7 กรกฎาคม 2546 10:48 น.

อย่าเห็นกันดีกว่า!

พุด


ได้อ่านเรื่องของคุณ..มาหลายเรื่องแล้ว รู้สึกประทับใจ อยากรู้จักเป็นส่วนตัวอย่างที่สุดครับ.........
จากแทน...

เมล์ฉบับนี้ ไพลได้รับมานานแล้ว ก่อนที่จะย้ายเวทีมาเป็นนักอยากจะเขียน
หน้าใหม่ในไทยโพเอม..ที่ทำให้ติดหนึบเป็นตังเม..ไม่อยากเร่ร่อนไปหาเวที
แสดงที่ไหนอีก...แล้ว
และเมล์นี้จะทะยอย..มาทุกวันให้ฝันเพ้อหลงละเมอภูมิใจว่าไพลนี้หนา
คือนางในฝัน ในดวงใจ ของใครบางคนที่ซาบซึ้งตรึงใจในผลงานการเขียนของไพล

อยากสารภาพว่า..ถ้าไพลเป็นดวงดอกไม้  คำเหล่านั้นก็ประดุจดังหยาดน้ำทิพย์
น้ำอมฤต ที่นำมารินรดหยดให้ใจดวงร้าวได้เบ่งบานสดชื่นราวได้หยาดละออง
น้ำค้างแสนหวานแตะแต้มกลีบใบและมีค่ายิ่งต่อหัวใจดวงเล็กๆ..ดวงนี้..ที่รักการขีดเขียนเป็นที่สุด..

และไพลคิดว่า..นักอยากจะเขียนหรือกวีกระวาด ในไทยโพเอมทุกดวงใจทุกท่าน
ก็คงคิดเฉกเช่นเดียวกันกับไพลนะคะ
ทุกคนต้องการกำลังใจ พลังใจ เพื่อสร้างสรร สร้างฝัน สร้างผลงาน
จากท่านผู้อ่านทุกท่านที่มีเกียรติ..
จะดีจะร้าย ก็พร้อมทำใจน้อมยอมรับฟัง 
แม้ว่าธรรมชาติมนุษย์นั้น ส่วนมากชอบฟังคำแสนดี คำสรรเสริญเยิรยอ
มากกว่าคำติฉินนินทาว่าร้ายราวสาดโคลนใส่กัน ก็ตามที...

แต่เมื่อ..ก้าวมายืน..แค่ริมๆถนนสายดอกไม้งาม 
เพราะว่าฝีมือยังไม่สามารถก้าวข้ามผ่านขึ้นไปยืนเชิดหน้าบนถนนได้อย่างสมภาคภูมิ
ก็จำต้องฝึกจิต หัดน้อมรับคำติชม เพื่อพัฒนาฝีมือ ฝึกปรือให้ช่ำชองวิทยายุทธิ์
และต้องยอมรับว่า..กว่าสมองน้อยจะค่อยๆก้าวขึ้นไปยืนในถนนสายดอกไม้งามนั้น.
อาจจะต้องมีหนามแหลมคมมาทิ่มแทงใจ ให้เรียนรู้ว่าทุกสิ่งนั้นกว่าจะฝ่าฟัน คว้าฝัน
คว้าดาวดวงมาสู่อุ้งมือเราๆได้นั้น..เป็นเรื่องยากลำบากเป็นยิ่งนัก จนบางครั้งอยากพักใจ
พักเขียน ถอดใจ โยนปากกาไปไกลๆ ยามท้อแท้แพ้พ่าย..

สำหรับไพล...คิดอย่างเจียมตัวเสมอมาว่า..งานของไพลนั้นคล้ายกับงาน
คนช่างฝัน ที่น่าเบื่อเป็นยิ่งนัก เพราะไพลเจตนาพยายามอนุรักษ์ภาษาไทย
ที่คิดเข้าข้างตัวเองว่า สละสลวยค่อนไปทางย้วยยาน..บานตะไท
 อย่างตั้งใจที่จะเขียนแบบนี้อย่างที่สุดแล้ว..

แต่หากสังเกตให้ดี..จะเห็นว่าไพลพยายามสอดแทรกแจกธรรมมะ ธรรมชาติ ธรรมดาๆ
และพยายามบอกให้มีชีวิตงามเรียบง่ายติดดิน มิวิ่งตามแฟชั่นวัตถุ..
ให้ค้นหางามง่าย ใกล้ตัว ใกล้ใจ ที่จีรังถาวรเป็นที่สุด เพียงแค่เรารู้จักเปิดใจ

ไพล..ไม่ค่อยได้ตอบเมล์ใคร ที่เข้ามา แม้กระทั่งคนดีในชีวิตไพล ที่เฝ้าเมล์มามิรู้เบื่อ
จนไพลย้ายวิกย้ายเวบ..
กระทั่งวันนี้ ไพล ก็ยังไม่เคยตอบ ผู้ชายในดวงใจที่สร้างความรู้สึกให้ไพลซึ้งใจอย่างที่สุด
ที่วันนี้..อยากบอกว่า ไพลคิดถึง เขาคนนี้ อย่างที่สุด ยามนี้ยามที่ใจไพลเศร้าสะเทือนใจไหวร้าว
กับคำกับการกระทำที่หยามหมิ่นของใครบางคนอย่างที่สุด..ตลอดเวลา..

ไพล..ไม่ตอบเมล์..มิใช่ไม่สนใจ ไม่ไยดี หรือเพราะว่าหยิ่งยโส..
แต่ไม่ทราบจะบอกอะไรดีนอกจากกล่าวคำขอบคุณ
และไพลรู้ดี..ชีวิตจริงกับชีวิตแห่งโลกฝันนั้น
ต้องแยกให้ออกจากกันโดยเด็ดขาด..
นักเขียนอย่างไพล..ไม่ได้มีชีวิตอะไรที่น่าสนใจ ในโลกจริง
มีเพียงสร้างโลกเงียบงาม เพื่อเก็บไว้สร้างฝันสล้าง จินตนาการรักชังขมขื่น..ชื่นใจ
ไปวันวัน..
จากใจดวงนี้ ที่รักงานเขียน งานฝัน ดั่งดวงใจ..
ที่มิเคยคาดหวังสิ่งใดมากมาย นอกจากได้ระบายใจดวงร้าว มากมีประสบการณ์
ผ่านตัวละคร ตัวอักษร ให้ร้องไห้ ให้เจ็บปวด ให้รานร้าว
 มากเรื่องราวหลากรสที่จำเอาไว้นานเนา จากประสบการณ์จริงเป็นอิงนิยายนิดๆ

และถ้าท่านผู้อ่านอ่านแบบตั้งใจ อ่านแบบคนอ่อนไหว ใจอบอุ่นคงไม่น่าจะคิดทำร้าย
ซ้ำเติมใจดวงนี้ ให้เจ็บหนักยิ่งขึ้นไปอีก 
นอกจากวิงวอน ออดอ้อนให้ช่วยเช็ดหยาดน้ำตา และอ้าแขนโอบกอดปลอบขวัญ 
อย่าได้ทิ้งฝัน แสนสวยแสนดี ในไทยโพเอมนี้ไปนานนิรันดร์ จริงไหมเล่าคนดี..ทุกดวงใจ!



อย่าเห็นกันดีกว่า..
ถ้าเห็นแล้วเอื้อมไม่ถึง
เหมือนมีใครยุดฉุดดึง
ตอกติดตรึงขวางคอยกางกั้น..
ก็คนรักใคร่..
อยากจะใกล้ชิดกัน
เธอ..กลับสลัดตัดฉัน
ทำอย่างนั้น ฉันน้อยใจ..

ได้เห็นกันใกล้ๆ
กลับไกลเหมือนไม่มีหวัง
รักกันคลั่งไคล้กลับชัง
เจ็บประดัง ฉันทนไม่ได้..

ไม่เห็นดีกว่า
ความปรารถนาลดไป
เห็นกันใกล้ชิดไม่ได้
มันดั่งมีไฟไหม้เผาอุรา..

รักก็รู้กันอยู่ว่ารัก
มันปรารถนายิ่งหนัก
ต้องมาฝืนหัก
เหมือนสุดฟากฟ้า..

ฉันคงอกหัก
เพราะฉันรักเธอมากกว่า
นิดเดียวฉันยังไม่กล้า
จะทำให้เธอช้ำใจ..

อย่าเห็นกันดีกว่า..(ซ้ำ)
ถ้าเห็นแล้วอดไม่ไหว
เดี๋ยวเธอไม่คิดชอบใจ
โกรธเคืองไปฉันคงระทม..

เจ็บจนเหลือเจ็บ
กลืนเก็บเป็นแผลระบม
ไว้วันที่ฉันได้ชม
จะชื่นให้สมให้สาแก่ใจ!

				
7 กรกฎาคม 2546 10:40 น.

วสันต์ลีลา!

พุด


เช่าหนัง VCD มาดูสองเรื่อง...
MY  LEFT FOOT กับ I  DREAME OF AFRICA..
ดูไปร้องไห้ไปทั้งสองเรื่อง เป็นเรื่องโศกระทม ที่สวยงามทางจิตวิญญาณ
ซึ้งใจ โดนใจ กระชากใจ และสุดท้ายสอนใจ

รักนางเอก..คิม เบซิงเจอร์ นางเอกที่ดูกี่ทีก็ยังมีเสน่ห์ เซ็กซี่ ในลีลา
ในใบหน้า..ชวนฝัน..
แม้ว่าในเรื่องนี้..เธอจะรับบทคุณแม่แสนดี ภรรยาแสนสวย ที่หนีชีวิตหะรูหะรา
มาค้นหา แสวงหาสัจจธรรมแห่งชีวิตในราวไพรกว้าง ของป่าอัฟริกา..
และเธอต้องมาสูญเสีย ดวงใจรัก ทั้งสามีและลูกที่นี่..ตามบัญชาเรียกแห่งเพรียกไพร..

เป็นเรื่องจริง ที่แสนดี และที่ฉันชอบมากที่สุด ก็เพราะมีฉากธรรมชาติๆธรรมดาๆ
มีสัตว์ป่าสวยงาม มากมี มีเทือกเขาซ้อนเหลื่อมหลั่นละลิบลิ่ว ราวยุคแรกของมนุษย์
มีฉากห้องนอน เครื่องนอน มุ้งขาว โปร่งพลิ้ว ปลิวไหว ในกระท่อมทับที่ดูงามง่าย
สงบสุข  เสียไม่มี ที่ฉันนี้ฝันไว้ ว่าอีกไม่ช้านาน ฉันจะมีบ้านกระท่อมแบบนี้ อีกหลัง
ในราวไพรพะงัน เกาะในฝันของฉันที่ฉันมีผืนดินเตรียมพร้อมแล้ว..
และคิดว่า ฝันกำลังลอยเลื่อนจะเป็นจริงเข้ามาทุกขณะ แล้ว..

ฉันชอบทุกฉากตอน โดยเฉพาะฉาก ที่นางเอกกล่าวคำอาลัยอาวรณ์เหนือหลุมศพสามีสุดที่รัก
ให้คืนร่างกลับไปสู่ธุลีดิน เป็นหนึ่งเดียว..กับผืนพสุธาที่เขาฝันใฝ่แสนรัก..มายาวนาน...
คนเรา เลือกเกิดไม่ได้ แต่บางทีถ้าโชคไม่ร้ายจนเกินไป เราอาจจะเลือกที่ตายได้ ที่จะฝากฝังร่าง
ไว้ในผืนดินแห่งรักนิรันดร์ ที่เราทุกคนนั้นฝันที่จะขอเลือกเอง..

อีกเรื่อง..หนึ่งนั้น  MY  LEFT FOOT.........
คิดถึง และอยากให้ กวีกระวาด ในไทยโพเอม เช่ามาดูนะคะ
เพราะว่าเป็นหนังที่ให้พลังฝัน พลังใจ พลังจินตนาการ ผลักดัน ให้เรากล้าฝัน กล้าฝ่าฟัน
ใช้สมองสองมือเอื้อมคว้าไขว่ดาว..แห่งความสำเร็จ มาร่วงพรายพราวเจิดจ้าในอุ้งมือสักดวง....
ให้เรารู้ว่า เรานี้หนาแสนโชคดีนักแล้วที่ยังมีมือมีเท้า ครบถ้วน ให้ก้าวเดินไปข้างหน้า ท้าทาย ต่อสู้อุปสรรค

หนังเรื่องนี้ เป็นเรื่องที่ดี ที่สอนใจให้ลุกขึ้นมาสู้ทั้งผู้พิการกาย และใจ 
ให้ใครหลายๆคนที่ผิดหวัง พลาดรัก และมีอารมณ์ศิลปิน ได้รู้ว่า ในความเหงา ดายเดียวนั้น
ได้ซ่อนพลังแห่งฝันแห่งการสร้างสรร ให้เราทุกคนสานฝัน สร้างงาน ที่สวยงาม แสนสุข
ในทุกยาม ที่เราเพียรพยามถ่ายทอดเรื่องราว ระบาย ไม่ว่าในผืนผ้าใบหรือหน้ากระดาษที่ว่างเปล่า
ให้โลดแล่น เริงร่า ให้หัวเราะ ร้องไห้ ให้บทเรียนสอนใจ..
นี่คือสัจจธรรม นี่คือความจริง ของชีวิตนักเขียนนัก ฝัน นักวาดรูป
ฝันเป็นจริงได้บ้างไม่ได้บ้าง ก็ยังดีที่ได้บอกเล่าและเป็นแรงบันดาลใจ..ให้กับทุกดวงใจ
ที่ทุกข์ตรมและหาทางออกไม่พบเจอ..ในชีวิตหนึ่งนี้ที่แสนสั้นเป็นยิ่งนักแล้วนะ..

ขอฝากกำลังใจ จากหนังเรื่องนี้ ถึงดวงใจ ที่รักทุกดวง ที่แสนดี แสนละเมียดละมุน
ในไทยโพเอม ขอจงอย่าเลิกฝัน นะคนดี....
และขอจบกับบทเพลงนี้ ที่เป็นฝันอันยิ่งใหญ่ ในใจคนไทยทุกดวงนะคะ...
 
..............เพลงความฝันอันสูงสุด........ 

ขอฝันใฝ่ ในฝัน อันเหลือเชื่อ 
ขอสู้ศึก ทุกเมื่อ ไม่หวั่นไหว 
ขอทนทุกข์ รุกโรม โหมกายใจ 
ขอฝ่าฟัน ผองภัย ด้วยใจทะนง 

จะแน่วแน่ แก้ไข ในสิ่งผิด 
จะรักชาติ จนชีวิต เป็นผุยผง 
จะยอมตาย หมายให้เกียรติดำรง 
จะปิดทอง หลังองค์ พระปฏิมา 

ไม่ท้อถอย คอยสร้างสิ่ง ที่ควร 
ไม่เรรวน พะว้าพะวัง คิดกังขา 
ไม่เคืองแค้น น้อยใจ ในโชคชะตา 
ไม่เสียดาย ชีวา ถ้าสิ้นไป 

นี่คือ ปณิธาน ที่หาญมุ่ง 
หมายผดุง ยุติธรรมอันสดใส 
ถึงทนทุกข์ ทรมาน นานเท่าใด 
ยังมั่นใจ รักชาติ องอาจครัน 

โลกมนุษย์ ย่อมจะดี กว่านี้แน่ 
เมื่อมีผู้ ไม่ยอมแพ้ แม้ถูกหยัน 
ยังยืนหยัด สู้ไป ใฝ่ประจัญ 
ยอมอาสัญ ก็เพราะปอง เทอดผองไทย ..(.บทเพลงพระราชนิพนธ์)
				
6 กรกฎาคม 2546 23:08 น.

ซึ่งเป็นคำถาม?

พุด


 คืนนี้รอบข้างเงียบมาก...
ฉันไม่ได้แหงนมองจันทร์เช่นทุกคืน..
ท้องฟ้าดูเงียบเหงา เทาทึมตั้งแต่เย็นแล้ว
ฉันตาฝาดไปรึเปล่าหนอ..
ที่วันนี้..ดูโลกรอบข้างและท้องฟ้าราวทาบทาด้วยสีน้ำเงิน..
อีกคราครั้ง..ในรอบสิบปี..
เย็นมาก ใกล้ค่ำ ได้ยินเสียงจิ้งหรีดกรีดร้องระงม..
ฉันจุดเทียนอาบน้ำ..
ปล่อยให้สายน้ำจากฝักบัวกระหน่ำหนัก..รินรด..
มืดทั้งบ้าน...ฉันพยายาม...เช็ดผมให้แห้ง...ทั้งๆที่มือและใจทำไมอ่อนแรงไร้พลัง...
ทรุดตัวลงนั่งนิ่งๆ ทิ้งใจและตัวในความความมืดมิด..ดิ่งจม..ในห้องนอน
ริมหน้าต่าง มีใบจำปีซัดส่าย ไหวไกวกล่อมเป็นเพื่อน...
ในภวังค์ ฉันง่วงงุน...งีบหลับไป..
ฉันฝันร้าย น่ากลัว..ฝันว่าตัวเอง วิ่งหนีอีกแล้ว วิ่ง..วิ่ง..วิ่ง..หนีจากผู้ชายคนเดิม..
ที่เคยฝันเห็นหลายครา.....
ฝันนี้..ฉันไม่โชคดีเหมือนคราวก่อน..เขาไม่ได้ปรานี..ปล่อยฉันไป..
แต่กลับจ้วงแทงตรงกลางใจฉัน..หนักหน่วง..รุนแรง..อย่างสาสะใจ..
ในฝัน..ฉันมิได้กรีดร้อง..แต่แค่แหงนมองเขาด้วยสายตาที่เป็นคำถามและหยาดน้ำตา!.. 


				
6 กรกฎาคม 2546 18:08 น.

ดวงตาดวงใจ!

พุด


ดวงตาฉันในวันนี้ที่มีอยู่
เป็นตาคู่พิเศษคู่ที่สาม
ตาภายในพิสุทธิ์ใสเฝ้าติดตาม
ทุกโมงยามฝากดวงใจละไมละมุน...

ฉันมองโลกจากดวงใจใสพิสุทธิ์
และไม่หยุดรักเธอตามโลกหมุน
แค่มืดบอดเพียงตานอกลบว้าวุ่น
ใช่..สิ้นละมุนใจดวงฝันวันโลกงาม..

หลับตาฝันฉันมีเธอในอ้อมกอด
และตลอดชีพนี้มีเธอให้วาบหวาม
มีเพียงเธอเป็นนางใจเฝ้าติดตาม
ใจดวงงามไม่แพ้พ่ายหน่ายรักเธอ..

ดวงตาฉันภายในไม่สิ้นรัก
ขอยอมภักดิ์หญิงยอดใจไหวพ้อเพ้อ
เด็ดดอกไม้ร่ายมนตรามอบแด่เธอ..
พร่ำละเมอขอชาติหน้า..มีดวงตาเห็นดวงใจ..นะคนดี!


				
6 กรกฎาคม 2546 17:44 น.

รักนิรันดร์!

พุด


*****Forever Love: Gary Barlow

Love it has so many beautiful faces
Sharing lives and sharing days
My love it had so many empty spaces
Im sharing a memory now I hope thats how it stays
Now Im deep inside love and still breathing
Shes holding my heart in her hand
Im the closest Ive been to believing
This could be forever love

All throughout my life the reasons Ive demanded
But how can I reason with the reason Im a man

In a minute Im needing to hold her
In an hour Im cold, cold as stone
When she leaves it gets harder and harder to face life alone
Now my dreams are filled with times when were together
Guess what I need from her is forever love

And I feel forever love 


รักมากสิ่งสวยงามนิยามฝัน
คือแบ่งปันขวัญชีวิตลิขิตหวัง
รักของฉันในวันนี้อยากจีรัง
ยิ่งห่างฝั่งหัวใจไยเดียวดาย..

ลมหายใจในวันนี้มีเธออยู่
เธอก็รู้ศรัทธาใจไม่เลือนหาย
ฝากหัวใจในอุ้งมือตราบชีพวาย
และมั่นหมายรักครั้งนี้เป็นนิรันดร์..

ลูกผู้ชายสิ้นไร้อยากให้มากกว่านั้น
ใช่!แค่ฝันฝากใจเพียงในฝัน
ทุกนาทีอยากมีเธอในอ้อมกอดไปนิรันดร์
ดวงใจฝันหวั่นวันพรากฝากหนาวใจ..

ฉันเดียวดายสิ้นไร้ใจเผชิญโลก
เหลือรอยโศกโลกรับรู้เกินทานไหว
ทุกราตรีอยากมีเธออ้อนสบตานะดวงใจ
แลกหัวใจแลกร่างกันนิรันดร...

				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟพุด
Lovings  พุด เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟพุด
Lovings  พุด เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟพุด
Lovings  พุด เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงพุด