วแคล้วลาจันทราเจ้า
                      ใกล้รุ่งเช้าเต็มทีนาทีใด

                ใกล้ขอบฟ้าเวลาลับดับคืนเศร้า
       พระจันทร์เจ้า..เจ้าเคยเหงาเหมือนเราไหม
             ใต้แสงเดือนเคลื่อนคล้อยล่องลอยไป
               ไม่เห็นใครครวญจันทร์เช่นฉันเอง

               คงเพราะฟ้ายามค่ำคืนคนตื่นน้อย
               จันทร์คงคอยเฝ้าหาคนถูกข่มเหง
             ลมฟ้ากราวดาวฟ้าไกลเรียงสายเพลง
               คอยบรรเลงเสียงจันทรายามราตรี

               เมื่อย่ำเช้าขอเหงาจางไกลจากฝัน
                    จบคืนวันแสนทุกข์ไร้สุขี
                  จุดชีวิตแห่งความจริงยิ่งทวี
             หวังคืนนี้คงมีจันทร์...ให้ฉันครวญ...
 
				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟพู่กัน (เฉพาะกิจ)
Lovings  พู่กัน (เฉพาะกิจ) เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟพู่กัน (เฉพาะกิจ)
Lovings  พู่กัน (เฉพาะกิจ) เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟพู่กัน (เฉพาะกิจ)
Lovings  พู่กัน (เฉพาะกิจ) เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงพู่กัน (เฉพาะกิจ)