5 มกราคม 2547 01:38 น.
พุด
เป็นบทบันทีกสด
เขียนสดนาทีนี้ค่ะ
ในราตรี..
ที่ดาวประจำเมืองประจำใจกำลังโชนแสง
แข่งกับดวงใจใสสุกพร่างพราย
จากใจไพล*ในวันนิ่งงันฝันงาม*
******
ตื่นมารับไอหมอกหนาวหน้าบ้านยามเช้า
คว้าจักรยานคู่ใจออกไป..ขี่เล่นริมทุ่งรับอรุณรุ่ง
แดดยามเช้างามละมุนละม่อม..
หยาดน้ำค้างยังค้างบนร่องเรียวหญ้า
ในทุ่งนา..ริมทาง ลอมฟางกองพูนพะเนิน
สะท้อนแดดอ่อนอุ่น โอบอ้อมใจ ใสพร่างกระจ่างจรัสเรือง
เห็นผีเสื้อบินว่อน.....
เห็นตั๊กแตนอ้าอ้ำเกาะกัดกินใบไม้
เพียงไม่เห็นวัวควายจริง
เห็นแต่ควายในใจ
กับเด็กชายชาวนาผอมเกร็ง
จูงไปผูก(ล่ำ)กับเสาในขนำนา..
กับฟ้ายามเช้าที่หวานแสนหวาน
หลังฤดูกาลเกี่ยวเก็บ..เก็บเกี่ยว..เคียวคอย..ค่าข้าว..คู่ชาวนา..
******
เก็บชบาดอกแดง..ติดมือมาจากริมรั้วชาวสวนแค่สองดอก
เพราะอยากทัดดอกชบาเหมือนแม่สมในเรื่องสี่แผ่นดิน
ที่ถวิลรักพ่อเนื่อง..พระเอกในใจพุดพัดชาพระรองในเรื่อง
******
กลับมาหุงข้าวใหม่มะลิหอมนวลกรุ่นกลิ่นทั้งครัว
เปิดคอมพ์แถมแกล้มรอเวลาไปวัด
อ่านบทกวีรัก..ของอัลมิตรา..
ฟังเพลง..ใต้ร่มรักมลุลี
แล้วร้องคลอเคล้าเศร้าดายเดียว
แต่มิเปลี่ยวเหงา..ตาม
เพียงงามใจ..ซึ้งใจในงามค่ารักอมตะ..นั้น..
ฝันลอยละลิ่ว..ปลิวไปโพ้นฟ้าไกล..
ฝากใจซุกอกอุ่นด้านซ้าย
คล้ายหลอมละลายเป็นดวงเดียวกัน.
.
แล้วพลันดั่งสัมผัสเรียวรุ้ง
โค้งคุ้งฟ้างาม..ยามอรุณอุ่นไอหนาว
ยามเช้าในชนบทที่งามงดด้วย
พราวหมอกหยอกยอดหญ้ารอท่าระเหยหาย
คล้ายหยาดละอองเพชรร่วง
*****
ฟังบทเพลง..
Poetry of The Sea & Mountain
บทเพลงกระหึ่ม..กระชากใจ
หากทำไมในเสียงดัง
ฟังด้วยใจนิ่งงัน..
รับขวัญวันใหม่
ด้วยดวงใจแสนดีแสนงาม
ได้ยินเสียงหัวใจเต้นแผ่วละมุน
ได้ยินเสียงสายลมหอมกรุ่นพร่างพรมพัดพากลิ่นดอกไม้ไทยหอมๆ
ได้ยินเสียงสายน้ำระรินไหล..
เสียงขลุ่ยบรรเลงเพลงเศร้าโหยไห้
ราวอยากติดปีกให้หัวใจนกไพรลอยละล่อง
ท่องไปในไพรกว้างสู่ลำธารสวรรค์
แดนดินนิรันดร์แห่งอิสสระเสรี..
เสียงทะเลครวญ
คลื่นกระฉอกซัดกระแทกโขดหินริมผา
เสียงปลากระโดดผึง
เสียงนกร้องอึงอล..
โอ้..ดวงกมล..ทำไมเห็นงาม
ในนิ่งงันในใจขวัญ..ฝัน..ฝัน..
*****
จัดตะกร้าเงินไปวัด..
ร้อยรัดดวงดอกไม้ด้วยศรัทธารัก
ไปกราบพระประธานกลางลานหิน..
*****
แวะยืมเทปธรรมมะมาฟัง..10 ม้วนยามว่างสร้างสงบใจ
ซื้อหนังสือธรรมในดวงใจห้าเล่ม..วันนี้
*เมื่อฉันนิ่งเงียบ*เรื่องและภาพโดยธีรภาพ โลหิตกุล
*ความสุขนิรันดร์ *ท่านพุทธทาสภิกขุ
*กวีธรรมพุทธทาส*ท่านพุทธทาสภิกขุ
*ดอกไม้งามแห่งเทศกาล*โดยชัยชนม์..ซึ่งพุดพัดชาซึ้งใจมาก
*ส.ค.ส.2547*พระธรรมโกศาจารย์ 20เล่ม
*******
แล้วพาตัวเองไปนั่งลำพัง
ใต้ร่มไม้ราวร่มพฤกษ์สีเขียว
สอดสลับระยับระยิบใบพร่างแดดเป็นสีทองส่องประกายพร่าง
ไผ่งามสบัดใบน้ำตาลร่วงละลิ่วปลิวควะคว้าง
ให้มองเห็นงามสัจจะอันไม่เที่ยงแท้แน่นอน..ของดวงชีวี
พอกันกับเศษเสี้ยวเรียวใบไม้นี้ยามหล่นลา...ตามกาล..ปัจจัย
นั่นกระรอกกระโดดไล่ล่ากันใหญ่
หางเป็นพวงระย้าย้อย..
ไม่กลัวภองภัยภยันตรายภายในวัด เขตอภัยทาน
******
สวดมนต์เช้า
พร้อมกัน...
ก้องกังวานหวานเสนาะ
ด้วยแรงแห่งศรัทธารักศรัทธาใจ
ของทุกดวงใจสวยใสงามนามพุทธมามกะ
นิ่งสดับฟังธรรมมะด้วยใจดื่มด่ำ..ล้ำลึก
สมาธิ ... ใส่บาตร.. และกรวดน้ำ..แผ่เมตตา..
*****
ทำบุญค่าน้ำค่าไฟวัด..ตามศรัทธา..
แล้ว
พาตัวเองกลับสู่โลกวายวุ่น อีกครั้งครา
มาตลาดนัดที่ว่าด้วยงานมือมากมายงานงามง่ายมากมี..
ที่ร่ายมนตราทุกชีวีที่ปลิ้นปลอกเงินหมดกระเป๋า
ให้จากฟูฟ่องกลับ..บู้บี้เหี่ยวแฟบ
พาตัวเองเดินดูดวงดอกไม้นานาพันธุ์..พันธุ์พฤกษานานามี
และหมายตาหาตู้จากพม่าแสนดูดีที่ราคาไม่แพง
มาใส่หนังสือธรรมมะมากมายที่รวบรวมไว้
และอยากเก็บไว้ให้เป็นที่เป็นทาง..
*****
ได้ตู้ไม้มาแล้ว..แจ้วแจ้วเสียงโทรจากเพื่อนรัก
บอกมีเซอร์ไพร์ส..ให้ตื่นเต้นจะตามมาสมทบ
ให้รอ..ขอเลี้ยงส้มตำเจ้าอร่อยที่ต้องคอยราวเล่นเก้าอี้ดนตรี
ที่เรานี้เบื่อ..ยิ่งนัก หารู้ไม่!
****
ช่วงที่รอ..เพื่อนรัก
เราก็ไปพักตาพักใจไปดูภาพเขียน
อาติสต์ในดวงใจ
กำลังลงสีแสงเงาให้นักมวยในท่าหนุมานถวายแหวน
แรงร้อนด้วยฟิลลิ่งความรู้สึก..
ดูภาพกล้วยห้อยปลีหวีใหญ่
กาบม่วงสวยกำลังรอร่วง
กลางใบลายริ้วพลิ้วพร่างเขียวสด
เขียวตอง เขียวอ่อนเขียวแก่
และเขียวไพลเขียวที่ประทับใจที่สุด
จนสะดุดตาและหวังต้องกลับมาให้วาดรูปตัวเอง
ในภาพสาวทวิภพสยบหัวใจใครบางคน
ด้วยสไบสีไพลเฉกกัน
เปิดเนินไหล่สล้างละมุน..นวลนิ่มหนั่นแน่น
ให้ฝันกระจุยทีเดียวคอยดูนะ..
*****
ได้เวลา..กลับบ้าน
เรื่อง..ที่เพื่อนผ่านมาเซอร์ไพร์สให้ตื่นเต้น
คือเพื่อนซื้อรถคันใหม่
รถจิ๊ปแบบโฟวีลด์คันใหญ่เบาะไฟฟ้า
เจ้าของเดิมคือนักร้องนาม..ดัง
คู่นักเทนนิสมือดีในดวงใจ..ที่มีข่าว
เลยได้นั่งฟังเพลงไพเราะ
คลอเคล้ากลับบ้านสราญใจ.แค่นั้น
และใจไพลนั้นก็ยังเฉยเฉยชาชินในสรรพสิ่ง
ด้วยใจนิ่งงาม..มิตามตื่นเต้น
หลงในวัตถุนี้
ที่ดวงใจและดวงตา
แค่เห็นว่า
คือยานพาหนะพาไปไหนๆได้
ก็คือคล้ายเหล็กธรรมดาๆ
นะวันนี้ในวันหนึ่งเท่านั้นเอง..
*****
ถึงนาทีนี้..
จันทร์ค่อนดวงลอยเด่น
หัวใจเต้นแรงเมื่อได้รับแรงใจ..
จากดวงใจในร่มรักเรือนไทย
ขอกล่าวคำอำลานอนหลับฝันดีนะคะและ..
ราตรีสวัสดิ์ค่ะทุกดวงใจ...
*************
http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=4603
หัวใจถวายวัด
พุ่มพวง ดวงจันทร์ : : Key Gm
หลวงพ่อ เจ้าขา
ช่วยแผ่เมตตาลูกหน่อยได้ไหม
ลูกนี้อาภัพอับโชคหรือไร
มีรักครั้งใด หัวใจเหมือนไฟร้อนรน
หลายคน ที่พบ
พอเขาได้ซบต้องหนีหลบล่องหน
ขว้างทิ้งดังเศษดินข้างถนน
น้ำตาร่วงหล่น หาคนรักแท้ไม่มี
เข้าวัด ทุกวัน
ใส่บาตรทำทานบนบานขอให้โชค ดี
แต่ผียังตามหลอนหลอกย่ำยี
วันหยุดพักไม่มี บวชชีดีไหม
หลวงพ่อ เจ้าขา
ลูกหมดปัญญาเหนื่อยจังหัวใจ
สิ้นหวังรักทุกข์ครั้งสุดวุ่นวาย
จึงพร้อมมอบกาย หัวใจถวาย วัดเลย
หลวงพ่อ เจ้าขา
ลูกหมดปัญญาเหนื่อยจังหัวใจ
สิ้นหวังรักทุกข์ครั้งสุดวุ่นวาย
จึงพร้อมมอบกาย หัวใจถวาย วัดเลย...
3 มกราคม 2547 08:30 น.
พุด
http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=495..
(ส่วนแบ่งที่ไม่เป็นธรรม)
http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=5603
(YESTERDAY ONCE MORE วันวานยังหวานอยู่ )
ความในใจของคนช่างฝัน
คนดีที่รัก...
นานแล้วไม่ได้เขียนความในใจถึงค่ะ
ใกล้ปีใหม่แล้วนะคะ ให้รักษาสุขภาพให้ดี..
รอวันแสนดีที่รอคอย..
ที่เราอาจจะได้พบกันนะคะ
วันนี้...
แพมเศร้าใจจังค่ะ กับหลายสิ่งหลายอย่าง
ในบางครั้งบางหน
กับคำคนคำวิจารณ์งาน
ของ*นักอยากจะเขียน*ทุกดวงใจทุกท่าน
และงานของแพมด้วย
นาทีต่อมา แพมคิดได้
จำคำคนดีเคยปลอบประโลมใจได้ว่า
คนในโลกนี้หนามีหลายแบบ ..นะคะ
คนดีก็รู้แพมไม่ใช่นักเขียนนะ แพมออกตัวเสมอ
เพราะการเป็นนักเขียนยากมากค่ะ.....
แพมเพียงแต่รักการอ่าน การเขียน มายาวนานนัก
และแพมจบปริญญาทางภาษาศาสตร์และจิตวิทยา...
แพมแค่รักและชอบอ่านการเขียนเป็นชีวิตจิตใจ........
คนดีรู้จักแพม.... ดี........
จะรู้ว่าแพมนี้ช่างฝัน ช่างจินตนาการ
และเขียนเล่นๆมานานถึงคนที่ชิดใกล้...ที่แพมรัก....
แพมเพิ่งมาเขียนจริงจัง เมื่อไม่นานนี้
ยังบอกคนดีเลยว่า
ในเวลาที่แพมไม่ค่อยมีไฟแล้ว
และไม่ได้ศึกษาวิธีการเขียน
แพมเขียนไปตามใจแพมมากกว่า
และไม่ได้หาแนวเพื่อทำงานดีๆ
แพมยังบอกเสียดายเวลาที่ผ่าน
ถ้าแพมตั้งใจและพยายามกว่านี้คงดีนะคะ.....
แพมตั้งใจมากอีกนิดเมื่อได้รางวัล เล็กๆ
จากเวทีนักอยากจะเขียนน้อยๆ
และชักมีคนติชม..
คอยวิจารณ์งานแพมด้วยรักและให้กำลังใจแพม....
แพมยังเคยบอกคนดีนะคะ
ว่าคนดีจุดประกายไฟ ให้แพม....
แพมผลิตงานเร็วมากไป
เพราะมันล้นทะลักอยู่ในใจแพม
เก็บไว้นานเนิ่น
เหลือแต่รอวันที่แพมจะได้ระบายออกมา..
และแม้จะถนัดเขียนแต่เรื่องธรรมชาติดอกไม้ต้นไม้
และแฝงความเศร้าดายเดียวในรัก
ทั้งๆที่จริงๆแพมอยากเขียนเกี่ยวกับศาสนา..มาก....
แพมยอมรับ สำนวนแพมคืออย่างนี้
แพมเขียนด้วยความเป็นตัวตนอย่างนี้
ผู้หญิงช่างฝันอย่างนี้ ถ้าเขียนแนวอื่นนั่นไม่ใช่ตัวแพม .............
ผู้อ่านในร่มรักเรือนไทย....คงเข้าใจเจตนาของแพม
แพมเข้าใจว่างานแพมลงมากและมากองอยู่ที่เดียว
มันเลยเห็นชัดว่าสำนวนคล้ายๆกัน
ก็ผลงานปาเข้าไป....หลายร้อยแล้วนี่นานะคะ
จะให้ไม่ซ้ำกันได้ไง..และ
ถ้าบอกว่างานแพมน้ำเน่า
แพมว่าร่มรักเรือนไทยไม่ให้โอกาส
คนที่รักการเขียน...และ แพมคงถอดใจทิ้ง
ที่จะได้ฝึกการเขียน และทำงานที่รัก........
แพมไม่ใช่นักเขียน
และใครดูถูกงานแพม ก็เหมือน ดูถูกตัวเค้าเอง
ที่ฟ้องประจานว่าใจคอแสนคับแคบจังต่อเพื่อนมนุษย์นะคะ....
และแพมอยากจะให้ทุกดวงใจ...
ที่รักงานเขียนได้รับกำลังใจมากมาย
ให้ผลิตงานให้ดียิ่งๆขึ้น.....
คนดีคะแพมอยากบอกว่า
เมื่อถึงบรรทัดนี้แพมน้ำตาแทบหยาดหยด
อยากบอกคนดีอีกสักครั้ง ว่า คนดีคือแรงฝัน
บันดาลใจของแพม
ระหว่างเรา......
แพมใช้งานเขียนเป็นสื่อ..เพื่อปลอบประโลมใจ
เพื่อขอบคุณที่คนดีมารักงานแสนรักดั่งดวงใจของแพมนี้.........
ด้วยแพมเห็นคุณค่าของน้ำใจคน ที่ รักงานแพมจริงๆ
แพมใช้ความรัก ความคิด ความรู้สึก ของแพม
ในเรื่องทุกเรื่องถ่ายทอดถึงคนดี....
*พระเอกในใจแพม..มาตลอด.... *
เพราะแพมอยากปลุกปลอบ
และให้กำลังใจคนดีที่แพมรัก และเข้าใจอย่างที่สุด
แม้ใครจะคิดว่าเรื่องของแพมจะซ้ำๆซากๆก็ตาม.....
ใครที่คิดร้ายที่ทำร้ายแพม
คงแค่ธุลีที่ทำให้ใจเราหม่นมัว
แต่เราจะใช้ความดีล้างให้ออก
แค่ทำให้เราเสียใจแค่ไม่นานนาที.....
แพมคิดว่าโลกเรานี้หนายังมีมนุษย์ที่ให้โอกาส..
และกำลังใจผู้อื่นอีกเยอะมากค่ะ........
คนดีลองคลิกดู บางคน บางงาน
แพมเข้าไปให้กำลังใจ
ทั้งๆที่อาจมีผิดพลาดด้วยขาดประสบการณ์
ถ้าจะแนะนำแพมจะบอกด้วยเมตตานะคะ.....
คนดี....แพมแค่หวัง...ให้งานของแพมน้อยค่านี้
ช่วยจรรโลงจิต..จรรโลงใจของคนสักหยิบมือหนึ่งก็ยังดี
ให้มีความรัก มีใจดวงละมุน
ลดเร่าร้อนริษยา ให้ร้าย และจับผิดกันและกัน........
นอกนั้นคือ
แพมหวังสนองความฝัน ความรัก ของแพม...ต่อทุกคน......
คนดี...
แพมอยากให้คนดีรับรู้ว่า..
ทุกงานที่แพมเขียนขึ้นมา
ใครจะคิดว่าไร้ค่า..ต่ำต้อยในใจในความคิดใคร.......
นั่นไม่สำคัญเลย...
เมื่อแพมแสนจะภาคภูมิใจ....
ที่แพมได้ทำสิ่งที่แพมรักมาตลอดชีวิตอันยาวนานนี้........
และได้พยายามอย่างที่สุด..
เท่าที่จะทำได้ก่อนที่ฝันของแพมจะราโรย......
และถ้าวันใด
ที่ได้รวมเล่มไว้เป็นประวัติของชีวิตผู้หญิงคนนี้
ที่อยากเก็บไว้ให้คนที่รักของแพมได้อ่านได้สัมผัสตัวตน
และจิตวิญญาณ..อีกด้านหนึ่งของแพม.......
แพมจะขออุทิศหนังสืออนุทินนี้ให้แก่...คนดีที่แพมแสนรักค่ะ......
แพมเมล์ยาวมาก....
คนดีจะรับทราบและเข้าใจแพมได้สักเพียงใด
แต่แพมคิดเสมอมาคนดีเหมือนเพื่อนที่เคียงข้าง
และรับรู้มาตลอดในหลายเรื่อง...
หลายความคิด..
หลากอารมณ์..ของแพม
แพมขอบคุณนะ....ด้วยใจทั้งดวงเลยจ้ะคนดี....
**********.
คนดี..คือใคร..กันละหนอละนี่?
หรือว่ามีเพียงในฝัน..
กับสวรรค์ส่งมา
*ให้ส่วนแบ่งที่ไม่เป็นธรรม*กับดวงใจพุดพัดชา
และขอมอบกำนัลแด่ทุกดวงใจในร่มรักเรือนไทย
ที่ได้รับส่วนแบ่งของหัวใจไม่เป็นธรรมทุกดวง..
เฉกเช่นเดียวกับหัวใจพุดพัดชา..ที่กำลังร้าวระบมรอกำลังใจค่ะ
ด้วยรัก
*********
http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=495
ส่วนแบ่งที่ไม่เป็นธรรม
ส่วน ของ หัวใจ
ที่คุณแบ่งให้
มัน น้อย เกิน ไป สำหรับใจฉัน
คุณ ให้ ไม่ ถึง เศษหนึ่งส่วนพัน
รัก เรา จึง สั้น สิ้นสุดกัน แค่นื้
สิ้นสุดกันที สิ้นสุดกันที
ส่วน ความ ช้ำ ชอก
ที่คุณตอกย้ำ
มาก เกิน จด จำ ลึกล้ำเหลือดี
ย่อย ยับ แค่ ไหน ใยไม่ปราณี
หวัง เพียง ข-ยี้ ให้ฉันนี่ แดดิ้น
สิ้นสุดกันที สิ้นสุดกันที
วันนี้มันสาย เกินไป
สายเกินไปกว่า
จะมาเริ่มรักกันใหม่
ป่วยการหลอกกัน ต่อไป
มันจบเกมส์แล้ว จนใจ
สิ้นสุดไม่เหลือตั้งแต่เมื่อวาน
ส่วน ของ หัวใจ
ที่คุณแบ่งให้
เชิญ รับ คืน ไป ฉันไม่ต้องการ
คุณ ให้ ฉัน น้อย
น้อยเหลือประมาณ
รัก จึง ตาย ด้าน
สิ้นสุดกันแค่นี้
สิ้นสุดกันที สิ้นสุดกันที
วันนี้มันสาย เกินไป
สายเกินไปกว่า
จะมาเริ่มรักกันใหม่
ป่วยการหลอกกัน ต่อไป
มันจบเกมส์แล้ว จนใจ
สิ้นสุดไม่เหลือตั้งแต่เมื่อวาน
ส่วน ของ หัวใจ
ที่คุณแบ่งให้
เชิญ รับ คืน ไป ฉันไม่ต้องการ
คุณ ให้ ฉัน น้อย
น้อยเหลือประมาณ
รัก จึง ตาย ด้าน
สิ้นสุดกันแค่นี้
สิ้นสุดกันที สิ้นสุดกันที...
2 มกราคม 2547 22:37 น.
พุด
http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=420..รางวัลชีวิต
http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=5820
***********
ตะวันทิ้งดวง..เหนือทิวสน..ยามย่ำสนธยา
เรียวเมฆหวานล้ำ
งามเหนือคำบรรยายใดใด
ในซาบซึ้ง..ตรึงใจตรงหน้า
สีฟ้า..โศกสวย..
ม่วงพรายพรมอมชมพูเทาเทา
อ่อนอ่อน จางจาง บางบาง..เบาเบา..ราวขนนกนุ่มนุ่ม
ดูนวลนวลพร่างพร่างราวร่างระบายด้วยสีน้ำ
ให้มองดูนิ่มอิ่มสีกลมกลืน
ในผืนฟ้ากว้างแทนผืนผ้าใบ..
ทั่วผืนน้ำ..ทะเล
แปรสีเป็นเงินงาม..
ครามเคลือบม่วงอมชมพูตามโค้งฟ้าคลุมครอบ..
ฟ้างามอะคร้าวราวสายรุ้งพร่างพราว
ม่านเมฆราวเกร็ดเพชรเป็นช่อชั้น..สวรรค์บันดาล..
ไพลเอนร่างนอนเหนือเนินทราย..
ใต้ร่มไม้ใต้ทิวสนแผ่ใบสล้าง..
พังเสียงลมครางสนครวญ
เสียดสีซัดส่ายใบ
ไหวซอกแซกๆซู่ซ่าๆ..
ท้าตะวันให้ฝันไกล.แสนไกล..ในคะนึง
ฟังเสียง.คลื่นคลอทราย..เว้าวอน.อ้อนออดชายชล..
ปล่อยกมล..ว่าง..วางไว้..
ให้หาดทรายร้างไร้ยาวเหยียดสุดตา..
ให้ทะเลเหว่ว้าโค้งจรดฟ้าไกล..
ปลอบหัวใจดวงละมุนดายเดียวเดียวดาย..
ระบายเศร้าเสน่หา..
พร่างพาพรมห่มดวงใจด้วยธรรมชาติแสนดี..
แสงสีส้ม..อมก่ำฉ่ำดวงแดงราวไข่ดาวดวงโต..โผล่กลางทิวสน
ทอทอดลอดแสงพร่างโลมไล้ร่างให้มลังเมลืองราวทองทา..
แสงเรืองรอนรอน สะท้อนสายสร้อยทองโบราณรอบลำคอ
ร้อยรัดราวรูปสลักโบราณ...กับร่างหนึ่งนอนนิ่ง..งัน
ในเรียวตานั้น....
เพชรน้ำพร่างวิบวับระยับสะท้อนรับแดดละออราวรุ้ง
เป็นซึ้ง ซ่าน หวานสุข เศร้า
ราวโลกร้างว่างเปล่าเหงาเงียบเฉียบเย็น
เป็นดื่มด่ำร่ำรสสุข
มิหวังให้ผู้ใดรับรู้..เห็น..
มีเพียงงามหัวใจสุขเร้น เต้นแผ่วๆ..สุขล้ำ..ลำพัง
กับงามในทุกสรรพสิ่ง..รายรอบ
มองฟ้างาม น้ำจรดฟ้า
มองท่าโผผินบินสู๋ท้องนภาเวหาหาวของนกนางนวล
มองเรือน้อยค่อยค่อยลอยลำลา วิ่งฝ่ากระแสชล
เหนือทิวคลื่น ทั่วผืนน้ำ งามระยับจับดวงใจ
จากย่ำสนธยา ตราบดวงตะวันลาลับฟ้าต่อถึงยามราตรี
ที่ดาวประจำเมืองเรืองรุ่ง
โผล่พ้นโค้งคุ้ง
ทิวทุ่งข้าวสีทองลอมฟางหลังฤดูกาลเก็บเกี่ยว
เดือนครึ่งดวงลอยคว้างฟ้า
ราตรีคลี่ม่านหว่าน
ดวงดาราพริบพราวสุกใสนับพันดวง
บทเพลงฝันวันปีใหม่กระหึ่มก้องกังวาน
ไปกับสายลมในยามค่ำ
ไพลไหวร่างเดินทอดน่องห่างจากเนินทราย
ดูพรายพระจันทร์ดวงเศร้าแสนหวาน
ดูแสงไฟวับแวมวะวิบกระพริบล้อนวลแสงดาว
ที่ประดับประดาไว้พร่างพราว
ตามราวกิ่งไม้และตามสุมทุมพุ่มพฤกษ์
ไพลมีความสุขที่ได้เร้นกาย..
จากงานปาร์ตี้เรียบง่ายสบายๆแบบครอบครัวใหญ่
ในทุกปี ที่มีงานเลี้ยงแสนดี คืนแสนงาม
หลังให้โมงยามแห่งชีวีได้ทำสิ่งมงคล กราบแม่พ่อ ขอพร
และญาติมิตรพี่น้องได้ร่วมกัน แย้มยิ้มยินดี
มีคืนสามัคคีอบอุ่นเป็นสุขร่วมกัน
หลังตรากตรำแยกย้ายกัน ดำรงร่างใจทำตามหน้าที่ตน..
ไพลชอบเดินอาบน้ำค้างพร่างพรูกรูเกรียวลมหนาวกอดตระกอง
และปล่อยให้หัวใจทั้งสี่ห้อง..ว่างเปล่า...
ไพล..พยายามถอดหัวใจ ไม่รู้สึก ในทุกเรื่องราว
ราวชาดิ่งดื่มด่ำกับดายเดียว
ให้ทุกคืนวันผันผ่านมาลาเลยลับนับทวีเพียงกาล..
ก็แค่เพียงนิยามคืนผ่าน หวานเลย..
ให้รู้ทำใจเฉยนิ่งชินชา
ที่เหลือก็..คือความเหว่ว้าว่างเปล่า กับเหงาเงียบที่ซ่อนซุก
ในรู้สึก..ที่ยากยิ่งอธิบาย..กับผู้ใด ด้วยนวลใจไหวละมุนนี้
ที่มองชีวีและทุกสรรพสิ่ง อย่างแผกผิด พิเศษพิสุทธิ์
มาเนานานเนิ่นเกินนับและจักเป็นนิรันดร์
ไสว สว่าง ราวสวรรค์สร้างเสก สล้างกลางใจ ในทุกงามง่าย
คล้ายชีวีที่พอใจในวิถีติดดิน
ถวิลแต่งามเงียบเรียบง่ายไร้มายา..
ไม่ว่ารักใด ไม่อยากผูกพัน ไม่อยากยึดมั่น ถือมั่น
และไพลเพียงแวบหวั่น คิดถึงสายวสันต์
ที่เคยพรมพร่างใจในวูบวับกับหนาวเหน็บนี้
และพลันหัวใจไพล..ราวลอยละล่องท่องไปในโลกฝัน
กับบทเพลง..หวานแว่ว แผ่วพลิ้วมา...
บทเพลง..
MY HEART WILL GO ON
Every night in my dream
I see you,I feel you
That is how
I know you go on
Far across the distance
and spaces between us
You have come
to show you go on
Near,far,
wherever you are
I believe that the
heart does go on
Once more,
you open the door
And youre here
in my heart,
And my heart
will go on and on
Love can touch us
one time and last
for a lifetime,
And never let go
till were gone
Love was when
I loved you,
one through time
I hold to
In my life well
always go on
Near,far,
wherever you are
I believe that the
heart does go on
Once more,
you open the door
And youre here
in my heart,
And my heart
will go on and on
Youre here,
theres nothing I fear
And I know that
my heart will go on
well stay
forever this way
You are safe
in my heart,
And my heart will
go on and on...
******
ไพลใช้เวลาแสนดีแสนงามในยามนี้
ทบทวนกับทุกสิ่งในดวงฤดีไหวอ่อนนี้ที่แสนเข้าใจ..
ทุกชีวี..
ในโลกนี้..ที่ คิดดิ้นรนใฝ่คว้า หาความสุขภายนอก
มาลวงหลอนหลอกปลอบประโลมใจตน ตามๆกันไป
ตามใจตน ตามเงินในกระเป๋า
เป็นสุขชั่วคราวมิยาวมิยั่งยืน..ถาวร..
มีรถหรู.. มีบ้าน หลังที่สองที่สาม
มีสตางค์ เดินทางท่องเที่ยวเกี่ยวเก็บประสบการณ์..
มีภรรยางามหรูประทิ่นทับ
ประดับโฉมด้วยเครื่องสำอางจากต่างประเทศแสนแพง..
มีหวานหวัง..ที่ยังมีอยาก..และอยาก
อยากมีนั่นมีนี่..ที่ก่อเกิดกิเลสให้ฤดีถวิลหาตลอดเวลา..
สนองโหยหา สุขวูบวับ ดับ ดับ แล้วก็เกิด เกิดใหม่..
ไปตามใจอยาก มากมีกิเลส รักในวัตถุมากมี..มิรู้สิ้นรู้จบทบทวี
จนกว่าผืนดินจะกลบหน้า
พาวกวนหลงทาง มิวางแอกแบกหนักบนบ่า
มิพากันปลดเปลื้องตราบวันตาย..
ไพล..เบื่อเหลือที่
กับชีวีวนซ้ำ กับการพบเห็นทุกแห่งแหล่งที่
มากมีมากมาย การจับจ่าย แบบมอมเมา
กับเหงาล้ำ เมื่อใจไพลคอยย้ำว่า..เบื้องหลังนั้น
ทุกครอบครัว อาจจะเป็นหนี้
หนีระบบเงินผ่อนไม่พ้น
จนต้องนอนสะดุ้งผวาไปแทบทุกครัวเรือน
ผ่อนบ้าน..ผ่อนรถ..มิทันหมด ก็ผ่อนตู้เย็น คอมพิวเตอร์
เผลออีกนิดก็คิดผ่อนโทรศัพท์มือถือ..
เครื่องใช้ไฟฟ้า ตามโฆษณามอมเมาดอกเบี้ยต่ำ
ที่กระหน่ำลดแลกแจก(และแถม..ความเครียดให้ทั่วหน้าประชาชี)
ไพล..เบื่อ การกินเกินพอดี
ที่มีทุกหัวระแหง แย่งกันเข้าคิว
กิน กิน กิน เกินอิ่ม เกินพอเพียง
จนร่างกายเดี้ยงด้วยโรคภัย และลืมสนใจการออกกำลังกาย
ทำร้ายตัวเองทางอ้อมวันแล้ววันเล่า..
ไพลกำลัง..ดายเดียว กับโลกนี้ที่หมุนวนตามกระแสโลกโศกรอ..
รอเวลาระเบิด..รายรอบบ้านเรารานรุก..บุกล้ำ ก้ำเกินกัน
ด้วยความเร่าร้อน รุนแรงแฝงไปทุกถิ่นที่ทุกประเทศ
เพราะเพียรแสวงหากันเพียงสุขเปลือกภายนอกหลอกใจไปวันวัน
จนจิตวิญญาณไร้ขวัญ
สิ้นฝันอันอ่อนโอบ เอื้ออาทร รักกันฉันท์น้องพี่
ทั่วทั้งโลกนี้ที่อยากให้เกี่ยวก้อยร้อยรัดใจเป็นหนึ่งเดียว
ไม่เกี่ยวกับศาสนา การเมือง การปกครอง
เพียงปรองดองรู้รักสามัคคีมั่น
สานฝัน สรรสร้างโลก ให้สิ้นโศก
มีแต่โลกอันพรายแพรวดั่งแก้ววิเศษ
ผ่องแผ้วสวยใสงาม..ด้วยนิยามแห่งคำว่ารักกัน..
สำหรับ..
ไพลเพียรฝัน เพียรสร้างพลังพยายาม ให้หัวใจ สะอาด สว่าง
คิดดี พูดดี ทำดี มีความพอเพียงเพียงพอ..
และขอเลือกโลก ทางใจใสงาม..
สวดมนต์ทุกยาม
*ให้กรรมเก่าที่ตามมาได้หมดสิ้นกันไป ไม่ขอถวิลรักผู้ใด
เพราะไพลซาบซึ้ง..คำ*ทุกข์ใดไหนเล่าเท่ารัก..
หนักดังถูกหินทับไว้ใต้หล้าโลกให้โศกครวญมิรู้จบ*
ดั่งคำตรัส..ของพระพุทธองค์.
*ที่ใดมีรักที่นั่นมีทุกข์*
ตัดรักได้ ตัดทุกข์ได้ทันที
ทุกข์ที่เป็นดังบ่วงใจ..บ่วงดวงใจ!
เลิกไหววิโยคครวญ โหยหา ห่วงใย
ละล้าละลัง หมดสิ้นพลังที่จะก้าวเดิน
ไปสู่เส้นทาง แห่งความว่าง..ความสงบ
พบเส้นทางสีขาวพราวด้วยดวงดอกพุทธะ.
เก็บมาสอนตนห่มใจบ่มดวงใจ
ให้รู้ตื่น รู้เบิกบาน
ปานประหนึ่งดอกบัวพ้นน้ำเสียที..
ให้สะอาดสวยใสเย็น
ปานประหนึ่งสายน้ำนิรันดร์
มีเรือสำเภาทองคำเทียบท่า
มารอรับสู่สะพานนิรันดร์ พาไปถึงฝั่งฝันพระนิพพาน..
ที่ยากยิ่งนัก..
มาตรแม้นตัดรัก หักอาลัย ในสรรพสิ่ง มิได้
อย่าได้หมายมาดเลยชั่วกัลป์กัปป์...
ให้ยอมรับชะตากรรมแต่โดยดี..
******
ไพล ไม่อยากหลงวน หลงหวั่น หลงฝัน หลงรอ หลงคอย
ราวต้องคำสาปจากชาติปางก่อน
ให้ร้าวรอน พรายพลัดพรากจากรัก..แท้..
หลงพ่าย หลงแพ้ คำเว้าคำวอนอ้อนให้ติดในวัฎสงสาร
ให้หัวใจดวงหวานดวงละมุน..ครองโศก
หนีไม่พ้นวิโยค..
โลกรักวน ซ้ำซ้ำ ตามย้ำรอย
ว่ายวนตามเพรงกรรมนำพา..อีกต่อไป
********
ทุกคืนค่ำในราตรีอันงามเงียบเรียบง่าย
ไพลเพียรทรุดตัวนั่งเบื้องหน้าพระพักตร์พระพุทธพระผู้พิสุทธิคุณ..
ไพลเพียร ถวายพวงมาลัยจากใจดวงละมุนงาม
พร่ำกราบกรานบอกถึงความในใจ
ขอพรท่าน ให้กุศลบันดาล
ให้ใจไพลพบทางสว่างทางออกแสนงาม นามความว่าง ความสงบ
พบสุขที่แท้จริง มิพักวิ่งไปขอรอจากดวงใจใคร...
ให้รู้ลบ รู้เลิก ความฝันอันงามตระการ
ที่หลงพลัดผ่านเข้ามา
หลอมดวงชีวา จิตวิญญาณตัวเอง
ที่รอคอยมาแสนนานตราบชั่วกาลชั่วชีวิต..
ราวรอพระพรหมสรรสวรรค์ปันเศษเสี้ยวแหว่งวิ่น
ให้หัวใจสิ้นหวังได้ต่อติดเติมเต็ม..
แม้ไกลร่าง..ห่างกาลวัยวัน..
ขอเพียงจิตวิญญาณพิสุทธิ์ใสนั้น
ได้หลอมละลายกันเป็นหนึ่งเดียวบริบรูณ์..เสียที
เพียงภพนี้ชาตินี้ ..
เพียงเท่านี้เพียงแค่นี้ ก็แสนดีแสนงามแล้วนะคนดีนะดวงใจ!