27 กุมภาพันธ์ 2551 12:15 น.
พุด
แก้วยืนต้นรอฝนพร่าง
กระดังงากลีบบางแสนเงียบเหงา
ลีลาวดีปลิดดอกลาลมบางเบา
เช่นใจเรานับวันรอจนท้อใจ
คิดถึงลำนำไพรในเวิ้งฝัน
รอน้ำผึ้งจันทร์หยาดสายให้หวามไหว
รอกระท่อมน้อยดั่งวิมานรักให้พักใจ
ฟังเรไรหรีดหริ่งแสนพริ้งพราว
ดึกดื่นตื่นมาดูดาราราย
แย้มยิ้มพริ้มพรายให้ลืมหนาว
ลืมโศกโลกภายนอกมากเรื่องราว
ให้ดวงดาวนำทางสวรรค์นิรันดร์รัก
หากไยเล่าดอกน้ำตายังคาต้น
ในคืนหม่นเดียวดายไร้อ้อมตัก
ช่างอ้างว้างร้างไร้เป็นยิ่งนัก
ให้ประจักษ์ซึ้งค่าอย่าหวังใด...!
26 กุมภาพันธ์ 2551 23:55 น.
พุด
หอม หอมจินตนาการเกินหวานหอม
หอมหอมใจหอมเกินจารสิ้น
หอมหอมความรักภักดิ์พลีแด่แผ่นดิน
หอมหอมระรินกลิ่นมนตราอักษราทอง
จิตติดปีกเหนือหล้าอย่างกล้าหาญ
เด็ดดอกไม้บานรับขวัญเสนอสนอง
จากทุ่งทิพย์เรียวรุ้งอันเรืองรอง
เพียงปันปองบันดาลฝันอันสกาว
มีอ้อมอกไออุ่นให้หนุนพัก
มีอ้อมตักให้ซุกซบลบเลือนหนาว
มีคืนค่ำนิทราฝันกับดวงดาว
โลกก็พราวพร่างพิศวงให้หลงรัก
รจนาบทกวีพลีแด่โลก
ลบโศกเลือนเศร้าทุกที่รัก
ให้ซาบซึ้งตรึงค่ามานานนัก
และก็จักเป็นเช่นนี้...นิรันดร์...!
..........................................
26 กุมภาพันธ์ 2551 11:04 น.
พุด
พลีน้ำตาแด่โลกแสนโศกนัก
ซึ้งประจักษ์จิตมนุษย์สุดหยั่งถึง
โลกเหว่ว้ามากพันธนาร้อยรัดรึง
ตอกตราตรึงให้ติดตรมระทมน้ำตา
ต่างหลงวนบนบ่วงลวงกิเลส
เงินคือเหตุแห่งสร้อยโซ่กรรมปรารถนา
รักแท้รักนิรันดร์นิยามมายา
พิสวาทเสน่หาก็แค่นั้น
ยอมไร้ร้างหมายผดุงสิ่งสูงค่า
แม้นใครว่าใครหยามคนช่างฝัน
แม้นต้องครองหมองดายเดียวตราบชั่วกัลป์
จักหมายมั่นสรรสร้างเพียงความดี
คำใดใดใครจักพิพากษา
เหนือวิญญาญ์คือค่าคนกุศลศรี
สร้างตำนานภักดิ์สอนยอดรักให้ภาคภูมิในชีวี
ฝากโลกนี้ให้ตรึงตราก่อนลาไกล....!
24 กุมภาพันธ์ 2551 12:45 น.
พุด
เบื่อโลกโศกเศร้าในหนาวนึก
ลึกลึกมวลมนุษย์มากปัญหา
หลงวนบนบ่วงกรรมพันธนา
ปรารถนาเพียงสนองครรลองใจ
ไร้รักแท้เพียงหมายแน่สิ่งใดเล่า
ให้หลงเฝ้าละเมอเพ้อหวามไหว
รักนิรันดร์รักนานเนารักตลอดไป
รักยิ่งใหญ่สร้างนิยามงามเพียงคำ
เพราะทุกผู้ล้วนตั้งอยู่บนความทุกข์
ที่รานรุกจากมายาทุกเช้าค่ำ
ใช้หนี้เก่าหนี้ใหม่หนี้เพรงกรรม
ที่เคยทำวนย้อนให้ร้อนรน
จึ่งเหน็บหนาวดายเดียวยามนึกนึก
แสนรู้สึกเหนือโลกย์โศกสับสน
ยิ่งนับวันยิ่งเรียนรู้กิเลสคน
สร้างกุศลหนีให้พ้นวนวัฏฏรู้ตัดใจ รู้ดับไฟ....!
...........................................
http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song389.html
ไฟรัก
ความ รัก เปรียบเหมือนดั่งไฟ
ถ้าแม้ว่าใคร เผลอเป็นไหม้ทุกที
ร้อน รน ทนเศร้าฤดี
โอ้ไฟรักนี้ เผาชีวีระทม
นี่ หรือ นี่หรือความรัก
พอฉันประจักษ์ หนักจนร้อนชีวี
รัก เอย ไม่เคยปราณี
ช้ำจนเหลือที่ แทบชีวีวาย
นี่ หรือ นี่หรือความรัก
พอฉันประจักษ์ แบกความรักเจียนตาย
ผลาญ ใจ แทบไหม้มลาย
รักเดียวมาหน่าย พ่ายเกมชีวี
ความ รัก เปรียบเหมือนดั่งไฟ
ถ้าแม้ว่าใคร เผลอเป็นไหม้ทุกที
ร้อน รน ทนเศร้าฤดี
โอ้ไฟรักนี้ เผาชีวีระทม
นี่ หรือ นี่หรือความรัก
พอฉันประจักษ์ หนักจนร้าวอารมณ์
รัก เอย ก่อนเคยชื่นชม
ช้ำใจเหลือข่ม แทบตรมใจตาย
ความ รัก เปรียบเหมือนดั่งไฟ
ถ้าแม้ว่าใคร เผลอเป็นไหม้ทุกที
ร้อน รน ทนเศร้าฤดี
โอ้ไฟรักนี้ เผาชีวีระทม
นี่ หรือ นี่หรือความรัก
พอฉันประจักษ์ หนักจนร้าวอารมณ์
รัก เอย ก่อนเคยชื่นชม
ช้ำใจเหลือข่ม แทบตรมใจตาย...