18 สิงหาคม 2546 14:05 น.
พุด
มีนกไม้บินร่อนห้องนอนขวัญ
รักผูกพันผ่านวันคืนมิไปไหน
ราวกับรอเจ้าของติดปีกใจ
ตามฝันไกลไปด้วยกันวันผ่านมา..
เจ้านกไม้มิดายเดียวมิเปลี่ยวเหงา
เรามีเรารอฝันวันโหยหา
วิญญาณไพรเรียกร้องก้องพนา
เจ้าและข้าจะโผผินบินพร้อมกัน..
เจ้ารู้ไหมใจเจ้าของต้องทำหน้าที่
เป็นคนดีเพื่อที่รักพักใจฝัน
คนเรานี้ดีน้ำใจมอบแก่กัน
เพียงเงาฝันวับวูบไหวสุขใจพอ..
ทุกอรุณหมุนมาข้าและเจ้า
ได้เคลียเคล้ารออิสระนะใจหนอ
ติดปีกฝันสู่ไพรกว้างทางรักรอ
และจะขอซุกร่างกลางพสุธาท้าอินทร์พรหม!
ในห้องนอน...
เหนือที่นอนหมอนมุ้งสีขาวขาวและขาว
จะมีนกไม้..ที่พุดพัดชาซื้อมาจากตลาดนัดในยามค่ำ
ณ..หัวหินถิ่นมนต์ขลังในฤดูร้อนหนึ่งนานมา
ในฤดูร้อนแห่งเดือนเมษา มาเยือน..
นกไม้.
ตัวโตมาก.
ปลายปีกสีแดง และแตะแต้มสีน้ำเงินใต้ปีกสลับเขียวไข่กา
เป็นนกไม้ที่แขวนไว้ให้คิดถึงการโผผินบินไปสู่อิสระใจสู่โลกกว้าง
อย่างที่วาดหวังรอ จะคืนไพรพนามานานปี..เมื่อหมดหน้าที่งามแห่งชีวิต
...
ทุกเช้า..พุดพัดชาจะลืมตามองนกไม้.
.และจะยิ้มให้เหมือนจะกระซิบ..ว่า
นับถอยหลังนะเพื่อนยากนะเพื่อนใจ..
และพุดพัดชาจะเปิดบานประตูกระจกกว้าง
ให้สายลมยามเช้าที่สดสะอ้านผ่านพรู เข้ามา
เพื่อให้เพื่อนยากได้เหลิงลม..
มิตรอมตรมราวถูกกักขังใจ..
นี่คือนกไม้ ที่มิใช่นกไพร..
นอกเหนือจากนกในใจในธรรมชาติ
ที่นาทีนี้มีมากมายมาโผผินบินไปมา
เกาะก้านกิ่งเกี่ยวกอแก้วมากินลูก..
ให้พุดพัดชา แอบอมยิ้มดูด้วยเอ็นดูเป้นยิ่งนัก
และสำหรับนก..ในใจพุดพัดชา
ก็ติดปีกเหินฟ้า..ไปทุกถิ่นที่ทุกนาทีที่อยากบินค่ะ
ด้วยรักหวังเข้าใจนะคะ
หากดวงใจฉันมีปีกบิน
เหลิงลอยเมฆินทร์ได้ดังฝัน
จะอยู่ไหนไม่เคยหวั่น
ฉันบินมาพลันอยู่ใกล้เธอ
แต่บัดนี้เราห่างกันสุดกู่
เธอคงไม่รู้ว่าฉันพร่ำเพ้อ
ค่ำเช้าทุกวันฉันเฝ้ามองเหม่อ
คร่ำครวญเรียกหาเธอเรื่อยมา
เฝ้าแต่ครวญเสียงเพลงฝากลม
เพื่อคลายทุกข์ตรมท่วมอุรา
ฝากกระซิบถึงเธอว่า
ทุกคำสัญญาจดจำมั่น
อีกไม่ช้าคงกลับมาสู่
เคลียคลอชื่นชู้เหมือนดังใฝ่ฝัน
ยิ่งคิดคราใดฉันยังใจหวั่น
หากเธอแปรผัน...ฉันคงขาดใจ.............
18 สิงหาคม 2546 11:24 น.
พุด
http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=6992
Second Chance
ที่รัก......
วันนี้หลังเลิกงาน..ผมรีบตรงดิ่งกลับมายังห้องที่คอนโด..ของเรา.....
เพื่อมายืนนิ่ง..ตัวชา..ใจหาย..ราวร่วงหล่น.....
ผมรู้ด้วยสัญชาตญาน..ว่า..คุณจากผมไปแล้ว..
และหนนี้..คุณจะไม่กลับมาอีก.....
เหมือนดังคำพูดสุดท้ายของคุณ..
ก่อนที่ผมจะผลุนผลัน..ออกไประงับอารมณ์
หลังจากที่เรามีปากเสียงกัน..รุนแรง..เมื่อคืนก่อน......
คุณขู่ผมว่า..ถ้าผมก้าวเดินออกไปจากคุณ..ในวันนี้..
ผมจะไม่มีโอกาส..แม้จะกล่าวคำว่า
เสียใจ..และขอโทษ..ต่อหน้าคุณอีกตราบจนชั่วชีวิต.........
นาทีนี้....ผมเข้าใจแล้ว...และผมกำลังสับสนอย่างที่สุด.......
ผมไม่อยากเชื่อเลยว่า..ระยะเวลา..เจ็ดปี...
ที่เรารักกันนั้น..คุณจะกล้าตัดสินใจเด็ดขาด..เลิกรา
แค่ชั่วไม่กี่นาที...เพื่อเดินไปจากชีวิตผมทั้งชีวิต.......
ใช่...ผมยอมรับ....ผมทำผิดพลาดไปแล้ว..
อย่างไม่น่าให้อภัย....
คุณก็รู้ดี......ผมยังรักคุณอยู่.....
และรักมาก..เกินจะบอก..เหลือจะกล่าว.....
เหนือคำว่ารัก...คือความเข้าใจของเราสอง....
ที่มีตำนาน..ของความผูกพัน..เสียสละ..
มายาวนานเหลือเกิน...........
อารมณ์ชั่ววูบ..
ที่คงเป็นอุทาหรณ์สอนใจ..ชั่วชีวิตของผม......ให้จดจำ......
ผมหลงทางไปไม่กี่อาทิตย์....
กับเปลือกของสาวสวยเพื่อนร่วมงาน..ที่ดูเปรี้ยว..เร้าใจ..
และน่าหลงใหล..ให้ค้นหาตามติด..
ในมนต์พิศวาส บาดจิต..บาดใจ..
ที่เขาหว่านเสน่ห์หยิบยื่นให้ผม
หัวปักหัวปำ...ด้วยคิดว่านั่นคือ..
ความแปลกใหม่ที่น่าลิ้มลอง..
ท้าทายกายใจให้ชายชาตรีเร่าร้อนรุนแรง
อยากกลายร่างเป็นผู้พิชิตเชย.....ชม....
ผมเพิ่งค้นพบความจริงว่า..ในความรัก..
แม้มีความใคร่ย่อมไปกันได้สวยสดงดงาม.....แต่........
ถ้าเพียงใคร่..สิ้นไร้รัก..ศรัทธา..
ก็เปรียบดังดนตรีเล่นไปคนละทาง........
ยามผมเผลอไผล..ชื่นฉ่ำใจ..ยากยิ่งยื้อยุดฉุดกายไว้...
แต่เหตุใดเล่าใจของผม..กลับไม่อิ่มเต็ม
ในรสรักมากลีลา..ท้าสิ้นโลก..
แต่...กลับคิดถึงอ้อมอก หอมนวลยวนใจที่บริสุทธิ์หวานล้ำ
ในเรือนร่าง..ที่คุณเป็นของผม..แต่เพียงผู้เดียว...
ทั้งจิตและวิญญาณรักอย่างที่คุณเฝ้าพร่ำบอก.....
ผมดื่มด่ำ..ล้ำลึก
ทุกครั้งคราน่าแปลกใจในยามรักยามใคร่.....กับคุณ..
มันมีช่องว่างกางกั้น...ที่ผมรู้ซึ้งแก่ใจ..
ในยามนี้ที่ได้บทเรียนปวดแปลบ..แลกมา..
ไม่ว่าผมอยู่กับหญิงใด..ในโลกหล้า....
ก็ไม่สนิทสนมกลมกลืนราวสวรรค์สรรสร้างเรามาให้คู่กัน..
อย่างพอเหมาะพอดี......
โลกให้รักกับผม..คุณให้ความมั่นคงจงรัก..ภักดี..
ที่จะต่อเติมใจ ในศรัทธา..แห่งรักเราสอง........
ให้หลอมละลายกลายเป็นดังวิญญาณดวงเดียวกัน.........
ที่รัก.....ผมนั่งเงียบงัน..ในความมืดมน....
คิดถึงทุกฉากตอน..ทุกอารมณ์..รัก..ชัง..ที่เป็นธรรมชาติ
ของชีวิตรักเราสอง..ที่พัฒนา..ด้วยสนิทชิดใกล้...
ให้สุกงอม..หอมหวาน..ฉ่ำชื่นในรสรัก....
และได้ตระหนัก..เรียนรู้..อย่างลึกซึ้ง..ลึกล้ำ..
กับคำว่า....สายสัมพันธ์ทางใจที่ตัดไม่ขาด.....
ตราบสายใจ......สายสวาท....ยังมิรู้สิ้น ........
ผมเพิ่งวางหูโทรศัพท์..ลง..
ด้วยใจดวงร้าว..ที่ก้องด้วยประโยครานร้าว
จากใจดวงที่แหลกสลาย....ของคุณพอกัน.......
นุชรักคุณ..รักมาก...แต่นุช..เสียใจ..เสียใจไปแล้ว..
เสียความรู้สึกไปแล้ว.....เสียศรัทธาในรักไปแล้ว
นุชไม่รู้เหมือนกัน..ว่า..นานกี่วัน..กี่เดือน..กี่ปี..
ที่นุชจะเยียวยาใจดวงร้าวดวงนี้ให้รักคุณได้มาก
เท่าเดิม..นุช..ไม่รู้จริงๆ.........
ที่รัก......ผมเข้าใจ...ผมเข้าใจคุณ...
และผมแค่อยากให้คุณ...เข้าใจผม..เช่นกัน
ในฐานะมนุษย์ผู้ชายคนหนึ่ง
ที่อ่อนแอ..หวั่นไหว..ที่สามารถ..ขาดสติ...ไม่ไตร่ตรอง...
ทำผิดพลาดให้คุณช้ำชอกใจจนสุดทน
ผมทำผิดอย่างไม่น่าให้อภัย....ต่อผู้ที่รักผม..ยิ่งชีวิต..
และฝากวิญญาณรักไว้กับผม......
แต่...มันเป็นครั้งแรก...และจะเป็นครั้งสุดท้าย.....
ผมอยากขอโอกาส....โอบกอดคุณไว้ ในอ้อมแขน..
อีกสักครั้ง..พร้อมคำสัญญามั่น..ว่า..
ผมจะรักคุณคนเดียวตลอดไป........ตราบชั่วนิรันดร์........
เขียนมอบแด่ลูกผู้ชายคนดี..ที่ใจพ่ายแพ้ต่อสิ่งยั่วยุ..ไร้ยั่งยืน......ด้วยรักค่ะ
http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=6992
Let Me Try Again
Frank Sinatra : : Key F
I know
I said that I was leaving
But I just
couldnt say goodbye
It was only self
deceiving
to walk away
from some one who
means eveything
in life to you
You lean from every
lonly day
Ive learnd and Ive
come back to say
Let me try again
Let me try again
Think of all
we had before
Let me try once more
We can have it all
You and I again
Just forgive
me or Ill die
Please let me try
again
I Was such a foot
to doubt you
To try
to go it all alone
Thevs no sense,to live
Without you
Now all I do
is just exist
and thik about
the chance Ive missd
To beg
is not an easy task
But pride
is such a foolish mask
Let me try again
Let me try again
Think of all
we had before
Let me try once more
We can have it all
You and I again
Just forgive
me or Ill die
Please let me try
again
18 สิงหาคม 2546 10:33 น.
พุด
http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=1983
เราคุยกัน..ฝัน..เรื่องเดียว
รัดร้อยเกี่ยวก้อยใจ..ฝัน ฝันไกลสู่ไพรกว้าง
ต้นไม้..ไร้..ร้าง..สายรุ้งพราว ดาวพร่าง ความว่าง ว่าง
ในกลางใจ ในเงียบงาม ในยามฝัน ฝัน และฝัน..
ใบไม้ ร่วงหล่น รอปุ่มปม ผลิตาแตกใบ
ใบไม้ไพร ในราวป่า รอลับลา รอร่วงหล่น ดับดวงฝัน
หากผูกพัน มองนวลจันทร์ ที่ยังแย้มยิ้มพริบพราวให้ คือดวงตา ใช่ดวงใจ!
สายฝน สายฝัน สายสวรรค์ สายสวาท
เหมือนสายฟ้าฟาด วันฝนพรำ ย้ำรอยเจ็บ ย้ำรอยใจ
เลือกเดินจากไป ไม่เหลียวมา ไม่หวั่นไหว แม้เสียใจ..เสียใจ และเสียใจ!
เพราะเข้าใจ..เพราะหัวใจ เพราะหัวใจเธอ..เผลอฝันเพ้อละเมอหาใครอีกคน!
ก็จนเอ๋ยก็จนใจ..
ใจเอ๋ยใจคน ใจเอ๋ยใจใคร ขอให้ไป ขอให้ไกล ได้พบใจได้พบคนในกมลใน
ดวงใจที่เฝ้าพ้อเฝ้ารอคอย...พลอยอวยพร!
บันดาลใจจากรักชื่นชมศรัทธาในงาน
ลูกผู้ชายคนดีคนกล้าคนเก่งในดวงใจพุดพัดชา
ม.ลปริญญากร วรวรรณ
นักเขียนนักถ่ายภาพสัตว์ป่านักอนุรักษ์พงไพร
หลังติดตามผลงานและอ่าน...มิตรภาพต่างสายพันธุ์
เรื่อง..ลูกผู้ชาย..ใบไม้..และป่าทึบ..จบลง
ด้วยน้ำตาพร่างเงียบด้วยหัวใจรานร้าวเฉียบเย็น..ยิ่งนัก..
....
และสำหรับทุกดวงใจ..
ที่เผลอแสดงความหวั่นไหวออกมา
ให้ลูกผู้หญิง ใบไม้ สายฝน จับได้ว่าสิ้นไร้ซึ่งความหนักแน่นมั่นคง
จงรัก..ดั่งแผ่นผา ผืนน้ำ..
...
พุดพัดชา..จะเขียนอีกคราในชื่อเดิมนี้
ที่หวังวาดให้มีให้เป็นอีกนิยามรักนึงนะคะ..
18 สิงหาคม 2546 01:17 น.
พุด
http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=4
ผม..กำลังเดินดายเดียว..เปลี่ยวเหงา ริมหาดกว้าง
กับจันทร์ซีดดวงเศร้า ราวกับใจผม..ณเวลานี้
คลื่นซัดสาดฝั่ง และคลื่นรักในดวงใจผมนั้น
กำลังโหมกระหน่ำซ้ำซัดด้วยความเสียใจ
ที่ฟังไม่เป็นเสียงดนตรีเอาเสียเลย
เพราะมันกลับครวญคร่ำขยำขยี้ใจให้แหลกยับ
แทบดับดวง ไปตามแสงสุริยา..ที่เพิ่งลาลับ
ผมทรุดตัวลงนั่ง บนโขดหิน..
อย่างเหว่ว้าแสนเศร้าแสนรานร้าวใจ
คิดถึงเสียงหวานใสของใครบางคน..
ที่อ้อนขอฝาก..จูบทะเลให้ที
ผมคิดถึงเธอ..มากมายนัก ตลอดเวลาทุกนาที
จนน่าแปลกใจกับใจดวงนี้ที่แสนทุรนทุรายไม่รักดีเอาเสียเลย
หัวใจผมขาดสมาธิ
มีแต่โหยหาลอยละล่องข้ามขอบฟ้ามาซุกซบ
ในอ้อมอก อ้อมใจเธอ..
และเธอ..กระซิบสั่ง..บอกความนัยว่าหัวใจเธอก็เฉกเช่นกัน..
กำลังติดปีกหัวใจรักตามติดผมไปทุกที่ทุกหนแห่ง
ไม่ว่าจะในไพรกว้าง ภูสูง หรือริมทะเลงามอย่างยามนี้
ที่หัวใจผมกำลังอ้างว้างสุดทน
จนต้องหนีผู้คนมานั่งดายเดียว
เดียวดายให้ดวงดาวบนฟ้ากว้างพริบพราว
ปลอบประโลมใจ..
ผมดั่งพรานทะเล ผู้มีเพียงดาวในใจดวงน้อย
เฝ้าคอยส่องนำทาง ที่แสนอ้างว้างมืดมน
ไม่รู้ทิศ..เหนือใต้ ไร้ร้าง..
กลางทะเลลึกทะเลโลกย์
ทะเลโศก..เพียงลำพัง
คนดี...จิตวิญญาณเรานี้เท่าเทียมกัน
กาลเวลา และพระพรหม เพียงนั้น
ที่เพาะบ่มอาบห่มรักชักนำเรา
ให้มาพานพบ ผ่านพบ และผมรู้ดี..จะจบลงด้วย
การพรากจากมิช้านานนี้..ที่เรานี้กำลังรอคอย..
ผม...จึงพยายามตักตวงฝันแสนหวานแสนงาม
ให้สว่างวาบทุกครั้งที่ผมหมองหม่นกับใจคน
ที่หมุนวนมาให้บทเรียนโลกโศกสุข
ที่รัก ...ผมนอนหลับกับความรวดร้าว ทุกคืนค่ำ
ดาวประจำเมือง..ยังคงส่องนำทางฝัน นำทางใจแด่ผู้คนนับพันล้านคน
แต่..สำหรับผม..
ขอแค่มีเพียงคุณ คนดีคนเดียวเป็นดั่งดาว ประดับใจ
ส่องนำทางใจ ให้สว่างไสว ไม่มีวันมอดดับก็พอแล้ว
ก็คุ้มแล้วกับชีวิตหนึ่งนี้ที่เกิดมา
คนดี..น้ำตาดาว พราวพร่าง เหมือนดังหยาดน้ำค้าง
ในยามค่ำพร่ำบ่มกลีบดอกไม้หวานในไพรพฤกษ์
และเหมือนดั่งหยาดเพชรพราวจากดาวดวงเดียวในใจผมนี้
ที่ผมรู้ดีว่าคุณคือความพิเศษพิสุทธิ์
เหนือนิยามโลก เหนือนิยามรักใดใด
ดวงใจ..แม้ใจผมกำลังคร่ำครวญ..หวนไห้ โหยหา สักปานใด
และผมรู้ดี..ผมพร้อมที่จะรับกับการรอคำพิพากษา
ที่แสนเจ็บปวดทรมานนี้
กับการลาจากกันของสองเรา ชั่วนิจนิรันดร
ที่ใกล้เข้ามา..ใกล้เข้ามาทุกขณะ
และสำหรับลูกผู้ชายอย่าง..ผม คนนี้ก็รู้ดีว่าในหนึ่งชีวิตนี้
นอกจากธรรมะ ที่ผมยึดถือไว้ประดับใจ ไว้สอนใจ
คุณก็คือ..นางใจ ในดวงใจผมเพียงหนึ่งเดียว ไปนิรันดร์ นะคนดี
ที่มิอาจจะมีสิ่งใดมาพรากจากได้
เพราะมันจะสถิตสถาพร มิแคลนคลอน
ดั่งหนึ่งเดียวกับจิตวิญญาณผมนี้
ที่จะตามติดกันไปทุกภพทุกชาติไป
ไม่มีวันจบสิ้น..ไม่มีวันสิ้นสุดชั่วกัปป์ชั่วกัลป์!
http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=4
จงรัก
ศรีไศล สุชาติวุฒิ : : Key F
โปรด อย่าถาม ว่าฉันเป็นใคร
เมื่อในอดีตและโปรด อย่าถาม
ว่าอดีต ฉันเคย รักใคร
รู้ไว้อย่างเดียว เดี๋ยวนี้รักเธอ
และรักตลอดไป รักมากเพียงไหน
กำหนดวัดได้ เท่าดวงใจฉัน
อย่า เพียรถาม ว่าฉันจะรัก
เธอนานเท่าใดฉันตอบไม่ได้
ว่าฉันจะรัก ชั่วกาล นิรันดร์
เพราะชี วิตฉัน คงไม่ยืนยาว
ไปถึงปานนั้นรู้แต่เพียงฉัน
หมดสิ้นรักเธอเมื่อ ฉันหมดลม
อย่า เพียรถาม ว่าฉันจะรัก
เธอนานเท่าใดฉันตอบไม่ได้
ว่าฉันจะรัก ชั่วกาล นิรันดร์
เพราะชี วิตฉัน คงไม่ยืนยาว
ไปถึงปานนั้นรู้แต่เพียงฉัน
หมดสิ้นรักเธอเมื่อ ฉันหมดลม...
17 สิงหาคม 2546 09:31 น.
พุด
http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=5437
ไพล..ตื่นมารับอุษาฟ้าสางยามใกล้รุ่ง ด้วยเสียงฝน..ปลอย ปลอย..
เสียงกบในบึงน้อย ของชาวสวนหลังบ้าน ร้องระงม
ประสานประสมเสียงนกนานา ราวดนตรีจากฟ้าจากสวรรค์สรวง
บรรเลงด้วยปวงน้ำมือเทพเทวา..พริ้งพราย..ร่ายมนต์กล่อมใจ
กล่อมโลก ลดโศกราน...
ดั่งนาฬิกาใจ นาฬิกาปลุกทุกอรุณ ให้ลุกจากหลับไหลในนิทราฝันอันรื่นรมย์
คู่เคียงขวัญวันหวานวิมานดินมานานเนิ่น..
กล้วยไม้ที่แขวนริมชายคาเรือนจำปี หลากสีสลับสวย สดสะพรั่งรับฉ่ำสดหวานจากสายวสันต์..
ราวหยาดน้ำผึ้งพระจันทร์..จากราวสรวง..
พรายละอองน้ำค้างยามดึก พร่างพรมบ่มเกสรแก้ว
พุดซ้อนช้อนดอกออกจากใบละออ...
ที่หลบซ่อนอ้อนอาย คลี่กลีบกระจายรอรับสายน้ำทิพย์..
ไพล..เปิดประตูกระจก ออกไปเชยชม ดอมดมรับลุ่มลึกหอมอวลจากมวลพฤกษา
เด็ดดอกแก้ว พราวตา พราวช่อละออนวล แซมใบเขียวสด..ตัดฉับ..
เพียงแค่เอื้อม จากเรือนจำปี..ก็เด็ดดอกผลิเรียวยาวตูมตั้ง
มาผูกขวัญผูกผม เคลียแก้มแกมหอมลบตรอมตรมให้หอมเศร้าตลอดวัน...ตลอดเวลา
กระนั้น..เพียงแค่นี้ ใจไพลดวงดีก็แสนใสสด... ก็พลันบรรเจิด..เอิบงาม ....
พร้อมผจญ..
บทเพลงชีวิตของคนบนโลกนี้ที่มีทั้งโศกสุข ...หมุนเวียนเปลี่ยนผันมารับวันใหม่..
เปิดเพลง..ลุกทุ่ง หวานแว่ว ของสันติ ดวงสว่าง ....นักร้องเสียงเซาะหัวใจ
ให้หลอมละลายดังคลื่นเซาะทรายให้ยิ่งเศร้า ยิ่งรานร้าว ยิ่งบาดใจ..
มาสิ...คนดี..มาเงี่ยหูฟัง เปิดใจฟังไปด้วยกันนะ..
http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=5437
ความผิดหวังยังคอยฉันอยู่
สันติ ดวงสว่าง : : Key D
สิ่งหนึ่ง ที่รอ
รอคอยฉัน อยู่
คือความ ผิดหวัง
ความผิดหวัง ครั้ง ใหม่
ฉันเห็น มันใกล้มาแล้ว
ไม่แคล้ว เจอมันจนได้
ความช้ำใจ ช้ำ ใจ
อดีตที่ผ่าน มานานหลาย ปี
ฉันหนีไม่พ้น
ต้องมาเจอคน รัก ลวงจนได้
มันช้ำ จนอกกลัดหนอง
ฉันต้อง ร้องไห้ร้องไห้
เจ็บปวดใจ เหมือน ใกล้จะขาด
ผู้หญิง เขาเปรียบดอกไม้
สดใสสวย บริสุทธิ์
เปรียบประดุจ ดอกไม้ของชาติ
แต่ฉัน ขอเปรียบผู้หญิง
แท้ จริงคือ เพชรฆาต
ประหารประหัตถ์ ใจชาย
ไม่อยากจะอยู่ ดูโลกนี้เลย
กลัวความผิดหวัง
ความผิดหวัง ครั้ง ใหม่
ลาแล้ว ลาก่อน ความช้ำ
ความช้ำ อย่าตามมาใกล้
แยกกันไป เสีย คน ละทาง
ผู้หญิง เขาเปรียบดอกไม้
สดใสสวย บริสุทธิ์
เปรียบประดุจ ดอกไม้ของชาติ
แต่ฉัน ขอเปรียบผู้หญิง
แท้ จริงคือ เพชรฆาต
ประหารประหัตถ์ ใจชาย
ไม่อยากจะอยู่ ดูโลกนี้เลย
กลัวความผิดหวัง
ความผิดหวัง ครั้ง ใหม่
ลาแล้ว ลาก่อน ความช้ำ
ความช้ำ อย่าตามมาใกล้
แยกกันไป เสีย คน ละทาง...
จุดเทียน ในลูกแก้วที่เหมือนลูกจันทร์สามสี..อ่อนๆ...
เหลืองพระจันทร์ ฝันแดงระวี สีเขียวพร่างไพรพฤกษ์..
เขียนเรื่องประเทืองใจ ประเทืองฝัน หวังดับแล้งยามตะวันแผดแสง ให้หมองไหม้หม่น
และโอบเอื้อเย็นสำหรับทุกดวงใจที่ไหวงามละเมียดละมุน
ที่จะเปิดรับงามไปด้วยกัน นะยอดขวัญ ยอดดวงใจ...
แล้วก็หุงข้าว..หอมพราวราวดอกมะลิขาวนวลนุ่ม...กรุ่นกลิ่น..ไปทั้งครัว
เตรียมตัวไปวัด..วันอาทิตย์..
อ้อมไปตัดใบตอง มารองขันข้าวเงิน..ให้งามใจ..
กล้วยกอใหญ่ ห้อยหวีแน่นลูกดก ...
แวบคิดถึงคุณแก้วนะ หากว่าบ้านเรียงเคียงกัน คงหิ้วหัวปลี ให้ทำอาหารไทยรับประทาน
ตามสูตรโบราณ ที่กลมกล่อม อร่อยลิ้น..นะ
ใต้ใบตองแตกลายริ้ว..หัวใจพลันปลิดปลิว..คิดไปถึงฝันดีเมื่อคืนผ่าน..
หลับสบาย คล้ายปล่อยวาง หลังสมาธิสวดมนต์
ปล่อยกมล ฟังเพลงฝน ฟังเพลงไพร กล่อมฝันดี..
ราวมีวงออเคสตรามาบรรเลงหวานแว่ว..แผ่วพรมชุ่มชื่นหัวใจ
ให้หลับไหล ลุ่มลึก..
ในฝัน...
เห็นหญิงงาม นุ่งผ้าถุงสวยสีไพลสว่างกระจ่างใจ ยืนเดียวดายริมชายทุ่งกว้าง
กลางลานหวานดอกดาวรุ้ง ดาวเรือง สะพรั่งสี ....
มียุ้งข้าว ลอมฟาง และมีเจ้าทุยเลาะเล็มหญ้า ขาเปื้อนโคลนอย่างมีความสุข
แปลกดีที่ว่า
เคียงกระท่อมหลังคาจากนั้น อีกด้านหนึ่งนั้นคือภูเขาลำเนาไพรทอดตัวเขียวชะอุ่ม
มีนกไพร ผีเสื้อ บินว่อน ...เหนือโตรกธาร หวานระริกระริน สายน้ำซอนเซาะซอกหิน
ซู่ซ่า ซัดสาด เบาเบา ให้เหงางามเงียบสงบใจ..
พลัน..กลายเป็นยามสายัณห์ตะวันรอนรอน ....เหนือทิวไม้
เธอยืนร้าวรอนราวออดอ้อนอาวรณ์อาลัย สุริยาดวงโต..ที่ใกล้ลาลับฟ้า
มวลหมู่นกกา หมู่ภมร บินว่อนเหนือร่างเธอ..
ผมสีบรูเนต อมทอง..จรัสส่องประกายรับแสงสนธยา..
สยายพลิ้วปลิวไปเบื้องหลังยามต้องพายุ ลมแรงพัดไสว
ในอ้อมแขน..มีดอกไม้ไพรพร่างสีบานสว่างกระจ่างใจราวภาพฝัน...
เธอแหงนหน้าราวรอฝัน...รอจันทร์.. รอใคร..กันละหนอ ....
ฤาเฝ้าฝันรอฟ้าปรานี ณ.เบื้องบน.....
และชั่วพริบตา!
เหมือนเวทีฟ้าเปิดการแสดง ดาวบนฟากฟ้าจำนวนนับล้านดวง
ก็พลันพริบพราวพร้อมกัน..พรึบ..
ร่างเธอ...ยืนดายเดียวในเงาดาว ในเงาจันทร์ ราวฝันไกล....
ทันใดสายรุ้ง..ดั่งสายไหม สายสวรรค์...
ก็พลันพรมห่มร่างงาม..ที่ยืนสะล้างราวนางไม้ นางไพร..ก็มิปาน
สายลมแรง ยังโบกโบยกระชั้น ระบัดมวลหมู่ไม้ให้ไหวเอน..
เมฆร้องเพลงฝัน... สวรรค์โปรยสายฝนดาวตก..
ที่งามพราวราวเพชรพร่างกลางร่างเธอที่เงียบงามราวรูปสลัก...