สองนัยน์เสนอนวลสนองโศก พลีแด่โลกวิบากฝากรอยแผล ดวงดอกไม้บูชายัญวันวนแปร หาใดแท้แค่เสน่หามายาลวง สองนัยน์สะท้อนรานทั้งหวานเศร้า ซ่อนเรื่องราวลึกล้ำช้ำลาล่วง สอนสัจจะจริงสรรพสิ่งทุกข์ทั้งปวง อย่าแหนหวงห่วงหาปรารถนาใด แลให้เห็นรอยกรรมตัวกำหนด ให้ละลดเลิกยึดมั่นหวั่นหวามไหว แท้ทุกข์สุขผ่านมาก็ผ่านไป อย่าอาลัยอาวรณ์อรชรชีวิน เสนอนวลสนองรักหนักดวงจิต ดั่งชีวิตพันธนามิรู้สิ้น ไม่รักได้น้ำตาไม่ต้องริน ฝากชีวินตามรอยธรรม..เลิกซ้ำวน...!
ขอหนีการอภิปรายสู่ชายทุ่ง หลีกเรื่องยุ่งพาดวงใจเลิกรานหมอง ทั้งเหลืองแดงรบกันน้ำตานอง นั่นก็พี่นี่ก็น้องเกลือจิ้มเกลือ ติดปีกใจลอยเหนือโลกโศกมายา ธุลีหล้าข้าแผ่นดินศรัทธาเชื่อ เปรียบไทผองเราต้องลงลำเรือ เดียวกันเพื่อสู่ฝั่งฝันอันแสนไกล น่าเศร้าใจวิบากแผ่นดินสิ้นสามัคคี ต่างแย่งดีชิงเด่นไปถึงไหน หากสิ้นชาติขาดแผ่นดินจะเหลือใด สิ้นเสรีไทเลือดท่วมทุ่งพสุธา แลให้เห็นรักให้เป็นใช่แบ่งแยก ดั่งหญ้าแพรกแหลกรานไปทุกหย่อมหญ้า วิปโยคโศกหนาวทั่วพารา อายดินฟ้าที่ไทยมาฆ่ากันเอง...! http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song314.html บ้านเรา บ้าน เรา แสน สุขใจ แม้จะอยู่ ที่ไหน ไม่สุขใจ เหมือนบ้านเรา คำ ว่าไท ซึ้งใจ เพราะใช่ ทาสเขา ด้วยพระบารมีล้นเกล้า คุ้มเรา ร่มเย็น สุขสันต์ รุ่ง ทิพย์ ฟ้า ขลิบทอง พริ้วแดดส่อง สดใส งามจับใจ มิใช่ฝัน ปวง สตรี สมเป็นศรีชาติ เฉิดฉัน ดอก ไม้ชาติไทยยึดมั่น หอมทุกวัน ระบือ ไกล บุญ นำพา กลับมาถึงถิ่น ทรุดกายลงจูบดิน ไม่ถวิลอายใคร หัว ใจฉัน ใครรับฝาก เอาไว้ จาก กัน แสน ไกล ยังเก็บไว้ หรือเปล่า เมฆ จ๋า ฉัน ว้า เหว่ ใจ ขอวานหน่อยได้ไหม ลอยล่องไป ยังบ้านเขา จง หยุดพัก แล้วครวญรับฝาก กับสาว ว่าฉันคืนมาบ้านเก่า ขอยึดเอา ไว้เป็น เรือน ตาย
พัดมงคล... โอบกมลเกื้อใจขวัญเลิกหวั่นไหว พายุชีวีที่เคยมอบหมองใด ให้ผ่านไปนับแต่นี้ชีวีสราญ พัดมงคล... พัดพะวงสร้างพลังหวังพ้นผ่าน ให้ดวงใจใสงามดั่งบัวบาน จิตกล้าหาญรู้ซึ้งค่าพาพบธรรม พัดมงคล.. พัดสายฝนห่มนวลใจใสชื่นฉ่ำ สอนบทเรียนมิเวียนวนพ้นพงกรรม ฝากน้ำคำจารน้ำใจในสร้อยอักษรา พัดมงคล.. พัดคู่วนเคียงข้างสร้างวาสนา สร้างกุศลผลบุญสู่แดนฝันสวรรค์เวลา เพียรภาวนาพาพบมณีนิรพาน......! http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song129.html หยาดน้ำฝน หยดน้ำตา หยาดน้ำจากตา นางฟ้าที่ตรมอารมณ์ หลั่งความขื่นขมที่ถมอยู่ใน ใจตน หยาดย้อยจากปรางสวรรค์เบื้องบน สู่กลางแก้มดินในฐานถิ่นคน นั้นคือหยาดฝน ฉ่ำใจ สาดสายพร่างพรายพรมผืนไร่นา แนวเนิน ป่าดอนโขดเขินคลองขลุงทุ่งหนอง นองไป หล่อเลี้ยงพืชพันธ์ มีผลดอกใบ โลกเคยหลับไหล พลันฝืนตื่นใจ สวยงามสดใส จริงเอย ทอแสงทองอาทิตย์ทาบทา พลันน้ำตานางฟ้าระเหย เป็นละอองไอน้ำอย่างเคย ถูกลมรำเพย พัดเลยลอยวน หยาดน้ำจากตา นางฟ้าที่ตรมอารมณ์ ฝากมากับลมเป็นฝนพร่างพรม ใจคน แต่น้ำจากตาตอนช้ำกมล ที่เราหลั่งลอย ระเหยกี่หน ถึงกลายเป็นฝน ฉ่ำใจ ทอแสงทองอาทิตย์ทาบทา พลันน้ำตานางฟ้าระเหย เป็นละอองไอน้ำอย่างเคย ถูกลมรำเพย พัดเลยลอยวน หยาดน้ำจากตา นางฟ้าที่ตรมอารมณ์ ฝากมากับลมเป็นฝนพร่างพรม ใจคน แต่น้ำจากตาตอนช้ำกมล ที่เราหลั่งลอย ระเหยกี่หน ถึงกลายเป็นฝน ฉ่ำใจ...
ฝนพรายสายพร่างพรมหลังคาจาก แลงามมากเกินกว่าที่ตาเห็น สายน้ำทิพย์เทวาหยาดให้เย็น มิเคยเว้นเมตตาพสุธาชน คือธรรมะธรรมชาติสะอาดใส สอนสัจจะใจมวลมนุษย์ทุกแห่งหน รู้อิงโอบพึ่งพาเอื้อกมล รู้พาตนเลิกทำลายโซ่สายใย วัฏฏะใดไหนเล่าเท่าพึ่งพิง ทุกสรรพสิ่งดินน้ำฟ้าทั้งป่าใหญ่ รู้รักษ์สายธาราลำเนาไพร ดั่งสายใจต่อลูกหลานบ้านแห่งเรา กระซิบถึงเธอคนดีทุกดวงใจ จะวันนี้วันไหนอย่ามัวเขลา สวรรค์สรรเสกได้ใต้ร่มเงา นับนานเนาใต้ร่มธรรมระร่ำริน ช่อฉัตรเพชรพร่างพรายคุ้มกันเกศ ทุกข์เทวษไทยผองมลายสิ้น เย็นร่มรัตน์ฉัตรธรรมพุทธผืนดิน หทัยถวิลซึ้งค่าเกินกว่าจาร ขอเป็นดั่งบัวบุญชูช่อแม้นรอร่วง พลีชีพดวงสร้างบุญกุศลศานติ์ วันใดจิตดวงใสสิ้นลมปราณ อธิษฐานจุติขวัญสวรรค์สุวรรณภูมิ......!
วันที่ฟ้าสีโศก โลกทั้งโลกดูหม่นหมอง ลึกลึกใจดวงทอง ยังคงครองความเมตตา เงียบเงียบสงบล้ำ ดิ่งดื่มด่ำดำรงค่า เจริญสติภาวนา เพียรค้นหางามภายใน ทุกข์ท้อล้อให้หลง วัฏฏวงเวียนวนไป ปล่อยวางกระจ่างใจ จิตเป็นไทแสนเสรี ปีกธรรมพาพ้นบ่วง เล่ห์ทั้งปวงรู้หลีกลี้ กี่กาลนานกี่ปี จิตมณียังพราวพราย...!