20 มิถุนายน 2546 15:21 น.
พุด
สาวบ้านนามาตามหานายดอกไม้
เคยฝากกายฝากใจให้ไหวหวาน
ทุกราตรีมีดอกรักคลี่กลีบบาน
แล้วเนิ่นนานผ่านให้รอขอฝากใจ
นายดอกไม้บานที่ไหนอยู่ในโลก (ไซเบอร์)
ให้สาวโศกใจเศร้าร้าวหวั่นไหว
นายดอกไม้มาพลัดพรากจากกิ่งใจ
สาวนาไยยังหวังคืนหลังรอ..
ฝากจันทร์หวานม่านเมฆเสกมนต์ซึ้ง
ยังคิดถึงรักรักรอขอเพ้อพ้อ
หวานดอกไม้คล้ายดวงใจไทยโพเอมรอ
ให้ช่วยพ้อขอคืนหลังยังฝั่งใจ
ตราบดวงจันทร์ในดวงใจยังส่องแสง
ขออย่าแกล้งให้หลงรอขอได้ไหม
จันทร์ดวงงามยังหยาดหวานรอคนไกล
ฟ้าเมืองไทยรอดอกไม้ให้คลี่หวานบานประดับใจ..ไปนิรันดร์
19 มิถุนายน 2546 01:27 น.
พุด
คืนแสนหวานกับคนดีที่ครีฟแลนด์
ที่รัก..คืนนี้....
เรา มีนัด ดินเนอร์ กับ ลูซี่ และจอห์น
บนเรือรบที่ทอดตัว สงบงามอยู่เหนือทะเลสาบอีรี่
ที่บรรยากาศ แสนโรแมนติก ราตรีที่ดาวพราวพร่างฟ้า
เหนืออ่าว ครีฟแลนด์ ดินแดนแห่งความฝันความหลังของเราสอง
ผมขับรถไปรับคุณที่บ้านแจ๊กกี้..และ
คุณทำให้ผมมองคุณตะลึงหลงงงงวยอย่างแทบไม่เชื่อสายตาตัวเอง
อีกคราครั้ง...หลังจากงานพรอม..นานมาที่คุณเคยงามงดในชุดราตรี
ผ้ากำมะหยี่แนบเนื้อสีดำ ที่มีขนนกเป็นชายครุยกรุยกราย ยามก้าวเดิน
และรอบคอ งามล้ำด้วยสร้อยเพชร..ลายผีเสื้อ แพรวพราย
ขับใบหน้าคุณให้งามผ่องผุด โดดเด่นเจิดจรัส
จนหนุ่มผมทอง หลงจ้องมองแทบไม่กระพริบตา ยามที่คุณเยื้องย่างในงาน
ผมขับรถไปรับคุณที่บ้านแจ๊กกี้..และ
คุณงาม..มากในยามค่ำคืนนี้..เพราะร้อยวันพันปี..ผมจะเห็นแต่ภาพคุณ
ใส่กางเกงยีนส์ และเสื้อยืดง่ายๆ สบายๆ
คืนนี้คุณใส่เสื้อผูกพันทบเป็นโบว์ทิ้งชายตรงด้านหน้า
ให้เห็นเนียนเนื้อละมุนสีน้ำผึ้งของคุณ ที่งาม จับตาจับใจและเปิดหลังผ้าไหมสีแดง
จนผมแทบลืมหายใจ..ยามที่คุณค่อยๆก้าวลงมาจากบันได..
กระโปรงสั้นสีดำ..ขับให้ขาคุณเนียนผ่องในเงาสลัวรางของแสงไฟ..
คุณแย้มยิ้มพริ้มเพรา..และอารมณ์ดี
ที่วันนี้ผมขับรถสปอร์ตสีดำคันงาม ที่มีชื่อเล่นของคุณ
ติดเป็นป้ายทะเบียน..
เราขับรถช้าๆ ดูแสงไฟพราวรอบๆอ่าวแสนงาม
ก่อนที่จะข้ามสะพานสั้นๆที่ทอดรับไปยังกราบเรือที่ประดับประดาด้วย
แสงเทียนวะวับวาว..
เสียงไวโอลิน ขับกล่อมเบาๆในยามค่ำ หวานอบร่ำมากับสายลมหนาว
แกล้มกลิ่นอวลน้ำหอมบางเบามาจากเรือนร่างงามระหงของคุณ..
ลูซี่..รอเราอยู่แล้วพร้อมสวมกอดคุณแนบแน่นด้วยยินดี..
และหันมายิ้มหลิ่วตาล้อผม..
ใครๆ..ในเพื่อนพ้องของเราทั้งคู่ ต่างรับรู้ว่า
ผมรักและรอคุณมาแสนนานหลายปี
กว่าจะมีวันนี้ คืนนี้ที่แสนงดงามในความทรงจำของผมที่จะไม่มีวันเลือนลืม
ตราบนานเท่านาน ยามที่มีคุณชิดใกล้หัวเราะเริงร่า
ให้หัวใจผมไหวหวามเต้นระริกด้วยความรักคุณรักคุณและรักคุณที่สุดแล้ว..
เราดื่มไวน์ ฉลองคืนแห่งความฝันนี้
และน่าขันที่เราต้องโชว์พาสปอร์ตว่า
อายุเราเกินพอที่จะสังเครื่องดื่มมึนเมาได้แล้ว
เราหัวเราะกันดังลั่น ดีใจที่เรานั้นหน้าคงเด็กกว่าอายุจริงเป็นไหนๆ
พระจันทร์สวยดวงหวาน..พลอยเบิกบานยิ้มแฉ่งล้อเลียนอิจฉาเรา..
ในเงาจันทร์และแสงเทียนวูบไหววะวับวาวต้องจับใบหน้าคุณให้ละมุนในรู้สึก
ผมอยากเอื้อมมือไปลูบไล้ใบหน้าด้วยสำนึกถึงสิ่งสูงค่า แสนรักแสนน่าทะนุถนอม..
ผมมองคุณผ่านกุหลาบแดงตรงหน้า และสบตาคุณราวจะวอน
อยากกล่าวคำอ้อน บอกว่าค่ำคืนนี้ คุณหวานหยาดกว่าสายน้ำผึ้งจากจันทร์
บอบบางกว่ากลีบดอกไม้และกุหลาบนานาพันธุ์
ที่กำลังบานสะพรั่งทั้งโลกหล้ามารวมกันเสียอีก...
หัวใจผมกำลังสำลักอิ่มสุข หลอมละลายหัวใจดวงนี้ให้อาวรณ์ อ่อนโยน..ถวิลหา..
และคนดี..ในความสุขนาทีนี้ ผมรู้ดี หลังวันเกิดผม
คุณก็จะอำลา กลับมาแผ่นดินเกิด
ของเรา.แผ่นดินที่ผมโหยหาและรู้ว่า
ทุกธุลีดินที่ผมย่างก้าวนั้น ผมหยัดยืนได้เต็มฝ่าเท้า
ก้าวย่างได้อย่างภาคภูมิใจ...
ไม่ใช่ครึ่งๆกลางๆอย่างประเทศนี้ที่ผมจำเป็นต้องอยู่เพื่ออนาคต
คนดี....ผมไม่อยากนับนาทีถอยหลัง
ผมรู้ดีทันทีที่ผมส่งคุณที่ดีทรอยส์
หัวใจผมก็จะละห้อยห่วงหาคุณ อีกนานนับปี..
ที่ผมนี้แสนกลัวความพรากจากที่แสนทรมาน
คนดี ที่รัก..
มองตาผมสิ..
ลูกผู้ชายคนนี้..ที่มีใจเดิมพัน กำลังจะครวญคร่ำว่ารักคุณ และรักคุณ
ขอให้ฟ้าดินสิ้นทั้งโลกหล้าได้รู้เห็นเป็นพยาน..
ถึงความรักหนักแน่นมั่นคงยาวนานนิรันดร์ของหัวใจผมคนนี้
ที่ใจซื่อถือมั่นในรักแท้รักจริง..
เราสบตากัน..
หยาดเพชรพราวนัยน์ตางามส่องประกายราวกับจะปลอบประโลมดวงใจผม
ที่กำลังช้ำตรมว่า..อย่าร้องไห้เลยนะคนดีที่รัก
ไม่นานนักไม่นานนี้ เราสองนี้คงไม่ต้องพรากจากกันอีกจนตราบนานนิรันดร์..
19 มิถุนายน 2546 01:06 น.
พุด
ความสุขเล็กๆ..
อยากเปิดใจและบันดาลใจ
จากทุกคำถามในบทกวีที่ชื่อ..กี่รักในรอยใจค่ะ
นี่คือใจพุดพัดชาค่ะ อ่านให้ดีดีนะคะ แล้วจะพบคำตอบ
...............
วันนี้ มีความสุขเล็กๆ มาทายทัก
ทันทีที่มองเห็นฟ้ากระจ่างสว่างไสว
ไร้เมฆหม่น..และ.....ยังมีความสุขปนจั๊กกระจี้หัวใจ
ตอนที่ให้อาหารปลาแล้วมันมาตอดมือ จุ๊บๆ อย่างนี้ทู้กวันเลย..
นอกจากนี้..ยังมีอีกเรื่องนะคะ
ที่ได้เดินออกไปเด็ดดอกชบาแดง ส้ม
ที่บานเท่ากระด้งใบเล็ก ล้อใจ
บานไสวท้าแดดลม..นีคือความสุขภาคเช้านะคะ..
และที่เขียนวันนี้..คือเกี่ยวกับ งานพุดพัดชา
ที่อยากกล่าวคำขอบคุณ
หลายๆท่านผู้อ่านผู้มีเกียรติ ที่ทนความย้วยยานของภาษาได้
และที่น่าจะนำมาขอบคุณ ในระยะนี้..
ที่.โชคชะตาคงดลใจให้น้องน้อง
ในดวงใจของพี่พุดพัดชา มาอ่านงานฝัน
คงเป็นด้วยบุพเพอาละวาด
แบบคิ๊ก คิก หลงเข้ามา คิดว่าเป็นบทกลอนก็เลยตามเลย..อะนะเอานา
ที่คิดอย่างนี้..เพราะมีที่มาที่ไปนะ จะบอกให้
เนื่องจากน้อง เพิ่งจะเมล์มาบอก
พี่พุดว่า..อ่านงานพี่ทีไร ต้อง ยอมแพ้..ปวดศรีษะขึ้นมาแบบหาสาเหตุ
ไม่พบเจอ ...โอ๊ะ โอ๋ คิดดู..ว่างานพี่คนนี้
จะดีหรือร้ายขนาดไหน..ที่ทำให้น้องอยู่ดีดี
มีอันไม่สบายไข้ขึ้นได้ในทันที
แถมง่วงเหงาเศร้าซึม วิเหวโหว ตาโหลเหล อยากหลับคาจอ..
พุดพัดชา..ตั้งใจเขียนเรื่องความสุขเล็กๆนะคะนี่
ดันย้วยมาเปิดอก ควักหัวใจ ออกมาตีแผ่
แบบให้เห็นเลือดสดสด ซิงซิง ซึ้งซึ้ง เลยนะนี่..นะคะ..
จริงๆที่เขียนเรื่องในไทยโพเอมนี่นะ
พยาย้าม พยายาม ยานน้อยลงแล้วนะ
พยายามฟิตยกเครื่อง แล้วนะนี่
ให้มันสั้นๆกระชับๆ จะได้จับใจ โดนใจ
คนอ่าน วัยมันส ์ วัยฝัน วัยหวาน..
และพุดพัดชา..อยากบอกว่า งานนะประมาณว่า
ถ้าเอาทุกเรื่อง ประมาณ หกร้อยกว่าเรื่อง
มาคั้น คงประมาณว่า น้ำตาท่วมจอแน่..
คือชีวิตจริง..มิได้เศร้า รานร้าว อกหัก ถูกควัก
ถูกเฉือนใจ..อะไรกันนักกันหนาแบบภาษาที่ใช้หรอกนะ
แต่ใจชอบเขียนในแนวนี้..แนวเศร้า รันทด กบฎรัก ทำนองนี้แหละ..
จะให้เขียนแบบ พี่ม้าก้านกล้วย พี่หมอวฤก พี่อัลมิตรา พี่สดายุ เขียนคงไม่ไหว
หรือจะให้เหมือนน้องเบิร์สท์ พุดพัดชาก็ขอบอกว่า
ให้ข้าน้อยเอาหัวโขกพื้นคาระวะยกให้เสียเลยดีกว่า
ให้เป็นหนึ่งในตองอู ในซองประตูรักประตูใจของชาวไทยโพเอม..
ที่ยิงลูกไหนไปตุงในตาข่ายใจทุกคนทุกดวงใจ
ทุกลูก ทุกเรื่องเลยจ้า
(นี่เขียนแบบคนที่สมองกำลังเบลอ
เพ้อหาแต่นักฟุตบอลโลกรูปหล่อเตะดีนะคะนี่
ไม่ค่อยจะซักเท่าไหร่เลย นะเห่อนะ)..
นี่เห็นไหม..ยิงแบบพี่พุดพัดชา ย้วยอีกแล้วนอกประตูใจด้วย
ยังไม่ได้บอกเลยว่ามาเขียนเรื่องอะไร
จุดไคลแมกซ์ อยู่ไหน..
จะบอกแล้วนะคะ..
ว่าจริงๆชีวิตพี่พุด มิได้หม่นหมองครองเศร้าอะไรทุกเวลานาที
ตลอดสองปี
นี่ดอกนะ ที่มาจับปากกาเขียนลงที่นี่..
พี่พุด เพียงแค่ช่างฝัน ช่างจินตนาการ
ควานคว้า หาพระเอกมารับบทละเมอเพ้อหารักหักหัวใจ
ให้แหลกละเอียดเป็นผุยผง
ให้จับอกจับใจคนอ่านประมาณสามล้านกว่าที่กำลังติดตามอยู่นะคะ
จนประมาณว่า..บางท่านคิดว่าแย่แล้ว..ใกล้ตาย..พะงาบๆประมาณนั้น..
เพราะชีวิตพุดพัดชา..บางวันมีความสุขมากมายๆ อย่างที่บอก
เนื่องจากเป็นคนเรียบง่าย เห็นงามง่ายได้รายรอบตัว
แม้เป็นเรื่องธรรมดาๆ
สำหรับบางคน..พุดพัดชาจะเล็งเห็นงามของธรรมชาติทุกสรรพสิ่ง
ราวกับมีดวงตาพิเศษ ดวงตาที่สาม
ที่เจาะไว้ให้ซึมซับรับรู้ มิติงามของธรรมชาติที่พาให้ใจหวามไหว
ที่อธิบายใครไม่ได้ นะ
ขนาดพยายามแล้วที่จะพรรณาแบบย้วยๆมาแถลงแจงใจ
ในบทความมากมี ที่ผ่านมา..
อยากบอกคนดีทุกๆคนนะคะว่า ทั้งหู ตา จมูก
ของพุดพัดชานั้นราวกับมีสัมผัสพิเศษ กับงามง่ายรายรอบตัว..
ต้นไม้ใบหญ้า ฝนตก นกร้อง ขี้หมูมา ขี้หมาไหล มากเลย..
สำหรับดวงตานะ..แค่เห็นดอกไม้สักดอก ก็แสนสุขซึ้งตรึงใจ
ไหลเรื่อยระรินไปสู่ห้องหัวใจละมุนแล้ว..
เห็นแสงเทียน ก็ใจแทบหลอมละลายตาม
อยากตะกายข้างฝาหารักแท้ ยิ่งใหญ่เท่าแผ่นผา
ที่อยากเห็นอีกอย่างเท่านั้น..คือหัวใจคน..
ที่รักเราจริง ที่หาไม่มีเลยนะนี่ เลยต้องดูแต่เซี้ยงจี๊
หรือหัวใจหมูไปพลางๆก่อน..
ส่วนหู..นะไม่ได้มีไว้ฟังคนนินทาหรือหาเรื่องรกแบบขยะมาใส่หัว..
หรือเอาไว้เสียบหูฟังเพียงอย่างเดียว
และชอบเสียงเพลง ได้ยินเพลงซึ้งก็จะซึ้งเกินความจำเป็น
ต้องฟังซ้ำๆซากๆ จนเพื่อนบ้าน
แทบอยากปากระถางใส่ให้กระบาลแยก..ยามดึกๆ..
ได้ยินเสียงฝน..ก็นะ
แต่..หากได้ยินเสียงฟ้าคำรามนี่นะแหละที่ไม่ค่อยซึ้งค่อยชอบสักเท่าไหร่
เพราะกลัว และไม่ชอบเสียงดังๆเกินเดซิเบลที่หูจะแหกทุกประเภท
จริงๆอยากแถลงแจ้งใจอีกมากมายนะ
เพียงแต่ว่าเกรงใจผู้อ่านนะคะนี่ (นี่ขนาดเกรงใจแล้วนะนี่นะ)
ที่ยังไงๆก็ยังย้วยยานแต่มิหวานหยดย้อย..เท่านั้น..อีกตามเคย..
ไว้ภาคสอง..ดีกว่านะคะ
ตามมาหาความสุขเล็กๆเติมใจไฟฝันกับพุดพัดชาดีกว่านะ ดีไหม..ละ
18 มิถุนายน 2546 00:05 น.
พุด
กี่รักในรอยใจ
กี่หวั่นไหวในรอยฝัน
กี่คืนและกี่วัน
กี่ระกำย้ำแผลใจ
กี่เหน็บและกี่หนาว
กี่ใจร้าวสะเทือนไหว
กี่คนที่ผ่านไป
กี่หัวใจฝากในรอย..
17 มิถุนายน 2546 23:54 น.
พุด
ตราบท้องฟ้ายังมีดาวพราวพรายแสง
เม็ดทรายยังแข่งหัวเราะคลอคลื่นใส
ทะเลยังเงียบงามตัดฟ้าไกล
ในดวงใจยังมีวันรอฝันดี...
ชีวิต..คืออะไรใคร่ค้นหา
กาลเวลาเพาะบ่มฝันในวันนี้
ให้เสาะหาอย่าท้อถอยนะคนดี
กับชีวีหนึ่งเดียวเกี่ยวเก็บประสบการณ์..
สำหรับฉันฝันคืนหลังยังไพรกว้าง
เดินสวนทางห่างวกวนค้นหาหวาน
ให้ดวงตามองโลกสวยใจสราญ
ให้ผสานกับธรรมชาติวาดหวังใจ..
เพราะหลงรักชีวิตติดดินถิ่นไพรกว้าง
ใจจึงว่างร้างอยากได้ให้หวั่นไหว
หนีโลกวัตถุทุรนร้อนหลอนลวงใจ
ตามฝันไปไกลสุดหล้า..ลาโลกลวง!