15 กรกฎาคม 2546 14:20 น.
พุด
http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=1963
ออกจากบ้านตั้งแต่ย่ำรุ่งไรแสง.....
อวลหอมดอกไม้ไทยรายรอบบ้านมากับสายลมเย็นละมุน..
บนทางด่วน..เส้นแจ้งวัฒนะ..บางนา
ยังไม่คาคับคั่งไปด้วยรถราแบบวันธรรมดาๆ
ที่ผู้คนราวฝูงผึ้งที่แตกรวงรัง พากันบินไปหาภักษาหาร
ทำงานหาเลี้ยงชีพชอบ..ตามครรลองชีวิต
ผู้คนบนผืนโลกนี้ ที่.ยังต้องการสุขไว้เสพ และหนีความทุกข์ตรม..
เปิดเพลงบรรเลงเบาๆ จาก ซีดี Poetry Of The Sea & Mountain..
คลอเคล้ารับอุษาฟ้ากระจ่าง รับหวานจากใจดวงนี้
ที่กำลังมุ่งหน้าสู่ทะเลภาคตะวันออก..
เช้าวันใหม่ ที่ไพล..ชอบนาทีที่แลเหลียวไป
เห็นพระอาทิตย์กำลังชักรถโผล่พ้นโค้งฟ้า
ที่มีแบคกราวด์เป็นตึกสูงระฟ้า
เนื่องจากที่นี่ไม่มีทุ่งนาและดงตาลให้งามดังภาพยามเช้าในชนบทไกล
ที่ทุกดวงใจคอยใฝ่หา อยากสัมผัสแสงแรกแห่งชีวี
ให้อุ่นอาบอาทิตย์ดวงสีทองเจิดจ้า เติมพลังใจไฟฝัน
ให้พลังใจ สว่างไสว สู้โลก
ลบชีวิตที่หมองหม่นมืดดำราวราตรีที่เพิ่งผันผ่านมา...
และพลัน..
ใจไพลก็พาคะนึง ถึงอรุณรุ่งอรุโณทัยแรกแย้ม ที่เกาะพะงัน..
ที่ไพลนั้น ถูกปลุกและทายทักด้วยเสียงคลื่นซัดฝั่ง ราวเสียงดนตรี
โดยเฉพาะในยามวสันตฤดูที่มีสายฝนพรมพรำ..ทะเลจะมีน้ำเต็มฝั่ง
และเสียงพายุพัดไกวจนต้นมะพร้าวไหวเอนไปตามลมแรง..
บางวันถ้าอากาศดี ฟ้าเปิด
ไพล..ชอบที่จะนั่งรอเรือประมงกลับฝั่ง หรือไม่ก็นั่งรอดู
พระอาทิตย์ขึ้น เป็นดั่งภาพฝัน
ที่พระอาทิตย์สีทองจะค่อยๆโผล่หน้ามาทายทักตัดกับ
ขอบฟ้าสีครามและน้ำทะเลสีเขียวมรกต..
ไปรอซื้อปลาสดสดที่ร้อยมาเป็นพวง
มาปรุงอาหารให้อุดมวิตามิน..
แล้วเราก็จะเดินไปโรงเรียน
ผ่านสวนเงาะที่ออกลูกดกแดงเป็นพวงห้อยย้อย
ผ่านสะพาน ผ่านลำธารน้ำที่ไหลหลาก มาจากเทือกเขาสูง..
ที่ก้มมองลงไปแทบท่วมสะพาน
จนบางที โรงเรียนต้องสั่งปิดในฤดูน้ำหลาก
ที่น้ำมากมายไหลบ่า ท่วมจนเกือบถึงเอว
เพราะไหลลงทะเลไม่ทัน..
เป็นวสันตฤดูที่ฉัน แลนจะเหว่ว้าใจ เพราะชอบไปโรงเรียน..
แต่ยังดี..ที่เรานี้มีสิ่งทดแทน..มากมายให้ค้นหามาผจญภัยชดเชย
สมัยเป็นอาจารย์เคยเล่าให้ลูกศิษย์ชาวกรุงฟัง
ถึงวีรกรรมวีรเวร..ของเด็กชนบท
ลูกศิษย์ฟังแล้วสะดุ้งตกใจกลัวในเบื้องแรก
และอิจฉาในต่อมาเมื่อคิดว่าโลกแบบนี้
แสนหวานสราญบานเบิกใจแบบใสใสงดงามเรียบง่าย
ไร้พิษภัยจากสังคมมอมเมายั่วยุมากมี
ที่คงอันตรายเสียยิ่งกว่า..แบบทุกวันนี้
ที่มีพิษภัยรอบตัว..ให้ตกนรกหลงทาง..
เรา..เด็กๆ..ชนบทแค่ใช้วัยฝัน
วัยอันตรายท้าทายนัดกันไปที่ลำธารที่น้ำท่วมหลังช้างแบบมิดๆ
และจะถลาร่างลงจากกิ่งใหญ่ของต้นจิก
ที่ดอกสวยหวานหอมคล้ายดอกจามจุรีจนน้ำแตกกระจาย
และเราจะปล่อยร่าง ให้ลอยตามราวไร้น้ำหนัก
ไปตามกระแสเชี่ยวกราก ให้ความแรงของสายน้ำพัด
พาตัวเราออกไปสู่ทะเลกว้าง ท้ามฤตยู..
สองฟากฝั่งนั้น จะมีดงไม้ ดงหญ้า
ให้เราทดสอบความเหนียวและประสิทธิภาพของมือแข็งแรง
เป็นความสามารถเฉพาะตัว ที่ฝึกฝนจากประสบการณ์
จากคำว่า ลูกน้ำเค็ม ลูกทะเล มานานวัน
ที่ต้องหาญกล้า คว้าไขว่ เกี่ยวตัวไว้ให้ทัน
ก่อนที่จะพากันดำดิ่งจมหายไปกับสายน้ำและท้องทะเล
ที่มืดดำน่ากลัวเป็นยิ่งนัก...
มาบัดนี้ ไพลมองย้อนกลับไป เป็นวัยฝัน วัยอันตราย
ที่มีพลังส่วนเกินล้นปรี่ ที่เราท้าทายชีวิตแบบตลกๆดีนะ
และผิดกับเด็กวัยมันส์ ในเมืองกรุงยามนี้
ที่มากมีไฟที่จะทำสิ่งไร้สติทำสิ่งบ้าบิ่น
แบบคืนหนึ่งที่ไพลเห็นกับตา
ว่าพากันมาท้ามฤตยูบนถนนโดยการแข่งรถ
อวดความเร็ว..เหนือลม..
ไพลคิดด้วยความห่วงใย ตำรวจไปไหนนะ
และแม่พ่อล่ะ จะรู้บ้างไหมทุกเสี้ยวนาที
ว่าลูกของตัวนี้ที่เลี้ยงดูทะนุถนอมมายาวนาน
ไม่ยอมกลับบ้าน แถมยังมาหาญกล้า
ในทางที่เสี่ยงชีวิต ถึงตาย ถึงพิการ..แม้พลาดเพียงพริบตา
กลับมา..สู่โลกจริง ดีกว่านะ
เมื่อเรามิสามารถจัดการอะไรได้นอกจากโทรบอกตำรวจ..
วันนี้ ไพลไปดู โรงงานทำหมูยอ
ที่ให้เราออกแบบพัฒนาเป็นโรงงานได้มาตรฐาน
GMPเป็นโรงงานถูกอนามัย
เพื่อยกระดับความปลอดภัยให้กับผู้บริโภค และยกระดับจิตใจ
ของผู้บริหารให้ดูแลคนงานให้ดีๆ
น่าภาคภูมิใจนะ ที่เรานี้ได้มีบทบาทร่วมทำสิ่งนี้เพื่อสังคมไทย
และดีใจกับเจ้าของ..ที่เป็นหนุ่มไฟแรง
ที่ไม่คิดเอาเปรียบสังคม มีอุดมคติ ที่น่าปลื้มคือได้ถ่ายรูปกับ
พณ.ท่าน นายกทักษิณ ที่ใบหน้าท่านดูราวกับเปื้อนยิ้มยินดี
ด้วยความชื่นชมในความสำเร็จของเขา..
ระยะนี้คงมีโอกาส..ไปพัทยาบ่อย แต่ใจดวงน้อย ดวงดี
กลับหมองหม่นกับสายฝนพรำ กับวันนี้
ของพัทยา ที่ยามกลางวันดูราวกับว่า มิใช่สวรรค์ของนักเที่ยวราตรี..
ภาพความทรุดโทรม ที่ซ่อนซุก ภาพผู้หญิงซีดเซียว
ภาพเบื้องหลังที่เคยอ่านผ่านตา ที่คุณโขมพัตร
จากรายการตามล่าหาความจริงเคยนำมาตีแผ่
ว่าเบื้องหลังนั้นมีสิ่งชั่วร้ายมากมี ทั้งๆที่อยู่ใต้จมูกของตำรวจแท้ๆ..
ที่ปีศาจราตรีมืดดำได้ย่างกรายมาครอบคลุม
มีเด็กผู้ชาย อายุ10ขวบและมากกว่านี้
ที่หนีซานซมออกมาจากบ้าน ด้วยไร้รัก
และมาถูกมอมเมาด้วยคำชวนชักว่าจะให้ที่พักพิงกับอาหาร
แต่ต้องทำงานแลกด้วยกายา กับต้องมาแบ่งเปอร์เซนต์ให้
โดยใช้ยาบ้ามอมเมา
และมี..คนในคริสต์ศาสนา
ที่พากันคอยปกป้องและห่วงใย..พยายามยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือ..
นี่คือภาพแห่งความจริง ที่โหดร้ายยิ่งนัก
กับโลกอ่อนเยาว์ ที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์..
ภาพอบายมุขมากมี ที่แสงสีย้อมใจลวงล่อให้ติดกับ
กับความสนุกสนานชั่วครู่ เพื่อรอย่างเข้าสู่
นรกยาวยืนของชีวิต..ที่ยากจะหลุดพ้นหากตกลงไปในบ่วงกรรมนั้น..
นี่คือมุมมองมืดดำ ที่เรามิอาจจะสามารถสัมผัสได้ด้วยตา
ที่มีฉากโฉมหน้าคือทะเลงาม
และเมืองที่มีวัตถุสวยงามล่อตา ล่อใจ ล่อกิเลสมากมี มากลบเกลื่อน..
ภาพชีวิตคึกคักสนุกสนาน ของการจับจ่ายดื่มกิน
ช่วยบดบังมิให้มองเห็นและร่วมด้วยช่วยกันแก้ไข
ไพลเห็นทหารอเมริกันมากมี มีเรือรบมาทอดสมอ
เขาเหล่านี้มาแล้วก็ไปเพื่อระบายใจที่เหว่ว้าในทะเล
เงินจึงสะพัด เงินที่มักจะมาในรูบแบบที่หลอกล่อ
ให้คนเราเกิดกิเลสอยากได้ใคร่มี..เป็นของตัว.
ไพลเห็น..ท่อระบายน้ำโสโครก กำลังปล่อยน้ำเสีย ออกมา
เห็นภาพพ่อค้าแม่ค้าทิ้งขยะให้เน่าเกลื่อน
แมลงวันตอมเต็ม ที่หาดจอมเทียน..
ยิ่งหน้าฝนอย่างนี้ คิดดูเถอะว่า น่าสะอิดสะเอียนแค่ไหน..
ไพล..คิดไกลไปอีกว่า ..
คนไทยจะรู้ไหมว่า นี่หากทะเลสวยตรงหน้า
เป็นของชาติเพื่อนบ้านเรา ที่ชื่อสิงคโปร์ เขาจะยินดีปรีดาสักเพียงไหน
และจะทำทุกสิ่งอย่างให้สะอาด คงสภาพแวดล้อมให้ไร้มลพิษยาวยืน
ในเมื่อ
เขาไม่โชคดีอย่างเรา ที่มีทะเลจริงที่สวยงามอย่างนี้
ที่เขานี้ยังต้องถมทะเลสร้างปลอมๆไปทุกสิ่งไว้ประโลมใจ..
ให้มีธรรมชาติสวยใส สวยงาม ไว้เสพสุนทรีย์
มิใช่แค่มาเสพสุขเสพงามแล้วก็จากไปพร้อมกับ
ทิ้งปัญหาไว้มากมี ที่ทำลาย และแสนสกปรก เป็นมลพิษทางตาทางใจ..
วันนี้..เราคนไทยมากมีที่มีจิตสำนึกดี แต่ยังไม่มากพอ
ขอให้เรานี้ที่เป็นกวีกระวาดนักอยากจะเขียนสมัครเล่นในไทยโพเอม
ได้ช่วยกันรังสรรค์รจนา บทกลอนปลุกสำนึกรักธรรมชาติ
ให้มากมายขึ้นนะทุกยอดดวงใจ เพราะรักใดใดคงไม่ยาวยืนเท่ารักนี้
ที่จะมีผู้สืบทอดและเสพสานไปอีกนานชั่วลูกชั่วหลานของคนไทย
ให้ช่วยกันถนอมเนา ถนอมนานบนผืนดินแห่งขวานทองด้ามนี้.
แวะผ่านบางแสน คิดว่า
ดินแดนนี้ยังดูดีมีมนต์ขลังมากว่าพัทยา
แนวขนานสองฟากฝั่งถนน
มีลั่นทมดอกดกพราวบานขาวสวยชูช่อ ละะออตาเป็นดงดอก
ให้หวนไห้คิดถึงยามอดีต
ที่ยังหลงเหลือบ้านพักแบบบังกาโลว์หลังเดียวที่เคยเรื่องรุ่ง..
ขับรถไต่เนินผา ไล่เลาะไปอ่างศิลา ดูทะเลเหว่ว้าใจ หม่นมัว
ไพล..หยุดลงไปยืนนิ่งนาน
ให้ลมทะเลพัดพาให้หวานดวงใจแต่ทำไมมีกลิ่นอวลเค็ม..ตามมาก็ไม่รู้
ไพลเห็นไฟพริบพราว ในทะเลกว้าง
จากเรือที่อ้างว้าง กำลังลอยลำจากไกล
จนคิดถึงบทกลอนได้ในนาทีนี้......
ฟ้ายามเย็นริมทะเลแสนเหว่ว้า
ในเรียวตาขอบฟ้าไกลเกินใจฝัน
เห็นเรือน้อยลอยคว้างกับตะวัน
ราวตัวขวัญ รอฝันฝากฝั่งใจ..
คลื่นถาโถมโหมกระหน่ำจนเหนื่อยอ่อน
โลกยอกย้อนสับสนจนหวั่นไหว
ใจเจ็บช้ำชาชินจนสาใจ
หมดหวามไหวไหวหวามตามไม่ทัน
ด้วยใจซื่อถือมั่นในรักแท้
ไม่รู้แก้เกมใจจนไหวหวั่น
เพียงซื่อตรงคงมั่นทุกคืนวัน
นี่คือฉันที่หัวใจไม่เคยลวง
มาวันนี้ใจมันกลวงจนน่าหวั่น
หมดไฟฝันถอดหัวใจหมดห่วงหวง
น้ำตาใจเคยรินรดกลับแห้งผากไปทั้งดวง
ราวแก้วร่วงแหลกยับรับบ่วงกรรม
เป็นความเงียบว่างดายเดียวเกินเปลี่ยวเหงา
ใจที่เขลากลับนิ่งนิ่งยิ่งกว่าช้ำ
เหมือนไร้ใจไร้ตัวตนคิดย้ำย้ำ
ไยสวรรค์..ลิขิตร้าย..ให้ตายทั้งเป็นเป็น!
ไพลหยุดนิ่งฝัน นานนาที หยุดดวงใจนี้ที่โศกตรม
เงยหน้าให้หยาดฝนละอองเล็กๆกระทบใบหน้า
ลบรอยหมองไหม้ในใจ ในตาที่ได้พบเห็นมาวันนี้
ดาวบนฟ้ากว้าง ....ไฉนเล่าถึงดูเศร้า..
ราวร่ำไห้ พอกันกับ คน..กับคืนแรม ในคืนนี้ที่ไร้ใครเคียง...
15 กรกฎาคม 2546 13:39 น.
พุด
http://www.thaipoem.com/web/poemdata/poemdata_36593.php
ที่รัก ที่รัก เพราะรัก
ทิน..กำลังมีความสุขอย่างเหลือเกิน.....
ในวันนี้........
กับวันที่ ยอดดวงใจ ของทิน..บินข้ามขอบฟ้า
มาอยู่ใกล้แสนใกล้..ในอ้อมแขน อ้อมใจ อ้อมรักนี้
ที่เป็นดั่งรักนิรันดร์ของทิน....
ทินรู้ว่า..ทุกนาทีมีค่าที่สุดในชีวิตหนึ่งนี้
นับตั้งแต่..นาทีที่...
ทิน..ไปยืนชะเง้อรอรับเธอ..ที่สนามบินในนิวยอร์ค
เมืองที่เธอ คนดี จะมาอยู่ที่นี่ช่วงระยะเวลาสั้นๆ
ที่ทินดีใจ ว่าอย่างน้อย...
คงไม่ไกลคนละซีกโลกเหมือนดังก่อนเก่า
หัวใจทินเต้นระทึก ตามเข็มนาที ที่กระดิกไปช้าๆ
ทำไมนะ..เวลานี้ แต่ละนาทีจึงแสนยาวนานเสียเหลือเกิน
ทิน..นับนาทีรอ..รอ และรอ.....
ด้วยความรู้สึกกระวนกระวาย ที่ยากยิ่งจะบรรยาย
รักคิดถึง โหยหา และสุขปนตื่นเต้นระทึกใจ
เป็นอารมณ์ถวิล ที่ทินคงจะไม่มีวันลืมเลือนไปชั่วชีวิต
ทินดีใจที่ทินเกิดมาได้รู้จัก กับอารมณ์หวามไหว
และกับความรู้สึกล้ำลึก สูงส่งแสนสวยงาม
ที่เลอล้ำค่า เป็นยิ่งนักต่อชีวิตของมนุษย์....บนผืนโลกนี้
ที่วนเวียน..และต้องการ ไขว่คว้าหาคำคำนี้
มาประดับร่าง ประดับใจ ให้..
มีใครสักคน คู่เคียงข้างไปชั่วนิจนิรันดร.....
ดวงใจของทิน..
กำลังอยู่ท่ามกลางผู้คนที่กำลังเดินทะยอยกันออกมา
ร่างโปร่งบาง ผิวละอองามราวหยาดน้ำผึ้งรวง..
ละออใจละออตา รอยยิ้มเก๋ประดับแก้ม
บนใบหน้า ที่มีไฝเล็กๆใต้นัยน์ตา
และที่ทิน...หลับตาจำได้อย่างแม่นยำด้วยซ้ำไปว่า
อยู่ตรงตำแหน่งไหนบ้าง...
และช่างน่าอัศจรรย์..ที่เธอคนดี มีไฝตรงไรผม
ตรงต้นคอตำแหน่งเดียวกันกับของทิน..
ทินไม่รู้........
ฟ้าดิน ขีดเส้น เกณฑ์ชะตา ให้คนเรา ข้ามภพ ข้ามชาติ
มาพบ มารู้จัก มารักกันหรือไม่ ..
แต่.....!
ทิน..ก็เชื่อว่า..นี่คือ..
ผู้หญิงคนพิเศษแสนดีทีมีค่า
ที่พระเจ้าเมตตาส่งเธอมาให้ทิน..
ได้รู้จักคำว่า..รักยิ่งกว่ารัก
คำว่า..ให้ยิ่งกว่าให้
คำว่าคิดถึง..ยิ่งกว่าคิดถึง
คำว่า..รักแท้ รักเดียว ที่ทินเททุ่มใจ ให้เธอ
นับตั้งแต่นาทีแรกที่เห็น... และ..นานหลายปี.........
จนถึงวันนี้ ที่หัวใจทินยิ่งรักเธอมากขึ้นกว่าเดิม
เป็นร้อยเท่าพันทวี..ตามกาลเวลาของการพรากจาก
ที่สอนให้ทินเข้าใจถึงคุณค่าของความคิดถึง
การรอคอยและการได้มา.
รู้ค่าของคำว่า..ความรัก..ความหวงแหน...และ
การทนุถนอม..เพาะบ่ม...
ผ่านวัน เดือนปี มายาวนานนัก..........และ
ให้ทินได้รู้จักคำว่า..
รักแท้ที่..ต้องอาศัย อดทน หนักแน่น มั่นคง
เพื่อพิสูจน์รักจริงใจ ที่ใช้..ใจ..เพียงเท่านั้น
เป็นเดิมพัน..แบบใจดวลใจ...
เธอ..คือรักนิรันดร์ ......
คือ...ฝันที่แสนดี
คือ..ความรื่นรมย์
ชื่นฉ่ำ ที่นำรอยยิ้ม เสียงหัวเราะมาให้
และสุดท้ายหยาดน้ำตาจากลูกผู้ชาย
ที่เผลอแอบร่ำไห้อย่างไม่อายใครเมื่อถึงวันจากลา
เพี่อรอท่าการพบกันใหม่..อีกคราครั้ง ตามหน้าที่แห่งชีวิต.......
ทินเพิ่งไปดูหนังเรื่อง..DRAGON FLY..มา
และถึงแม้ว่าทิน..จะเป็นลูกผู้ชาย..
ทิน..ก็ยังอดน้ำตาซึมไม่ได้กับหนังเรื่องนี้..
ที่ทำให้ทิน..คิดถึง..คำว่า ......
โชคชะตาฟ้าลิขิตไม่ผิดแน่ เป็นยิ่งนักแล้ว...และ
กับคำว่า..ข้ามภพ ข้ามชาติ ข้ามเวลา..มารักกัน..
ตราบจนถึงวัน..ที่มีลมหายใจสุดท้ายแห่งชีวิต..
นาทีนี้..ทิน..อยากคุกเข่าตรงหน้าเธอ..คนดี...
และวอน...ออดอ้อน....ขอ..
แต่งงานกับผมเถอะนะที่รัก
อย่าทิ้ง..ให้ผมดายเดียวอ้างว้างกับฟ้ากว้างทางไกล
และลมหนาวที่พัดมากับหิมะ
แทบทั้งปีอย่างนี้อีกต่อไปเลยนะที่รัก..
แต่...........
ทินรู้ดี..นี่แค่ความรู้สึกล้ำลึก ที่ทินยังต้องอดทนรอคอย
วันชื่นคืนหวานที่ต้องผ่านกาลเวลาอีกยาวนานนัก
เพื่อรอความถูกต้องเหมาะสม..
และ.เดิมพันใจนี้ ที่ทินได้ถอดใจกองวางไว้แทบเท้าเธอ
นานแล้ว.......
พระเจ้าย่อมรู้ดี..ถึงศักดิ์ศรี ทรนงของคำว่า...ลูกผู้ชาย..ว่า
นี่คือรักแท้ ที่ควรค่าแก่การเมตตา ประทานพรให้..
ในท้ายที่สุดแล้ว....
นาทีนี้...
ทินจึงได้..แต่อ้าแขนโอบกอด ยอดดวงใจ
อย่างแนบแน่นเท่าแรงรัก.
แรงคิดถึง....แรงใจและ..แรงห่วงใย....
จากใจ..ดวงตรง..ดวงจริงนี้.. ที่เฝ้ารอคอย
มาแสนนาน พร้อมกระซิบ..
ที่รัก ที่รัก ผมคิดถึงคุณสุดหัวใจเลยจ๊ะคนดี....
คิดถึงและคิดถึง..
หนทางสู่รัก.......ดนุพล แก้วกาญจน์
แม้หัวใจ ยังใฝ่สุขสม
อย่าระทมถึงรักจะไม่แลเหลียว
รักมอบไปเพียงข้างเดียว
ถึงไร้เสี้ยวรักตอบแทนอันใด...
ใคร..หากทำได้เช่นนี้
ดุจสวรรค์นั้นบ่งชี้ ทางยิ่งใหญ่
ทุกแห่งหน จรดล อย่างสดใส
เพราะจิตใจ กว้างไกล เหนือเส้นทาง..
แต่รักในใจ ใครจะแลเห็น
ทุกข์ยากลำเค็ญ ก็ไม่แปรเปลี่ยนเจือจาง
รักลอยไปใจอ้างว้าง
อย่าหลงทาง สร้างความหวังนำไป..
ใครที่ใจ หักเห
เพราะทุ่มเทให้รักไปจนล้นใจ
หากชาตินี้ ผิดพลาดไป
ผลจึงครองหมองไหม้ ชั่วนิจนิรันดร์..
เมื่อฉันรักเธอ เธอก็รักฉัน
เราบอกรักกันไม่มีวันจืดจาง
แล้วไยเราต้องเหินห่าง
ปล่อยฉันหลงทาง เสาะหารักหลายปี..
ฉันจึงต้องหม่นหมาง
หาหนทางคืนกลับสู่รัก ไม่พบสักที
โปรดเถิดรัก
โปรดบ่งชี้
หนทางที่ ครองชีพนี้ รื่นรมย์.............
15 กรกฎาคม 2546 10:15 น.
พุด
ขาวพร่างกลางใจ
วันนี้....ดวงไปเที่ยว ตลาดน้ำ วัดดอนหวาย ริมแม่น้ำนครไชยศรี
เช่าเรือลำเล็กๆ...ออกไปปิคนิค..ล่องไปตามลำน้ำ
ดูบรรยากาศสองฟากฝั่ง อันแสนสงบงาม.......
ผู้คน....ขวักไขว่มากมาย...พากันลงเรือ
ซึ่งมีโต๊ะให้นั่งรับประทานอาหาร
พาให้สุขทั้งปาก สุขทั้งตา ยามทอดทัศนาธรรมชาติ รายรอบ
แกล้มไปกับอาหาร อันโอชะ
ที่ซื้อหาจากบนฝั่งลงไปนั่งเอมโอษฐ์กัน ตามอัธยาศัย........
และ..ไม่นานมานี้..
เช่นกันที่ดวงเคยไปฉลองวันเกิด
โดยการเช่าเรือ เป็นส่วนตัว พาเราล่องลอยไปตามลำน้ำ
ชี้ชวนกันดูความงามของผักบุ้ง ที่ทอดยอด ชะอุ่มงาม เรี่ยริมบึง
เถาถั่วฝักยาว ห้อยย้อย เพลินใจ ไหนจะท้องร่อง
ลำประโดง ที่อ้อมโอบเข้าไปเป็นลำน้ำ สายเล็กสายน้อย
ให้ชาวสวนปลูกผัก ปลูกผลไม้ ฝรั่ง ชมพู่ ดูช่างน่ากิน.....
บ้านผู้คน บนสองฟากฝั่ง แพริมน้ำ น่านั่ง น่านอน
บ้านเรือนดั้งเดิมของชาวสวน และบ้านของผู้ดีมีเงิน
ที่มีฐานะมาจับจองสร้างบ้านสวย ..
เพื่อได้ดื่มด่ำ กับสายน้ำ..งามล้ำ ให้ใจสงบงาม
ไปกับวิถีไทย วิถีใจ ของชาวชนบท ตั้งแต่โบราณ นานมา
ที่มีชีวิตผูกพัน กับสายน้ำ เปรียบดั่งสายน้ำใจ ที่ไหลเย็น
อย่างยากยิ่งจะแยกกันออก......
เรือลำน้อย....จะลอยลำ ไปเรื่อยๆ เอื่อยๆ ช้าๆ....
จนถึงวัดที่เราจะพากันไปนมัสการ
พระพุทธรูปองค์โต ที่อยู่ในโบสถ์ เพื่อขอพร....
วัดริมน้ำ..ที่มีฝูงปลาชุกชุม กระโดด โผงผาง
โชว์ความงามของลำตัว ที่สะท้อนแดด เห็นเกล็ดขาววาววับ....
เพราะมีอิสระ เสรี ราวรู้ดีว่าอยู่แถวหน้าวัดจะปลอดภัย
ไม่มีใครกล้าเอาเบ็ดมาเกี่ยว.......
แล้วเรา...ก็จะจุดเทียนขวัญ วันเกิด ในเรือ
เพื่อร่วมกัน ร้องเพลง แฮบปี้เบิร์ทเดย์..... เก๋ เสียไม่มี
ตามมาด้วยเพลงประสานเสียง ..หนึ่งในร้อย....ก้องลำน้ำยามสายัณห์....
ให้กับผู้เป็นที่รัก ในวันแสนดี ที่เราเตรียมไว้เซอร์ไพร์ส.......
และทุกงาน....ดวง..คนนี้ มักมีกลอนหวาน
รจนาออกมาจากใจดวงดี เป็นประเพณี
มอบให้ ในหมู่ญาติมิตร เพื่อนฝูงมากมี คนดีทุกคนที่ดวงแสนรัก..
เป็นดั่งพรจาก..น้ำใจใสเย็น..
ขอให้ มีแต่ความสุข สนุกสนาน เบิกบานใจ.........
ดวง..แวะเชยชิดชม...ดอมดม
ไม้ดอกสีขาวพราวพร่าง ที่ชื่อดอก พุดพิชชา..
(มิใช่พุดพัดชานะคะเพราะที่มาของชื่อคือชอบดอกพุดซ้อนค่ะ )
ดอกไม้สีขาว ที่ไร้กลิ่น แต่ดอกงาม นามเพราะ.....
ดวงเชยผ่าน ไม่ประทับใจ ในพันธุไม้ ไร้กลิ่น
เพราะดูราวสวยแต่รูปจูบไม่หอม
ดวงตา...ดวงใจ..ดวงนี้...ของ..ผู้หญิงคนนี้ ที่ชื่อดวง
หมายมั่นลั่นทมไว้แล้ว สามต้น สามสี สูงท่วมหัว
ที่กำลังรอจะฝากลงบนผืนดิน ริมรั้วบ้าน.....
หวังให้บาน ออกดอกพราว แข่งกันกับจำปี แก้ว และเล็บมือนาง
ยามนี้ที่แขกผู้มาเยือน พากันได้หอมงาม ตั้งแต่ก้าวแรก....
ที่ทายทักให้พักใจให้หอมแผก... ติดตรึงใจไปแสนนาน
ดวง...ชอบดอกไม้สีขาว ทุกสี และเวลานี้
สีขาวกำลังมาแรง ในใจดวง สังเกตเอาว่า
มักสอดส่าย ตา หาแต่ ของสีขาว สีขาว และสีขาว
ไม่ว่าดอกไม้ หรือเครื่องนอนหมอนมุ้ง สงสัยว่า.....
ใจยามนี้กำลังแพ้พ่าย....สีขาว ใส... ที่โดนใจ...
ให้สว่าง สะอาด สงบงาม ยามได้แตะต้องสัมผัส .....
มนุษย์ นี่หนา คิดๆดูก็น่าแปลกใจ ...
ประสบการณ์ และวัย วัน ที่ผันแปรไป
สอนให้ใจเรา ค่อยๆเข้าที่...มีความสุขเรียบง่าย
ไร้มายา ใกล้ใจ ใกล้ตัว กับทุกสิ่ง...
ดวงแวะดู...บ้านทรงไทย หลังเล็กๆ หวังไว้ว่า
ไม่นานนี้ จะยกลงไปวางไว้.. ที่....สวน ทะเลขวัญ....
ที่เกาะพะงัน บ้านเกิดของดวง
ที่คงกำลังรอรับการกลับไป ทอดร่าง ..
ยามแสงแห่งดวงชีวาใกล้ลาลับไปกับแสงตะวันรอนอ่อนแสง..
ณ..ดินแดน ที่ดวง..วาดหวัง อยากฝากฝังร่างนี้.....
ให้คืนกลับกับเม็ดทราย..... กับ...สายลมจากท้องทะเล เห่กล่อม
ให้นอนหลับฝันดี ไปตราบนิจนิรันดร์
เหมือนวันก่อนเก่า....ที่เกิดมา...
อย่างธรรมชาติ ธรรมดา ธรรมดา......นะดวงใจ........
ดวง.... ชื่อดวงแปลเอาเองว่า ที่รวมแห่งขวัญแห่งกำลังใจ.....
และใจดวงนี้ไม่เคยฝัน สิ่งเกินตัวเกินใจ ในทุกนาที แห่งชีวิตนี้
ที่คิดว่าถึงพร้อม.....
อยากบอกผ่านทางไทยโพเอมถึงผู้อ่านแสนดีที่ดวงแสนรักว่า ...
ใจดวง ดวงน้อยน้อยนิดนี้มีความสุขที่ ได้มาฝากฝันฝากงาม
ยามแลเห็นโลกแสนสวยแสนละมุน
เพียงแค่หวังตั้งใจ อยากฝากผลงาน
ที่คิดปรารถนาดี ที่อยู่ภายในใจดวงนี้ ให้โลกประจักษ์
หวังทำสิ่งที่รัก มากด้วยน้ำใจ มอบให้เพื่อนมนุษย์
ให้ใจทุกดวง ที่มองโลกเป็น ให้เห็นงาม ไปด้วยกัน
ดีกว่าการทำร้าย ทำลายกัน มิใช่ดอกหรือ......
ดวง....ขอมอบ..ดอกไม้สีขาว...
ให้พราวพร่าง สว่างกลางใจ ด้วยรักนี้
ที่มิมีวัน ท้อแท้ แพ้พ่าย ต่อใจที่มืดดำ
ที่โหมแรงกระหน่ำ มาทุกทิศทาง
ของโลกนี้ที่นับวัน จะยิ่งน่ากลัว..นะคนดีที่รัก...........
ขอฝันใฝ่ ในฝัน ที่ใจเชื่อ
ขอทุกเมื่อ เธอเคียงฉัน ไม่หวั่นไหว
ขอเพียงรัก เพียงคน ที่เข้าใจ
ขอมากไป หรือเปล่า เล่าคนดี
ขอให้เธอ เป็นกำลังใจ ยามที่ท้อ
ขอให้รอ ปลอบขวัญ อย่าหน่ายหนี
ขอให้เธอ มั่นใจนะ ดวงชีวี
ขอโลกนี้ สวยใส ด้วยใจเรา.........ทุกๆคน...นะคะ.
ดอกไม้ให้คุณ
แจ้ ดนุพล แก้วกาญจน์ : : Key Eb
ขอมอบ ดอกไม้ ในสวน
นี้เพื่อมวล ประชา
จะอยู่ แห่งไหน จะใกล้ จะไกล จนสุดขอบฟ้า
ขอมอบ ความหวัง ดั่งดอกไม้ ผลิ
สด ไสว งาม ตา
เป็นกำลังใจ ให้ คุณ
เป็นกำลังใจ ให้ เธอ
เป็นสิ่งเสนอ ให้ มา
ดวงตะวัน ทอ แสง
มิถอยแรง อัปรา
เป็น เปลวไฟที่ไหม้ นาน
เป็น สายธารที่ชุ่ม ป่า เป็น แผ่นฟ้า ทาน ทน
ดวงตะวัน ทอแสง
มิถอย แรง อัปรา
เป็น เปลวไฟที่ไหม้ นาน
เป็น สายธารที่ชุ่ม ป่า เป็น แผ่นฟ้า ทาน ทน
ขอมอบ ดอกไม้ ในสวน
ให้หอมอบอวล สู่ ชน
จงสบ สิ่ง หวัง ให้สม ตั้งใจ
ให้คลาย หมอง หม่น
ก้าว ต่อไป ตราบชีวิต สุด
ดุจ กระแส ชล
เป็นกำลังใจ ให้ คุณ
เป็นกำลังใจ ให้ เธอ
เป็นสิ่งเสนอ ให้ คุณ
เป็นกำลังใจ ให้ คุณ
เป็นกำลังใจ ให้ เธอ
เป็นสิ่งเสนอ ให้ คุณ
เป็นกำลังใจ ให้ คุณ
เป็นกำลังใจ ให้ เธอ
เป็นสิ่งเสนอ ให้ คุณ
เป็นกำลังใจ ให้ คุณ
เป็นกำลังใจ ให้ เธอ
เป็นสิ่งเสนอ ให้ คุณ...
12 กรกฎาคม 2546 12:03 น.
พุด
เช้าวันอาทิตย์..ที่อากาศแสนสดใส...
ท้องฟ้าสีน้ำเงินจัดจ้า...ท้าแดดกล้า..สว่างไสว..พาให้ใจดวงเป็นสุข.......
และอยากไปทำบุญตักบาตรที่วัด....
ไปฟังพระเทศน์..ให้ศีล..ให้พร.......
ไปทายทัก....ต้นไม้ทุกต้น..
ที่ร่มรื่นเรียงราย..มากมายนานาพรรณ..
ราวนั่งอยู่ในไพรพฤกษ์พง.....
ที่มิใช่ป่าคอนกรีต.....ผืนแล้งราวทะเลทราย.........
วันนี้ดวงดีใจ..
ที่ได้เห็นลั่นทมขาวยังพราวดอกดวง..
แม้จะดูหม่นเศร้าเคล้าใบเขียวเข้มขจี..ที่หน้าโบสถ์งาม..
ได้เห็นดอกทองหลาง..ที่สลัดใบ..ร่วงกราว..
ทิ้งกิ่งก้านยาวให้..ดวงดอกแดงงามเจิดจ้า..เฉิดฉาน..
ราวตะวันแรงแผดแสงกล้า..ท้าลมร้อน..ทายทัก......
ดวงอธิษฐานจิต..นิ่ง..นาน..ทุกครั้งที่ตักบาตร.........
เกิดชาติหน้า..ชาติไหน..ให้ใจดวง..และผู้อันเป็นที่รักยิ่ง..มิ่งมิตรชิดใกล้....
จงได้เกิดมาพบ...... พระพุทธศาสนา..
ที่มีแก่นแท้นำพา..ใจเรานี้..ให้สะอาด..สว่าง..สงบ..
ดังน้ำค้างบริสุทธิ์ใส..ทุกภพ..ทุกชาติไป
ดวง..อยากบอกทุกคนว่า.....
การไปวัด..มิใช่สิ่งที่ควรเมินหนี..แม้ในวัยแรกรุ่น.......
เพราะการไปวัด..คือการฝึกจิต..เตรียมใจของเรา..
ให้ประณีต..ละเอียดอ่อน..เพื่อให้ถึงพร้อม...
อย่างที่มนุษย์ พึงใฝ่หา..ความดี..ความงาม..ความละมุน...
มาเติมจิต....เติมใจของเรานี้......ให้เต็ม......
ตื่นเช้า..ยามอุษาฟ้าสาง....
เพื่อฟังเสียงนกกา..ที่ร้องรับ..อรุณรุ่ง.......
เปิดเพลงไพเราะ..ที่คุณชื่นชอบ...
จุดเทียนหอมงาม..วับแวม..ตามมุมต่างๆของบ้านน้อย...หลังงาม
ให้ใจสดชื่นเบิกบาน..รับวันดี..วันใหม่อย่างผู้มีใจงามพร้อม.......
หุงข้าว..ให้กลิ่นข้าวหอมอวลตรลบ...ไปทั้งครัว...
เตรียมอาหารคาว..หวาน..ไว้ให้พร้อมพรั่ง......
พับดอกบัวงาม..นิ่มนวลเบามือ..ด้วยดวงใจอิ่มบุญ..
ชุ่มฉ่ำราวหยาดน้ำค้างพิสุทธิ์ใส.....
มาจากใจที่ แสวงดี...แสวงงาม...
น้อมรับมงคลบัว...มงคลดี..มงคลชีวีนี้ให้เราเอง......
เลือกวัดใกล้บ้าน.....เรียบง่าย....
มีคำเทศน์สอนใจที่เข้าซึ้งถึงธรรม...
เพื่อน้อมนำ..
ให้เริ่มต้นวันใหม่...อาทิตย์ใหม่..ผ่องใส..สวยงาม..ทุกวารวัน...........
ดวง...อยากถ่ายทอด..คำสอนซึ้งถีงทุกคนแบบง่ายๆ..
ไร้ความน่าเบื่อ..เพียงนำมาพินิจนำทางสว่างกระจ่างใจ
ด้วยรักและปรารถนาดี.......มากล้น.....
คนเรานี้..เกิดมามี..ใจและกาย..เป็นของคู่กัน....
ใจมีหน้าที่ต้องปกครองกาย..รับผิดชอบ...
ใจจะได้รับความทุกข์มากกว่าสุข...ก็เพราะหลงรักกาย....
ใจคอยคิดแต่รักกาย....
แต่งให้กายงามเลิศล้ำ
หาเครื่องมาประดับ มากำนัลกาย.
.แหวนเพชร..สร้อยเพชร....และ...อีกมากมายสารพัดวัตถุ.......
แต่กับใจ....ใจลืมใจ..ไม่ได้แต่งให้งามบ้างเลย..
ทั้งๆที่..มีผู้เปรียบเอาไว้ว่า.......
ใจและกาย..คือเพชรในหิน.......
กายคือหิน.....ใจคือเพชร.......
เพชรซ่อนอยู่ในหินฉันท์ใด...
ใจอันมีค่าสูงสุด..ก็ซ่อนอยู่กายฉันท์นั้น........
แต่เรากำลังโง่งม....ทิ้งเพชร..
แล้วแบกหินอันหนักแสนหนักเอาไว้..มิปลดปล่อย...........
ใจเป็นดั่งนาย..กายเป็นเพียงบ่าว..มิใช่ดอกหรือ....
ถ้าเพียงแต่จิตของผู้ใดคิดดี..มีปัญญา..ก็จะสั่งกาย
ให้ทำสิ่งดีดีตามไปด้วยโดยง่าย........
แต่ถ้าจิตไม่ดี..ก็สั่งกาย..ให้สนองกิเลส..ตัณหาพาให้ชีวิตมืดบอด........
จิตที่พอ.....จิตที่หยุด...จะเข้าใจว่า....
กายนั้นหนา..แค่เครื่องมือ..เพื่อนำพาให้ใจทุกข์ทุรนทุราย......
เวียนวน..ซ้ำแล้ว..ซ้ำเล่า....ราววิบากกรรมมิรู้สิ้น.........
ถ้าเราทุกคนมีดวงตาสว่าง...มองเห็นแสงธรรมน้อมนำใจ...
.จะควบคุมจิตได้...และจะสิ้นไร้ทุกข์ทั้งมวล
ฝึกให้จิตมีศีล...สมาธิ...และจะมีปัญญา..แยกแยะ..ดี..ชั่ว....
ขจัดและหาเหตุแห่งทุกข์ที่เกิดจาก......
ความไม่รู้จักพอ....รู้จักหยุด........
คำว่า.....พอ....มิใช่หมายความว่า....ขาด...
แต่หมายถึงความพอดี..พอใจ..เพียงพอ..พอเพียง.....
ที่มีสมดุล...ให้ชีวิต..ไม่กระหายอย่างไม่รู้จบ..ในลาภ..ยศ..และวัตถุ
ที่ต้องการไม่มีวันจบสิ้น ตามกระแสโลก..ที่หมุนวน..ให้หลงผิด..
ไม่คัดสรรเฉพาะสิ่งดีงามให้กับตัวเราเองอย่างมีสติปัญญา
ความเอ๋ย..ความสุข..ไม่ต้องใช้เงินซื้อหา..
หากแต่มันอยู่ใกล้แสนใกล้...ภายในใจเรานี่ เอง......
เราจะค้นพบมันหรือไม่หนอ................
เข้าใจมันหรือไม่หนอ...
ถ้าไม่พยายาม..จิตเราไม่มีวันหลุดพ้น.
.และต้องเวียนว่ายกลับมาใช้กายสนองทุกข์
มิมีวันจบสิ้นชั่วกัปป์กัลป์..........
หาความสุข..ให้พบเจอ..แตะที่ใจเรานี้..คิดดี..คิดเป็น......
พอใจ..พอเพียง..ไม่ทุรนทุราย..ไม่ว่าเรื่องราวใดใด.....
ขจัดส่วนเกินออกไป..จากใจนี้ที่หมองเศร้า..
ไม่แบกให้ใจหนักจนเกินทานทน
ไม่ว่ารัก..สมหวัง..ผิดหวัง..รักแค่รักอย่างถูกทาง..อย่างพอเพียง......
เมื่อยังเป็นมนุษย์...จงรัก..ให้เป็น.......
รักใจมากกว่ากาย...ใช้ใจดวงดี...ดวงงาม...
ให้ความรักต่อเพื่อนมนุษย์....เอื้อเฟื้อ..แบ่งปัน.....
ละทิ้งส่วนเกินที่มากมี.....ให้แก่ผู้ยากไร้....
แล้วเราจะค้นพบว่า........
คำว่าพอคือ..พอดี..พอใจในชีวิตหนึ่งนี้ที่ได้เกิดมา..
และยังคุณค่าต่อตัวตน..และเพื่อนร่วมโลก
ไม่โศกไม่เศร้ากับสิ่งใดใด..
ใจถึงจะพบกับสันติสุขที่จริงแท้แน่นอน...ตราบชั่วกาลนาน......
เหมือนดังที่....พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระราชทานคำสอนเอาไว้ว่า......... ........Our Ioss is our gain.....................
12 กรกฎาคม 2546 11:46 น.
พุด
ไปวัด!.
...........
ยามอุษา ฟ้ากระจ่าง หุงข้าวใหม่
หอมไปไกล โขลกเครื่องแกง หอมแรงร้อง
เตรียมขันข้าว ทองเหลือง งามเรืองรอง
เจียนใบตอง รองเบื้องใต้ ให้หอมไกล...
เด็ดมะลิหอม พร้อมดวงใจ ที่ใสสวย
ใส่ไปด้วย เกิดชาติหน้า และชาติไหน
ให้สวยขาว ผ่องผุด งามพิลาสพิไล
ให้ดวงใจ ใสเย็น เช่นมะลิงาม...
มือระวิง เตรียมผลไม้ ให้พร้อมพรัก
แกะสลัก จักสวยงาม ลือโลกสาม
ประดิดประดอย ร้อยมาลัย ใจดวงงาม
ละมุนตาม ผูกเส้นด้าย คล้ายศรัทธา...
น้อมบูชา วางต่อหน้า องค์พระพุทธ
ผู้สูงสุด ศรัทธาใจ เฝ้าใฝ่หา
สอนให้คิด ทำพูดดี มีเมตตา
มีปัญญา งอกงาม รู้ห้ามใจ...
ทาน ศีล ภาวนา คอยพร่ำบ่น
คอยสวดมนต์ มีสติ มิหลงใหล
เกิดชาตินี้ ชาติหน้า พบพระธรรม อันเกริกไกร
หัวใจไทย ทุกดวง ล่วงพ้นกรรม.....
อาสาฬหบูชาเวียนมาถึง
น้อมใจซึ้งรสพระธรรมจนดื่มด่ำ
ตั้งจิตอธิษฐานสืบทอดศาสนาทุกคืนค่ำ
และจะพร่ำภาวนาพาดวงใจไปนิพพาน........