23 มกราคม 2552 16:51 น.

ในเส้นทาง..สายดายเดียว...!

พุด

mongolia-nomads-home.jpg35602-6.jpghimalaya3.jpg
วันที่ฟ้าฤดูหนาวพรายสีเทาสลัว
หม่นมัวด้วยม่านหมอก
ขับดวงสุริยาดวงเท่ากระด้ง
แดงแช๊ดให้สวยเด่นชัดจรัสจรุง

บัวนาเดินเดียวดายริมเส้นทางสายเดิม
ทุกวัน
ไม่น่าเชื่อว่าคืนฝันวันผ่านพ้นมานานหลายปีแล้ว
ที่บัวนาอาศัยเส้นทางสายนี้อาศัยไปมา
ตั้งแต่สองฟากฝั่ง
ยังงดงามด้วยดวงดอกชมพูพันทิพย์สะพรั่ง
จนกระทั่ง
ถึงวันนี้ที่ถูกริดรอนถอนรากถอนโคนไปมากมาย
ให้ถนนสายสวยดูแสนไร้เสน่ห์ว่างเปล่า
เหงาโศก
ไปกับมายาโลกที่ทดแทนด้วยตึกราม
บ้านช่องศิวิไลซ์

บัวนา..เคยหลงดีใจว่าตัวเองเลือกซื้อบ้านห่างไกล
ความเจริญ 
ที่ยังมีทุ่งนา ยังมีบ้านชาวนาชาวสวน
หารู้ไม่ว่า..ในแดนดินแห่งมหานครนี้
ล้วนแล้วยากที่จะรอดพ้นจากการบุกรุก 
คืบคลานของถนนหนทาง ...
รถรานานา..มากมาย..


ความเปลี่ยนแปลงสอนสัจจธรรมให้บัวนา
ไม่ว่าวัตถุ ฤา ผู้คน
ที่คงไม่มีสิ่งใดจีรังยั่งยืน

บัวนาคิดถึงบางถ้อยใน
*อัฐอาจารย์ ปาฏิหารย์แห่งความกตัญญู*
ตำนานการเดินทางสู่มองโกเลียอันลี้ลับ*

ดั่งคำนำในหน้าหนังสือที่กล่าวไว้
*ชีวิตเป็นเรื่องมหัศจรรย์
ค่าที่เราไม่มีวันรู้ล่วงหน้าได้เลยว่า
ชีวิตจะนำพาให้เราต้องพบเจอสิ่งใดบ้าง



*จอร์จ เครน*เป็นกวีชาวอเมริกัน
ที่เชื่อมั่นในตนเอง
เชื่อในเหตุและผล
เชื่อในสิ่งที่เป็นวิทยาศาสตร์ พิสูจน์ได้

เมื่อโชคชะตาพัดพาให้เขามาพบ
*ซุงไซ*
พระภิกษุชาวพุทธ
วิถีชีวิตที่สงบ เรียบง่ายและเป็นสุข
ของพระผู้เฒ่าร่างเล็กรูปนี้
ทำให้เขาเกิดศรัทธา
และนำพาให้ชีวิตเปลี่ยนแปลงไป



ความกตัญญูและความมุ่งมั่นของพระภิกษุ
รูปนี้ที่จะเดินทางกลับคืนสู่ดินแดนมองโกเลีย
เพื่อจะได้เผากระดูกของอาจารย์ตามประเพณี

กลายเป็นแรงบันดาลใจ
ให้นักเขียนอย่าจอร์จ เครน
ตัดสินใจออกเดินทางในฐานะผู้ติดตาม

ชายผู้หนึ่งเดินทางเพื่อค้นหาจิตวิญญาณ
ชายอีกคนตัดสินใจเดินทางเพื่อแสวงหา
ความหมายที่แท้จริงของชีวิต

ท่ามกลางภยันตราย
และความท้าทาย
ทั้งจากปัจจัยภายนอกและจิตใจภายใน
มิใช่ประสบการณ์ที่จะเกิดขึ้นได้ง่ายๆ
ในชีวิตคนๆหนึ่ง



คุณค่าของหนังสือเล่มนี้
มิได้อยู่แค่เพียงเป็นเรื่องจากชีวิตจริง
ที่คนเขียนบันทึกได้อย่างเห็นภาพชัดแจ้ง
ด้วยอารมณ์ละเมียดละไมในฐานะกวีเท่านั้น

หากแต่รายละเอียดของเหตุการณ์
ที่แสดงให้เห็นถึงความงอกงามทางจิตใจ
หลังจากชายทั้งสองได้ผ่านการเรียนรู้
ความลำบาก ความทุกข์ยาก
และ
การข้ามผ่านความตายนั่นต่างหาก
ที่เป็นแก่นแท้ของหนังสือเล่มนี้*
.............................


หนังสือเล่มที่ทำให้บัวนาแสนตื้นตัน
เพราะแลเห็นว่าชีวิตคือเรื่องราว
ที่แสนไม่จีรัง
และแสนปาฏิหารย์มหัศจรรย์เสียนี่กระไร...!

......................!


51PY67WFZ1L._SL500_AA240_.jpgCaveOK.jpg244315-116.jpg				
21 มกราคม 2552 12:07 น.

เพลงสุดท้าย..หมายลา..เจ้าดวงดอกไม้...!

พุด

roses-in-bloom-01.jpgwadwalee_20080528-110629.jpgpriyanka45.jpg
สู่ทุ่งกว้างเรืองรองด้วยแสงดาว
ดอกไม้พราวเต็มป่าบานสะพรั่ง
หอมเอยหอมหวานในภวังค์
ธรรมชาติยังงดงามท่ามคืนวัน

หยาดน้ำค้างกลางกลีบเกสรบัว
หมอกหม่นมัวสลัวลางราวภาพฝัน
ดอกราตรีผลิเศร้าลาตะวัน
นั่นแสงจันทร์พูนดวงทอนภา

หนีโลกสับสนวกวนว่าย
นึกหน่ายทางชีวิตเหว่ว้า
ทะเลโลกย์โศกเศร้าหนาวน้ำตา
กาลเวลาเลือนลับกับเปล่าดาย

เจ้านกไพรร้องเพลงอำลาดวงดอกไม้
ไม่หมายพันธนาใดให้สาย
อัญมณีงามกระจ่างสว่างพราย
สุดท้ายพบสวรรค์ว่าง ณ กลางใจ..!

..........................



				
19 มกราคม 2552 15:07 น.

หอมลำดวน..กรุ่นแกม..ริมแก้มใส..!

พุด

PICT0087.JPGA5453183-7.jpg
โลกงดงามแหลกลงที่ตรงหน้า
มวลมนุษย์ไขว่คว้ามายาฝัน
ทุนนิยมโหมบุกรุกชีวัน
สิ้นคืนขวัญวันเรียบง่ายไร้หวังใด

แผ่นดินเก่าเราก่อนยากย้อนหวน
หอมลำดวนกรุ่นแกมริมแก้มใส
ร้อยมาลัยมะลิลาถวายพระรัตนตรัย
อธิษฐานใจเบื้องหน้าองค์พระทอง

นุ่งห่มงามสรรพสมศักดิ์ศรี
มิ่งมณีพิสุทธิ์งามผุดผ่อง
เป็นขวัญหล้ารู้ธรรมตามครรลอง
รู้จักครองจิตใสใจเมตตา

กระซิบถามในท่ามโลกโศกสับสน
ถึงกมลกุลสตรีไททั่วหล้า
ไขว่คว้าใดไหนเล่าเจ้าดวงตา
ค่าชีวาเพียงรู้จบพบงามให้..ณ..ภายใน..!



g2_rose.jpg				
19 มกราคม 2552 14:08 น.

สำคัญ..ที่ใจ..ใช่ไหมเล่าเธอ..!

พุด

aishwaryaRai1270707.jpg
พบสงบเงียบงามยามลำพัง
เติมพลังจากธรรมชาติสะอาดใส
ฟ้าโพล้เพล้เหว่ว้าลมรำไร
มองภายในจิตกระจ่างช่างสุขล้ำ

ชื่นชมไม้ใบเขียวเอิบอ่อน
ใจอรชรอ่อนหวานดื่มด่ำ
เมฆคล้อยลอยเคลื่อนยามค่ำ
รินร่ำหอมอวลนวลดอกไม้..



ฉัน..ชอบนอนนิ่งๆทิ้งใจว่างๆ
ให้จิตภายในกระจ่างแจ่ม
อ่อนน้อมพร้อมพลีรับความสุขอันแสนดื่มด่ำ
ล้ำลึก พบรู้สึกแสนดียามฟ้าโพล้เพล้

อาทิตย์สนธยา 
ย้อมเมฆสวยเกินกว่ารจนาร่ำรำพัน
ม่านฟ้า..
อวลด้วยแสงแห่งตาวันนวลราวสายไหม

ใจดวงภายใน แลเห็นธรรมชาติ
ที่แสนยิ่งใหญ่ ผ่องใส สดชื่นสุนทรีย์
เป็นสิ่งที่มีดั้งเดิม
เพียงเพิ่มเติมต่อให้ใจทุกดวงค้นพบ..


การะเวก..
ยังคงให้หอมอบหอมอวล
นวลกลิ่นร่ำมากับสายลมหนาว

เดือนยังพราวดาวยังระยับแย้มแต้มผืนฟ้า
ลบ..มืดหมองหม่นให้ผองชนบนผืนพสุธา
ได้เรียนรู้ว่า...
*ความสุขนิรันดร์นั้นสำคัญที่ใจ
ใช่...ไกลเกินไขว่คว้า....
เพียงเรา..ซึ้งค่าสัจจธรรม*

......................


bridesmaid-dress3.jpgbridesmaid-dress4.jpg				
18 มกราคม 2552 17:22 น.

แสงแรก..แห่งอรุณ..!

พุด

zerobase.jpgpicture%5C1111254911595.jpg119448650034598.jpg
แสงแรกในอรุณรับยามเช้า
กับลมหนาวอวลโอบไร้ไออุ่น
ดวงดอกแก้วให้หอมกรุ่นกลิ่นละมุน
ทิ้งวายวุ่นสู่ความสงบพบฝันดี...



ในท่ามกลางโลกแล้งไร้ที่วายวุ่น
แสงแรก...ตื่นรับอรุณด้วยดวงใจผ่องแผ้ว
และ..
ได้ยินเสียงนกเขาไกวเปลกิ่งแก้วร้องขันคู
ริมหน้าต่าง 

วันนี้เป็นวันพระ
ที่แสงแรก..ตั้งใจจะไปกราบพระ

พระพุทธมหาสุวรรณปฏิมากร" 
หรือเป็นที่รู้จักกันดีในนาม "
หลวงพ่อทองคำ
ซึ่งเป็นพระพุทธรูปทองคำที่ใหญ่ที่สุด
และ
ได้รับการบันทึกในหนังสือ
กินเนสบุ๊คออฟเรคคอดร์ 
ว่าพระพุทธรูปทองคำองค์นี้
มีหน้าตั้งกว้าง 3.01 เมตร สูง 3.91 เมตร 
องค์พระสามารถถอดได้ 9 องค์ 
จากฐานองค์พระขึ้นไปเนื้อทองบริสุทธิ์ 40 %
พระพักตร์มีเนื้อทอง 80 % 
ส่วนพระเกศมีน้ำหนัก 45 กิโลกรัม
 เป็นเนื้อทองบริสุทธิ 99.99 % 

สันนิษฐานว่า 
สร้างในสมัยสุโขทัย ปางมารวิชัย เข้าใจว่า 
เดิมประดิษฐานอยู่ที่วัดมหาธาตุ จังหวัดสุโขทัย 
ต่อมา
ในสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก 
ได้โปรดให้กรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาท 
ไปอันเชิญ พระพุทธรูปมาจากเมืองเหนือ
เพื่อนำมาประดิษฐานยังวัดสำคัญ 

พระพุทธรูปที่เชิญมามีจำนวนมาก 
ทำให้ดูแลไม่ทั่วถึง 

ขุนนางผู้หนึ่งจึงแอบเอาปูนไล้พระพุทธรูปทองคำ
แล้วนำมาไว้ยังวัดที่ตนสร้าง 
จนได้อันเชิญมาไว้ที่วัดพระยาไกร (วัดโชติการาม) 

ต่อมาบริษัทอิสท์เอเซียติก
ได้ขอเช่าที่วัด (ซึ่งขณะนั้นเป็นวัดร้างแล้ว) 
เป็นโรงเลื่อยจักร 

จึงได้อันเชิญไว้ที่ข้างพระเจดีย์
และ
ปลูกเพิงสังกะสีมุงเป็นหลังคากั้นไว้ อย่างหยาบ ๆ 

หลังจากนั้นเป็นเวลาเกือบ 20 ปี 
เมื่อพระอุโบสถ
และพระวิหารหลังใหม่สร้างเสร็จ 
จึงได้อัญเชิญชั้นประดิษฐาน 
แต่
ในระหว่างการเคลื่อนย้าย
ปูนที่หุ้มองค์พระกะเทาะออก 
จึงทำให้เห็นองค์พระข้างในเป็นทองคำ
 เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2498 

นั่นคือประวัติอันแสนยิ่งใหญ่งดงาม
ที่แสงแรกรู้สึกดื่มด่ำประทับใจ
และ
เคยไปกราบไหว้มาครั้งหนึ่งแล้ว

แสงแรก..แย้มยิ้มอิ่มบุญ
และ
จัดแจงแต่งตัว
เพื่อไปน้อมศิระกรานกราบขอพร

บัดนี้....
พระมหามณฑปประดิษฐาน
พระ พุทธมหาสุวรรณปฏิมากร
 (หลวงพ่อทองคำ) 
วัดไตรมิตรวิทยาราม กำลังก่อสร้าง

ไม่ช้านาน..
แสงแรกคิดว่าคงแล้วเสร็จ
คงจะมีความวิจิตรงดงามควรค่า
แก่องค์หลวงพ่อทองคำ 
ตามที่พุทธศาสนิกชนทั้งชาวจีนและชาวไทย
ได้หลอมรวมใจ ร่วมแรงศรัทธาสร้างถวาย

เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติ
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ในวโรกาสอัน
เป็นมหามงคลนี้ที่
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 
ทรงครองสิริราชสม บัติครบ 60 ปี ในปี พ.ศ.2549 
และ
ทรงเจริญพระชนมพรรษา 80 พรรษาในปี พ.ศ.2550 


วันนี้แสงแรก...
จึงรู้สึกปิติบุญที่ได้ไป
กราบพระประธานในโบสถ์วัดไตรมิตร

กราบพระพุทธไสยาสน์
ที่วัดเชตุพนวิมลมังคลาราม
และ..

กราบพระแก้วมรกต..
อันงดงามเกินกล่าวในดวงจิตนิดน้อยนี้

และ..
แสงแรก...รู้สึกว่าในวันอาทิตย์นี้
ช่างเป็นวันหยุดแสนดีอีกวัน
ที่ได้ซาบซึ้งดื่มด่ำกับคำว่า

*ความสุขใด
เกินกว่า
ความสว่างสะอาดสงบในดวงใจเป็นไม่มี*


				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟพุด
Lovings  พุด เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟพุด
Lovings  พุด เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟพุด
Lovings  พุด เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงพุด