4 มิถุนายน 2547 21:59 น.

ลานจันทร์ฝันพลี

พุด


http://thaipoem.com/web/songshow.php?id=301
(ริมฝั่งน้ำ)
http://thaipoem.com/web/songshow.php?id=367
(เดือนเพ็ญ)
*********

เต้นรุมบ้าชะชะช่าท้าสายฝัน
สายแสงจันทร์หยาดหวานผ่านร่างไหว
เทพีขวัญพลิ้วร่างตามดนตรีใจ
ลีลาไหวระริกรุกสุขแกล้มจันทร์

ณ..ลานใจลานจันทร์ลานฝันพร่าง
ทิ้งใจว่างไร้ตัวตนคนช่างฝัน
ยิ้มหวานหวานร่ายเริงร่าท้าแสงจันทร์
ยิ้มฝันฝันหลิ่วตาล้อพ้อดาวใจ

หลั่งความสุขราวหยุดโลกโศกชั่วครู่
ใจรับรู้ร่างพร่างเหงื่อเนื้อชุ่มใส
ตาแวววาวราวเงาดาวสกาวไกล
ลานสุขใจลานสุขฝันสวรรค์รอ...

กระท่อมไม้สนรอคนรจนาฝันอันแสนหวาน
โมกคลี่บานพร่างใจให้ไหวพ้อ
ทอดตานิ่งทิ้งใจเศร้าไร้ใครคลอ
ก็เกินพอก็สุขพร่างกลางดายเดียว...

ใจดวงว่างวางโลกโศกสิ้นไร้
ใครให้ร้ายคนให้ดีมิแลเหลียว
เพียงเพื่อนไพรธรรมชาติใจงามเหงาเปลี่ยว
รักดายเดียวดวงวิญญาณตระการพอ..

นั่งนิ่งนิ่งทิ้งตาเศร้าฟ้ายามค่ำ
แว่วเพลงร่ำเดือนเพ็ญขลุ่ยพลิ้วพ้อ
คิดถึงบ้านนานแล้วเจ้าทุยรอ
ทั้งแม่พ่อล้อมกองไฟอุ่นไอรัก..

ฝากหัวใจจูบจันทร์เฝ้าฝันถึง
ฝากกราบซึ้งกอดแม่อุ่นอ้อมตัก
ฝากถึงพ่อลูกคนนี้ภูมิใจนัก
ฝากใจรักจูบรวงเรียวเกี่ยวร้อยใจ...

อีกไม่นานลูกคืนถิ่นผืนดินขวัญ
รอนับวันเฝ้ารอคืนมิพรากไหน
จะฝังร่างฝังวิญญาณภักดิ์พงไพร
ฝากร่างใจสงบวางห่างโลกวน........

**************




http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=290
กระท่อมไพรกระท่อมไม้สน

ในร้านกาแฟ...

สายน้ำตกระรินไหลจากชายคา 
พร่างสายลงมายังบึงบัวเล็กๆ

เสียงเพลงขลุ่ยบรรเลงเบาๆคลอเคล้า..
ต้นไม้รายรอบกระท่อมไม้สนเขียวชะอุ่ม
มีเฟิร์นกับหญ้ามอสเกาะคาคบพญาสัตตบรรณสูงเป็นช่อชั้น
กระถางกล้วยไม้สะพรั่งสีสลับดอกดวง แขวนตรงชายคา..

แสงอาทิตย์ยามสนธยา 
ส่องลงมาทายทักอย่างอบอุ่นอ่อนโยน..
กลิ่นกาแฟ หอมกรุ่น หอมหวานพอกัน
กับรอยยิ้มเจ้าของร้าน..
คละคลุ้งกำจายไปทั่วอาณา

เรือนไม้บ้านไร่กาแฟ 
ที่พุดพัดชาชอบมานั่งพักพิงเขียนงานงามตามใจฝัน

เธอ..เจ้าของร้านนั้นมีไร่อยู่ที่จังหวัดเลย.
และคงไม่นานเลย ..จนเกินรอ..
พุดพัดชาวาดหวังว่า
จะได้ไปเยือนตามคำเชิญที่มากไมตรี
แสนมีน้ำใจงามนั้น สักวันอย่างแน่นอน...

ในบรรยากาศแสนดี..
พุดพัดชาเขียนเรื่องนี้ริมหน้าต่าง 
ท่ามกลางไม้ไพร
โต๊ะตรงหน้าเป็นกระจกใส ...
มองเห็นเมล็ดกาแฟคั่วแล้ว  อัดเต็มแน่น  เป็นไอเดียงาม

และท่ามกลางแสงเทียน..วับแวม..
กับเก้าอี้ไม่สน..ราวกระท่อมไพร แสนโรแมนติก
หากมีหวานใจมานั่งซึ้งซ่านสบตา..หวานฉ่ำเบื้องหลังแก้วกาแฟ   
ก็คงยิ่งพาฉ่ำชื่นชื่นใจ..ไฉนเลย!
***********




และขอแถมด้วยบทความข้างล่างที่เคยแต่งไว้นานมานะคะ

กาแฟ กาแฟ และกาแฟ...
ฉันชอบกาแฟ...
ถามตัวเองหลายหน แล้วว่าด้วยเหตุใด

คงเป็นเพราะ..ทำให้ ใจที่เหี่ยวเฉา 
คึกคักขึ้นมานะซี... กาแฟ
คิดอีกที หรือฉันชอบ เพราะสีของมัน ที่เข้มข้น
เหมือนชอบคนผิวสี 
ที่ฉันชอบคิดว่า ดูช่างแสน แฮนซั่ม..ยังไงยังงั้นเลย
เอ๊ะ!..แล้วมันไปกันได้ไหมนี่ ฉงนใจ....

ฉันชอบกาแฟ..ที่แน่แน่
 ดื่มทีไร โลกสดใส แสนสดชื่น
แม้บางวัน ใจของฉันจะขมขื่น ฉันก็ดื่มกาแฟ ดับร้อนใจ

กาแฟหอมละมุนลิ้น 
กลิ่นยวนยั่ว ทั้งที่คั่ว ทั้งที่บดจนเป็นผง
ร้านกาแฟ ทำให้ ได้พบรักกับบางคน..
บางถนน จะมีร้านกาแฟ ที่ชุมนุม..
จะถกเรื่องนายกก็ที่นี่ เรื่องดนตรี เรื่องหัวใจ จิปาถะ...

ร้านกาแฟ เป็นสภาตำบล และหมู่บ้าน 
ให้โจษขาน ทุกเรื่อง ว่าโลกเราไปถึงไหน

แล้วอิทธิพล กาแฟ จะไม่มากได้ยังไง เมื่อเดินไปที่ห้างหรู
ก็ยังมีร้านกาแฟ กาแฟ และกาแฟ !
..............



กาแฟ กาแฟ กาแฟ แย่ไม่เอ่ย! 

กาแฟ กาแฟ แทนความรัก
ขมใจนัก อดลิ้น รอกินหวาน
ถ้าไม่ชอบ รีบเติม รสน้ำตาล
ให้หวานหวาน มันส์มันส์ คงไม่ดี...

รู้รสขม กลมกล่อม เปรียบรสหวาน
รอรักบาน ขมก่อน อย่าเพิ่งหนี
หากมัวหลง น้ำตาล ไม่เข้าที
ไม่นานนี้ ไขมันสูง อุดหัวใจ.....

กลิ่นหอมหวาน บริสุทธิ์ ของหญิงสาว
ที่ต้องคาว ขมขม ตรมหวั่นไหว
มีบางคน เติมน้ำตาลปลอม เต็มหัวใจ
หลอกล่อไป วันวัน ฝันค้างคา...

กลิ่นกาแฟ หอมกรุ่น อุ่นไอรัก
ต้องรู้จัก ออดอ้อน ป้อนห่วงหา
รู้จักเติม หวานวันละนิด ทุกเวลา
กาแฟจ๋า จะอร่อย ต้องคอยคอกาแฟที่เติมเป็น!ทำเป็นให้พอดี้พอดีจ้า! 

************



http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=367
 เดือนเพ็ญ   
คาราบาว : : Key F  
เดือนเพ็ญ สวยเย็นเห็นอร่าม
นภาแจ่มนวลดูงาม เย็นชื่นหนอยามเมื่อลมพัดมา
แสงจันทร์นวล ชวนใจข้า คิดถึงถิ่นที่จากมา
คิดถึงท้องนา บ้านเรือนที่เคยเนาว์

กองไฟ สุมควายตามคอก
คงยังไม่มอดดับดอก จันทร์เอยช่วยบอก
ให้ลมช่วยเป่า
สุมไฟให้แรงเข้า พัดไล่ความเยือกเย็นหนาว
ให้พี่น้องเรา นอนหลับอุ่นสบาย

เรไร ร้องดังฟังว่า
เสียงที่เจ้าพร่ำครวญหา
ลมเอยช่วยพา กระซิบข้างกาย
ข้ายังคอย อยู่ไม่หน่าย
ไม่เลือนห่างจากเคลื่อนคลาย
คิดถึงไม่วาย เมื่อเราจากกัน
ลมเอย ช่วยเป็นสื่อให้
นำรักจากห้วงดวงใจ ของข้านี้ไป
บอกเขานั้นหนา
ให้เมืองไทยรู้ว่า ไม่นานลูกที่จากมา
จะไปซบหน้า กับอกแม่เอย

เรไร ร้องดังฟังว่า
เสียงที่เจ้าพร่ำครวญหา
ลมเอยช่วยพา กระซิบข้างกาย
ข้ายังคอย อยู่ไม่หน่าย
ไม่เลือนห่างจากเคลื่อนคลาย
คิดถึงไม่วาย เมื่อเราจากกัน
ลมเอย ช่วยเป็นสื่อให้
นำรักจากห้วงดวงใจ ของข้านี้ไป
บอกเขานั้นหนา
ให้เมืองไทยรู้ว่า ไม่นานลูกที่จากมา
จะไปซบหน้า กับอกแม่เอย
ให้เมืองไทยรู้ว่า ไม่นานลูกที่จากมา
จะไปซบหน้า กับอกแม่เอย...

 

				
3 มิถุนายน 2547 16:48 น.

ทิพย์วาริน

พุด


http://thaipoem.com/web/songshow.php?id=842
(หยาดฝนแห่งความรัก)
**********

คนดี..ดวงใจ...
วสันต์ลีลา..หยาดสายพรายพรมห่มผืนหล้า
ดับร้อนผ่อนคลายให้ฉ่ำใจ..
ใสเย็นทั้งร่าง..ทั้งใจกาย..ทั้งไร่นา..
และ

แด่..ทุกดวงกมล..
ที่รักรวง..เรียวฝน
รักหวานปรายปรน..รัก
หยาดละออละอองผ่องผุด
ปานประดุจประหนึ่งหยาดน้ำค้าง
กลางไพรกลางใจกลางสรวงกลางห้วงหาว
ให้คละงาม..เศร้า..สายฝนสายฝัน



มาเกื้อฝัน..มาจุดไฟ.
มาเคล้าคลุกปลุกชีพละไมนักรักรจนา

ผ่านร่องแก้มเรียวตา
ดั่งหยาดน้ำตานางฟ้านางไพรนางใจ..นางในฝัน
ให้พรายพร่างฝัน...ฝันฝัน..ตามฟ้าตามฝน
ตามกมล..สุขทุกข์
มาปลุกปลอบประโลม
เสกสรร
สวรรค์ฝนสวรรค์ฝันสวรรค์หวาน
และบางคราช่างว่างร้างไร้
คล้ายบทเรียน
ให้ร่างทุกร่างรู้ดายเดียวรู้วาง
รู้ว่าง รู้ไร้..คล้ายชีพนี้


ดั่งสายฝันในฤดี..ดั่งสายฝนในฤดู
ดั่งคู่ใจ..ดั่งคู่รัก

รักรักรักกันสักปานใด
ก็มีวันพบพรากจากลา

และทิ้งช่วงให้เหว่ว้า
ราววสันต์ลา..
เหมือนรักลวงเหมือนบ่วงกรรม
เหมือนรักระกำ
กำกำกรรมกรรมกันมากันไป
หลอกให้หัวใจมนุษย์มนาเป็นบ้าเป็นหลัง


ทั้งสร้างพลัง
ให้โชนช่วงดั่งดวงมณีฉาย

ทั้งทำลาย..ให้มลาย
หากให้มากไป
หากดวงหฤทัยไหวตามมิทัน

ให้เซซังซมซานหวานหวานหวานแล้วช้ำช้ำช้ำ
ย้ำ..คนคนคน..วนวนวน
เวียนวกกลับ..ราวกับฤดูกาล..ฤดีแปร..

**************



http://thaipoem.com/web/linkmain.php?url=http://thaipoem.com/web/songshow.php?id=328
 
หยาดฝนแห่งความรัก   สุนทราภรณ์ : : Key F  
ช...อยากน้ำยามใด
พริบตาเดียวได้ดื่มลิ้มชิมเชย
ดื่มพลันผ่านเลยดื่มแล้วไม่เคย
รื่นรมย์โน้มนำความชื่น

ญ...ดื่มทิพย์วาริน
โหยใจหายสิ้นสุขทั้งวันคืน
ชีพยังยั่งยืน
แห้งแล้งกลับคืนชุ่มชื่นฉ่ำดวงกมล

ช...น้ำนวลผุดผาดหยาดเย็น
เธอเปรียบเช่นน้ำฝน

ญ...เลี้ยงใจหล่อใจท่วมท้น
รักป้อนรักปรน
รักเปี่ยมจนหลงใหล

ช...ดื่มน้ำนางเดียว
คิดปรามใจเปลี่ยวดื่มน้ำนางใด
ดื่มนวลด่ำใน

ชญ...ดับร้อนดั่งไฟ
ด้วยฝนแห่งใจจากเธอ

ช...อยากน้ำยามใด
พริบตาเดียวได้ดื่มลิ้มชิมเชย
ดื่มพลันผ่านเลยดื่มแล้วไม่เคย
รื่นรมย์โน้มนำความชื่น

ญ...ดื่มทิพย์วาริน
โหยใจหายสิ้นสุขทั้งวันคืน
ชีพยังยั่งยืน
แห้งแล้งกลับคืนชุ่มชื่นฉ่ำดวงกมล

ช...น้ำนวลผุดผาดหยาดเย็น
เธอเปรียบเช่นน้ำฝน

ญ...เลี้ยงใจหล่อใจท่วมท้น
รักป้อนรักปรน
รักเปี่ยมจนหลงใหล

ช...ดื่มน้ำนางเดียว
คิดปรามใจเปลี่ยวดื่มน้ำนางใด
ดื่มนวลด่ำใน

ชญ...ดับร้อนดั่งไฟ
ด้วยฝนแห่งใจจากเธอ...



บันดาลใจ..
จากบทเพลง
ที่พริ้งพราวไพเราะมากงามในรู้สึกมากค่ะ
และ
กับฝนทิ้งช่วง

กับใจดวงสงบงามเงียบเรียบง่าย
ใจดวงดีดวงเดิมดวงโดดเดี่ยว
เดียวดาย
ที่มีดวงดอกไม้ไพร
ดั่งเพื่อนไพรเพื่อนใจ
ประโลมหวานหวังให้พลังใจใสงามใสเย็น
เสมอมา

หวัง
ระรินสาย
จากธารทิพย์วารินนี้
จะประดุจ..
ดั่งหยาดน้ำใส
น้ำค้างกลางไพร

พร่างหอมห่มใจ
ให้งามฉ่ำในทุกดวงใจ
ในร่มรักเรือนไทยเรือนใจเรือนสามัคคีนะคะ
				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟพุด
Lovings  พุด เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟพุด
Lovings  พุด เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟพุด
Lovings  พุด เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงพุด