ปลายฟ้าสุดสายรุ้ง.... รออรุณรุ่งรับดวงดอกไม้หวาน ให้ผลิแย้มแต้มใจไปชั่วกาล ให้ริดรานผลิช่อจากกอภักดิ์ ปลายฟ้าไกล... ห่างแค่ไหนพ่ายแน่นหนัก อย่าเพียงสัญญาลวงเลยที่รัก นานนักกว่าเราได้พบกัน ปลายฟ้า... ดอกเสน่หาหลอมรวมฝัน ดอกพิสวาทหยาดสายน้ำผึ้งจันทร์ มหัศจรรย์หยุดโลกเคยโศกตรม ปลายฟ้า..... นวลนภาแสนหวานรอรักห่ม มีอ้อมกอดคนดีลบระทม ให้สายลมเห่กล่อมถนอมนวล...! ................................................. http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song6370.html ปลายฟ้า มะลิลา บราซิลเลี่ยน ปลายฟ้าปลายฟ้า แค่หลับตาลง คงพบกัน โอบกอดดวงใจ สายสัมพันธ์ ท่ามกลางความฝัน ของเรา ดาวน้อยดาวน้อย โปรดลอยมาลง ตรงหัวใจ เก็บเกี่ยวความคิด ถึงฉันไป ให้เธอที่ปลายฟ้าไกล คิดถึงเพียงเธอ ในใจฉัน คิดถึง เพียงเธอ ไม่มีคำใด จะแทน จิตใจ มากมาย เท่าคำ นี้เลย ดาวน้อยดาวน้อย โปรดลอยมาลง ตรงหัวใจ เก็บเกี่ยวความคิด ถึงฉันไป ให้เธอที่ปลายฟ้าไกล คิดถึงเพียงเธอ ในใจฉัน คิดถึง เพียงเธอ ไม่มีคำใด จะแทน จิตใจ มากมาย เท่าคำ นี้เลย ดาวน้อยดาวน้อย โปรดลอยมาลง ตรงหัวใจ เก็บเกี่ยวความคิด ถึงฉันไป ให้เธอที่ปลายฟ้าไกล ปลายฟ้า...
จุดเทียนหอมฟังเสียงฝนอ่านกลอนฝัน ฟ้ำรำพันดินร่ำไห้คล้ายสิ้นหวัง กำสรวลโศกโลกแห่งรักไร้จีรัง ต่างฝากฝังดวงใจละไมละมุน ลมละเมอเผลอชิดสนิทภักดิ์ ให้ทายทักริมใจจนหอมกรุ่น หากมิใช่คนในฝันเคยร่วมบุญ เพียงวันหมุนให้พบพรากเพื่อจากลา เช่นชีพขวัญวันเก่าร้าวรานจิต ดวงชีวิตแตกสลายจนสะสา คล้ายธุลีไร้ผู้ใดใครนำพา กอบแก้วมาด้วยสองมือนี้พลีเลือดรัก ไม่คุกเข่าครวญคร่ำพร่ำโทษใคร แม้นเสียใจคืนร้าวหนาวหน่วงหนัก อธิษฐานสาบานไว้มิหมายภักดิ์ จะไม่รักใครอีกเลยต่อแต่นี้.....! ................. http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song1931.html อายฟ้าดิน จะบอกรักใครก็อายฟ้าดิน ความหวังพังสิ้น ทางรัก มืดมน เกิด มา ร่างกายเท่านั้นเป็นคน แต่หัวใจปี้ป่น โดนรักขยี้แหลกราญ จะเอ่ยรักใครให้เอือมระอา เมื่อไร้คุณค่า จนมิ ต้องการ ตราบ จน สิ้นคนมั่นรักยืนนาน ต้องทุกข์ทรมาน ร้าวราน ฤดี ชีวิตต้องสิ้น ความหมาย วิง วอน ไหว้ ฟ้าดินก็ไม่ปราณี เจ็บ ปวด รวดร้าว ชีวี ดวงฤดี มีแต่ ชอกช้ำเรื่อยมา ไม่อยากรักใครให้อายฟ้าดิน กลัวเขาจะสิ้น ความรัก เมตตา สู้ กลืน เก็บความชอกช้ำอุรา ไม่รักใครดีกว่า เดี๋ยวเขาจะอาย ฟ้าดิน ชีวิตต้องสิ้น ความหมาย วิง วอน ไหว้ ฟ้าดินก็ไม่ปราณี เจ็บ ปวด รวดร้าว ชีวี ดวงฤดี มีแต่ ชอกช้ำเรื่อยมา ไม่อยากรักใครให้อายฟ้าดิน กลัวเขาจะสิ้น ความรัก เมตตา สู้ กลืน เก็บความชอกช้ำอุรา ไม่รักใครดีกว่า เดี๋ยวเขาจะอาย ฟ้าดิน...
ยอดดวงใจ.... มองขอบฟ้าไกลแลเห็นขวัญ ในรุ้งเรียวแสงตะวัน ในพรายจันทร์เพ็ญพราวดวง ยอดดวงหฤทัย ไกลแค่ไหนแสนห่วงหวง คือสร้อยโซ่รักประทับทรวง คือเรียวรวงดารารายในสายใจ คนดี จะสักกี่ปีนานแค่ไหน รอมิ่งมณีนุชคุ้มขวัญหทัย โลกหมุนไปเราคงได้พบกัน ยอดเทวี ชีพนี้สะสมบุญนะยอดขวัญ ระหว่างเรารักแท้เป็นนิรันดร์ มหัศจรรย์จิตเจ้าราวอัญมณี ................... http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song138.html ที่รัก..... แจ้ ดนุพล แก้วกาญจน์ นานแล้วพี่หลงพะวงมิหน่าย นานแล้วที่หมาย จะได้ภิรมย์ นานแล้วพี่รักคอยจักชื่นชม นาน แล้ว รักเพียงลมลม ตรมเช้า ค่ำ ที่รักนะรักเพราะใจมิกล้า ที่ช้านะช้า มิกล้าเผยคำ ที่คิดนะคิด กลัวอกจะช้ำ เอ่ย คำแล้วเจ้าจะทำให้ช้ำใจ อย่าเหมือนน้ำค้างพราวพร่างใบพฤกษ์ พอยามดึกเหมือนดังจะดื่ม กิน ได้ พอ รุ่งสางก็จางหายไป รู้แน่แก่ใจ ได้แต่ ระทมชีวี ที่รักนะรักเพราะเทพเสริมส่ง ที่หลงนะหลง เพราะเจ้า แสนดี ที่หวงนะหวง เพราะสวยอย่างนี้ กลัว ใครเขามาแย่งพี่ ไป เอย อย่าเหมือนน้ำค้าง พราวพร่าง ใบพฤกษ์ พอยามดึกเหมือนดังจะดื่ม กิน ได้ พอ รุ่งสางก็จางหายไป รู้แน่แก่ใจ ได้แต่ ระทมชีวี ที่รักนะรักเพราะเทพ เสริมส่ง ที่หลงนะหลง เพราะเจ้าแสนดี ที่หวงนะหวง เพราะสวย อย่างนี้ กลัว ใครเขามาแย่งพี่ ไป เอย...
คิดถึงดวงใจไกลสุดหล้า เทวีแห่งทิวาซึ่งช่วงฉาย ร่ายลำนำขับกล่อมมาทักทาย ในเดียวดายหมายพ้องสองดวงใจ หนึ่งนุชนวลมณีศรีศักดิ์ งามพักตร์ผ่องเพ็ญไสว อีกหนึ่งคุ้มขวัญงามเกินใด พรากไกลเพียงร่างห่างกัน ดั่งหัวใจรัดร้อยสร้อยโซ่รัก สลักกลางดวงจิตชีวิตขวัญ ระหว่างเรารักแท้เป็นนิรันดร์ รอเพียงวันตะวันฉายด้วยสายรุ้ง พร้อมรอยยิ้มพริ้มเพราลบเหงาโศก โลกทั้งโลกเริ่มใหม่อรุณรุ่ง ทัดดอกไม้ริมแก้มหอมจรุง ฝันวันพรุ่งชีพช่วงดั่งรวงดาว....! ........................................ http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song481.html คิดถึง จันทร์ กระจ่าง ฟ้า นภา ประดับ ด้วยดาว โลก สวย ราว เนรมิต ประมวล เมืองแมน ลม โชย กลิ่น มาลา กระจาย ดินแดน เปรืยบ มี แสง คนึง ถึง น้อง นวลจันทร์ งาม ใด หนอ จะพอ ทัดเทียบ เปรียบน้อง เจ้า งาม ต้อง ตาพี่ ไม่มี ใครเหมือน ถ้า หาก น้อง อยู่ด้วย และช่วย ชมเดือน โลก จะ เหมือน เมืองแมน แม่นแล้ว นวลเอย...
ท่ามดินน้ำฟ้านภากาศ เจ้าหวังวาดสิ่งใดในปรารถนา เพียงสุขทุกข์พันธนา ฤารอท่าหาความหมายลมหายใจ ผ่านพบจบจากพรากเจ็บ หนาวเหน็บเดียวดายนึกหน่ายไหม วนซ้ำกรรมซัดนานเท่าใด จึ่งเข้าใจความจริงนิ่งฟังชีวิต มองภายในเห็นเพียงอัญมณี ดั่งมณีดวงแก้ววับแววจิต ปรากฏธรรมล้ำลึกไร้นึกคิด มีเพียงทิพย์กระจ่างพร่างพราย ปัญญาญาณฉายฉานชัด รุ่งรัศม์เย็นว่างสว่างหมาย สงบเงียบในเวิ้งฝันพรรณราย สิ้นไร้กายในครองขวัญนิรันดร...