12 กุมภาพันธ์ 2552 12:16 น.
พุด
ได้ยินไหมเสียงกระซิบจากใบไม้
อย่าวนว่ายโลภหลงในสังสาร
ลมหายใจแสนสั้นวันไม่นาน
แค่เพียงผ่านใช้หนี้กรรมซ้ำซ้ำวน
ได้ยินไหมเสียงกระซิบจากบัวบึง
สอนลึกซึ้งหยัดช่อรอทุกหน
สัจจธรรมบัวสี่เหล่าพุทธชน
กลางกมลรอแสงทองส่องชีวิต
ได้ยินไหมเสียงกระซิบจากดวงดาว
ในคืนหนาวร้าวรานในดวงจิต
ว่าโลกนี้ยังมีแสงธรรมทิพย์
ที่วะวิบนำทางใจไปนิรันดร์
ได้ยินไหมเสียงหัวใจยังคงเต้น
มิเคยเว้นเฝ้ารอต่อสายฝัน
ให้สร้างบุญกุศลทุกคืนวัน
ตั้งจิตมั่นสู่แดนสวรรค์อันเรืองรองที่ปองรอ...!
12 กุมภาพันธ์ 2552 11:48 น.
พุด
ที่นี่มีรักเต็มอ้อมใจ
มีดาวไสวเต็มฟ้าเวลาค่ำ
มีดวงดอกไม้ร่ายฟ้อนเริงระบำ
มีน้ำค้างพรำพรมกลีบพะยอมไพร
ที่นี่มีรักให้พักพิง
มีทุกสิ่งเงียบงามพิสุทธิ์ใส
มีธรรม ธรรมชาติประดับใจ
มีอุ่นไอ โอบเอื้อ เพื่อแบ่งปัน
ที่นี่ตรงนี้ยังมีรัก
คล้องสร้อยภักดิ์เย็นใสอย่างใจฝัน
มีเมตตาปรารถนาดีชื่นชีวัน
ในรอนแสงตะวันก่อนวันลา
เอนกายลงตรงนี้เถิดที่รัก
ในอ้อมตักแนบแน่นเสน่หา
ตราบจนกว่าเรียนรู้โลกโศกมายา
ปิดฉากละคอนชีวาด้วยซึ้งค่าในรสธรรม....!
11 กุมภาพันธ์ 2552 12:53 น.
พุด
วิบากเก่าพาเราให้พานพบ
รักฤาจบอยู่ที่บุญกุศล
กี่ชาติภพที่เราต้องว่ายเวียนวน
มิผ่านพ้นมิฝึกจิตวิปัสสนา
ดวงปัญญาจักฉายฉานรู้ทันเท่า
เหนือโศกเศร้าสุขทุกข์มิปรารถนา
อธิษฐานจิตนิมิตหมายฝากชีวา
ใต้ร่มพุทธรัตนานำทางใจ
มายาที่ได้ผ่านการเรียนรู้
เพียรเฝ้าดูจิตตนกระจ่างใส
บ้านภายนอกหลอกลวงหลงหนทางไกล
บ้านภายในสว่างไสวเจริญสติภาวนา
วันแห่งรักภักดิ์นี้พลีแด่ธรรม
ให้รินร่ำพรำพรมซาบซึ้งค่า
รักใดไหนเล่าให้สัจจะดวงชีวา
เท่ารักในศาสนาที่สุขว่างกระจ่างเย็น...!
10 กุมภาพันธ์ 2552 17:45 น.
พุด
สองวันกับสองคืน
กับการได้มีโอกาสได้เยือนถิ่น
*แผ่นดินธรรมแผ่นทองแห่งที่ราบสูง*
ทำบุญทอดผ้าป่าที่วัดเรียบง่าย
ชิดใกล้ฝั่งโขง
เมืองนครพนม
ที่มีคำขวัญอันงดงาม
*พระธาตุพนมค่าล้ำ
วัฒนธรรมหลากหลาย
เรณูผู้ไท เรือไฟโสภา งามตาฝั่งโขง*
ไหว้พระธาตุพนม
พระธาตุเรณู
พระธาตุเชิงชุม
ภายในวันเดียว
พร้อม..
ได้สัมผัสสายธาราน้ำใจ
อันแสนใสเย็นงามของชาวบ้าน
ที่เตรียมต้อนรับ
พร้อมพิธีบายศรีสู่ขวัญ
ให้หัวใจสาวบ้านนาบ้านไพร
อย่างฉันแสนตื้นตันอย่างที่สุด
ฉันนั่งนิ่งๆทิ้งดวงใจดื่มด่ำ
กับธรรมชาติอันแสนงามล้ำค่า
แลเห็น..
ดวงดอกจานบานแดงสะพรั่งไปทั้งต้น
ราวต้องมนตรา ลบลืมความเหว่ว้า
ที่แสนเหงาใจ....
ยามเห็นนาแล้งไร้....วัวควายผอมโซ
แล...
ใบไม้สีเหลือง น้ำตาล..
กำลังหว่านโปรยปลิดปลิว
ไปตามแรงลมยามค่ำ
พร้อม..
ฟังเพลงนี้ไป
ด้วยดวงใจที่เดียวดายลึกซึ้ง ตรึงตรา
ไปกับ..
หลากชีวาชีวิตนี้
ที่แสนวกวนไปตามผลแห่งเพรงกรรม....!
........................
กลับมาถามหากำลังใจ / ไผ่ พงศธร
ลมหนาวลูบข้าวรวงไหลลู่ตามแรง
ตะวันโบกแสง กอดผืนนาปลายฟ้าหน้าหนาว
กลับมาเหยียบดิน บนผืนแผ่นดินบ้านเดิมของเรา
กรุ่นหอมของอ้อมรักเก่า ให้มาแนบเนาก็ยังชื่นใจ
ไปเพื่อขายแรงงานพลัดบ้านไกลถิ่น
บางวันได้ยิน เสียงหัวใจหล่นกับเงาเดือนหงาย
ตื่นเพื่อแข่งขัน หลับเพื่อหยุดฝันถึงวันต่อไป
เก็บเหงากลับมาถามไถ่ ถึงกำลังใจในยามล้าอ่อน
*ก็รู้ว่าเธอคอยอยู่เสมอทุกลมหายใจ
ก็รู้ว่าใครสิงสู่อยู่ในหัวใจคนจร
กลับมากอบกำ คำรักทุกคำที่เคยเว้าวอน
ก่อนหวนมหานคร เป็นกรรมกรเหงื่อรินแลก
**
ลมหนาวลูบดวงใจให้ยิ่งหนาวหนัก
กุมมือคนรัก อีกไม่นานนักคงต้องห่างเหิน
สองตาสบตา ทวนคำสัญญาหัวใจสะเทิ้น
ปลายฝันที่ยังไกลเกิน เธอจะร่วมเดินสู้ด้วยหรือเปล่า
.......................................
ดอกจาน..บานสะพรั่งหน้าแล้ง
สีแดงแต้มแต่งพื้นดินอีสาน
ลมร้อนโชยพลิ้ว...พัดปลิวโชยผ่าน
แย้มเยือนพื้นถิ่นอีสาน
แดนกันดารสุดแสน...ไกล
เสียงแคน...โหยแผ่วแว่วมา
พื้นนา...ร้องครวญดินแตกระแหง
ทุกผู้คนหม่นหมองสิ้นเรี่ยวแรง
ดอกจานเจ้าบานหน้าแล้ง
กลีบดอกสีแดง...ยังหมองไหม้
ท้อง...ทุ่งนานี้ขาดนาง
น้องนาหนีบาง...เข้าสู่เมืองกรุงสวรรค์
ทิ้งทุ่งนาเปลี่ยวร้างลงกลางคัน
มุ่งไปด้วยจิตใฝ่ฝัน หาเงินหางานเลี้ยงกาย
ท้อง...ทุ่งนานี้ขาดนาง
น้องนาหนีบาง...เข้าสู่เมืองกรุงสวรรค์
ทิ้งทุ่งนาเปลี่ยวร้างลงกลางคัน
มุ่งไปด้วยจิตใฝ่ฝัน หาเงินหางานเลี้ยงกาย
เฝ้ารอ...คอยน้องจนสองปีกว่า
ย่างเข้าเดือนเมษางานสงกรานต์เคยสัญญา
คอยแล้วเงียบหาย...สูญไปดังสายลมพา
หรือลืมสิ้นแล้วบ้านนา ลืมดอกจานเสียงแคน
วอน...วอนฝากสายลมโชยผ่าน
ด้วยจิตอธิษฐานโปรดได้สงสารและเมตตา
กระหนํ่าเมฆฝน...ฝูงคนกลับคืนบ้านนา
อีสานกันดารหนักหนา
ลมเอ๋ยช่วยพาความสุขมาเยือน
ฮืม...........
................................
ดอกจานประหารใจ....มนต์แคน แก่นคูน
ดอกจานบานแล้วทั่วท้องนา ต้นเดือนกุมภา มีนา เมษายน
คึดฮอดขวัญใจคนจน ที่เคยปีนต้นดอกจานหวานใจ
ดอกจานบานเมื่อปีกลาย พี่ยังจำได้ใต้ต้นกระโดน
สัญญาฮักอยู่ข้างกองโพน น้ำตาจะหล่นคิดถึงคนรักเดิม
ไปไสน้อนวลน้องหล้า เจ้า บ่ มาสัญญาเพิ่มเติม
ดอกจานบานกลางทุ่งเดิม ที่เราเคยเริ่มสบตาสัมพันธ์
ลำ รำพันไห้หัวใจคนเก่า ( ซ้ำ ) เลยมานั่งโศกเศร้าคอยเจ้าอยู่นา
เหลียวขึ้นฟ้าขี้ฝ้าเหลี่ยนเวียนหมุน หัวใจเคยลงทุนมาหมุ่นมีไปได้
เฮ็ดจั่งใด๋หัวใจฮวยแห้ง ( ซ้ำ ) เห็นดอกจานสีแดงยามเช้ายามค่ำ
คิดถึงคำวอยเว้าของเจ้าสู่ยาม เจ้าบอกย้ำว่าทั้งฮักทั้งหวง
เก็บดอกจานเป็นพวงมาใส่มือของอ้าย
มอบดอกไม้ให้หัวใจซึ้งกัน เก็บดอกจานมั่นในสัญญา
จั๊กจั่นเรไรร้องมา ควายน้อยกลางนาจ้องเป็นพยาน
คำหวานคือรักบริสุทธิ์ แล้วมาสะดุดหยุดลงตรงนั้น
ปีนี้กลางทุ่งดอกจาน พี่มารำพันเดียวดายไร้แฟน
เจ้าดอกจานเคยบานกลางทุ่ง ไปบานในกรุงเสียแล้วละน้อ
กลายเป็นกุหลาบประดับใจผู้ใด๋น้อ ทิ้งคนมอซอรอข้างกลางนา
ลำ เทียวมาถ่าสัญญาหม่องเก่า ยังคอยถ่าสัญญาหม่องเก่า
เห็นผู้สาวเลาะบ้านไผนั้น บ่ สน หนี บ่ พ้นความเก่าความหลัง
ย้อนความหวังกับนาง บ่ สร่างในใจอ้าย
ปันใจไปให้ใครเขาครอง ปล่อยให้ทุ่งทองมาหมองเป็นทุ่งแล้ง
ถึงยามดอกจานสีแดง ใจแสลงแกล้งทรมาน
ลำ คอยวันหลายปีพ้นผ่าน ( ซ้ำ ) ดอกจานบานแล้วกะหล่น
คือคนฮักแล้วกะฮ้าง ปานก้างป่อนใส่คอ
แค้นจอรอแท้น้อเป็นทางผ่าน อดีตรักต้นจานสังหารอ้าย เอย....
4 กุมภาพันธ์ 2552 13:24 น.
พุด
โลกแสนเงียบงามยามลำพัง
สุขฤาหวังสิ่งใดไม่อยากฝืน
เพียงมายาปราถนาใดไม่ยาวยืน
อย่ารื้อฟื้นอดีตเก่าเงาหลอนใจ
เริ่มต้นใหม่กับวันดีฟ้าสีฟ้า
ลบเหว่ว้าให้สิ้นวันฟ้าใส
อยู่ที่เราสร้างจิตว่างกระจ่างใจ
รู้เป็นไปรู้ทันเท่าก็เท่านั้น
รักฤาชังก็แค่ยังเฝ้าหลงวน
คนคนคนแค่จิตชีวิตฝัน
ไม่มีดอกรักแท้รักนิรันดร์
เพียงสวรรค์สมมุติหยุดดวงใจ
นิ่งนิ่งในลำพังกับจิตตน
จักค้นพบปัญญาสว่างไสว
เจริญสติภาวนาทุกวันวัย
คือยิ่งใหญ่พบทางแก้วแล้วชีวิต...!
.................................
http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song2032.html
ฟ้ายังมองเรา
จาก วันนั้น วันที่ฉันเองยังเยาว์วัย
ครั้นร้องไห้ไร้คนเอาใจ
แหงน ขึ้นมองฟ้า ปลอบ ใจเรา
เพียงแต่เฝ้ามองดวงดารา
แสงสวยส่อง ฉันมองเพลินตา
ฟ้าไม่เคยเก่า ฟ้ายังมีรักและพลังใจ
ฟ้าจะอยู่ข้างเราตลอดไป
ตะวันลับไป แต่ยังมีแสงดาว
ส่องสว่างกระจ่างทุกคราว
ยามเศร้า คราวไหน
คราวเกิดท้อใจให้ระอา
เหงาหมองหม่นไร้คนนำพา
ฟ้ายังมองเรา
ฮึมฮึมฮึ้มฮึ่มฮึ่ม
ฮึมฮึมฮึ้มฮึ่มฮึ่ม
ฮึมฮึมฮึ้มฮึ่มฮึ่ม
ฮึ้มฮึมฮึ้มฮึม
ฟ้ายังมีรักและพลังใจ
ฟ้าไม่เคยเก่า
ฟ้ายังมีแสงชี้ทางเรา
ฟ้ายังมองเรา
ดนตรี
ฟ้ายังมีรักและพลังใจ
ฟ้าจะอยู่ข้างเราตลอดไป
ตะวันลับไปแต่ยังมีแสงดาว
ส่องสว่างกระจ่างทุกคราว
ยามเศร้า คราวไหน
คราวเกิดท้อใจให้ระอา
เหงาหมองหม่นไร้คนนำพา
ฟ้ายังมองเรา
ฮึมฮึมฮึ้มฮึ่มฮึ่ม
ฮึมฮึมฮึ้มฮึ่มฮึ่ม
ฮึมฮึมฮึ้มฮึ่มฮึ่ม
ฮึ้มฮึมฮึ้มฮึม
ฟ้ายังมีรักและพลังใจ
ฟ้าไม่เคยเก่า...