21 สิงหาคม 2546 21:35 น.
พุด
url=http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=316
ชอบเพลงนี้มากค่ะ..ฝากให้ดวงใจฟังไปด้วยกันนะคะ
นานมาแล้ว....หลายปี ที่มีโอกาส ฉลองวันเกิดริมทะเล
กับคนรัก และรู้ใจ เพียงสองคน สองดวงใจ แต่ไม่เดียวดาย....
กับเสียงคลื่น ราวดนตรี กับราตรีที่มีดวงดาวนับพันอวยพร
กับพลิ้วแผ่วของลมทะเลบางเบา กับสองเราในอ้อมอกอุ่น หวานละมุนมิรู้สิ้น..
กับดินฟ้า ที่รู้เห็นเป็นพยานรัก แม้ผ่านมานานนัก แต่ยังฝังใจจำ...ถึงวันนี้...
คนดี...เตรียมกระทงน้อยลอยแสงเทียนงาม วับวามไหว ไปในทะเลกว้าง
เสี่ยงทาย ให้เราสอง ครองรักกัน....ยืนยาว......
เราเป่าเทียนพร้อมกัน เทียนดับพลัน จูบดื่มด่ำก็ตามมา นิ่งนาน หวานล้ำ
จนใจฉัน ลอยละล่องราวฟองเมฆ.......สู่สวรรค์....
เรานอนนับดาวพราวฟ้า ใต้ผ้าห่มผืนเดียว
กลิ่นหอมจากกาย ไร้สิ่งใดขวางกั้น จนใจฉันเกินทานทน
ปนเป ด้วยแรงรัก แรงฤทธิ์พิษสวาท
พาใจและร่างเรา หลอมละลายกลายเป็นเนื้อเดียว หนึ่งเดียว
เนิ่นนาน หวานหอม.....
วันเกิดปีใดไหนเล่า จะสุขเท่าปีนั้น
ที่ฉันมีเธอ และฉลองฝันวันหวาน แสนหวานกับเธอ
กับพระจันทร์คืนเพ็ญเด่นดวงที่ทะเลงาม
เสียงเพลงอวยพรใด ไหนเล่า จะหวานเท่า
คำออดอ้อน วอนขอรัก จนอ่อนใจ
ยอมทอดใจ ระทวยกาย ไปกับเธอ....
ความอบอุ่น จากงานใดไหนเล่า
จะยิ่งใหญ่เทียบเท่า ความโอบเอื้อ
จากอกอุ่นแข็งแรง ยามเธอโอบกอด....
วันเกิด ปีแล้ว ปีเล่า ใจฉันไม่เคยเศร้า
เมื่อใจดวงร้าวคิดถึงคืนนั้น นานมาที่หวานหอม
หลอมรวมให้ใจเราสองนี้
ยิ่งเป็นหนึ่งเดียว
ไม่เกี่ยว ไม่เก่าไปกับกาลเวลา..นะดวงใจ
เป็นจินตนาการเขียนเพื่อประกวดนะคะ ยังไม่เคยแสดงเองค่ะ
หาพระเอกโรแมนติกแบบนั้นไม่พบเจอเลยค่ะ
21 สิงหาคม 2546 20:22 น.
พุด
url=http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=316
น้ำผึ้งหวาน.....
กระท่อมน้อยในดงตาล กับน้ำผึ้งแสนหวานจากใจเรา.....
เรื่องนี้มอบให้ชัยชนะเพราะขอให้พุดพัดชา
ใส่ชื่อเป็นพระเอกสักเรื่องนะคะ.เลยทำตามคำสัญญาค่ะด้วยความขอบคุณ
ที่หันมาอ่านงานย้วยๆของพุดพัดชาค่ะและตามให้กำลังใจตลอด..
ขอบคุณทุกท่านด้วยนะคะ
.......
ชัย..ขับรถ เพื่อพาอรไปไกลห่าง จากกรุงเทพ..เมืองฟ้าอมร
จากจร สักอาทิตย์ ไปเติมไฟ เติมน้ำผึ้งให้กับหัวใจของสองเรา....
เราออกจากบ้าน....ราวตีสาม ตอนที่ดาว ยังพราวพร่าง เต็มอ้อมฟ้า
พระจันทร์ยังเสน่หา อ้อยสร้อย ยามราตรี....
น้ำค้างหยดเยียบเย็น....กลิ่นเล็บมือนางริมรั้ว อวลละมุน....
จนต้องเด็ดมาสักช่อ
พอให้ในรถ....หอมหวาน..รับอรุณ....
ชงกาแฟ หอมละมุนลิ้น จิบรับ อารมณ์หวาน
ที่ทำให้ใจเบิกบานแย้มยิ้มพริ้มเพรา
รับวันแสนดี...ที่กำลังรอ ให้เยี่ยมเยือน....
ทางด่วน....ไม่มีรถเหมือนเวลากลางวัน
ที่ด่วนกันจัง จนน่ากลัวว่าจะไปไม่ถึงที่.....
คืนนี้..เมื่อมองผ่านสะพานแขวน
เห็นแสงไฟพราว จากตึกสูง นับร้อย นับพัน
ลดหลั่นเรียงราย ยืนทะมึน ไม่ยอมหลับไหล ไปกับกาลเวลา....
เปิดเพลง...เพราะๆ..แผ่วๆในรถ ให้บรรยากาศ สุขล้ำ เกินรำพัน....
พี่... เกลียดวสันต์....เพราะยามนั้น พี่ไกลเจ้า......
มองฟ้า แล้วพาใจเศร้า
ฟ้าพราว เด่นดวง
พี่...คะนึง.....คิดถึง....คราใด ให้เจ็บทรวง
อกเอย...ร้างเลยพุ่มพวง...
ด้วย.. วสันต์ลวง.....ให้เจ้าจากไกล
ดึกเข้า เจ้าหนาว
กลัว.... เสียงลมกราว กลัวหนาว ทนไม่ได้
เจ้ากลัวฟ้า ราตรี มืดมนใจ
แม้เรไร น้องกลัว แทบสิ้นชีวัน
พี่....กระซิบ...ปลอบใจ
เจ้าร้องไห้รำพัน
น้องเอย..ไยหวั่น วสันต์กลาย..ตามฤดู
แสนจะอดสู วสันต์ ไม่เอ็นดู
ชู้ไกล เพราะใจ เธอหวั่นวสันต์......
.........................................
จิบกาแฟ ทีละนิด ละนิด ปลุกชีวิตชีวา
และอารมณ์ให้ตื่นเต้น เร้าใจไปกับ
ความรู้สึกอ่อนหวาน แสนดี ที่ได้หลีกลี้
หนีไปจากความจำเจ สับสน แบบคนเมือง...
และยิ่งวิเศษล้ำ...เมื่อมีชัย..คนดี ที่แสนรัก
เคียงข้างไป ตามหาฝันวันที่มีเพียงเราสอง...
อรคิดว่า...เป็นการดื่ม น้ำผึ้งพระจันทร์
ที่แสนหวานซึ้งซ่านทรวงในวันนี้
วันที่ชีวิตเราเพิ่งเริ่มต้นบทเรียนแรกบทเรียนรัก
บทเรียนวิวาห์ท้าทายดวงดาวนับพัน
ที่พริบพราวพร่างพรายพร้อมอวยพรให้ครองคู่เคียงข้าง
กันไปบนถนนสายดวงใจไปชั่วกาลนิรันดร์
อรเตรียมของใส่บาตร ไว้เหมือนทุกครั้ง
ที่เรามักจะถือโอกาส ทำบุญ ระหว่างเดินทาง..ไปไหนๆ
ชัย..ชอบดงตาล แถวเพชรบุรี
เหมือนใจอรนี้ที่ หลงใหลพอกัน
บางครั้ง เราเคลิ้มฝันว่า
ได้ย้อนคืนสู่อดีต สมัยสุโขทัย ในยามก่อนเก่า
นาข้าว เขียวชะอุ่ม.....
พลิ้วรวงเรียว ล้อลมทายทัก แสงอาทิตย์สีทอง ในยามเช้า
ให้น้ำค้างพราว เกาะก้านกอ กิ่งใบ หายวับไปกับ แสงแรก
ของอรุณรุ่ง อุ่นรวงเรียว
ภาพ พระสงฆ์ เดินเรียงมา เป็นทิวแถว ท่ามดงตาล ยิ่งพาให้ใจเรานี้อิ่มเอิบงามล้ำ
ไปกับความสงบงาม ในยามนี้ ที่ได้ทำบุญตักบาตร
อธิษฐานให้เกิดสิ่งดีมีมงคล..แก่ชีวีนี้
ที่ได้เกิดมาพบพระพุทธศาสนา....พาใจให้ยิ่งสว่างไสว ร่มเย็น เป็นสุข....
ไม่นานนัก..คุณเลี้ยวรถ เข้าสู่กระท่อมหวาน กลางดงไม้ ดงตาล แห่งนี้
ที่เรียกกันว่า หาดปราณบุรี...
อรตาหวาน ยิ่งกว่าตาลในดงเสียอีก
เมื่อมองไปรายรอบ ในกรอบตา กรอบใจ....
ทะเลตรงหน้า..น้ำเงินเข้มงาม สะท้อนแดดอ่อนอุ่น
ละมุน นวล ด้วยเรียวแดด ไล้โลม
เคียงคู่กระท่อมน้อย ที่พักพิงอิงอุ่นของสองเรา
คือดงตาล และดงตาล สลับซ้ายขวา
มีลั่นทม แดง ขาว พราวไปทั้งต้น
อวดดอกบานหวาน พอกันกับใจดวงนี้....ที่รีบเอามาทัดเคลียแก้ม
เสียงดนตรี จากใบตาล ซัดส่าย ซู่ซ่า ซูซ่า
กรอบแกรบ กรอบแกรก แทรกมาหวานแว่วรับลมทะเล
เห่กล่อม ให้ใจอรนั้น พลันหวาน หวาม
ราวถูกโอบอุ้มด้วย ฟองเมฆขาวนวล
หอมแก้ม หอมคางสากๆ ของคนดี
คนใกล้ ที่ช่างรู้ใจ พามาถึงที่ แสนดี แสนสวย แสนหวาน
ในวันนี้ ให้ใจดวงดี ได้รับงาม ง่ายๆ
ใกล้ชิดเชยธรรมชาติ ที่ชื่นชม ไม่เบื่อเลย....
น้ำผึ้ง..ที่ว่าหวาน สำหรับอรนั้น
ต้องรินรด หยดมาจากใจดวงดีที่หวาน บานรอรับงามเป็น.....
ในปฐพีนี้ ที่โลกหยิบยื่นให้มา..
ถ้า...เริ่มเรียนรู้รัก ให้เป็น จักเห็น สิ่งที่ซ่อนอยู่ในงามละมุน
ในทุกถิ่นที่ ที่มีความเรียบง่าย รายรอบ ตัวเรา.....
กระท่อมหวาน ในดงตาล หวานไปกับ น้ำจิต น้ำใจ
ของชัยคนดี ที่มีรัก และเข้าใจในกันและกัน
อรกอดชัย...แนบแน่น ไปกับลมละเมอ
เพ้อครวญริมทะเล ที่เห่กล่อม.....
ราวจะบอกให้รู้รัก รู้ค่า รู้ถนอมใจ....ไปจนกว่า...
นาทีสุดท้ายของชีวิตนี้ ที่บางที
อาจมิยาวไกล ดั่งใจเราคาดหวัง นะคนดี
แม้เราสองนี้จะ.... แสนรักเอย... แสนรักในกมล.......
21 สิงหาคม 2546 20:00 น.
พุด
http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=7045
รอ..รักฉัน..วันวิวาห์..นะคนดี
วันแห่งความรัก..ใช่วันแห่งความรัก...กำลังใกล้เข้ามา..........
อรคิดว่า...สำหรับอร..มีวันแห่งความรัก
ได้ทุกวัน ทุกเวลา....
อร..รักธรรมชาติงามทุกวัน....
รักแม่..พ่อ..รักญาติมิตร..รักเพื่อนฝูง....และ........
รักคนที่อรรัก.ดังดวงใจ...รักวันเติมวัน...จนล้นใจ..
โดยมิพักต้องรอที่จะรัก..ในวันนี้.......
ถ้าเราจะรักใคร...ไหนเลยจะต้องรอวันนั้น....วันนี้....รักแล้วก็รักเลยค่ะ
วันนี้อาจ ...ให้คนรักกันทำสิ่งดีๆให้เพิ่ม..เติมใจให้กัน..
ให้มั่นคงจงรักยิ่งขึ้น ยิ่งขึ้น.เพียงนั้น............
แบบฉบับรักของอร......อาจจะไม่เหมือนใครบางคน....
และอาจจะเหมือนใครอีกหลายๆคน........
อรคิดว่า...อรจะรักนวลสงวนตัว...
เพราะอรคืออร..ผู้หญิงไทยใจยังเต็มร้อย...
อาจจะยาก.....แต่อรจะรู้สึกดีถ้าได้ทำสิ่งนี้.....ที่อรตั้งใจ...........
บางคนที่มีความรัก...บอกยากที่จะอดทน...และรอคอย.....
เพราะด้วยหลายเหตุผล...........
แต่นาทีนี้....อรคิดว่า ถ้าเรารักใคร.....สักคน....
ไม่ว่าเขา...หรืออร......ก็ควรที่จะเรียนรู้....
คำๆนี้...ที่จะมีสิ่งดีๆมากมาย..
ให้คนที่รักและห่วงใยเราดังดวงใจ...ได้มีความสุข.......
ความชื่นใจ....ความภาคภูมิใจไปกับเราด้วย....
ในวันอันเป็นมงคลยิ่งของชีวิตเรา.........
อรชอบความรู้สึกงดงาม...ที่จะได้เดินเข้าสู่ประตูวิวาห์...
พร้อมกับความปิติ..ตื่นเต้น.. วาบหวาม.....
ที่จะได้เรียนรู้บทเรียนรัก..วันวิวาห์..จากคนที่อรรัก..
และจะฝังฝากชีวิตจิตใจ ของอ้อมไว้ตราบจนวันตาย...............
ทุกคน..อาจจะมีความคิดเห็นไม่เหมือนกัน..
แต่อรชอบทำทุกสิ่งหลังจากที่มั่นใจเต็มร้อย
เพราะเราคือลูกผู้หญิง..ในสังคมไทยนี้...
ที่ผู้ชายไทยบางคนยังมีกฎกติกาที่ชวนให้เรา
เสียเปรียบ..มิใช่ดอกหรือ........
และอรเคยเห็น..ประเพณีแต่งงาน..
ที่บ้านนอก..บ้านเกิดของอรเอง.........
ที่อรรู้สึกประทับใจมาจนถึงวันนี้.........
ก่อนวันงาน.......บ้านของเจ้าสาวจะจัดสถานที่...
และห้องวิวาห์ที่แสนสวย........
ญาติมิตร...เพื่อนฝูง..มากหน้า..
จะมาร่วมกันช่วยงาน....เตรียมอาหารหวานคาว.........
เสียงเพลง...จากเครื่องกระจายเสียง...แว่วหวาน..ลอยลม......
กล่อมขวัญวันวิวาห์ ให้ใจทุกดวง..คึกคัก...แย้มยิ้ม ....
เบิกบาน.....เป็นงามประเพณี งามใจ...แจ่มใส......
สดชื่นรื่นเริง....เพื่องานแสนหวาน...แสนมงคล..
มีมนต์ขลัง.....ยาวนานนิรันดร์
ภาพห้องวิวาห์..แสนน่ารัก..
ที่ถูกจัดไว้รอรับเจ้าบ่าว ก้าวผ่านประตูเงิน..ประตูทอง
มาคล้องดวงใจ..เคียงคู่..ชิดเชย........
ห้องที่เด็กๆ...และคนเฒ่า..คนแก่..แอบดู..แอบมอง..
แล้วยิ้มกริ่ม..สุขใจกับสองดวงใจ...
ในวันชื่นคืนสุขของบ่าว..สาว...ปานกัน........
ใครไหนเล่าจะตื่นเต้น...เท่า...บ่าวสาว.......
นอนไม่หลับ..กระสับกระส่ายรอ.......
วันอันศักดิ์สิทธิ์นี้.........ตึกตัก..ตึกตัก.....ใจเต้น.....ด้วยแรงรักที่รอคอย...
ขบวนขันหมาก....โห่ฮิ้ว....ร่ายรำมาด้วยความรื่นเริงยินดี...............
ภาพเจ้าสาวที่อยากเมียงมองดู...นาทีทองแห่งชีวิต...
แม้ทางหน้าต่างก็ มิอาจ
ต้องเก็บเนื้อเก็บตัว..รอนาที่ที่ยิ่งใหญ่..ยิ่งกว่านั้น..........
พิธีการ.....ที่เรียบง่าย..อบอุ่น..อ่อนโยน...,
มีมนต์ขลังและศักดิ์สิทธิ์และท่ามกลางสักขีพยานแห่งรัก
ร่วมรับรู้รับทราบ..อย่างยินดีปรีดา.....ให้พร....อวยชัย...........
ก้องสองหู...สองใจ....ให้เต็มไปด้วย...สิ่งแสนดี.....แสนงาม..
ที่จะฝากฝังใจให้จำจด
จนตราบวันตายมาพรากจาก.........
อรจึงจำ....จึงคิด....จึงไตร่ตรอง....
ที่จะเลือกสิ่งที่อร...เห็นชอบ...เห็นดี...เห็นงาม
เพื่อนำทางชีวิตอร...ที่อ้อมสามารถจะลิขิตชีวิตสาวของอรเอง..........
อรเพียงแต่ตั้งใจมั่น...
ถ้ารักอร...ต้องรักแม่..พ่อ..รักเกียรติยศ...รักศักดิ์ศรี..ลูกผู้หญิงของอร
และต้องรักประเพณีแสนดี..แสนงาม...
ช่วยกันสืบทอดรักษาให้งามงดจนตราบ
ชั่วลูกชั่วหลาน.....สืบไปนานเท่านาน.....นะคะ...........
.............
โห่...ฮิ้ว..ขันหมากมาแล้ว...ขันหมากมาแล้ว
มาแล้วน้องแก้วรับด้วย
วันนี้คนสวยแต่งชุดอะไร
ทีแรกพี่จะคิดพาน้องหนี..พอคิดอีกทีก็กลัวน้องอับอาย
พี่เป็นชายชาติทหาร พี่ขอรับประกันว่าพี่ยังรักศักดิ์ชาย
เรื่องพาหนีพี่ไม่เอาแล้วน้อง เรื่องพาหนีพี่ไม่เอาแล้วน้อง
พี่มาตรองคิดดูอดสูแก่ใจ
พี่เป็นชายชาตรีควรหรือจะขยี้ประเพณีของไทย
รักน้องจึงต้องมาขอแต่ง
ถึงสินสอดจะแพง พี่ก็ยอมถวาย
พี่พกเงินมาหลายหมื่น เพื่อมาให้ทรามชื่นใส่ตู้เซฟไว้
บอกกับพี่สินวลน้อง ประตูเงิน ประตูทองน้องอยู่ทางไหน
จะได้จ่ายเพื่อเปิดทาง เข้าไปหานวลนางแม่ผิวสีไข่
จะได้จูบน้องให้ชื่นหัวใจ จะได้จูบน้องให้ชื่นหัวใจ
ให้สมกับที่ได้ยกขันหมากมา...........
พุดพัดชา..ขอมอบเรื่องนี้ให้สาวทุกดวงใจในไทยโพเอมนะคะ
และพิเศษพิสุทธิวาดหวังให้ชัยชนะหนุ่มเนื้อหอม..
ได้พบเจอนางเอกที่แสนงามและแสนดี
ที่คิดดีคิดเป็นแบบน้องอรในเรื่องนี้นะคะ
และสักพักจะมีเรื่อง น้ำผึ้งหวาน..
วันไปดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์อีกบทตามสัญญาค่ะ
21 สิงหาคม 2546 15:30 น.
พุด
http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=194
เธอของฉัน.....
คนนี้ชอบทำอะไรพิลึกๆ แปลกๆไม่เหมือนใคร และไม่มีใครเหมือน
มีทั้งเรื่องที่น่ารัก น่าชัง จนต้องนำมาเขียนในอีกเวอร์ชั่นหนึ่ง..
เธอของฉัน....
แสนใจดี ใจกว้าง มีน้ำใจ เวลาใครไปใครมาที่บ้าน
แทบปลิ้นตู้เย็นหาของมาบำรุงบำเรอแขก ...
เธอของฉัน........
เป็นสีสัน ของครอบครัว เพื่อนฝูง และญาติมิตร
เพราะว่ากล้าพูด กล้าทำ กล้าแสดงออก
แม้ว่าบางครั้งจะดูแปลกๆยังไงไม่รู้
งานไหนงานนั้น เธอของฉันจะต้องร้องเพลง
หรือไม่ก็อ่านกลอน บางทีอ่านๆไป
ไม่มีใครประทับใจ ในกลอนอันอ่อนหวาน
ที่เขียนด้วยดวงใจนี้ที่แสนพิศดารพันลึก วิจิตรบรรจง
เธอก็จะร้องไห้เสียเอง งานนี้เรียกว่า เขียนเอง อ่านเอง และซึ้งเอง........
เธอของฉัน...........
ชอบขี่จักรยานซิ่ง จนบางที ไปนอนกลิ้งอยู่บนถนน
แต่ก็ยังไม่เข็ด ยังลุกขึ้นมาขี่ทำท่าสวยต่อไป
เธอของฉัน........
ชอบแต่งตัวประหลาดๆ จนในหมู่ญาติยกนิ้วให้แล้ว
ทั้งๆที่ตอนนี้เธอเบื่อโลกแล้วจำใจลดความเปรี้ยวไปเสียเยอะ
และนำเสนอแฟชั่นใหม่ล่าสุดมาแรง
มานุ่งผ้าถุงพันพันแบบแปลกๆแทน..
เธอของฉัน........
รักสุนัขมาก แต่เลี้ยงไม่ได้เพราะเธอฝันร้ายถูกสุนัขกัดตลอด
มีอยู่ครั้งนึงไม่นานเธอกลับบ้านเกาะ
พาฝรั่งรูปหล่อพ่อเป็นสถาปนิก..ชื่อสก๊อต..ไปประทับใจ
แต่ตัวเธอเองไซร้กลับได้เขี้ยวสุนัขประทับกาย ประทับน่องก่อนกลับ
ต้องไปฉีดยา ตอนดึกๆเพราะสุนัขหนึ่ง
ที่วิ่งริมหาดหน้ารีสอร์ทน้องสาวเธอ
ดันมาพิสวาสน่องเรียวงาม...คงเห็นเป็นของหวานมันส์น่ากินชะมัดเสียนี่
และตลกนี้ขำไม่ออก ตรงที่ถามว่าน้องว่ามันฉีดยายัง
น้องดันบอกว่ามันไม่เป็นไรหรอก..มันแค่คันเขี้ยวเล่น.
โอะโอ!ข้าพเจ้ารับไม่ได้ค่ะเหตุผลนี้
เลยต้องชีช้ำฉีดป้องกันไว้ก่อนดีกว่านะน้องนะไม่ว่ากัน
แต่ตอนนี้แปลกดีมั้ย ที่ทุกเช้าจะมีสุนัขของเพื่อนบ้าน มานอนรอเธอ
และบิดขี้เกียจให้ดู ที่เธอนี้หนาแสนเอ็นดูแสนรักเสียเหลือเกิน
สุนัขตัวนี้นมโตงเตงโตงเว้า และเธอก็ตั้งชื่อเก๋จังว่า เมริ
เอ๊ะ..งานนี้คล้องกับชื่อใครน้อ
เธอ..ของฉัน
บางครั้งมีคนบอกว่าเหมือนสาวไฮโซ..
แต่จริงๆแล้วฉันว่า สาวซอมซ่อมากกว่าเพราะเธอรับบท
ทำงานจับฉ่ายได้ทุกประเภท..มิว่างเว้น..
และเธอจะปล่อยผมสยายให้ยุ่งเหยิงกระเซิงกระซุย
ไม่ไยดีโลก และชีวิต เอาเสียเลยแล้ว...
เธอของฉัน............
ชอบทำตัวเป็นนักสังคมสงเคราะห์ ใครอย่าได้ไหว้วานอะไรนะ
จะรีบวิ่งไปช่วยกุลีกุจอช่วยทุกอย่าง ไม่รู้เหน็ดรู้เหนื่อย
แต่พอกลับมาถึงเธอก็จะนอนนิ่งมิไหวติงซุกตัวตรงโซฟา
กับหมอนนิ่มๆราวกับว่า
เพิ่งเดินทางกลับมมาจากสนามรบ ก็ไม่ปาน..
เธอของฉัน.........
ชอบและรัก คนที่พูดจาดี ไพเราะอ่อนหวาน บานตะไท
และช่างเอาใจคนเป็นที่หนึ่งเหมือนเธอไง
เธอของฉัน.......
ช่างฝัน ช่างสรรหาโปรเจคร้อยล้าน มาคิด ให้ชีวิตมีรสชาติไม่จำเจ
และเก๋มากที่เธออยากไปอยู่อัฟริกาแบบนางเอกหนังดังฮอลลีวู๊ด
ทั้งเมอริล สตริฟ และเจสสิกาแลงค์
เธอกำลังลุ้นว่าจะได้ไปมั้ยน๊อ
เพราะหัวใจเธอฝันแต่จะกลับคืนพงไพรพนา ท่าเดียวเลย
ไม่ว่าจะเป็นหนแห่งไหนในโลกนี้อะนะ
เธอ..ของฉัน..
จะไม่ชอบไปที่มีคน คน คน มากมายมากมีตามห้างหรู
ที่ดูดูช่างซื้อกันเสียจริงเสียจัง
เพราะเธอนั้นเหลือแค่จะกลับไปนุ่งใบตอง
และนอนกับผืนดินผืนทรายแทนแล้ว เฮ้อ..
เธอของฉัน.........
ชอบแต่งบ้าน แบบไม่ยอมควักเงินลงทุน
ชอบเที่ยวสอดส่ายตา หาดงดอกไม้ ดอกหญ้าข้างทาง
ที่ไม่มีคนเห็นคุณค่าไยดี เธอจะขี่จักรยานคู่ขา คู่ใจ คู่ล้ม
พร้อมมืดในมือ น่ากลัวนะ แล้วไปตัด ตัด ตัด ดอกหญ้า
ที่เป็นแท่งยาวๆ ที่ขึ้นเป็นดงตรงถนนทางเข้าหมู่บ้าน
บางทีก็ตัดใบตองมากมีมาประดับบ้านประดับใจ
ให้สวยงามราวโลกไพร
และเด็ดดอกเข็มริมรั้วบ้านร้าง
ที่ออกดอกดกมากมาย แต่ไม่มีใครสนใจเลย..
วิธีนี้ใครจะนำไปใช้ไม่ว่า แต่ต้องระวังให้ดีนะ ไม่งูก็สุนัขจะกัดเอา...
เธอของฉัน.........
ขยันจัดบ้าน ย้ายโน่นย้ายนี่ เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา
และชอบแต่งบ้านด้วยของทำมือหรือไม่ก็ของเก่าโบราณ
เธอบอกว่าพยายามทำบ้านให้มีชีวิตชีวา
ไม่ใช่มีแค่วิญญาณตายด้านแห้งเหี่ยวใจ ของคนที่อาศัย
แค่อยู่ไปวันๆ ไว้แค่กินนอนทำงานให้ผ่านๆไป......
เธอของฉัน........
บ้าคอมมากจนรู้ตัวดี และบ้าเขียนเรื่องน้อยสาระมาลง..
เธอบอกว่าบางที อยากให้คอมพังๆไป
จะได้ไม่ต้องเสียเวลาอยู่แต่หน้าจอเล็กๆ
โลกสี่เหลี่ยมที่มีทั้งเรื่องแสนดี
และแสนวุ่นวายสับสนของผู้คนห้าหมื่นพันล้าน
โลกที่แสนแห้งแล้งทางจิตวิญญาณ..สำหรับเธอนะ
เพราะเธอไม่ชอบท่องเวบ..
เธอจะติดหนึบติดนานกับบ้านเรือนไทย
ที่ตอนนี้ไม่รู้ว่าวันไหนพายุจะหอบเอาเรือนรัก ร่มใจ..
กระชากใจกระชากรักเธอไปแบบลับลามิกลับมา
ให้เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้ายให้ลุ้นแล้วลุ้นอีก
และสำหรับเธอแล้วไม่ดีเท่ากับโลกแห่งความจริง
และโลกธรรมชาติ
แถมบางทีเธอยังไปกวนเอาเวลาของคนบางคน
ที่ต้องการใช้เธอแค่เป็นสะพาน เชื่อมรัก
มาแชทกันไม่ให้เขาได้หลับได้นอน..เฮ้อ!...
เธอของฉัน.........
ชอบกอดคน เป็นประเพณี ที่เธอนี้บอกว่าอยากสร้างความอบอุ่น
จากสุขสัมผัสให้กับทุกคนที่เธอรัก
และโหยหาความรักแบบเธอ
เธอบอกว่าเป็นของที่ไม่ต้องซื้อหา
แต่จริงใจอย่างที่สุดที่จะบอกว่า เรารักกันนะ
เธอของฉัน...........
แสนรักธรรมชาติ ทะเล สายฝน แสงเทียน
และทุกสิ่งนี้ที่ทำให้ใจเธอละมุนละไม..
รัก รัก รัก เพราะชีวิตเธอนั้นเกิดและโตมากับ
ทะเลสวยใสสีมรกต หาดทรายขาวยาวเหยียด
สายลมละมุน แสงแดดจัดจ้ายามฤดูเหมันต์
กับยามค่ำที่มีพระจันทร์ดวงโตลอยทายทักให้พักใจ
กับดวงดาวสุกใส สุกปลั่ง
ที่ลอยเกลื่อนฟ้า ดูใกล้แสนใกล้ราวกับจะเอื้อมมือคว้าไขว่ได้..
เป็นเกาะ กลางอ่าวไทย ดั่ง ไข่มุกข์เม็ดงาม
ก่อนที่จะถูกความเจริญมาปล้น
ให้กลายเป็นไข่มุกข์กระดำกระด่างไม่งามวาววับ
ส่องประกาย จับใจเหมือนเก่าก่อน
มาวันนี้เกาะของเธอมีคนกล่าวว่าเปรียบดัง
เกาะสวาทหาดสวรรค์(ของคนติดยาบางกลุ่ม)
จนใจเธอนี้หนาแสนเสียดาย....
คืนฝันวันแสนดีในอดีตที่มิอาจหวนย้อนคืนมา.....
เธอของฉัน...........
ยังมีเรื่องราวมากมาย ที่ทั้งดีทั้งร้าย ทั้งน่ารัก น่าชัง
ทั้งที่อยากจำและอยากลืม
และเธอบอกว่าจะไม่ขอหยุดฝัน
แม้กระทั่งบ้านของเธอนั้น เธอก็ตั้งชื่อว่าบ้านใบไม้...
ทั้งสิ้นทั้งมวลที่เธอฝันไว้ก็เพื่อ
สร้างพลังใจกันจนกว่าชีพนั้นจะสิ้นสลาย
ความฝันที่เธอแค่ฝันดี ฝันกลางใจ ฝันกลางฤดูฝน...
และบางที บางฝันเธอได้พยายามทำให้ฝันนั้นเป็นจริง
และมีความจริงรองรับแล้วแค่เธอตัดใจลาจากบ้านในเมืองลวง
เพื่อกลับไปทำรีสอร์ทกระท่อมทาร์ซาน
สร้างบ้านบนต้นไม้ที่แสนจะเรียบง่าย
งามด้วยดอกไม้ไทยรายรอบ
ในยามค่ำที่เธอฝันจะเดินดายเดียวเกี่ยวเก็บงาม
มาประดับหวานประดับหัวนอนให้แขกของเธอหลับฝันดี
ขอแค่เธอตัดสินใจ แค่นั้น...
และคงอีกไม่นานนี้เธอจะรวมเล่มผลงานของคนช่างฝันออกมา
ไล่แจกคนดีที่เธอแสนรัก และรักเธออย่างจริงแท้..
.(คิดมาสองปีเข้านี่แล้วนะ).
มอบให้เป็นของขวัญ และสุขสมฝัน...
ได้สานฝันของเธอนั้น ให้เป็นจริงได้สักที
ที่เธอนี้รอพระเอกผู้ช่วยมา6ปีแล้วนะจะบอกให้
ไม่ว่าเรื่องเวบตัวเองเรื่องย้ายถิ่นฐาน
หรือแม้กระทั่งมาให้กำลังใจเธอ ....
เฮ้อ!แสนจะเหนื่อยใจรอซะจริงๆ
และหากเป็นจริงได้จะยิ่งทำให้เธอคนนี้...
มีความสุขซึ้งตรึงใจ ยิ่งกว่าได้เพชรห้ากะรัต
มากองลงตรงหน้าเสียอีกนะ ให้สมกับที่เธอเกิดมา...
อยากจะเป็น นักเขียน
ตั้งแต่ตะวันขึ้นยันจะสว่างทุกคืนวัน
กับฝันลมลมแล้งๆนี้ นะที่รัก
ที่คงพอกันละมั๊งนะคะทุกดวงใจไทยโพเอมผู้เข้มข้นด้วยพลังรักในรจนา...
21 สิงหาคม 2546 11:10 น.
พุด
http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=403
แด่ลูกผู้ชายคนดีที่ชื่อ..Breeze...
ฉันตื่นมาตอนตีห้าได้ยินเสียง ไก่ขัน เอ้ก อี เอ้ก เอ้ก เอ้ก อี เอ้ก เอ้ก และนกร้อง กรู้ กุ้ก กุ้ก กรู้ กุ้ก กุ้ก
บางวัน....ฉันสงสัยจัง ทำไมได้ยินไก่ร้อง เอ้กอีเอ้กเอ้ก ในยามบ่าย แก่แก่ หรือไก่ตัวนี้เป็นไก่นาตาฟางเสียแล้ว ก็ไม่รู้ จนลืมเดือน ลืมตะวัน จำได้แต่ว่ามีหน้าที่ขัน ก็ต้องขันไป.......
ฉันชอบอากาศ ยามเช้า หนาวนิดๆอย่างนี้ และชอบเวลายามเช้าที่ยังได้ยินเสียงธรรมชาติรอบบ้าน
เสียงนก เสียงกา เสียงไก่ และกลิ่นฟืนไฟจากชาวสวนหลังบ้านที่ยังก่อกองไฟหุงข้าวอยู่....
ฉันชงกาแฟ และมานั่งเขียนเรื่องนี้พร้อมจุดเทียนคู่...หอมมาวางเคียงกับลั่นทมในโถแก้ว.....
ใจเปิดรับ....ยามเช้าที่ค่อยๆแย้มบานรับแสงสว่างเรื่อเรืองตามลำดับ.....ตรงหน้า......
อาทิตย์ ดวงโต สีส้มจ้า ค่อยๆโผล่พ้นทิวสน สุดซอยหน้าบ้านที่มีคฤหาสน์หลังงาม.....
นาฬิกา.....ยังเดินติ้ก ติ้ก ติ้ก ติ้ก ต่อไป และต่อไป ไม่มีวันหยุดพักหลับไหลไปตามกาลเวลา...
ในบรรยากาศ อย่างนี้ กับเพลงๆนี้ที่กำลังบรรเลงครวญคร่ำ........
เมื่อลมพัด........
ใบไม้สะบัดโบกมือเรียกใคร
เธอรู้บ้างไหม
ฉันวานใบไม้โบกมือเรียกเธอ
เปรียบเป็นลิ้น.....
ใบไม้ก็ดิ้นว่ารักเสมอ
ทุกใบบอกเธอ.....
แทนลิ้นฉันทุกวันเรื่อยมา
ลมที่เป่าใบไม้แกว่ง
นั้นมิใช่เพียงแรงของลม
คือลมหายใจของฉันผสมฝากลมเอาไว้
แม้เธอหายใจ........
สูดลมเข้าไปในทรวงเมื่อไหร่
เธอโปรดจำไว้ เธอสูดลมรัก
ฉันเข้าแล้วเอย...........
ฉันคิดถึงเธออย่างที่สุด คนดี เมื่อได้ฟังเพลงเพลงนี้....ทุกครั้งที่สายลมบางเบา มาแตะต้องร่างของฉัน
ฉันจะคิดถึงเธอ.....ชื่อของเธอ...แปลว่าสายลมอ่อนๆ....สายลมที่พัดจากซีกโลกหนึ่ง ไปยังอีกซีกโลกหนึ่ง ตะวันออก ไปยังตะวันตก ไกลแสนไกล คนละซีกโลก........
แต่จงรับรู้....ไม่ว่าเธอจะเป็นลมพัดอยู่ที่ไหน.....แต่เธอคือ ลมหายใจอันแสนสดชื่นของชีวิตฉัน
ที่เฝ้ารอวันให้เธอ เป็นดั่งเช่นลมที่พัดหวน...คืน...กลับมาหาฉันนะคนดี เพื่อปลุกปลอบให้ชีวันฉัน
มีความหวังมิรู้สิ้น..........
ฉันรักเธอ.....รักและคิดถึง...รอและรอให้สายลมอ่อนบางเบากลับมาโลมไล้ ดวงใจที่เงียบเหงา......
ให้ชื่นฉ่ำ........
จากปลายฝน ต้นหนาว จากทองกวาว และคูนกำลังบานไสวไพรพร่างในฤดูร้อนนี้ที่กำลังรอรับการกลับมาของเธอ....เพื่อชื่นชม.........
ไออุ่น ในเรียวแดด ข้าวเต็มท้องทุ่ง ลานข้าว ลอมฟาง ลานดิน ยกหลาลงข่วงเข็นฝ้าย พิณ แคนแสนไพเราะดีดเป่าเลาะบ้านผ่านมาลานข่วง ฟ้าใสและดาวสวยที่เปลี่ยนเป็นสีทองเหลืองอร่ามในยามเย็น บึงกว้างเงียบสงบกับบัวบึงชูช่อ ยามฟ้าสางดาวสุก..ราวจะร่วงลาจากเพื่อกลับมาเมื่อฟ้าใหม่ นกบินถลาเริงร่าข้ามหน้าต่างเมฆ...ยามนี้เพื่อไปบอกเธอว่า......ไม่นานเราคงได้พบกัน
ขอเพียงใจมั่น....ตามสัญญา..นะเธอ.....