24 เมษายน 2547 07:59 น.
พุด
URL http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=480
(คำมั่นสัญญา)
*************
ราตรีนี้ เป็นดั่งราตรีขวัญนิรันดร์รัก..
มหัศจรรย์รักมหัศจรรย์ใจมหัศจรรย์ในจิตวิญญาณ
ที่ใจดวง รอคอยมาแสนนานราวชั่วกาลกัป์ปกัลป์..
ดวง..แหงนเงยทายทักฟากฟ้างามเฉกเช่นทุกคืนค่ำ
แต่น่าอัศจรรย์ใจ!.เป็นยิ่งนัก
ที่ดวงกลับแลเห็นจันทร์เสี้ยวกระจ่าง..
เคียงข้างด้วยหนึ่งเดียวดาริกาสุกใส
ในท่ามกลางรัศมีจันทร์ประกายทองผ่องผุดพิลาสพิไลห้อมล้อม
ส่องประกายหวานหยาด
ขับฟากฟ้านภากาศสว่างพราวเพริศแพร้ว
ราวดวงแก้ววิเศษ..พิเศษพิสุทธิ์ลอยพร่าง
มาสถิตสว่างกระจ่างใจนำทางใจไปชั่วนิจนิรันดร
นะบัดนี้..และ
กำลังกลายเป็นนาทีแสนตราตรึงยิ่งใหญ่ในใจดวงนวลดวงละมุน
ในค่ำคืนฤดูร้อน
ที่ทุกสิ่งนิ่งงันแต่เงียบงามสงบสุข
ราวฟ้าดินรู้เห็นเป็นใจลิขิตชะตา
และราวพระผู้มากเมตตาได้เปิดดวงตาสวรรค์
เนรมิตรฝันให้เป็นจริง..เป็นใจ
สรรส่งของขวัญ..
เกินคำ *ล้ำเลอค่า*
มากำนัลแด่ใจดวงร้าว
ให้เลิกดายเดียว..ได้อิ่มเต็มในจิตวิญญาณเสียที
ที่หลงรอหลงฝันมาเกือบชั่วชีวาชีวิต
ให้มาสถิตปลอบประโลมใจ
สร้างพลังใจพลังไฟฝัน..เป็นนิรันดร์รัก..
นาที..ที่ดวงได้รับถุงของขวัญสีแดง ด้วยแรงแห่งปิติใจ
น้ำตาดวงพร่างไหล มิขาดสาย มือไม้ระริกรับ
ค่อยๆจับค่อยๆเปิดอย่างทะนุถนอม
และกลายกลับตามมาด้วยเสียงสะอื้นๆๆ
เมื่อเห็นลายมือของผู้อันเป็นที่รัก
รจนาภาษาธรรมดาๆ
หากทว่า...
มันทรงค่างามในนิยามใจนิยามจิตเสียไม่มี
ที่ดวงนี้ก็ยากจะเข้าใจ..
ว่าทำไมครั้งแรกที่เห็น
หัวใจดวงจึงเต้นไม่เป็นส่ำ..ถึงร่ำไห้เมื่ออ่านๆไป
ทำไมจึงเป็นงามยิ่งใหญ่ในรู้สึกลึกล้ำล้ำลึก
ที่นับวันนับคืนรอมานานแสนนาน
ดวง..ได้รับผ้าคลุมไหล่
สีน้ำตาลอมทองหวานผ่องผุด พิลาสพิไล
ที่ดวงค่อยๆคลี่คลุมไหล่
ราวคลี่คลุมใจและร่างร้าวอย่างช้าๆ
ให้สมค่าสมรักรอมานานปานประหนึ่งชั่วกาลทีเดียว..
และ
ทุกราตรีนับเนื่องจากราตรีนี้ไป
ผ้าหอมละมุนใจจะเคลียร่างคลอใจมิเว้นว่าง
ให้อกอุ่นละมุนทรวงคู่กายใจดวง ตลอดไปมิมีวันพรากลา
แทนหอมห่มเหว่ว้ามายาวนานนัก..และ
แม้นยามไปวัดสร้างกุศลผลบุญ
ดวงคงใช้ห่มราวสไบแพร..สไบภักดิ์
แล้ว..
ยังมี*กำไลขวัญ นิรันดร์รัก *
แนบมาเคียงกันในกล่องฝันกล่องใจสีแดง
ที่แฝงงามมาด้วยดวงดอกกุหลาบลายทอง
ที่ดวงอยากร้องพ้อขอให้แทนใจแทนภักดิ์
ประกาศก้องถึงรักแท้พิเศษพิสุทธิ์นี้
และ
ทันทีที่เห็น..ดวงจับจูบจับจูบนิ่งงันด้วยน้ำตาและน้ำตา
ที่ยังคงพร่างรินไม่ขาดสาย...
ดั่งสายธารหวานหอมมาหลอมละลายใจในบัดดล
และ
คนดี...
ดวงทำพิธีอธิษฐานใจ อธิษฐานจินต์ด้วยจิตวิญญาณรัก
ดวงวางกำไลแสนรักใส่พานทองใบเล็ก
ให้หอมล้อมรอบด้วยดวงดอกไม้รายรอบบ้าน
ที่กำลังระรินหวานผลิบานคลี่แย้มราวรอรับขวัญ
มีเข็มขาว..
ที่ยังพราวหยาดน้ำค้าง
แทนหอมงามดวงใจใครเล่ารู้นี้
ทั้งสองดวงชีวาชีวีของสองเรา
อย่างผู้เพียรรู้ค่าชีวิตเพียรลิขิตชะตา
น้อมนำมาบันดาลคำบันดาลใจ
แทนสมองที่สวยใสสะอาดสว่างสงบ
รอพบว่างทางแห่งงามยิ่งกว่าและยิ่งกว่า..
และ
ให้รักร้อยถ้อยอักษรา
ฝากภาษางามมากนิยามใจนิยามจิต..
อย่างเฉียบคม
แม้นจะฝากระทมแทนบทเรียนเพียรสอนใจฝากจำ
เล็บมือนาง..
แทนบางอย่างบางสิ่งจากเนื้อดินเดียวกัน
ที่เราพันผูกมากันมาชาติปางก่อน
หวังเกาะเกี่ยวกระหวัดรัดร้อยใจ
ยามไกลห่างอย่าร้างครวญ..อย่าร้างลา.
.
ดวงดอกพุด..ซ้อน..
ที่เพิ่งอวดช่ออรชรละอออ่อน
มิพักช่อนใจซ่อนรัก
แทนคำจงรัก
แทนคำว่าพุด..พิสุทธิค่า..เกินกว่าใครคำนึงรู้
ชวนชม..
หวังมิตรมตรอมตาม
ได้งามได้ชมชื่นก็ชื่นก็ฉ่ำใจแล้วถึงไหนไหนในยามนี้
ลีลาวดี..
ดอกไม้ที่หลากสีงามเศร้า
หากซ่อนเสน่หาอวลมาทุกอณูนึกให้นึกรักนึกสงสาร
ราวอยากปกป้องปองขวัญ
ให้สวรรค์หวาน
ชั่วกาลนิรันดร์เลิกฝันระทมดายเดียวเหว่ว้า..
และมะลิลามะลิซ้อน
แทนคำออดอ้อน
แทนอ้อมแขนอ้อมใจหวังมิพรากลาไกลในคะนึง
แม้นมิถึงฝันคว้าไขว่
ก็จะเป็นไรไปนะ..หลับตาฝันฝันเอา..ก็ได้จะเป็นไรมี
ดวงใจ..
ดวง..น้อมนำพานทอง
ที่ล้อม*กำไลรักกำไลขวัญนิรันดร์รัก*ด้วยดวงดอกไม้
ทั้งสิ้นทั้งหมดที่กล่าวรจจนามานี้ด้วยใจดวงดีดวงหอมงาม
วางลงตรงเบื้องหน้าพระพักตร์พระพุทธผู้พิสุทธิคุณ
ที่ดวงรู้ว่าการุณย์
และประทานพรด้วยเมตตาดวงด้วยห่วงใย..
ดวงก้มลงกราบพร้อมคำมั่นสัญญา
ลูกสัญญาจักดำรงร่างอย่างงามพร้อมหอมงาม
อย่างเหนือโลก
แม้นจะยังพบโศกสุขเฉกเช่นปุถุชนคนเดินดินธรรมดาๆ
ที่ยังเวียนว่ายหนีไม่พ้นเพรงกรรม..
ที่ตามติดมาแต่หนหลังแต่ชาติปางก่อน
ลูกก็จะเพียรรำงับ
รู้ดับรู้ทันเท่า..ด้วยธรรมะ ธรรมชาติ
ลูกจะยอมพลีฝันพลีร่างสร้างหอมงามด้วยคุณธรรม
เพียรสร้างงามให้น้ำใจรักกับทุกผู้
ผู้รายล้อมด้วยหอมห้วงแห่งดวงใจนี้
ที่มิเคยคิดมีพิษภัย
ต่อเพื่อนมนุษย์ผู้ใด
ผู้ที่ไซร้..ก็ร่วมเกิดแก่เจ็บตายด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น
และลูกขออธิษฐานใจ
ไม่ใช้วาจา ปากกาทิ่มแทงจาบจ้วงใคร ในโลกบรรณพิภพ
มาตรแม้นลูกยังไม่รู้จักรู้ใจ ไม่พิพากษาใคร
เพียงให้น้ำใจอภัยเมตตา..
และ
หวังเพียรสร้างค่างานงาม
เคียงหวานเคียงใจดั่งหยาดลำธารใสระริน
ชื่นฉ่ำร่ำเย็น..ดับโลกเร่าร้อนด้วยฟอนไฟ
ที่โหมกระหน่ำมาทุกทิศทาง
ลูกจะเพียรพยายามวางอุเบกขา
และมองเข้ามาภายในตัวตน
สร้างงามใจบ้านภายในให้เงียบงามแสนสงบสุข..
ลูกวอนขอ
เพียงแค่มีจิตวิญญาณดวงดีดวงไพรดวงแจ่มใสสวยงาม
ได้ฝากนิยามรักธรรมชาติธรรมะธรรมดาๆ
แด่ทุกดวงใจที่สวยใสงามพอกัน
ที่ยังมีฝันมีหวังหวานรอ
และ
คนดี..
ด้วยน้ำตาแห่งปิติปลาบปลื้มภูมิใจ
จากดวงใจผู้หญิงบ้านป่าบ้านนา
ผู้มิเคยหลงลืมตน
ผู้ยังคงมีกมลละเมียดละไม
รู้ค่างามจิตงามใจ
ผู้ยังคงมีนวลเนื้อใจ
ดวงละมุนเหว่ว้า
ขอ
จูบลา..กำไลรักกำไลขวัญ
ด้วยพร่างน้ำตาเต็มตื้นตัน..เต็มห้องหัวใจ
ก่อนนิทราหลับฝันดีนะคะ
และ
ด้วยผ้าห่มหอมผืนนี้
ที่ให้ความรู้สึกดีดีกรุ่นกลิ่นรัก
ดั่งสไบรักสไบฝันตราบวันพรากลา..
และทั้งหมดทั้งสิ้นแห่งจารใจรจนา
คือคำมั่นสัญญา...ระหว่างใจของสองเรา...นะคนดีนะยอดดวงใจ..
**********
http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=480
คำมั่นสัญญา ..พิ้งค์ แพนเตอร์
ถึง ม้วยดิน สิ้นฟ้า มหาสมุทร
ไม่ สิ้นสุด ความรัก สมัครสมาน
แม้ อยู่ใน ใต้หล้า สุธาธาร
ขอ พบพาน พิศวาส ไม่คลาดครา
แม้น เนื้อเย็น เป็นห้วง
มหรรณพ
พี่ ขอพบ ศรีสวัสดิ์ เป็นมัจฉา
แม้ เป็นบัว ตัวพี่ เป็นภุมรา
เชย ผกา โกสุม ปทุมทอง
แม้ เป็นถ้ำ อำไพ
ใคร่เป็นหงษ์
จะ ร่อนลง สิงสู่ เป็นคู่สอง
ขอ ติดตาม ทรามสงวน
นวลละออง
เป็น คู่ครอง พิศวาส ทุกชาติไป
แม้ เป็นถ้ำ อำไพ
ใคร่เป็นหงษ์
จะ ร่อนลง สิงสู่ เป็นคู่สอง
ขอ ติดตาม ทรามสงวน
นวลละออง
เป็น คู่ครอง พิศวาส
ทุกชาติไป...
23 เมษายน 2547 20:07 น.
พุด
URL http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=92
(หนีรัก)
*********
ไยม่านหมอกดวงดอกไม้พรายพลัดพราก
ทิวาจากราตรีฝันสวรรค์หาย
ทิ้งเพียงรอยคอยหลงฝันตราบวันตาย
มนต์ดอกไม้คงมีค่าแค่ท่ารอ...
ขอหนีโลกโศกทั้งปีเศร้าทั้งชาติ
ลาพิสวาสสู่พงไพรไกลคำพ้อ
ดวงดอกไม้ร่ายมนต์ปลอบก็เกินพอ
ลาจากจอโลกฝันนิรันดร์ลวง...
ในท่ามไพรใจดวงซึ้งตรึงใจนิ่ง
ใจดำดิ่งทิ้งสับสนคนห่วงหวง
นอนดายเดียวกลางสายธารหวานหอมทรวง
น้ำตาร่วงพร่างไพรสาใจจำ...
มีที่ไหนละหนอสายน้ำไหลทวนกลับ
ลาเลือนลับหอมหวานธารสวรรค์
ไม่อาวรณ์อ้อนอาลัยไหวผูกพัน
ไม่โศกศัลย์ไม่โศกเศร้าราวไร้ใจ...
ฝากความจริงทิ้งให้ท้อพ้อเผลอคิด
ฟ้าลิขิตธรรมชาติสอนอย่าอ่อนไหว
ไม่ว่ารักไม่ว่าชังรานร้าวใด
เพียงผ่านมาผ่านไปไยไหวรับ...
ฤดูกาลฤดีใจกี่หนาวร้อน
ให้ออดอ้อนให้อาลัยใจรู้ดับ
ดวงดอกไม้ในดงไพรดาดดื่นนับ
ไยจะภักดิ์ไยจะเพ้อเก้อบูชา..
รอวสันต์โปรยสายสยายกลีบ
รอพุดจีบฝากใจซึ้งคะนึงหา
เลือกดอกไหนภักดิ์พลีใจหอมบูชา
รอเวลาเด็ดมาวางกลางหิ้งใจ..
หวังไม่รานหวานดอกไม้ให้ช้ำชอกนะยอดรัก
อย่าเด็ดหักเด็ดหักขยี้สิ้นกลิ่นสวยใส
เลือกสักดอกยอดแห่งหอมคลึงเคล้าใจ
ฝากดอกใจดวงดอกรักดอกภักดิ์พลี..หนี..ระทม..เป็นนิรันดร์..
************
คนดี..ดวงใจ..
ดวงบุกป่า..ฝ่าเส้นทางสายงามสายฝันสวรรค์หวาน แสนวิบาก
สู่ผาสูงไพรกว้างทางไกลพะงันงาม..
สู่ไพรรกโตรกธารละหานห้วยงามละไมแห่งไพรฝันไพรวัลย์
ที่มีเถาวัลย์พันเกี่ยว
กับเส้นทางแสนลดเลี้ยวเคี้ยวคด ให้ตื่นเต้นเร้าใจ
ให้อยากไปตามหาฝันทิวาวันแสนดีแสนงาม..ด้วยกัน
ที่น่าแปลกนัก..ในยามเช้า..
กับงามอะคร้าวระเรื่อฉ่ำเย็น
ของม่านหมอกยังหยอกเอินเนินไศล
กับปลั่งแดงแสงระวีฉาดฉายฉาน
งามปานประหนึ่งเรียวไหมในม่านเมฆ
ที่ค่อยๆชักรถผ่านเหลี่ยมโลกช้าช้า
ออกมาทายทักขุนเขาเงื้อมงาม
ยางสูงไสวพร่างเทียมเมฆเทียมฟ้า
ทายทักวิหคนกกา
ที่พากันร่ำร้องระงมไพรระงมใจระงมงาม
ให้หัวใจดวง..แย้มหวานรอรับรอดู
หยาดละออละอองน้ำค้าง..ค่อยค่อยระเหยหาย
กลายเป็นสายหมอกสายเหมยสายไหมในเรียวรุ้งเรียวรัก
ประดับดวงใจรักดวงใจร้าวดวงใจเศร้างาม
ที่เฝ้าแหงนเงยเฝ้ารอดู...
ดวงโชคดี ที่ฟ้าส่ง..น้องชายคนดีที่ดวงแสนรัก
ผู้ที่แสนรู้จักทุกตารางนิ้วในผืนไพรพะงันผืนดินบ้านเกิด
*เกาะสวาทหาดสวรรค์*
มากำนัลมาเป็นสารถีกิติมศักดิ์
ให้มาพาดวงใจรักดวงใจร้าวไปทายทักไพรด้วยกัน.
ในคิมหันต์นี้
ที่ดวงดอกไม้กำลังร่ายฟ้อน
ร่อนช่อละออกลีบอ่อนอ่อนอ้อนป่าระดะดวงไสว
ไปทั้งราวไพรราวป่า..เลยทีเดียว
น้ำตาดวงรินริน..พร่างถวิลในใจตลอดเวลาตลอดเส้นทาง
ด้วยร้างรามานานปี..หลายปี
ใจดวงดายเดียว ดวงเดิมเดิมดิบดิบติดดิน..ถวิลงามเงียบ
ราวย้อนรอยถอยคืนกลับคืนฝันวันเยาว์อีกคราครั้ง
เรียวนัยน์ตานิ่งงันอั้นอึ้งลึกซึ้ง
ยามพาพบสงบงาม..สองข้างทางร้างรกเรื้อ
ที่ยังงามอะเคื้อเหลือพิสุทธิ์ไพร..
ให้ดวงใจดวง แสนไหวงามสุขล้ำ ยากกล้ำกลืนฝืนปิติใจ
งามไม้ ไพร ยาง สูงใหญ่และอีกไม้นานาพรรณ
ลดหลั่นละไล่ราวดงดิบ
กลางเกาะมหัศจรรย์สวรรค์บันดาล..
หัวใจเด็กผู้หญิงช่างฝัน ดวงเดิม
จึงเริ่มร้องไห้ ร้องไห้..ระรินสายภายในใจราวสายฝนพรำ
ตอกย้ำรอยรักรอยหวานรอยกาล อดีตนานา นานเนาเนิ่น..เกินนับ..รอ..
ดวง..สะอื้นเกินรำงับดับละมุนใจ..
ท่ามกลางสายธารสายสวยใสพิสุทธิ์หวานระริน
ที่ดวงกำลังแหวกว่าย
ที่ยังร้างไร้ผู้คนมากมายมากมีค้นพบมาเปิดบริสุทธิ์ให้หยุดงาม
ให้หัวใจดวงหวั่นหวามวิตก...ด้วยเสียดาย เสียใจ
ในวันหนึ่ง วันหน้าที่ดวงคงรอท่า
พึงทำใจเตรียมใจยอมรับ..กับกระแสโลก..กระแสคน
ที่ไหลพร่าบ่าโหมทำลายทุกถิ่นที่มิมีเว้นวาง
ให้ธรรมชาติงามธรรมดาสวยธรรมดาไพร
เหลือน้อยลงน้อยลงทุกทีทุกที..
นาทีนี้..
ดวงจึงทำได้เพียง
ปล่อยให้กระแสธารหวานใสปลอบร่างรานใจร้าว
กับมากเรื่องราวมากมี
ที่ผ่านพบจบมา
ทั้งเมืองนอกเมืองหลวงเมืองลวง
เมืองใจเมืองในฝันในกรุงกรง
ทั้งในโลกฝันสวรรค์ปิดสวรรค์ลา..
ให้สายน้ำแสนงามแสนใสปะปนไป
กับหยาดน้ำตานางไพรนางใจผู้เหว่ว้ามาตลอดชีวาชีวิต
ที่สิ้นไร้ใคร..ไร้ใจ..เข้าใจไยดี..มีแต่พิพากษา
ย่ำยีไร้ปรานีไร้หัวใจเมตตา
ช่างน่าเศร้านัก..
ดวงดำดิ่งอิงธรรมชาติงามลำพัง
หวังปลดปล่อย
ถอนรักคืนหลังฝังรอยงามไว้นะที่แห่งนี้
นะที่ซึ่งสวรรค์ปรานี
โอ้แหล่งที่ดวงตาสวรรค์กำลังใจดี
เปิดประตูรักรับให้มาพักพิง
มาโอบเอื้อให้อ้อมใจไออุ่นอ้อมจากหอมหอมหอมห้วง
จากดวงดวงดอกกรุ่นกลิ่นหวานหวานหวาน
พร่างพร่างพร่างพรายพรมให้ดวงดอมดมจากพวงพยอมไพร
และ
จากสายธารใจราวรับรู้ในนิรันดร์รัก..มิเปรียบปาน
เป็นประมาณดั่งรอยต่อแห่งฝันได้ผสานสวรรค์ไพร
ร้อยรักถักทอดใจพิงพัก
ร่างรักระหว่างวันกับอดีตฝันอันหอมหวานผ่านกาลเวลา
ที่เคยลาเลยลับ..
ให้
ร่างใจดวง..รานรักเหว่ว้า..รอมานานปี
ราวกับมิเคยไยดีจะคืนหลังสู่ฝั่งฝันฝังใจ..จำ
ให้..ใจดวง สุข สงบ พบหวาน เกินคำบรรยาย
ในท่ามกลางแมกไม้ม่านหมอกดวงดอกไม้
ในไพรพง..ในพงไพรพะงัน
ให้ดวงดอกฝันพลันแตกช่อพร่าง
ราวเพชรพรายกระจายกลีบเรณูหอมห้วงในดวงใจ
ราวรวงดาวพราวพร่างรัศมีไสวในรายล้อมอ้อมโอบกาแลกซี่
ที่แสนมหัศจรรย์เกินรำพันรำพึง
ขอบคุณ..นะสวรรค์..นะดวงตาสวรรค์
ที่พร้อมพลีเปิดใจรับขวัญ..ฝัน
มอบกำนัลรับรู้จิตวิญญาณไพร
มอบหอมให้หัวใจลูกผู้หญิงคนนี้
ที่ยอมพลีสิ้น
ราวให้รางวัล
อัญมณีใจ..อัญมณีไพร..
ที่ยิ่งใหญ่..แสนซึ้งตรึงตรา...เกินหาคำมากล่าวแล้วค่ะ
****************
http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=92
หนีรัก
ตะเกียกตะกาย
หนีรักไม่พ้น เสียที
ทั้งๆที่
เข็ดรัก เหลือหลาย
สู้หลีกลี้หนีพ้นเพียงกาย
แต่ใจไม่วาย
จะคิด จะใฝ่
หนักจิตกระโจน
พลัดลาหวังรัก นิจจา
ล้ำลึกกว่า
ห้วงเหว ไหนๆ
ตอกห้วงรัก
แล้วยังหายใจ
ตายก็ไม่ตาย
ทรมาน ทรมาน
ถ้ารักสมรัก
สมปรารถนา แห่งใจ
รักไม่เปลี่ยนไป
รักไปชั่วกาล
ถ้ารักไม่หนี
คงไม่หนีรัก ซมซาน
คงรักกันนาน
ตราบวันวอดวาย
เบื่อโลกเต็มทน
เพราะรักไม่พ้น รักราน
ถึงตั้งหน้า
มุ่งหนี รักร้าย
อยากหลีกหนี
ทั้งใจทั้งกาย
อยากให้โลกทลาย
ตายๆ เสีย ที
เบื่อโลกเต็มทน
เพราะรักไม่พ้น รักราน
ถึงตั้งหน้า
มุ่งหนี รักร้าย
อยากหลีกหนี
ทั้งใจทั้งกาย
อยากให้โลกทลาย
ตายๆ เสีย ที...
20 เมษายน 2547 16:17 น.
พุด
http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=4261
(รอ)
ขอเขียนกลอนอ่อนหวานสักบทหนึ่ง
กลอนซาบซึ้งแต่คงไม่อ่อนไหว
กลอนบทนี้มีชื่อว่า*ความจริงใจ*
ฝากดวงใจทุกดวงห่วงหากัน
โลกหมุนไปเวลานับคงที่
ใจคนดีต่างหากเริ่มเปลี่ยนผัน
ได้ความรักมากล้นทุกคืนวัน
จน..เธอ..นั้นคิดว่า*คือของตาย*
อยากกระซิบริมหูนะยอดรัก
ถึงใจภักดิ์เพียงไหนมีวันสาย
ถ้าไม่ซึ้งถึงความรักที่มากมาย
อาจกลับกลายเหลือรอยช้ำภายในใจ..
เคยได้ยิน คำนี้ไหม เล่ายอดรัก
ไม่หวนกลับสายน้ำที่รินไหล
ไม่มีคำลาไม่มีแม้คำว่า*เสียใจ*
เส้นทางใจ ขนานกัน นิรันดร....
*************
ทิวาวัน ทิวาหวาม ยังคงหมุนเวียนเปลี่ยนผัน
รออรุณรุ่งรับขวัญรับดวงใจ
รับหวานไพรพงดวงดอกไม้ดงดอกหญ้าชั่วนาตาปี
ให้มีชีวีชีวารอเวลาเริ่มต้น
ให้ได้พบหวานฉ่ำชื่นพลิกฟื้นคืนชีวิตใหม่...เริ่มต้นใหม่
ดั่งละออละอองหยาดน้ำค้าง...รอระเหยหายและวนว่ายคืนกลับมา
คล้ายดั่งมีกลางวันย่อมต้องมีกลางคืน
มีชื่นมีสุขมีทุกข์มีเศร้าคละเคล้ากันไป..
เหล่ามาลีหลากสีสันหลากพันธุ์ในพง..ก็คงรอ
คลี่นวลกลีบแย้มบาน
รอเติมพลังหวาน
พลังสดชื่น รื่นร่ำฉ่ำงาม
ตระการตาตระการใจตระการโลก..
ปลอบประโลม
ให้สิ้นโศกสิ้นท้อแท้
ประดับรักประดับใจ ใครสักคน
ประดับโลกทุกแห่งหน
มิให้แล้งงาม แล้งใจ
และ
ในราตรีฝันราตรีจันทร์ราตรีใจราตรีงาม
ยังคงมีเดือนพราวดาวสุกใสดับหมองหม่น
เสมือนคนที่ถูกคลื่นชีวิตพาพัดหมอง
แบกทำนองเพลงชีวิตระทมถมทับแทบดับดวงใจ
ราวกับชีวีมีเพียงกลางคืนมืดดำ
ทุกข์ทนตรอมตรมตราบวันตาย..
ยาวนานตามบุพพกรรมทำมาสร้างมา..
ให้หัวใจดวงร้าวดวงเหว่ว้า
รู้ทำใจยอมรับความจริงแห่งชีวิต
ที่ฟ้าลิขิต...ที่หนีไม่พ้นบ่วงกรรม ตามกาล
ที่ตามมาผลาญพร่าชีวี...ไปตราบวันตาย
และ
หากมีดวงตาที่สาม..
นาม...งามภายใน*เนื้อดวงใจเนื้อนาบุณย์*
เพียงมีหัวใจดวงละมุนสักเสี้ยวคงพอไหวทัน
จะทานรับกับกระแสโลกกระแสกรรม
ได้อย่างสงบงามรำงับดับด้วยเยือกเย็น
ไม่เต้นไปตามจังหวะคำคนคำใครพิพากษา..
ที่มักตัดสินจากอคติแห่งใจ
ขาดเวทนาเมตตาปรานี..
ไม่มีกระจกสักด้านมาส่อง..
มองเห็นงามดวงใจใครเล่ารู้นี้
ทั้งทิวาวัน ทิวาหวาม ราตรีงาม
ราวเตือนใจให้ทุกดวงใจบอบช้ำได้ย้ำเตือนใจตน
ก่อนสายเกิน กับทุกสิ่ง
เพราะสัจจธรรมจริงของชีวิต
*คือความไม่แน่นอน*
แปรผันยอกย้อนวกวนได้ทุกเสี้ยววินาที...
และ
ดวงขออุทิศงานเขียนบทนี้..*แด่ทุกดวงใจไหวงาม*
แด่เราทุกคนปุถุชนคนธรรมดา
ผู้มิได้จำต้องหมายว่าบรรลุถึงธรรม
หากเพียงเพียรแค่น้อมนำรำลึกตรึกตรอง
และเลือกทางสายกลาง
แม้จะวางว่างบ้าง มิว่างวางบ้างก็ช่างมัน
และ
แด่ทุกดวงกมลของคนเคยรัก
ผู้มอบบทเรียนแห่งความงดงามหวานหอม
ที่เฝ้าหลอมละลายเนื้อใจเนื้อจิตวิญญาณแห่งงามความทรงจำ
ในคำนึงมานานเนิ่นเกินนับ
เคยรับรสซ่านผ่านสุขโศก..เคียงกันเคียงฝันเคียงใจ
จนไหวครวญคะนึงตอกตรึงสลักลั่นดาลแห่งห้องใจ
มิให้รักใครอีกเลยแล้ว..!
คนดี..
เพราะว่าโลกนี้เหนือดวงชีวีดวงชีวา
อาจจะมีชะตาฟ้าลิขิตสวรรค์บันดาล
มาแต่ปางก่อน
ก่อนจะประทานพร
ให้พบคนบางคน
ที่ดูภายนอกแสนธรรมดา
หากทว่ามีงามภายในดวงใจใครเล่ารู้!
ที่แสนพิเศษพิสุทธิ์
ให้เราอยากสยบ
หยุดรักไว้กลางอกกลางใจอุ่นๆละมุนทรวงนั้นตราบชั่วกาล
ให้หวานหวัง
ให้รักนั้นมีคนดีเคียงข้างมิร้างแรมไกล
ไม่พรากลา
จนกว่า
ผืนดินจะกลบหน้า..
จนกว่าจะถึงวันฟ้าร่ำไห้อย่างดายเดียวทิ้งเราไว้..ลำพัง
ฝากตำนานฝันตำนานใจ ในรักอันเป็นนิรันดร..
ดวงใจ....
ในชีวีชีวิต หายากสักนิดนะ
ที่..เกลียวจิต เกลียวรัก
จักเสนอสนองผสมผสานมิหวานคลาย
ให้ลงตัวได้อย่างพอดิบพอดี
จงอย่าได้สับสน
ลองใช้กมลละมัยไตร่ตรองทบทวนดู
และให้รู้ค่าทะนุถนอม งามหอมดวงใจใครเล่ารู้..ในวัน..ก่อนสายเกิน!
อย่าได้ใช้บาทา วาจา มาขยี้
เมื่อมีคนรักภักดียอมทรุดร่างลงสยบพลีภักดิ์
คนดี...
ใช่เลย..ใช่แล้ว
วันเวลามักพรากทุกสิ่ง....
นิ่งและจำคำไว้
เวลาให้
และ
ในขณะ..ก็พราก
ราวรอยเท้าบนผืนทราย
ถูกคลื่นฝันซัดไล่ ลบรอยหายลาลับ
และวนกลับมาใหม่
หากผิดกับหัวใจแลร่างรักนี้ที่จักดับสูญ
มิดำรงนาน..
มีหวานมีเศร้ามีทุกข์ร้าวรอทำใจทุกร่าง
วางรอนะเบื้องหน้า..ทุกนาทีมิมียื้อยุดได้
หากชะตาได้ถูกลิขิต
ด้วยกุศลบันดาล
และคำประกาศิตจากฟ้าดิน..ให้สิ้นแล้ว
คนดี..ยอมรับซี....
ชีพนี้เราทุกร่าง
มิใช่พระบรมศาสดา
เพียงมาพบพาน..พระพุทธคุณหนุนนำ
ให้เลือกทางสว่างสงบสยบโลกย์วายวุ่น
กรุ่นด้วยกิเลสมากมีมากมายหลายล้านปัญหาสารพัดสารพัน
ฉะนั้นและฉะนี้
คนดี..
หัวใจดวงดี ดวงใจใครก็ดวงใจคนนั้น
ขอเพียงพบทางอันว่าง วางมิรกเรื้อ
ให้เนื้อนาบุญ บุพเพกลางใจจงงอก
แตกดอกดวงแห่งความดีมีรักนิรันดร์
มีแบ่งปันโอบเอื้ออภัย
มีดวงใจใสเย็น และอบอุ่นอ่อนโยน
ปลอบประโลมกันไปในเส้นทางใจเส้นทางฝัน
อันแสนสวยงาม
ฝากเป็นนิยามแห่งรัก หวังดี ปรานี เมตตา
และดวงใจ..
เวลา..เป็นของมีค่า
ทุกนาทีจง เคารพตัวเอง ซื่อสัตย์ต่อตัวเอง
อย่ายำเกรงใคร
หาก
ทุกสิ่งตัดสินทำไปด้วยดวงใจงามพิสุทธิ์..
มิมีใครเดือดร้อน
อย่าพรากลาไปโดยผืนดินกลบหน้า อย่างกล้าๆกลัวๆ
ปล่อยให้ใจสลัวมืดดำ
ติดกรรมทุกข์ทนวนเวียนว่าย
จงรีบชดใช้..ตัดใจตัดกรรมตัดรักนั้น
อโหสิกรรม
ยอมทรุดร่างนั้นลง ตรงเบื้องหน้า
ผู้อันเป็นที่รักภักดิ์พลีหมดสิ้นจิตวิญญาณ
ยอมรานยอมร้าวเพื่อขอกล่าวคำตรงคำใจคำจริง..
มิวิ่งหนี...ชีวิต
หวังมิตามติดหลอนลวง
เป็นบ่วงกรรมย้ำรอยอีกหลายภพชาติพิสวาสวาย
ว่า...
อย่าได้พบพานกันอีกเลย..ตลอดชั่วกัลป์กับป์..
ไม่อำพราง
ไม่ติดค้าง
ไม่รักไม่รอ
ไม่ขอเสียใจ....
ซ้ำแล้วซ้ำเล่าเฝ้าวนวน
หมดหนทาง ค้างคาใจ..
หวังทุกดวงใจ..พบว่าง
วางทุกข์ลง..ตรง..เดินไปในเส้นทางสีขาวงาม..นะคะ
**************
จากใจในอารมณ์..ตรมตรึงค่ะ
http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=4261
รอ
ถ้า เธอ
มีหัวใจเหมือนฉันสักหน่อย
เธอคงไม่ปล่อย ให้ฉันต้องคอย อย่างนี้
เธอคงมองซึ้งถึงไมตรี
เธอคงมองซึ้งถึงความหวังดี
ที่มี เรื่อยมา
สู้ รอ
รอแล้วรอแล้ว รอไม่สิ้น
รอจนใกล้ดับ ถมทับแผ่นดิน แผ่นฟ้า
เธอมองไม่ซึ้งถึงสายตา
เธอมองไม่ซึ้งถึงความบูชา
ว่าฉันศรัทธาเพียงใด
น้ำหยดลงหิน ทุกวันหินมันยังกร่อน
แต่หัวใจ อ่อนอ่อน ของเธอทำด้วยสิ่งใด
ช่างไม่สะทก สะท้านสะเทือนเหมือนหัวใจ
ช่างไม่ หวั่นไหว ว่าใครเขารักเขารอ
สิ้น ลม ลมหายใจของฉันเมื่อไหร่
เธอคงจะต้องได้รู้ว่าใคร เฝ้าง้อ
ใครกันมีรัก มีรักเพียงพอ
ใครกันรอแล้วและยังเฝ้ารอ
เขารอ เขารอ เขารอ เขารอ
น้ำหยดลงหิน ทุกวันหินมันยังกร่อน
แต่หัวใจ อ่อนอ่อน ของเธอทำด้วยสิ่งใด
ช่างไม่สะทก สะท้านสะเทือนเหมือนหัวใจ
ช่างไม่ หวั่นไหว ว่าใครเขารักเขารอ
สิ้น ลม ลมหายใจของฉันเมื่อไหร่
เธอคงจะต้องได้รู้ว่าใคร เฝ้าง้อ
ใครกันมีรัก มีรักเพียงพอ
ใครกันรอแล้วและยังเฝ้ารอ
เขารอ เขารอ เขารอ เขารอ...
19 เมษายน 2547 14:27 น.
พุด
http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=2380
***********
สายลมฤดูร้อนยามค่ำพัดผมไพลปลิวไสว
ดวงดาราเริ่มทอแสงสุกใส
ขับม่านเมฆหม่นบนฟากฟ้าสีกำมะหยี่
นกสีเงิน..จอดนิ่งสงบกลางลานบิน..
ลำตัวถูกเพ้นท์งาม..
มีมวลหมู่มัจฉาแหวกว่ายระเริงคลื่นชื่นฉ่ำใจ
กับทิวมะพร้าวไสวระบัดลมเคียงกัน..
ให้ใจดวงฝันฝันทุกดวง
ได้แย้มยินยินดีมีความสุข
รอซุกซบกับอ้อมกอดของหาดทรายสายลมแสงแดด
และทะเลเงียบงาม..สีมรกต..สดชื่นสดใสบานเบิกใจ
กับฟ้ากว้างกับร่างใจพ้นพันธนา
ให้นกอิสราพาเหินฟ้าหนีจากกรุงกรง..ลงสู่เกาะ..มนต์รักแห่งทะเลใต้..
ไพล..แทบเผลอใจส่งจูบลา..
เมืองหลวงเมืองลวงเมืองเรืองรุ่งไม่ประทับใจ..
แม้นจะพรากลาไกล..ไปไม่กี่วัน..
ก็แสนดีแสนอิ่มเอม..ใจ..เสียไม่มี
แนบหน้ากับหน้าต่างมองลงสู่เบื้องล่างที่ระยิบระยับ
เห็นไฟสนามแดงน้ำเงินเหลืองพร่าง
งามราวติดปีกลอยเหนือโลก..แลละลิบ ..
ไพลแอบคิด..
หากค่ำคืนนี้ดวงชีวีไพลต้องแตกดับลาลับไป
ไพลก็คงเตรียมใจพรากลา
ด้วยจิตวิญญาณฉ่ำเย็นจนนาทีสุดท้าย
ให้มโนนึกราวลอยล่องท่องแดนสุขาวดีมิเปรียบปาน..
น้ำตาไพลซึมซึ้ง...
หลายสิ่งหนักอึ้งในดวงใจถูกปลดปล่อย
ให้ลอยคว้างวางไว้นะกลางกรุงกรง
หลงเหลือเพียงหัวใจอิสราที่ราวมีปีกจริงๆกำลังโผผิน
ทะยานผ่านหน้าต่างเมฆ
สู่แดนฟ้า..เกาะสวาทหาดสวรรค์...
ในห้วงเวหาหาว
ใจดวงร้าวสัมผัสละมุนวาวของพราวดาววะวับแวม
ยามค่ำ ที่ระรินร่ำ ด้วยกลิ่นไอ ของทะเลเมฆ งามล้ำเกินรำพันรำพึง
และทะเลใจไหวหวามดายเดียว
แต่แสนสุขอบอวล ทุกอณู ทุกเสี้ยวนาที..
หยาดน้ำค้างจากตา..พร่างริน..
เมื่อไพล..มองนิ่งพบงาม*ดาวประจำเมืองประจำใจ*
ราวแทนดวงตาดวงใจของใครคนหนึ่ง
คนของหัวใจที่กำลังพรากไกลห่างกันหลายพันไมล์..
และ
ราวกับว่าดาวในดวงใจแห่งรัก..
กำลังกระพริบพราว
ราวกับจะกระซิบฝากคำอ้อน..วอน..
ว่า..
ทุกนาทีที่อุทัยโลกหมุน..
กรุ่นแห่งรักหนักแน่นภักดีจักดำรง..
เป็นนิรันดร์..ระหว่างเรา..
แม้นจะเหงางามตามลำพัง..
พลังแห่งจิตวิญญาณรักภักดิ์พลี
จะมิมีวันมอดดับ..ลาลับเลือนไปกับกาลเวลา
หากเราซึ้งค่ารักแบบ..คนเหนือโลกโศกสุข..
รู้หยุดรู้รำงับรู้รักเย็น..รักเป็น..
รักให้งดงาม จักเป็นนิยามแห่งความสุขแท้..ชั่วนิจนิรันดร.
ไพล...พลันร่างบทกวีสดขึ้นในดวงใจนิ่งงันอย่างงดงาม
*ดาวประจำเมืองเรืองพราวบนราวฟ้า
ราวดวงตาสวรรค์เฝ้าฝันถึง
คือห่วงใยอบอุ่นใจในคะนึง
แทนความซึ้งความห่างอย่างคืนนี้...
ใจดวงร้าวเหินหาวราวนกน้อย
นับวันคอยนับคืนรอมิท้อหนี
แต่ไฉนใจดายเดียวเล่าคนดี
ในราตรีมีน้ำตามาแทนเธอ
ฟ้าเมตตาให้มาเพียงแค่นี้
รับเสียทีที่ได้มาเกินพ้อเพ้อ
ถึงร่างห่างใจเดียวกันใช่ละเมอ
เป็นความเก้อความฝันมหัศจรรย์รัก*
พุดพัดชา..พยายามกลั่นใจรักรจนา
ทั้งๆที่ใจดวงเหว่ว้ายังปรับสภาพใจยังมิได้มิให้ไหวครวญ
ถึง..คืนฝันวันจันทร์เสี้ยวแสนสุขที่พะงันได้เลยค่ะ
****
ยังมากมีเรื่องราว
งามอะคร้าวรอถ่ายทอดละอออก
ละอ่อนใจอีกมากมายค่ะ
ในเรื่องราวนับจาก..
สนามบินสมุย...สู่...ดินแดนแดนดินพะงันงามค่ะ
อย่าลืมติดตามนะคะ
ด้วยรักล้นใจ
http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=2380
เติมใจให้กัน
มัม ลาโคนิค : : Key G
ตอบใจตัวเองมานาน แอบรอคอยเธอก็รู้
อยากให้เธอลองตรองดู
ในความทรงจำ เก็บไว้
ต่างคนมีทางต้องเดิน อาจมีเวลาต้องไกล
หนึ่งคนยังคงคอยใจ ยังคงคอยไปอย่างนั้น
อยู่ไกลกันเกินครึ่งฟ้า หากยังมีใจถึงกัน
จะโยงใยความสัมพันธ์ จนมาพบกันใกล้ตา
ต่อเติมแรงใจเมื่อท้อ
แบ่งปันในยามทุกข์ตรม ไม่หวั่น
ต่างคนเติมใจให้กัน เติมใจซึ่งกัน จนเต็ม
ตอบใจตัวเองมานาน แอบรอคอยเธอก็รู้
อยากให้เธอลองตรองดู
ในความทรงจำ เก็บไว้
ต่างคนมีทางต้องเดิน อาจมีเวลาต้องไกล
หนึ่งคนยังคงคอยใจ ยังคงคอยไปอย่างนั้น
อยู่ไกลกันเกินครึ่งฟ้า หากยังมีใจถึงกัน
จะโยงใยความสัมพันธ์ จนมาพบกันใกล้ตา
ต่อเติมแรงใจเมื่อท้อ
แบ่งปันในยามทุกข์ตรม ไม่หวั่น
ต่างคนเติมใจให้กัน เติมใจซึ่งกัน จนเต็ม
อยู่ไกลกันเกินครึ่งฟ้า หากยังมีใจถึงกัน
จะโยงใยความสัมพันธ์ จนมาพบกันใกล้ตา
ต่อเติมแรงใจเมื่อท้อ
แบ่งปันในยามทุกข์ตรม ไม่หวั่น
ต่างคนเติมใจให้กัน เติมใจซึ่งกัน จนเต็ม...
18 เมษายน 2547 22:15 น.
พุด
url=http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=19
อาลัยรัก อาลัยเกาะสวาทหาดสวรรค์ในดวงใจค่ะ
พุดพัดชาขอฝากเรื่อง..งามดวงใจ..แสนรัก.อีกคราค่ะ.
จากดวงใจรักแสนคิดถึงคะนึงหา
ถึง..ทุกดวงใจแสนรักในร่มรักเรือนไทย
ในวันนี้ที่กลับมาวิมานดินแห่งผองเราแล้วค่ะ
ภาพเซ็กซี่ไปนิ๊ดดับร้อนนะคะ..
ด้วยรักคิดถึงล้นใจ
*********
ตั้งแต่เด็กมาแล้ว
ที่ฉันมองโลกนี้ ผิดแผก แตกต่าง ไปจากเด็กบางคน.....
ได้ยินเสียง ฝนตกก็ฟังเพราะพริ้งพราว
ยามฝนหล่นกราว กระทบหลังคาบ้าน ในชนบท ที่เป็นสังกะสี
สำหรับฉันฟังเป็นเสียงดนตรี จากธรรมชาติที่ไพเราะสุดใจ
บอกใคร ไม่เป็น ให้เห็นงาม และได้ยิน.....
แสงตะเกียงเจ้าพายุ..วับแวม ก็หวามไหว
บางครั้งพาใจให้เหงาเศร้า แปลกดีจัง...
ยามเห็นเรือหาปลาเข้าฝั่ง...มากับตะวัน ยามเช้าตรู่
กับหมู่นกนางนวลสีขาว.........
ในอ้อมแขน...ของชาวประมง...มีตะกร้าปลาสดๆ...
เป็นภาพที่ติดตา มาจนถึงทุกวันนี้ ยังไม่มีลืม
ยามเย็น....วิ่งเล่นบนหาดทรายขาวนวล สุดตา
เคียงไปกับทะเลกว้าง เวิ้งว้าง แต่ไม่เหงาใจ..
เฝ้าดู..ตะวันรอน อ่อนแสง ลาลับลงสู่ผืนน้ำ
ทิ้งแสงสวย งามตา อำลาทะเล อ้อยอิ่ง...
อยู่ในใจ ในความทรงจำ....
ยามค่ำ....นั่งดูดาว ดูเดือน ที่สุกใส
ไร้แสงไฟ แสงสี ไม่มีมลพิษ เพราะเป็นเกาะกลางอ่าวไทย
ไกลแสนไกล ในใจของเราเด็กๆ...จากแผ่นดินใหญ่
ที่ไม่เคยไปเหยียบเยือน....
เห็นเครื่องบิน...ผ่านมา ดีใจราวกับว่า
จะแวะมารับเราไปเที่ยวด้วย....
จะวิ่ง..วิ่ง..วิ่ง..โบกมือ บ้าย บาย ทายทัก กับนักบิน
ที่ไม่รู้จะเห็นเราบ้างมั้ย ยังสงสัยอยู่เลย
หน้าพายุ...ทะเลพิโรธ โกรธกริ้ว
ทิวมะพร้าวไหวเอน น่ากลัว....
ฟองคลื่นขาว ซัดซาด หาดซู่ซ่า ซู่ซ่า
กล่อมให้เราหลับไหลไปกับเสียงดนตรี
ที่ได้ยินจนชินทุกค่ำคืน...
เช้ามา..หาดเกลื่อนไปด้วยขยะ ที่มากับมรสุม....
ทะเล...สอนใจ ให้เรียนรู้ว่า
เหมือนใจมนุษย์นี้ ยามมีอารมณ์ไม่สุนทรีย์
ที่มักมีสิ่งปฎิกูล เกิดในใจเฉกเช่นทะเล
ที่เดี๋ยวดี เดี๋ยวร้าย ไม่สงบ ตลอดไป ตลอดปี.......
ภาพดอกไม้สีเหลืองสวย เป็นพวง ออกดอกพราว
ที่มีกอขึ้นอยู่ริมน้ำ ยามน้ำป่าไหลลงสู่ทะเล
คู่กับดอกสีม่วงละมุน ของดอกผักบุ้งทะเล
ที่แสนบอบบาง ในใจดวงนี้ที่แสนรัก
ภาพ..ดอกจิกร่วง หวานบานพราว
ลงแตะแต้มริมลำธาร ใสไหลเย็น...ยามหน้าแล้ง
น้ำจะแห้งจนมีสันทราย ไว้เป็นลานให้เราเอาผ้าไปซัก....
ภาพ..เงาะ ผลไม้ลูกแดงๆ ห้อยย้อย..เป็นพวง น่ากิน..
ตามทางเดินไปโรงเรียน
ได้แต่เหลียวมอง เพราะเจ้าของแช่งไว้ ถ้าเด็กคนไหนหัดขโมย....
เรียกว่า ..ใส่โจ...ไว้ใต้ต้น เป็นภาษาปักษ์ใต้
จนวันนี้ตีความไม่ออก
ได้แต่เดาว่า คงด่าโจรขี้ขโมย...ให้ตายเร็วๆ ....
ภาพ..เด็กๆถูกครู ใช้ขนทรายเข้าวัด
ทำให้วัด สะอาด สวยงาม....ฝึกใจให้เรียนรู้การให้..
จะได้ มีใจ ที่สวยพอกัน
บางทีขน ทรายขาว มาทำสนาม ลู่วิ่ง ยามมีกิฬา
พาให้สนุกสนานทั้งตอนขน และตอนได้วิ่ง
ทรายทะเล..มากมี ไม่ต้องซื้อหา
ใครขยันขนมาถมสนามหน้าบ้าน ได้ขาวนวลน่านั่ง น่านอนเลย
ทุกสิ่งที่เล่ามา....เป็นรายละเอียดเล็กน้อย ในความทรงจำ
ของใจเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง คนนี้
ที่เกิดมากับธรรมชาติงาม
ทำให้ใจดวงนี้มีรัก ละมุน อ่อนหวาน ซ่อนซึ้ง ติดตราตรึงใจ ไม่รู้เลือน...
มาในวันนี้...จะมีใครซัก..กี่คน
รู้ความละเอียดอ่อน และเข้าใจ ในสิ่งที่ใจเราสัมผัสมา
คนเรานี้หนา...จะแจงใจ..ให้ใครหยั่งถึง ได้ถ้วนถี่
แม้กระทั่ง กับคนใกล้ คนดี
ที่เกิดมาคนละที่ คนละท้อง คนละพ่อ คนละแม่..กับเรา....
ไม่เสียใจ..น้อยใจ..และคาดหวัง...ใครเลย....
ถ้าไม่รู้จัก ใจเรานี้..ดีพอ..
ขอเพียงว่า ใจเรานั้นหนา
รู้จักเปิดใจ ให้เห็นงาม จากภายใน
ไม่ต้องหวังให้ผู้ใด มายกย่อง ชื่นชม
แล้วเราจะไม่ตรอมตรม ไม่เสียใจ
ในความคิด ของใคร ที่ตัดสินเราเพียงเปลือกนอก.......
เพียรเพาะบ่ม รู้จักชมชื่น ตัวเอง ให้เกิดงามภายใน ใจดวงนี้..ก็ดีพอ......